ตอนที่ 5
อิศรวัชร์เองก็เพิ่งเดินทางกลับจากติดต่องานที่สิงคโปร์ ครั้งแรกที่ได้เห็นเธอก็เมื่อวันที่ไปเที่ยวกับเพื่อน ความสวยเซ็กซี่ทำให้เลือดลมหนุ่มแน่นสูบฉีดแรง แม้ปากเขาจะปฏิเสธเพื่อนๆ ว่าไม่สนไม่ชอบ แต่ใบหน้าสวยตาวาววับกลับติดอยู่ในความคิดคำนึงจนถึงวันนี้
“หนึ่งล้านห้า”
ราคาเริ่มต้นของเครื่องเพชรชุดนั้นคือหนึ่งล้าน แต่แค่เปิดประมูล ผู้ประมูลคนแรกก็ทุ่มไปอีกเท่าตัวแล้ว และแน่นอนว่า บุคคลผู้นั้นคือหนุ่มใหญ่ใจสปอร์ตท่านหนึ่ง ที่ชอบบริจาคเงินสนับสนุนการศึกษาของเด็กสาวๆ เรื่องแบบนี้วงในต่างรู้กันดี
“สองล้านห้า”
อีกคนยกมือเสนอราคา ขณะที่บรรดาคุณหญิงคุณนายพากันยิ้มกริ่ม งานวันนี้พวกเธอเป็นผู้จัด จำนวนรายได้ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้พวกเธอมีหน้ามีตาและมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีกนั่นเอง
“แม่เจ้าโว้ย ลูกสาวของพลเอกเธียรนี่สวยบาดใจจริงว่ะ สวยจนแทบลืมหายใจ”
เสียงกระซิบเบาๆ จากเพื่อนๆ ที่นั่งข้างๆ ทำให้อิศรวัชร์ละสายตา เรียวปากได้รูปกดยิ้มหยันนิดๆ
“เสียดายเมื่อครู่ได้คุยกันนิดเดียวเอง”
“สวยเฉี่ยวเลยใช่ไหมคะ เพราะแบบนี้แหละรินถึงอยากได้คุณโมรีมาเป็นนางแบบ พี่อิศต้องช่วยรินนะคะ”
“นั่นสิวะอิศน้องรินพูดถูก แต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้สวยสะเด็ดจริงๆ สร้อยเพชรชุดนั้นหมองไปเลย ถึงข้าจะไม่อยากได้สร้อยชุดนั้น แต่ข้าชักอยากร่วมประมูลแล้วว่ะ เผื่อจะทำให้ได้รู้จักกับคุณโมรีมากขึ้น ยิ่งใกล้ชิดสนิทสนมได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีว่ะ” พิภูทำหน้าเพ้อฝัน ตาก็คอยจับจ้องที่เรือนร่างของนางแบบสาวคนสวย เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไปที่พอเห็นผู้หญิงสวยถูกใจก็ชอบ จากชอบก็อยากรู้จักใกล้ชิด และสุดท้ายก็อาจจะไปจบที่เตียงถ้าคนสองคนมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับผู้คนที่รับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในยุค พ.ศ. นี้
“แกนี่ท่าจะบ้า เป็นเอามาก ข้าว่าแกไม่ต้องทุ่มเงินมากมายขนาดนั้นหรอกเชื่อเหอะ” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าจะบ้าไปใหญ่ อิศรวัชร์รีบปราม
“แต่ข้าอยากสร้างความประทับใจให้คุณโมรีนี่หว่า แต่คิดอีกทีนะ ถ้าข้าประมูลเครื่องเพชรนั่น ไม่ใช่แค่สี่ห้าล้าน แต่คิดว่าน่าจะต้องจ่ายมากกว่านี้แหงๆ”
“ทำไมวะ”
“ก็พวกสาวๆ ในสต๊อกนะสิ ขืนรู้เข้ามีหวังมาอ้อนมาขออยากได้อีก จากที่คิดว่าจะเสียแค่ไม่กี่ล้านจะกลายเป็นหลายล้าน เพราะต้องซื้อให้คุณเธอทุกคน” พิภูลดเสียงลงกระซิบกระซาบเพื่อไม่ให้ศริณนาได้ยิน
อิศรวัชร์ส่ายหน้าระอาเพื่อนรัก พิภูเป็นหนุ่มเจ้าชู้ตามประสาคนรูปหล่อ ฐานะทางบ้านร่ำรวย เห็นสาวๆ สวยๆ เป็นต้องทำตาซึ้งชวนฝันก่อนจะปรี่เข้าไปทำความรู้จักมักคุ้น แล้วไปจบลงที่ไหนนั้นเป็นเรื่องที่รู้ๆ กัน
ตัวเขาเองก็มีคู่ควงไม่น้อย แต่เรื่องหน้าที่การงานแล้วพวกเขาไม่มีขาดตกบกพร่อง ธุรกิจรีสอร์ตของเพื่อนก็ประสบความสำเร็จทำกำไรปีหนึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยล้านกันเลยทีเดียว
“คนนี้ข้าจริงจังจริงๆ นะ”
“ข้าก็เห็นแกจริงจังกับทุกคน”
อิศรวัชร์ว่าเพื่อนอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะดึงความคิดกลับมาที่การประมูล ซึ่งกำลังเป็นไปด้วยความเข้มข้น ราคาพุ่งสูงลิบเลยห้าล้านกันแล้ว ทั้งๆ ที่เครื่องเพชรชุดนั้นราคาจริงๆ เพียงหนึ่งล้านบาท ชายหนุ่มจับจ้องมองดวงหน้าคมสวยของนางแบบสาวกิตติมศักดิ์แล้วให้หงุดหงิดหัวใจ คำพูดของโมรีดังอยู่ในหัว
‘ฉันตกลงจะเป็นนางแบบให้น้องสาวคุณถ้าคุณประมูลสร้อยที่ฉันสวมได้’
บ้าชัดๆ ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจแกล้งเขาแน่ๆ สีหน้าและแววตาท้าทายของนางแบบสาวบนเวทีคล้ายส่งตรงมาถึงเขาโดยเฉพาะ
นี่เธอคิดว่าเขาเหมือนพวกผู้ชายที่เข้าแถวเรียงคิวรับบัตรเชิญจากคุณเธอรึไงกัน...
อิศรวัชร์เข้าใจดีทีเดียวว่าทำไมพิภูถึงได้กระตือรือร้นนักอยากสร้างความประทับใจให้กับหญิงสาว เขาเองยอมรับว่าปรารถนาอยากได้สาวสวยแบบโมรีมาประดับเตียงเช่นกัน ชายหนุ่มหันมามองน้องสาวที่จับจ้องมองโมรีไม่วางตา ไม่บอกก็รู้ว่าศริณนาอยากได้คนบนเวทีมาเป็นนางแบบใจจะขาด งานศิลปะและอารมณ์ของศิลปินไม่ใช่ว่าจะเกิดไอเดียเจ๋งๆ ได้ตลอดเวลา เมื่อบังเอิญได้พบสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ เขาจะทำให้น้องสาวผิดหวังได้ยังไง
“แปดล้าน”
ราคาพุ่งลิ่วไม่หยุด พิธีกรทวนราคาที่ถูกเสนอขึ้นมาอีกครั้ง แล้วถามเพื่อให้โอกาสคนอื่นๆ เสนอราคาบ้าง
“แปดล้านครั้งที่หนึ่ง แปดล้านครั้งที่สอง แปด...”
“แปดล้านห้า”
ราคาถูกเสนอขึ้นอีกครั้ง และเป็นราคาที่สูงสุดเกินกว่าจะมีใครยอมทุ่มตาม
อิศรวัชร์ฮึดฮัดหงุดหงิดในหัวใจ เสียดายเงินไม่เท่าไหร่ แต่เขาไม่อยากเสียหน้าถ้าต้องทำเหมือนง้อผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขาไม่คิดอยากข้องเกี่ยว ทั้งที่ร่างกายกำลังรู้สึกตรงกันข้าม โมรีช่างเป็นผู้หญิงที่มีเซ็กซ์แอพพีลสูง เธอเรียกความสนใจจากผู้คนได้โดยไม่ต้องดิ้นรนทำอะไรเลย
“สิบล้าน”
เสียงฮือฮาดังอึงในห้องแกรนด์บอลรูมทันทีเมื่อราคาที่สูงลิ่วถูกเสนอขึ้นมา ทั้งนักข่าว ผู้ร่วมงาน และพิธีกรบนเวที รวมถึงไฟก็สาดส่องจับไปยังผู้ที่เสนอราคาดังกล่าว
อิศรวัชร์ลดมือลงเมื่อเอ่ยราคาที่คิดว่าไม่มีใครกล้าทุ่มมากกว่านี้แน่ๆ หันมาเลิกคิ้วให้เพื่อนซึ่งมองตาค้าง พิภูมองเหมือนเห็นเขาเป็นตัวประหลาด แล้วกระซิบกระซาบเบาๆ
“ไหนว่าไม่สนใจวะ”
ชายหนุ่มยักไหล่ หันกลับมามองทางเวทีอีกครั้ง ความสนใจเขามีแน่นอน แต่เรียกว่าเป็นความสนใจที่ถูกบังคับมากกว่า แล้วเขาก็ปฏิเสธไม่ได้เสียด้วย เพราะเป็นคำขอร้องแกมอ้อนวอนจากน้องสาวสุดที่รัก
“อยากทำบุญ ผิดรึไง”
โมรีมองสบตาคมกล้าที่กำลังมองตรงมาที่เธอนิ่งๆ ของผู้เสนอราคา แววตาคมกล้าที่ส่งมานั้นมีวี่แววท้าทายและเหยียดหยันไม่น้อย มันทำให้ดวงหน้าเนียนร้อนวูบวาบ ขณะที่ต้องฉีกยิ้มให้เขา แม้ความหล่อเหลาชนิดหาตัวจับยากของชายหนุ่มทำให้ใจเธอกระตุกอย่างไม่เคยเป็น แต่คนไร้ความเป็นสุภาพบุรุษแบบนั้น เธอปรารถนาละเว้นขออย่าได้เจอ
แต่... สะใจเป็นบ้า คนอะไร ไม่เคยพบไม่เคยเห็นหน้า เจอกันครั้งแรกก็มาทำปากเสียใส่แล้ว เสียเงินเป็นสิบล้านคงจะช่วยเรียกให้ความเป็นสุภาพบุรุษกระเตื้องขึ้นมาบ้างนะ
“พี่อิศ สิบล้านเลยนะ”
“พี่ช่วยรินแล้วนะ ถ้าเสียดายเงินก็เอามาจ่ายช่วยพี่ครึ่งหนึ่งด้วยล่ะ”
“หมายความว่าไงคะ หรือว่าคุณโมรียอมรับข้อเสนอของริน”
“ใช่ แลกกับยอดประมูลเพชรชุดนั้น บ้าชะมัด” น้ำเสียงของพี่ชายบอกว่าเซ็งจัด
“ดีจังเลยค่ะ พี่อิศน่ารักมากๆ” ศริณนาแทบกรี๊ด ดีใจจนยิ้มแก้มปริ
“เฮ้ย ไอ้อิศนี่ข้าพลาดอะไรไปรึเปล่าวะ แกแอบไปตกลงกับคุณโมรีคนสวยตอนไหนกัน” พิภูเค้นเสียงถาม จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไง มาด้วยกัน เจอสาวสวยก็เจอด้วยกัน แล้วเพื่อนเขาแอบแวบไปเจรจาว่าความกันตอนไหน
อิศรวัชร์ยักไหล่ จ้องมองดวงหน้าสวยบาดใจอย่างคาดโทษ โมรี... เธอทำให้เขาต้องเสียเงินสิบล้าน คอยดูเถอะงานนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลสบายใจเฉิบแน่ๆ
“สิบล้านครับ มีใครจะให้ราคาสูงกว่าคุณอิศรวัชร์หรือเปล่าครับ”
อิศรวัชร์... ผู้ชายแย่ๆ โมรีเคยได้ยินชื่อมาบ้าง เจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางกรุง ยังมีสนามกอล์ฟสวยๆ อีกหลายแห่ง บางแห่งนั้นเธอเองก็เคยไปออกรอบกับครอบครัวมาแล้ว โมรีส่งยิ้มหวานให้เขาอย่างจงใจ เมื่อพิธีกรประกาศว่าเขาคือผู้ชนะการประมูล