ตอนที่ 3 ข้าผู้ดูดวงให้ผู้อื่นแต่ไม่เคยรู้ชะตาของตัวเอง

2026 คำ
  "มี่อิง...ตื่นได้แล้ว" จางเยาเยาเอ่ยเรียกหลานสาวพลางใช้มือเขย่ากายปลุกให้ตื่น "โธ่...ท่านย่า อย่างไรเสียเราก็ต้องย้ายออกไปอยู่ดี ให้ข้านอนต่ออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ" มี่อิงเอ่ยเสียงงัวเงียอยู่ในลำคอ ในขณะที่ดวงตาของนางยังคงปิดอยู่ “ค่อยย้ายเถิด วันนี้ข้ามีลูกค้าคนสำคัญจะเข้ามาดูดวงกับเจ้า ดูเหมือนจะเบี้ยหนักไม่น้อย” นัยน์ตาสีอำพันพลันเบิกขึ้น หันมองหญิงชราด้วยแววทอดถอนใจ “ท่านย่าจะมาห่วงอะไรกับเบี้ยแค่คนคนเดียว เราจะไปเริ่มต้นใหม่กันแล้วแท้ ๆ ” “พอเก็บเงินได้แล้ว เจ้าก็ไม่เห็นค่าของเงินทองแล้วงั้นหรือ" "ไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อยท่านย่า" "เช่นนั้นก็เชื่อข้า...หลังจากดูดวงให้เศรษฐีผู้นี้เสร็จแล้ว เราค่อยทยอยขนย้ายของออกไปก็ยังไม่สาย” มี่อิงพรูลมหายใจยาว ค่อย ๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากฟูกนอน เดินไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำเล็ก ๆ ทางด้านหลังด้วยหน้าตาบูดบึ้ง ส่วนจางเยาเยาก็แยกย้ายไปเตรียมอาหาร ทำความสะอาดห้องหับ แล้วเดินไปยืนรอต้อนรับลูกค้าคนสำคัญผู้นั้นด้านหน้าสำนัก หญิงชราในชุดคลุมยาวสีครามสง่า กวาดสายตามองภายในสำนักดูดวงจนถึงหน้าประตูด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ ที่จริงแล้วนางรู้สึกใจหาย...ในใจยังคงยึดติดกับงานและสถานที่พักพิงอาศัย แต่ไม่อาจเอ่ยออกไปตรง ๆ เพราะเกรงว่ามี่อิงจะไม่สบายใจ นางเชื่อว่าการที่ได้มาอยู่ในสถานที่ไหนสักแห่งนาน ๆ ล้วนมีความผูกพันธ์กันมาก่อนตั้งแต่ภพภูมิที่แล้ว ชีวิตก็เช่นกัน ทุกสิ่งไม่ว่าจะเริ่มต้นหรือบรรจบเบื้องบนล้วนกำหนดเอาไว้ทั้งสิ้น จี๋เสียงหยูอี้ คือคำมงคลที่นางเป็นคนตั้งให้กับสำนักดูดวงแห่งนี้ นางยังจำได้ดีตอนที่มี่อิงบรรจงใช้พู่กันจุ่มสีเหลืองทองอร่ามตวัดเขียนบนแผ่นไม้ ก่อนที่จะนำไปแขวนไว้บนประตูเหนือสำนัก ยามนั้นบุบผาที่เคยเหี่ยวเฉาในใจก็เบ่งบานขึ้นมาอีกครั้งอย่างมีความหวัง "ท่านย่า...ชายผู้นั้นมาหรือยัง" มี่อิงโผล่ออกมาจากประตูครึ่งดวงหน้า เอ่ยกระซิบถามจางเยาเยาเบา ๆ จางเยาเยาหันไปเอ่ยหน้านิ่ว "เจ้าเข้าไปอยู่ในห้องดูดวงไป...อย่าออกมาเดินเพ่นพ่าน หากชายผู้นั้นมาแล้ว ข้าจะพาเข้าไปเอง" สิ้นคำสั่ง มี่อิงก็เดินเข้าไปในห้องดูดวงดังเดิม... จางเยาเยาหันหน้ากลับมาชะโงกศีรษะยืนรอลูกค้าคนสุดท้ายของนางต่ออย่างใจจดใจจ่อ   ในขณะนั้นเอง ก็มีหญิงสาวร่างบางสะโอดสะองผู้หนึ่งเดินมาหยุดด้านหน้าสำนักดูดวง ใช้สายตาอันเปล่งประกายเลื่อนอ่านป้ายประจำสำนักด้วยความสนใจและเดินเข้าไปถามกับหญิงชรา "ท่านคือแม่หมอประจำสำนักดูดวงแห่งนี้ใช่หรือไม่" จางเยาเยาตอบไม่และส่ายศีรษะ "สำนักดูดวงแห่งนี้ปิดตัวลงแล้ว เจ้าไปดูดวงที่อื่นเถิด" หญิงสาวคว่ำตาปาก เผยสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด "เพิ่งปิดหรือ...ท่านผู้เฒ่าช่วยพาข้าเข้าไปดูดวงก่อนจะปิดสำนักได้หรือไม่" ใบหน้าของจางเยาเยาแต้มรอยยิ้มจาง ๆ พลางคิดในใจ เปิดสำนักดูดวงมาก็หลายปี ลูกค้าแต่ละคนนางแทบจะคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องให้เข้าไปดูดวง แต่ยามนี้กลับมีสตรีแปลกหน้ามาขอร้องอ้อนวอนอยากดูดวง นี่สวรรค์กลั่นแกล้งกันอย่างนั้นหรือ? "เจ้าอย่ากดดันข้าเลย ทุกอย่างล้วนแต่ฟ้าลิขิต ยามนี้แม่หมอละวางหน้าที่จากสำนักดูดวงจี๋เสียงหยูอี้แล้ว เจ้าลองเดินไปดูที่สำนักอื่นเบื้องหน้าเถิด" "หากท่านผู้เฒ่าเอ่ยเช่นนั้นข้าก็จนใจ" หญิงสาวเอ่ยพลางหันตัวกลับไป เดินมุ่งหน้าตรงไปในตลาดดังเดิม แท้ที่จริงแล้วนางก็อยากจะรับสตรีผู้นี้เข้ามาดูดวงอยู่หรอก แต่จิตใจของนางกับจดจ่อกับลูกค้าคนสำคัญผู้นั้นเสียมากกว่า เริ่มจากที่นางได้ไปให้ตกปากรับคำกับสหายคนสนิทที่บอกว่ามีคุณชายสกุลใหญ่โตจะมาขอดูดวงด้วย เรื่องนั้นเกิดขึ้นก่อนที่มี่อิงจะนำถุงเงินมาให้เสียอีก นางจึงไม่อยากที่จะเสียคำพูด และคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร หากได้เบี้ยมาเพิ่มก่อนที่อำลาวงการหมอดู "ท่านผู้เฒ่า...ที่นี่ใช่สำนักดูดวงจี๋เสียงหยูอี้ใช่หรือไม่" เสียงเข้มทุ้มจากบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยดังขึ้น ทำให้หญิงชราหลุดจากห้วงแห่งความคิด นางหันมองตามต้นเสียง แล้วก็พบกับชายหนุ่มผู้หนึ่งใบหน้าคมเข้ม ไหล่ผายสง่า สวมชุดสีกรมท่า สาบเสื้อพับไปทางขวากุ๊นขอบสีดำเข้ม ด้วยสัญชาตญาณนางมองปราดเดียวก็รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้มีราศีจับที่ใบหน้า จะต้องเป็นผู้มีฐานะและเป็นคนที่สหายของนางแนะนำมาเป็นแน่ "ท่านคือคนที่หลัวซาแนะนำมาอย่างนั้นหรือ" จางเยาเยายิ้มกล่าว "ใช่...ท่านผู้เฒ่าพาข้าเข้าไปข้างในที อย่าชักช้าอีกเลย" จางเยาเยาพยักหน้าช้า ๆ รับคำ ก่อนที่จะหันกายเดินนำชายผู้นั้นเข้าไปด้านในสำนักดูดวง ชายหนุ่มผู้นั้นก้าวเท้าเดินตามหญิงชราเข้าไปในห้อง พลางกวาดสายตาสำรวจมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตรงกันข้ามกับมี่อิง มี่อิงชำเลืองตามองชายหนุ่มผู้นั้น พลางขบคิดในใจ บุรุษผู้นี้สวมอาภรณ์ที่มีราคาสูง หน้าผากกว้าง จมูกโด่งสวย โครงหน้าโดยรวมก็ดูน่ามอง เหมือนดั่งมีแสงเปล่งประกายแวววาวออกมาจากตัว ชายผู้นี้จะต้องเป็นคุณชายผู้มีเคหาสน์ร่ำรวยใหญ่โตแบบที่ท่านย่าได้กล่าวไว้และจะต้องจ่ายหนักเป็นแน่...ข้าคงต้องเอาใจเสียหน่อยแล้ว "บนโต๊ะไม้นั่นมีชาที่เพิ่งชงเสร็จ หากท่านกระหาย ก็เชิญไปรินดื่มได้ตามสบาย" มี่อิงระบายยิ้มอ่อนหวาน ชายผู้นั้นส่ายศีรษะ แสดงแววตาเย็นชาแข็งกร้าว ที่มองเข้าไปแล้วรู้สึกเย็นเยียบไปถึงหัวใจ มี่อิงมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อ "ทะ ท่านมีนามว่าอะไร…" "ข้าไม่ประสงค์บอก" ชายผู้นั้นตอบห้วน ๆ "แล้วท่านต้องการให้ข้าช่วยเหลือเรื่องอันใด" "เจ้าเป็นหมอดูมิใช่หรือ ไฉนถึงมาถามข้า" หว่างคิ้วของมี่อิงพันขมวดมุ่น นี่ท่านย่าพาลูกค้าประเภทไหนส่งมาให้ข้ากันแน่? มี่อิงยกแขนเสื้อขึ้นมาบดบังใบหน้า หัวเราะเบา ๆ อย่างมีจริต "ฮ่าฮ่า! จริงของท่าน ข้าคือหมอดู เหตุใดข้าจะไม่รู้กันเล่า" "เช่นนั้น...เชิญท่านแม่หมอดูดวงให้ข้า อย่าได้ชักช้ากว่านี้เลย" มี่อิงคลี่ยิ้มอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนที่จะเอ่ยถามต่อ "ข้าขอทราบวันเวลาเกิดของท่านได้หรือไม่" "ไม่ได้" "เอ๊ะ! นี่ท่าน! " มี่อิงถลึงดวงตากลมโต เริ่มโทสะ "ข้าไม่ประสงค์บอก" พิลึกคนนัก! มาดูดวงแต่ไม่ยอมบอกอะไรข้าเลย ถึงแม้ข้าจะพอมีความรู้ศาสตร์นี้มาบ้าง แต่หากไม่บอก ข้าจะเดาถูกได้อย่างไรล่ะ? ข้าไม่ใช่เทพเซียนเสียหน่อย มี่อิงปรายตามองอย่างกังขา นางพยายามควบคุมเส้นเสียงให้อ่อนลงหวังให้ชายผู้นั้นเชื่อฟังนางมากขึ้น "หากท่านไม่ยอมบอก...ข้าก็ดูดวงให้ท่านไม่ได้" "เพราะเหตุใด เพราะเจ้าเป็นหมอดูจอมปลอมอย่างนั้นหรือ" ใบหน้าของมี่อิงร้อนผ่าวด้วยความโกรธ นางอยากจะลุกขึ้นไปกระชากคอเขาลงมาตบสักฉาดสองฉาดเสียให้รู้แล้วรู้รอด "เจ้าอย่ามาพูดพล่อย ๆ ข้าเป็นหมอดูตัวจริง เจ้าไม่รู้หรือ...ว่าการดูหมิ่นแม่หมอเช่นข้า ชะตาเจ้าอาจจะขาดได้" "ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า หากเจ้าเดาเกี่ยวกับตัวข้าถูก ข้าจะยอมจ่ายให้เจ้าหนัก ๆ เจ้าว่าอย่างไรล่ะ" สุดท้ายแล้ว...คำพูดท้าทายก็สามารถยั่วยุมี่อิงได้สำเร็จ นางกระตุกมุมปากเล็กน้อย เอ่ยเสียงหยัน "หากท่านอยากลองดี ก็เชิญเลย" ชายหนุ่มผู้นั้นจึงเริ่มเอ่ยถาม...   "ข้าทำอาชีพอะไร" "ท่านรับราชการทหาร"   "ข้าแต่งงานแล้วหรือยัง" "ท่านแต่งงานแล้ว"   "ข้าชอบสตรีแบบไหน" "ทะ ท่านชอบบุรุษ"   "ข้าเคยฝันแปลกประหลาดหรือไม่" "ไม่เคย"   "ที่เจ้าตอบมาผิดทั้งหมด" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็น "ไม่จริง! ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติเป็นแน่" มี่อิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แสดงท่าทีลุกลี้ลุกลน คว้าถ้วยน้ำชาขึ้นมากระดกดื่มหมดในรวดเดียวแก้อาการเคอะเขิน "อยากให้ข้าลองทำนายเกี่ยวกับเจ้าดูบ้างหรือไม่" ชายหนุ่มเอ่ยถามบ้าง มี่อิงนิ่งเงียบไม่เอ่ยตอบอะไรกลับ ชายหนุ่มผู้นั้นจึงฉวยจังหวะนั้นเอ่ยต่อทันที "ดูจากสภาพเจ้าแล้ว ข้าเดาอนาคตได้ไม่ยาก” “จะ เจ้าหมายถึงอะไร อนาคตข้าจะเป็นอย่างไร” มี่อิงเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก “อนาคตข้างหน้า ข้าเห็นเจ้าอยู่ในที่ที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง” “ขะ ข้าอยู่ที่ไหน” . . . “ในคุกยังไงล่ะ!!! ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น มี่อิงก็เบิกตาโตด้วยความตกใจ นางลุกขึ้นยืนเตรียมจะวิ่งหนีโดยสัญชาตญาณ แต่ชายผู้นั้นพลันหมุนกาย เหวี่ยงแขนอันแข็งแกร่งรวบเอาร่างอันบอบบางของมี่อิงดึงเข้าประชิดตัวไว้ก่อน มี่อิงรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน ร่างกายไม่ตอบสนองไปชั่วขณะ ในหัวสมองเกิดคำถามผุดขึ้นมามากมาย ชายผู้นี้เป็นใคร? มาจากไหน? เป็นอริข้าหรือ? แต่ข้าก็ไม่เคยมีอริไม่ใช่หรือ? มี่อิงพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมตัว แต่ดูเหมือนว่า แม้จะพยายามดิ้นกายให้แรงเสียเท่าไหร่ แรงของสตรีก็ไม่อาจสู้แรงของบุรุษได้อยู่ดี “นี่เจ้า! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! เจ้าเป็นใครกันแน่ ไฉนถึงมาจับตัวข้า” “ไปกลับข้า!! ชีวิตของเจ้าจบสิ้นลงแล้ว”ชายหนุ่มตะคอกเสียงหนักแน่น “ไม่! ข้าไม่ไป! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย” "ไม่ได้ทำอะไรผิดหรือ...ความเป็นจริงข้าไม่จำเป็นต้องมานั่งทดสอบเจ้าเสียด้วยซ้ำ เพราะชาวบ้านหลายคนในละแวกนี้ ต่างพากันไปฟ้องร้องต่อศาล เรื่องที่เจ้ากับย่าของเจ้าทำการหลอกลวงเงินชาวบ้าน" มี่อิงเปิดตากว้างโตด้วยความตกใจ แย่แล้ว...ชายผู้นี้จะต้องเป็นคนที่ถูกส่งมาจากทางการเป็นแน่ ใครจะโง่อยู่ให้จับกันล่ะ! สิ้นสุดความคิด มี่อิงก็รวบรวมพลังแรงกายทั้งหมดที่มี ขบฟันกัดไปที่แขนของชายหนุ่มผู้นั้นอย่างสุดแรง "โอ๊ย!!! " ชายหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด จนเผลอปล่อยแขนออกจากตัวของมี่อิงอย่างไม่ทันรู้ตัว "นี่เจ้า! กล้าดีอย่างไรมากัดแขนข้า" มี่อิงเมื่อหลุดจากการจับกุมตัว นางก็ไม่สนใจอะไรอีก นางรีบจ้ำเท้าวิ่งหนีออกมาจากห้องดูดวงจนสุดชีวิต ฉุดแขนของจางเยาเยาที่ยืนอยู่หน้าสำนักดูดวงวิ่งหนีไปกับนางด้วย "ท่านย่า ๆ หนีเร็ว! " "ชะ ช้าก่อน" จางเยาเยามึนงง สงสัยในใจว่าเหตุใดหลานของนางถึงฉุดนางวิ่งออกมาเช่นนี้ แต่ก็ยังคงก้าวเท้าวิ่งไปต่ออย่างทุลักทุเล "มี่อิง...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!!! "    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม