I Like You The Most 05 ทางรอดเดียวที่มีอยู่

1719 คำ
"พี่พายุพูดอะไรอะ?!" ทั้งฉันทั้งเรนโบว์ต่างทำหน้าตกใจเมื่อพี่พายุพูดอะไรแปลก ๆ ออกมา มันคิดได้สองแง่สองง่านะ -///- "เอ่อ พี่หมายถึงว่าเดี๋ยววันหลังจะซื้อให้กินใหม่ไอติมน่ะ" "อ่ออออ~~~" ฉันกับเรนโบว์พูดออกมาพร้อมกันแล้วทำไมไม่พูดให้มันชัดเจนตั้งแต่แรกนะจิตใจฉันยิ่งไม่ดีอยู่ด้วย "คิดอะไรกันฮะเด็ก ๆ ไป ๆ ขึ้นรถกันได้แล้วจะมืดแล้ว...พ่อแม่ทิวลิปไม่ว่าอะไรใช่ไหม?" พี่พายุหันมาถามฉัน "ไม่หรอกค่ะทิวบอกพ่อแม่เอาไว้แล้วว่าจะกลับช้าเพราะว่ามีแข่งบาส" ฉันตอบกลับไปบอกก็จริงแต่ไม่ได้พูดต่อหน้าหรอกนะกลับไปก็ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้างแต่ช่างเถอะมันเรื่องของอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า "โอเคงั้นกลับกันเถอะเด็ก ๆ" บนรถ "ทิวลิปอยู่มอหกแล้วใช่ไหม?" ระหว่างเดินทางกลับบ้านพี่พายุก็ถามฉันขึ้นมา "ค่ะ" "แล้วจะเข้าเรียนอะไรคิดไว้หรือยัง?" "ก็...ที่จริงทิวอยากเรียนดนตรีน่ะ" ฉันตอบไปตามความจริง "จริงเหรอพี่ทิวลิปพี่พายุเองก็เรียนดนตรีนะมีอะไรก็ถามพี่พายุได้เลย^^" เรนโบว์หันมาพูดกับฉัน "ใช่ อยากเข้าแบบไหนละเครื่องดนตรีหรือการร้อง?" พี่พายุถามฉัน "ทิวแค่อยากเรียนแต่ยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองชอบแบบไหนแค่เล่นกีต้าร์พอได้เท่านั้นเองและอยากไปเรียนเพิ่มเผื่อว่าจะเอาไปต่อยอดอะไรได้ แต่ว่าพ่อแม่ทิวไม่อยากให้เรียนน่ะ" "อ้าว! ทำไมละเรียนดนตรไม่ดีตรงไหน?" เรนโบว์ถาม "พี่เข้าใจพ่อแม่ของทิวลิปนะสมัยนี้อาจจะยังมีพ่อแม่ที่ไม่รู้ดนตรีสามารถไปทำอาชีพอะไรได้บ้างถ้าทิวลิปลองเอาไปเสนอพ่อแม่อาจจะยอมใจอ่อนก็ได้นะ แล้วถ้าพ่อแม่ไม่ยอมให้เรียนดนตรีแล้วอยากให้เรียนอะไรละ?" "ให้เรนเดาคิดว่าหมอใช่ม่ะ?" เก่งจังแหะ "ใช่ พ่อแม่อยากให้พี่เรียนหมอนะเพราะว่าผิดหวังจากพี่ตะวันที่ไม่สามารถสอบเข้าได้ความกดดันเลยมาอยู่ที่พี่แทน" ฉันบอกกับเรนโบว์ "อะไรกัน..." "ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่ลองคุยกับพ่อแม่ดูใหม่ว่าจะให้เรียนไหมต่อให้ไม่เรียนพี่ก็จะดื้ออยู่ดี ^-^" ฉันยิ้มกว้างความจริงก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ ฉันจะสามารถดื้อได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย เฮ้อออ! "หึ! หนูทิวลิปก็แสบเหมือนกันนะเนี่ย" พี่พายุพูดและมองฉันจากกระจกหลัง "มะไม่ใช่สักหน่อย -//////-" บ้านทิวลิป "ขอบคุณนะคะพี่พายุ ขอบคุณนะเรนโบว์ที่วันนี้ให้ติดรถทั้งไปทั้งกลับเลย" เมื่อรถจอดหน้าบ้านฉันก็ขอบคุณทั้งสองที่วันนี้รับภาระอย่างฉันกลับมาด้วย "ไม่เป็นไรเลยพี่เต็มใจถ้าวันไหนอยากไปด้วยก็บอกได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจเพราะยังไงพี่ก็ต้องไปส่งเรนโบว์อยู่แล้ว" "ช่ายยย~~มีพี่ทิวลิปนั่งไปด้วยไม่เหงาดี" ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ฉันก็ไม่กล้าไปด้วยอีกแล้วละเพราะไม่รู้ว่าพี่ตะวันจะว่ายังไงถ้ารู้ขึ้นมา "จ๊ะ งั้นทิวขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ" ฉันบอกเพราะว่าสายตาฉันเห็นรถของพ่อแม่กลับมาแล้ว "ฝากสวัสดีพ่อแม่ทิวลิปด้วยนะ" "ค่ะพี่พายุ" ฉันตอบกลับไปก่อนจะลงรถและเดินเข้าบ้านด้วยใจที่เต้นแรงวันนี้กลับเกินเวลาไปหมดเลย... "คุณทิวคะ?!" เสียงของป้าแมวเรียก "สวัสดีค่ะป้าแมวทำไมทำหน้าตาแตกตื่นแบบนั้นละคะ?" "เข้าหลังบ้านเถอะค่ะตอนนี้คุณทั้งสองและคุณหนูตะวันกำลังรอคุณทิว..." "ป้าแมว!! เงียบปากเลยนะ!!" เสียงของพี่ตะวันเดินออกมาหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วสินะ "คุณหนูตะวันคะ..." "เป็นแค่ขี้ข้าอย่าสอด!!ทิวลิปเข้าบ้านตามมาพ่อแม่รออยู่!!" และพี่ตะวันก็เดินนำเข้าไปในบ้านส่วนฉันก็เม้มปากแน่น "คุณทิวลิป.." ป้าแมวเรียกและจับมือของฉันเอาไว้ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าแมวทิวจัดการได้" ฉันจับมือของป้าแมวออกก่อนจะเดินเข้าบ้านตามพี่ตะวันไป กึก! ทั้งพ่อทั้งแม่กำลังมองมาที่ฉันอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ "สวัสดีค่ะพ่อ...สวัสีดีค่ะแม่..." ฉันยกมือไหว้ "กว่าจะกลับบ้านเกือบทุ่ม!!แกคิดว่าตัวเองโตแล้วเหรอถ้าได้กล้าดื้อและกลับบ้านเอาป่านนี้ฮะยัยทิวลิป?!" พ่อของฉันเสียงดังทันทีเมื่อฉันพูดจบ "ทิวบอกไว้แล้วว่ามีแข่งบาสกลับช้า..." ปึก!! แม่ปากระดาษใส่หน้าของฉัน "นี่เหรอกระดาษที่แกแปะบอกเอาไว้น่ะ!" "ค่ะ เพราะทิวรู้ว่าถ้าบอกไปตรง ๆ พ่อแม่คงไม่อนุญาต..." "ใช่ไง!! แล้วทำไมแกยังดื้อด้านที่จะทำมันเล่นกีฬางั้น อยากเรียนดนตรีงั้น! แกเคยคิดจะทำอะไรที่มันมีประโยชน์บ้างไหมทิวลิปฉันขอถามแกหน่อยแทนที่จะเอาเวลาไปอ่านหนังสือเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยแต่แกกลับเอาเล่นไปกีฬาบ้าบอของแกฉันว่าฉันพูดเด็ดขาดแล้วนะว่าให้เลิกเล่นมัน!!ตอนแกไม่คิดจะฟังกันเลยใช่ไหม?!" หมับ! พ่อลุกขึ้นมาและกระชากตัวของฉัน "นั่นสิคะคุณพ่อแถมยังกลับมืดอีกพ่อแม่เป็นห่วงขนาดนี้ยังมีหน้ากลับมากับผู้ชาย..." ขวับ! ฉันหันมองหน้าพี่ตะวัน "ผู้ชายที่ไหน?! นี่แกใจแตกแล้วเหรอทิวลิป?!" แม่ของฉันถาม "ไม่ใช่นะคะแม่นั่นพี่พายุเขาแค่จะไปส่งน้องสาวที่โรงเรียนเดียวกันกับทิวแค่นั้นเอง เขาเจอก็เลยรับมาด้วยมันไม่ได้มีอะไรทั้งนั้นนะคะ!" "ไม่มีอะไรแล้วแกจะเอาขอไปให้พี่พายุบ่อย ๆ ทำไม?" "นั่นเพราะพี่..." "ทิวลิป!!!เลิกแก้ตัวได้แล้วจะยังไงก็ช่างวันนี้ฉันจะลงโทษแกที่กลับบ้านช้า!!เล่นบาสที่ฉันสั่งให้เลิก!!ไหน...จะแผลตามตัวนั่นอีกเห็นไหมว่าการเล่นบาสของแกมันไร้สาระ!!ตะวันเอาไม้มาให้พ่อหน่อย" "พะพ่อคะ...แค่นี้อะพ่อจะตีทิวเลยเหรอ?" ฉันเริ่มเสียงสั่นและเริ่มกลัวเพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนหรอกแต่ทุกครั้งที่โดนฉันต้องป่วยไม่สบายเสมอและไม่ได้ไปโรงเรียน "ใช่!!เพราะว่าฉันจะสั่งสอนแก!!ว่าอย่าขัดขืนในสิ่งที่ฉันสั่ง!!และต่อไปนี้เลิกเล่นบาสซะแล้วเตรียมตัวสอบหมอเท่านั้น!!ถ้าแกยังดื้อด้านไม่เชื่อกันฉันจะตีแกอีกจนกว่าจะเชื่อฟัง" "พ่อออออ!! ไม่เอานะ ฮึก!! อย่าตีทิวมะแม่ช่วยทิวด้วย" ฉันหันไปพูดกับแม่แม้ว่าจะดูดีว่าแม่คงไม่ช่วยอะไร "คุณคะ..." แม่เรียกพ่อนั่นทำให้ฉันมีความหวังขึ้นมา "อะไรจะห้ามหรือไง?" "ถ้าจะตีก็อย่ารุนแรงมากนะคะเพราะว่าเดี๋ยวจะป่วยเอาอีกถ้าไม่ได้ไปเรียนเดี๋ยวจะเข้าหมอไม่ได้เอานะคะ" "มะแม่..." "คุณพ่อคะไม้ค่ะตีแรง ๆ เลยนะคะอย่าแรด! เอ๊ย! อยากไม่เรียนที่คุณพ่อบอกดีนัก" พี่ตะวันเอาไม้มาให้พ่อก่อนจะยิ้มอย่างเยาะเย้ย หมับ!! "อยู่นิ่ง ๆ ทิวลิปไม่งั้นจะโดนสองเท่า!!!" เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!! "กรี๊ดดด!! จะเจ็บ!!พ่อคะทิวเจ็บ ฮืออออ!!" "ทีหลังก็อย่าดื้อ!!กลับบ้านให้มันตรงเวลาเข้าใจไหม?!" เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!!เพี๊ยะ!!! ฮืออออ~~~ไม่อยากอยู่แล้ว ฮึก!! ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้อีกแล้ว ฮึก!! ฮืออออออ ๆ ๆ ๆ ๆ ช่วยด้วยค่ะใครก็ได้ช่วยทิวหน่อย ฮือออ ๆ วันต่อมา... ตามคาด... วันนี้ฉันไข้ขึ้นจนไม่สามารถไปโรงเรียนได้ฉันตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่เจ็บปวดไปหมดทั้งการโดนพ่อตีและเจ็บที่ล้มจากการแข่งเมื่อวานนี้อีก ฉันมองไปรอบห้องและเจอกับหนังสือมากมายที่พ่อต้องการให้อ่านมันเพื่อสอบหมอตอนนี้ฉันคิดออกแล้วว่าจะออกจากบ้านหลังนี้ได้ยังไง... พรึ่บ! ฉันลุกขึ้นและไปยืนที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะออกไปนอกหน้าต่างก็เจอพี่พายุกำลังออกจากบ้านด้วยชุดนักศึกษา สงสัยจะไปเรียนมั้ง เรียนดนตรีก็อยากเรียนแต่ตอนนี้ต้องเอาตัวรอดก่อนรอดออกไปจากที่นี่... ตึก...ตึก..ตึก.. "โดนตีแค่นี้ถึงกลับไปเรียนไม่ได้เลยเหรอ?" เสียงของพ่อฉันถึงขึ้นเมื่อฉันเดินลงมาจากห้องนอนเพื่อหาอะไรกิน "พ่อคะ..." ดีเหมือนกันจะได้พูดตั้งแต่วันนี้เลย "มีอะไร?" "ทิวจะยอมเรียนหมอให้พ่อ...ไม่ว่าจะต้องสอบอีกกี่ครั้งทิวก็จะทำให้ค่ะ" ฉันบอกออกไปแม้ว่าจะไม่ได้อยากเรียนเลยก็ตามแต่มันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ฉันออกไปจากที่นี่ได้ "หืม? คิดได้แล้วนิงั้นก็ดีแล้วอยากเข้าของที่ไหนละ?" พ่อฉันพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ "เดี๋ยวเรื่องนั้นทิวจะมาบอกนะคะเพราะยังไม่แน่ใจ" "ได้สิ" "แต่ว่า...ถ้าพ่อต้องการให้ทิวเรียนหมอพ่อต้องให้ทิวออกไปอยู่หอนะคะ" ฉันพูดความต้องการของตัวเองออกไป "ว่าไงนะ?" "เรียนหมอมันยากและเหนื่อยนิคะทิวคงไม่ไหวถ้าต้องให้ไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัย" "ที่แกยอมและยื่นข้อเสนอนี้ไม่ใช่ว่าแกอยากออกจากบ้านหรอกเหรอยัยทิวลิป?" "ใช่ค่ะ ทิวอยากออกจากบ้านนี้" "ยัยทิว!!" "แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทิวจะเรียนหมอให้พ่อเอง ถ้าพ่อตกลง...ทิวจะทำทุกอย่างเพื่อเข้าแพทย์ให้ได้ค่ะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม