bc

Vampire Soulmate ด้ายแดงรัดคอ

book_age18+
205
ติดตาม
2.0K
อ่าน
จบสุข
หวาน
แวมไพร์
like
intro-logo
คำนิยม

นาตาชาเคยมีความฝันอยากกลายเป็นจิตกรเพราะเธอรักการวาดภาพมาก แต่เธอกลับถูกทรยสโดยเพื่อนที่เธอไว้ใจมากที่สุดนั่นทำให้เธอสูญเสียแรงบันดานใจและไม่สามารถวาดภาพได้อีก ในชีวินนี้เธอไม่มีโอกาสได้ทำตามความฝันและไม่มีโอกาสได้พบโซลเมทหรือที่เรียกว่าเนื้อคู่เหมือนอย่างคนอื่นเธอจึงได้แต่ใช้ชีวิตไปอย่างว่างเปล่าจนกระทั่งเธอเสียชีวิตและได้โอกาสย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีก่อนอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอไม่รู้เลยว่ามีเหตุการณ์เบื้องหลังบางอย่างทำให้เธอย้อนอดีตกลับมา

อย่างไรก็ตามเธอได้รับโอกาสแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดอีกครั้ง เธอได้แก้แค้น ได้ทำตามความฝัน และเธอได้พบโซลเมทที่เธอไม่มีโอกาสได้เจอในชีวิตที่แล้ว เหตุผลหลักที่เธอถูกลากคอกลับมาในอดีตน่าจะเป็นเพราะมีด้ายแดงแห่งโชคชะตารัดคออยู่เสียมากกว่า แต่โซลเมทของเธอดันเป็นแวมไพร์ที่เย่อหยิง เขาปฏิเสธโชคชะตาและไม่ยอมรับเธอเป็นโซลเมท แต่ดันยอมรับเธอเป็นถุงเลือดแสนอร่อยของเขาแทน

แต่เขาจะปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไปได้สักเท่าไหร่กันเชียว

_______________________

โซลเมท

เมื่อใครสักคนบนโลกได้พบโซลเมท แรกพบสบตาจะเกิดความรู้สึกผูกพันและคะนึงหากันอย่างเป็นธรรมชาติราวกับได้กลับมาเจอครอบครัว เพื่อน หรือพี่น้องที่จากกันไปนาน แม้ว่าความจริงแล้วพวกเขาจะเพิ่งได้เจอกันเป็นครั้งแรกก็ตาม และหลังจากที่ผู้ที่เป็นโซลเมทกันได้พบเจอกันพวกเขาก็จะมีปานที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เหมือนกันปรากฏบนส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกาย สิ่งนั้นเรียกว่าสัญลักษณ์โซลเมท

เมื่อนานมาแล้วกล่าวกันว่าโซลเมทคือเนื้อคู่ที่ถูกกำหนดให้เกิดมาคู่กันโดยสวรรค์ คู่โซลเมทส่วนมากจึงลงเอยกันในฐานะคนรัก แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปและโลกได้เปิดกว้างมากขึ้น ผู้คนจึงได้มีโอกาสได้พบเจอคนแปลกหน้าจากต่างแดนได้ทุกวัน โซลเมทในยุคใหม่ส่วนมากจึงมีแค่ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนหรือไม่ก็พี่น้องที่เข้ากันได้ดีมากยิ่งกว่าพี่น้องในสายเลือดเท่านั้น

อย่างไรก็ตามคู่โซลเมทที่ผู้คนต่างเชื่อมั่นมาตั้งแต่โบราณก็ยังไม่หายไป ผู้คนก็ต่างหวังว่าโซลเมทที่จะเป็นคู่ชีวิตจะปรากฏตัวขึ้นมาและใช้ชีวิตรักด้วยกันดั่งเทพนิยาย

แต่ก็มีผู้คนมากมายที่ไม่มีโอกาสได้พบโซลเมทของตัวเองจนตลอดชีวิต

_________________________

หลายคนกล่าวกันว่าเมื่อได้พบเจอโซลเมทก็กับเหมือนได้เจอรักแรกพบ แต่มันไม่ใช่ความจริงเลย ความรู้สึกไว้วางใจ ความรู้สึกคุ้นเคย หรือความรู้สึกคิดถึงราวกับได้กลับมาพบครอบครัวที่ไม่ได้พบเจอกันนาน ความรู้สึกทั้งหมดนั้นไม่ใช่ความรู้สึกหลงรักเลยแม้แต่น้อย มันคือความรู้สึกผูกพันทางจิตวิญญาณเท่านั้น

สรุปแล้วคู่โซลโมทไม่ได้หลงรักกันตั้งแต่แรกพบอย่างที่หลายคนพูด แต่ความจริงแล้วความรู้สึกผูกพันเหล่านั้นทำให้คู่โซลเมทง่ายต่อการตกหลุมรักกันต่างหากล่ะ

ถ้าหากเพียงได้ทำความรู้จักกัน ใช่เวลาอยู่ร่วมกัน ได้รับการช่วยเหลือ หรือได้เห็นด้านที่เปล่งประกายของกันและกัน คู่โซลเมทก็จะตกหลุมรักกันได้อย่างง่ายดาย มันจึงไม่น่าแปลกที่ท้ายที่สุดคู่โซลเมทจะกลายเป็นคู่รักกันมากกว่าจะเป็นเพื่อนกัน

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 ย้อนกลับมา
บทนำ ตลอดชีวิตสามสิบปีของนาตาชาถือว่าไม่ประสบความสำเร็จเลยเพราะเธอสูญเสียความฝันในการเป็นจิตรกรไปเนื่องจากว่าเธอสูญเสียแรงบันดาลใจไปหลังจากที่ถูกทรยศจากเพื่อนที่เธอไว้ใจ เธอคิดว่าชีวิตของเธอคงจะไร้คู่และไร้ความฝันเช่นนี้ตลอดไป แต่แล้วมันก็ได้เกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อขึ้น เธอย้อนไปในอดีตในสิบเอ็ดปีให้หลังหลังจากที่เธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ตอนแรกเธอสับสนและไร้เป้าหมายจนกระทั่งเธอเริ่มรู้ตัวว่าแรงบันดาลใจในการวาดภาพของเธอที่เคยสูญเสียไปในอดีตมันได้กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง และเธอยังได้เจอเพื่อนที่เคยทรยศเธอและคนที่เคยบีบบังคับให้เธอทิ้งการวาดภาพไปอีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจที่จะใช้โอกาสนี้ในการแก้แค้น แต่นาตาชาคิดว่าเหตุผลในการย้อนเวลากลับมาของเธอไม่ใช่การกลับมาแก้แค้นเพียงอย่างเดียว เหตุผลที่เธอกลับมาก็คือการได้พบกับโซลเมทที่เธอไม่เคยได้พบในชีวิตที่แล้ว โซลเมท หรือที่เรียกกับว่าเนื้อคู่ เมื่อใครสักคนพบโลกได้พบโซลเมทของตัวเอง แรกพบสบตาพวกเขาจะเกิดความรู้สึกผูกพันและคะนึงหากันอย่างเป็นธรรมชาติราวกับได้กลับมาเจอครอบครัว เพื่อน หรือพี่น้องที่จากกันไปนาน แม้ว่าความจริงแล้วพวกเขาจะเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกก็ตาม และหลังจากที่ผู้ที่เป็นโซลเมทกันได้พบเจอกันพวกเขาก็จะมีปานที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เหมือนกันปรากฏขึ้นบนส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกาย สิ่งนั้นเรียกว่าสัญลักษณ์โซลเมท การพบเจอโซลเมทของตัวเองบนโลกที่กว้างใหญ่ถือว่าเป็นเรื่องราวโรแมนติกที่หลายคนไฝฝันอยากจะพบเจอด้วยตัวเองและใช้ชีวิตคู่กับคู่โซลเมทของตัวเองตลอดไปดั่งเช่นเทพนิยาย แต่โอกาสที่จะได้พบเจอโซลเมทของตัวเองเป็นเรื่องยากมาก ผู้คนมากมายไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้พบโซลเมทของตัวเองตลอดชีวิต นาตาชาเคยคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้คนที่จะไม่มีโอกาสได้พบโซลเมทเพราะในชีวิตที่แล้วนาตาชาไม่เคยได้เจอโซลเมทของตัวเองเลยสักครั้งแต่เมื่อย้อนอดีตมาได้แค่วันเดียวเธอก็ได้พบกับโซลเมทของเธอ ดูเหมือนว่าการที่เธอย้อนเวลากลับมามันจะเป็นโชคชะตาแห่งความรัก ด้ายแดงที่รัดคอแน่นได้กระชากเธอกลับมายังอดีต อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าคู่โซลเมทของเธอจะไม่ใช่คนธรรมดาเสียแล้ว คนอื่นรู้จักเขาในฐานะนักไวโอลินที่เก่งกาจที่สุดในมหาวิทยาลัย แต่แท้จริงแล้วเขาคือแวมไพร์ และยังเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งราชาแวมไพร์หลังจากที่ราชาแวมไพร์องค์กรเสียชีวิตไป เขาเป็นแวมไพร์ที่ดูเย็นชา ปากร้าย และเกลียดการผูกมัด เขาจึงปฏิเสธเธอที่เป็นโซลเมทของเขา แต่เขาก็ยังช่วยเหลือเธอจากแวมไพร์ตัวอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่นทำให้เธอตกหลุมรักเขา และหวังจะพิชิตใจเขาจึงเข้าหาเขาด้วยการพลีกายให้เขากัดคอเธอ เขาจะอดทนได้ยังไง? แน่นอนว่าไม่ แม้ว่าปากจะปฏิเสธแต่ก็สัมผัสเธออย่างเร่าร้อนตลอด แท้จริงแล้วสายตาของเขาไม่เคยละไปจากเธอเลย เขาหลงรักเธอมานานแล้วแต่ก็พยายามปฏิเสธ แต่เขาจะสามารถปฏิเสธเธอได้อีกนานแค่ไหนท่ามกลางสงครามชิงบัลลังก์ของแวมไพร์และศัตรูที่น่าชิงชังตลอดหลายร้อยปีของเขาที่เพ่งเล็งไปที่นาตาชาที่เป็นเหมือนจุดอ่อนของเขา . . . . ตอนที่ 1 ย้อนกลับมา เมื่อใครบางคนสูญเสียความฝันคนคนนั้นจะเป็นอย่างไรกันนะ? นาตาชาคิดว่าเธอรู้คำตอบเพราะเธอเป็นคนที่จำใจต้องปล่อยความฝันทิ้งไปเนื่องมาจากความรู้สึกเศร้าเสียใจและความรู้สึกผิดหวังจากการถูกทรยศ เมื่อละทิ้งความฝันเธอก็ขาดความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต เธอไม่มีเป้าหมายชีวิตที่จริงจังอีกต่อไปและใช้ชีวิตไปตามกระแสน้ำพัดพาราวกับคนไร้จิตวิญญาณ เธอจึงไม่แปลกใจนักที่ตัวเองไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างเฉิดฉายอย่างคนอื่นเขา แต่เธอก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร ห้องเช่าที่ถึงจะเล็กไปหน่อยแต่ก็อยู่ได้ ทำงานเป็นพนักงานในร้านอาหารเล็กๆ แต่ก็มีเงินเดือนเพียงพอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือน อาหารก็มีให้กินอิ่มท้องทุกวัน สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของนาตาชาไม่ขาดเหลือเลย แต่ว่า…ในใจของเธอรู้ดีว่ามันมีบางอย่างที่ขาดหาย [เป็นที่พูดถึงกันในขณะนี้เกี่ยวกับภาพวาดเมื่อสิบปีก่อนของคุณมาริเน็ตศิลปินชื่อดังได้ถูกนำออกมาประมูลขายในราคาสูง…] เสียงของนักข่าวในโทรทัศน์ได้กล่าวชื่อที่คุ้นเคยทำให้นาตาชาหันไปสนใจ นาตาชามองภาพวาดที่ฉายอยู่ในโทรทัศน์ ในตอนนั้นดวงตาที่ว่างเปล่าและไร้อารมณ์ของเธอก็มีปรากฏอารมณ์รุนแรงบางอย่างออกมา มันคือความโกรธและความเสียใจ แต่ต่อมาอารมณ์เหล่านั้นก็หายไปและกลับมาว่างเปล่าอีกครั้งเพราะเธอรู้ดีว่าถึงจะมีความรู้สึกพวกนั้นขึ้นมาเธอก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงช่วงเวลาในอดีต เมื่อก่อนเธอรักและหลงใหลการวาดภาพมาก เธอมีความฝันที่จะเป็นศิลปินวาดภาพ แต่ความฝันนั่นก็ได้พังทลายไปแล้วหลังจากที่เธอไว้ใจคนผิดจนถูกทรยศ ใส่ร้าย และถูกแย่งชิง “ไร้ยางอาย” นาตาชาพึมพำขณะที่มองภาพวาดที่เคยเป็นของเธอและคนที่วาดภาพนั่นก็คือเธอเองเช่นกัน นาตาชามองมือที่ตอนนี้หยาบกระด้างจากการทำงานหนักมาสิบปี มือของเธอไม่บอบบางและอ่อนนุ่มเหมือนตอนที่จับพู่กันเมื่อสิบปีที่แล้ว อยากวาดภาพอีกครั้ง ความปรารถนาในใจของเธอกรีดร้องแต่มือที่ไม่ได้จับพู่กันมาหลายปีไม่สามารถแม้แต่จะวาดเส้นได้สักเส้นเดียว “วาดภาพไม่ได้แล้ว? ไร้ประโยชน์จริงๆ แต่เอาเถอะฉันใช้คนอื่นก็ได้ ฝีมือวาดภาพเจ้าโง่นั่นดีกว่าเธอเยอะ” คำพูดของคนที่ขโมยผลงานของเธอไปและคนที่ทำให้เธอศูนย์เสียแรงบันดาลใจไปดังก้องอยู่ในหัวของเธอ “อย่างที่คิดคนอย่างเธอน่ะมันโง่ ถ้ายอมให้ฉันใช้ประโยชน์ผลงานของเธอ ผลงานวาดภาพไร้ค่าของเธอคงโด่งดังไปตั้งนานแล้ว ถึงจะอยู่ในชื่อของคนอื่นก็เถอะนะ” รอยยิ้มเยาะเย้ยและดูถูกจากคนที่เธอเชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ไว้ใจที่สุดยังชัดเจนในความทรงจำเมื่อนึกถึง อย่างไรก็ตามเธอไม่อยากให้ความสนใจกับเรื่องนี้อีกแล้ว นาตาชาจงใจเมินเฉยความทรงจำที่ผุดขึ้นมาและฝังมันไว้ในส่วนลึกความทรงจำอีกครั้งและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายต่อไป เธอคิดว่าตัวเองจะใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้ไปจนกว่าจะกระทั่งเกษียณอายุ แต่…เธอไม่คิดว่าตัวเองจะอายุสั้นอย่างนี้ นาตาชาในวัยสามสิบได้เดินทางกลับบ้านหลังเลิกทำงานตามปกติแต่ทันใดนั้นเองแสงสว่างจ้าก็สาดเข้าตาจนต้องหรี่ตาลงและจากนั้นความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างก็ถาโถมเข้ามา เธอรู้ตัวว่าตัวเองได้ถูกรถชนเข้าให้แล้ว ภาพสุดท้ายที่นาตาชาได้เห็นก่อนที่ภาพจะตัดไปก็คือภาพของรถที่แล่นจากไปหลังจากที่ชนเธอเข้าอย่างจัง คู่กรณีก็หนีไปแล้ว แถวนี้คนผ่านน้อย ส่วนเธอก็บาดเจ็บจนขยับไม่ได้ นาตาชาไม่แปลกใจนักที่จุดจบของตัวเองจะเป็นความตายอย่างไร้คนเหลียวแลตรงนี้ แต่นาตาชาเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่งชีวิตของตัวเองเพราะหลังจากที่สูญเสียความฝันเธอก็ใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมายและเป้าหมายชีวิตมาตลอด ถ้าตัวเองตายไปเธอก็ไม่สนใจอยู่แล้ว นาตาชาหลับตายอมรับความตายแต่โดยดีและจมลงสู่ความมืด… นาตาชาแน่ใจเลยว่าตัวเองตายเพราะอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงนั่นไปแล้ว แต่แล้วนี่มันอะไรกัน? นาตาชารู้สึกเหมือนกับว่าความทรงจำของเธอขาดหายไปช่วงหนึ่ง “ฉันตัดสินใจคบกับโซลเมทของฉันอย่างจริงจังแล้วเพราะงั้นเราเลิกกันเถอะ อย่ามายุ่งกับฉันอีกและอย่าบอกใครเรื่องที่เราคบกันไม่อย่างนั้นเธอคงรู้นะว่าฉันสามารถทำอะไรได้” คนที่เธอคุ้นหน้านิดหน่อยเดินมาพูดกับเธอก่อนที่จะเดินจากไปอย่างไม่ไยดีโดยที่นาตาชาไม่มีโอกาสได้อ้าปากพูดเพราะกำลังคาบช้อนไม้อยู่ในปาก นาตาชากะพริบตาปริบๆ คายช้อนไม้ออกปากและก้มลงมองไอติมถ้วยในมือ เกิดอะไรขึ้น? นาตาชาพยายามนึกอยู่นานสองนานจนไอติมเริ่มละลาย เธอเลยรีบกินมันจนหมดและในที่สุดนาตาชาก็นึกออก คนที่บอกเลิกกับเธอเมื่อครู่คือแฟนของเธอเมื่อสิบปีก่อน เธอจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองตกลงคบกับเขาได้ยังไงแต่เธอจำได้แม่นเลยว่าเธอคบกับเขาได้หนึ่งสัปดาห์ก่อนจะถูกเขาบอกเลิก เธอจำได้เลือนรางว่าแฟนคนแรกและคนสุดท้ายของเธอคนนั้นตัดสินใจที่จะคบกับผู้หญิงที่เขาบอกว่าเป็นคู่โชคชะตาอย่างจริงจัง เขาจึงไปบอกเลิกกับผู้หญิงทุกคนที่เขาคบ เดี๋ยวนะ เธอไปคบกับผู้ชายที่คบกับผู้หญิงคนอื่นพร้อมกันได้ยังไง? นาตาชาตระหนักขึ้นมาได้เล็กน้อยก่อนจะปัดเรื่องนั้นออกจากหัวไปอย่างไม่สนใจ เธอหันกลับมาสนใจเรื่องที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า [13.04.20XX] วันเวลาที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์รุ่นเก่าไม่มีอะไรแปลกยกเว้น ค.ศ ที่ลดลงสิบปี นาตาชาคิดและสรุปอย่างง่ายดายว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับมาเมื่อสิบปีก่อนแล้ว นาตาชาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรติดค้างในชีวิตแล้วนะ แต่ทำไมพระเจ้าถึงให้โอกาสที่สองกับเธอละเนี่ย? นาตาชาได้แต่ยืนนิ่งอยู่หน้าร้านไอติม ในมือถือถ้วยไอติมที่ว่างเปล่าและโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่า ไม่สิ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในยุคนี้ต่างหากล่ะ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยืนคิดนานไปหน่อยเจ้าของร้านไอติมที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบเลยมองเธออย่างเห็นใจ หญิงสาวที่ถูกบอกเลิกอย่างโหดร้ายหน้าตาน่ารักและน่าถนุถนอมมาก สีหน้าเหม่อลอยและเศร้าสร้อยนั่นแลดูน่าสงสารจับใจ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจิตใจทำด้วยอะไรถึงกล้าทำลายจิตใจบอบบางสาวน้อยแบบนี้ “ผู้ชายหล่อรวยมีเยอะแยะ อย่าเสียใจกับผู้ชายพันนั้นเลย เอานี่ไปกินฉันให้ฟรี” เจ้าของร้านไอติมยื่นไอติมถ้วยใหม่ให้เธอเพราะความสงสาร นาตาชาพยักหน้ารับไอติมฟรีอย่างเชื่องช้าขณะที่ในใจก็พยายามนึกว่าเมื่อสิบปีก่อนตัวเองอาศัยอยู่ที่ไหน นาตาชาตักไอติมฟรีที่ได้รับมาเข้าปากขณะเดินหาทางกลับบ้านหลังเก่าที่ลืมไปแล้วว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งนาตาชาก็พยายามอยู่ครึ่งวันกว่าจะหาที่อยู่ของตัวเองเจอ ในช่วงเวลานี้เธอพักอยู่ในห้องพักขนาดเล็กใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ แต่พอเรียนไปได้ครึ่งปีเธอก็ออกจากโรงเรียนด้วยเหตุผลเรื่องการเงิน และดูเหมือนว่าเธอจะกลับมาในช่วงที่ออกจากมหาวิทยาลัยพอดีเพราะห้องพักของเธอเต็มไปด้วยกล่องรังที่ดูยังไงก็เหมือนห้องของที่คนเตรียมย้ายออก ความทรงจำที่เธอลืมไปแล้วย้อนกลับมา นาตาชาเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวที่สูญเสียลูกไปจากการถูกลักพาตัว พวกเขาต้องการตัวแทนของลูกสาวที่หายตัวจึงรับเลี้ยงเธอไว้ปลอบใจตัวเอง แต่ถึงเธอจะมาเป็นตัวแทนให้ลูกสาวของพวกเขา พวกเขาก็มักจะมองเธออย่างเจ็บปวดและเศร้าใจอยู่ตลอดและไม่ได้รักเธอเหมือนที่รักลูกสาวที่แท้จริงของตัวเอง แต่นาตาชาก็คิดว่าพ่อแม่บุญธรรมใจดีกับลูกบุญธรรมอย่างเธอมาก พวกเขาให้อาหารและที่อยู่อย่างดี แต่หลังจากที่นาตาชาอายุครบสิบแปดปีพวกเขาก็หาลูกสาวที่หายตัวไปพบและพากลับบ้านด้วยความดีใจ สิ่งที่นาตาชาทำได้ก็คือย้ายออกจากบ้านของพวกเขาและมาอาศัยอยู่ในห้องพักใกล้กับมหาวิทยาลัยที่บังเอิญสอบเข้าได้พอดี นาตาชาไม่ได้นึกน้อยใจอะไรนักที่ถูกกีดกันออกจากบ้านหลังนั้นเพราะอย่างไรเสียเธอก็จะต้องย้ายออกเมื่อโตขึ้นอยู่แล้ว แต่เพราะเธอเริ่มตัดขาดจากครอบครัวบุญธรรมพวกเขาก็เริ่มหลงลืมเธอและให้เงินค่ากินค่าดื่มน้อยลง นาตาชารู้ว่าเธอถึงวัยที่ต้องพึ่งพาตัวเองแล้วจึงไม่เคยเรียกร้องเอาอะไรจากพวกเขาเลย ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอไม่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียน ถึงเธอจะทำงานพิเศษระหว่างเรียนไปด้วยแต่เงินที่ได้รับมามันก็ไม่เพียงพอสำหรับเธออยู่ดี นาตาชาจึงตัดสินใจออกจากโรงเรียนและไปหางานทำเพราะอย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้มีงานในฝันที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำหลังจากเรียนจบเหมือนคนอื่นอยู่แล้ว ว่าแต่…เธอกำลังย้ายไปที่ไหนนะ? นาตาชาพยายามนึกและค้นหาในโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะพบว่าห้องพักนี้จะหมดสัญญาในหนึ่งเดือนและเธอก็ยังหาห้องพักราคาถูกให้ตัวเองไม่ได้ อันที่จริงหอพักของมหาวิทยาลัยก็เป็นหนึ่งในทางเลือก แต่เธอไม่อยากอยู่ร่วมกับคนอื่นเธอจึงไม่อยากอยู่หอพักของนักศึกษาของมหาวิทยาลัย และเพราะความเรื่องมากนี้เองถ้าเธอยังหาห้องพักไม่ได้ภายในเดือนนี้นาตาชาก็น่าจะต้องสร้างบ้านกล่องอยู่กับคุณลุงขอทานประจำมหาวิทยาลัย “อือ…เอาไงดีนะ” นาตาชาคิดหนัก ติ่ง! ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ทำนาตาชาหลุดออกจากความคิดอย่างง่ายดาย เธอลืมเกี่ยวกับห้องพักใหม่ชั่วคราวและอ่านข้อความที่เพิ่งส่งมา Layna : ว่างไหม ไปดื่มกัน Layna : วันหยุดทั้งทีก็ออกมาเยี่ยมเพื่อนฝูงหน่อยสิ นาตาชานึกอยู่นานก่อนจะนึกออกว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนที่เธอเคยคบเมื่อยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เธอจำความสัมพันธ์ของเธอกับเลน่าไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไง แต่ถ้าจะให้ปฏิเสธคำชวนก็ดูไม่ดี สุดท้ายเธอก็ตอบตกลงโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามันคือจุดเปลี่ยนของชีวิตของเธอ ไนต์คลับ XX นาตาชาเงยหน้ามองป้ายร้านที่เรืองแสงวิบวับเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้มาผิดที่ เมื่อผ่านประตูเข้าไปเธอก็พบกับความวุ่นวาย ฝูงชนเดินเบียดเสียด เสียงเพลงดังกระหึ่ม มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นหน้าคนรู้จัก ไนต์คลับที่กว้างและเต็มไปด้วยผู้คนแบบนี้เธอจะตามหาเพื่อนเจอได้ยังไงกัน โดยไม่รู้ตัวท่าทางสับสนมึนงงของเธอท่ามกลางฝูงชนมันดึงดูดหมาป่ากลางคืนแถวนั้นไม่น้อย ด้วยหน้าตาน่ารักสะดุดตาและท่าทางมึนงงเหมือนแกะน้อยหลงฝูงทำให้ดูง่ายต่อการล่อลวง “คุณหนูผู้น่ารักดูเหมือนจะเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกนะ ผมช่วยแนะนำให้ดีไหม?” ชายหนุ่มไม่ว่าเปล่าและเข้าประชิดตัวหญิงสาวด้วยท่าทางแนบเนียน นาตาชาเงยหน้ามองหน้าตายิ้มแย้มของอีกฝ่าย เธอไม่คุ้นหน้าเขาและรู้สึกว่ากลิ่นของเขาค่อนข้างจะแรงไปหน่อย นาตาชามองเขาอย่างลังเล เธอไม่ได้สนิทกับเขาถ้าจะให้พูดออกไปมันก็ออกจะดูเสียมารยาทไปสักหน่อย เธอครุ่นคิดหนักก่อนจะตัดสินใจยื่นมือออกไป “ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม?” เธอเอ่ย “ว้าว ไม่คิดเลยว่าเธอจะแรงแตกต่างจากหน้าตา คิดจะขอเบอร์เลยเหรอ? แต่เพราะเห็นว่าน่ารักหรอกนะ” เขาควักโทรศัพท์ของตัวเองให้เธอด้วยท่าทางเหมือนฝืนใจแต่สีหน้าดูภูมิใจและมั่นใจมาก นาตาชาก้มหน้าพิมพ์บางอย่างในมือถือของเขา ชายหนุ่มแสร้งเชิดหน้ากอดอกรอ เมื่อหญิงสาวยื่นโทรศัพท์คืนมาเขาก็รับคืนมาโดยมั่นใจว่าในโทรศัพท์มีเบอร์โทรใหม่ปรากฏขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง [วิธีอาบน้ำให้สะอาด] คำค้นหาที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำเอาเขาหน้ากระตุกและหันหน้าขวับไปหาหญิงสาว แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายเดินหายเข้าไปในฝูงชนแล้ว เนื่องจากว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตัวเล็กจึงเดินลอดหายเข้าไปในฝูงชนได้อย่างง่ายดายจนเขาไม่สามารถตามไปได้และได้แต่หน้าแดงด้วยความอับอาย ทางด้านนาตาชาที่ไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจอย่างหนักไปแล้ว และในเวลาต่อมานาตาชาก็ได้ตามหาเลน่าและเพื่อนคนอื่นๆ เจอในที่สุด ซึ่งเพื่อนที่เลน่าชวนมาดื่มด้วยก็มีเยอะมาก ประมาณเก้าคนได้ แต่ปัญหาก็คือเธอเถอะจำชื่อเพื่อนของเธอไม่ได้แม้จะคุ้นหน้าก็ตาม ทำไงได้เธอไม่ได้ติดต่อพวกเขามาสิบปีแล้ว เธอไม่อยากใช้หน่วยความทรงจำที่มีน้อยนิดของเธอจดจำอะไรที่ไม่สำคัญนี่นา “มาช้าไปนะ พวกฉันเริ่มเมาได้ที่แล้ว เธอต้องรีบดื่มตามพวกฉันให้ทันแล้ว!” เพื่อนที่เธอจำชื่อไม่ได้เอ่ยขึ้นมาและยัดแก้วเหล้าให้เธอ “อย่าไปบังคับนาตาชาสิ แอนนา” เลน่าพูดขึ้นมา “เธอก็รู้ว่านาตาชาไม่เคยมาดื่มกับเราเลย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคออ่อนแน่ๆ” แอนนาสินะ นาตาชาแอบจำไว้เพื่อความแนบเนียน “ว่าแต่คู่หมั่นของเธอจะมาเมื่อไหร่ล่ะเลน่า ทำไมมาช้าจัง” แอนนาถามเลน่าขึ้นมา ทั้งที่กำลังสนทนากับเลน่าแต่ดวงตาของอีกฝ่ายก็แอบเหลือบมองนาตาชา นาตาชาเงยหน้าขึ้นมาจากแก้วเหล้าที่จิบไปได้คำหนึ่งอย่างสงสัย เลน่ามีคู่หมั้นเหรอ? ซวยแล้วสิเธอดันลืมเรื่องอะไรแบบนี้ไปแล้ว แม้แต่ชื่ออีกฝ่ายเธอก็ไม่น่าจะจำได้แล้วด้วย “เขาส่งข้อความมาบอกแล้วล่ะว่ากำลังมาถึง” เลน่าเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานแลดูสุขใจมาก “มีโซลเมทนี่ดีจัง ฉันก็อยากมีโซลเมทเหมือนกันจะได้มีความรักหวานซึ้งเหมือนคนอื่นเขาสักที” แอนนากล่าวและทำหน้าเสียดาย เรื่องราวของโซลเมท ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนมันก็เป็นหัวข้อที่เป็นที่นิยมตลอดมาเพราะโซลเมทหรือเนื้อคู่แห่งโชคชะตามันเป็นเรื่องราวสุดโรแมนติกสำหรับคู่รัก แรกพบสบตาความรู้สึกพิเศษก็จะกำเนิดขึ้นมาในใจและหลังจากนั้นไม่นานสัญลักณษ์ที่มีเพียงคู่เดียวบนโลกก็จะปรากฏขึ้นมาบนร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของทั้งคู่ อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะได้พบโซลเมทของตัวเองบนโลกกว้างนี้มีน้อยมาก หลายคนไม่มีโอกาสได้พบโซลเมทของตัวเองเลยตลอดชีวิต นาตาชาคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในนั้นที่ไม่มีโซลเมทของตัวเองเพราะตลอดอายุสามสิบปีของเธอ เธอไม่เคยได้พบโซลเมทของเธอเลย เธอจึงไม่ได้คาดหวังหรือให้ความสนใจกับโซลเมทเลย “พูดถึงก็มาพอดีเลย โซลเมทของเธอ!” แอนนาพูดอย่างกระตือรือร้นจนนาตาชาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองตาม นาตาชาชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของชายที่เธอพบเป็นคนแรกหลังจากย้อนอดีตมา แฟนเก่าเมื่อสิบปี ไม่สิ ไม่กี่ชั่วโมงก่อน นาตาชาเหลือบมองแฟนเก่าที่เธอจำชื่อไม่ได้เดินเข้าไปหาเลน่าที่เป็นคู่โซลเมทของเขาและจูบหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน “พวกเขาดูเป็นคู่รักที่หวานกันมากเลยนะ” แอนนาคล้ายกับพูดกับตัวเองแต่ก็จงใจให้นาตาชาได้ยิน นาตาชาลากเสียงยาวในลำคอเป็นการตอบรับไม่ได้กล่าวอะไรอีกเพราะพอเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นแล้วมันทำให้เธอนึกถึงรสชาติของไอติมฟรีที่ได้กินทันทีที่ย้อนอดีตมา อยากกินอีกจังนะ… _______ ย้อนเวลามาวันแรกก็ได้กินไอติทฟรี

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.8K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook