บทที่ 3

1106 คำ
“มาทำงานวันแรกใช่ไหม แบบนี้ต้องรับน้องซะหน่อย มึงจะได้รู้ว่าใครเป็นลูกพี่ ใครเป็นลูกน้อง” และถ้าหากคิดว่าอดีตนักโทษอย่างพยศจะกลัว การ์ดทั้งสามก็คิดผิดแล้ว พยศไม่ใช่แค่อดีตขี้คุก แต่เขาเผชิญโลกมามาก และเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แทบจะทุกอย่าง ซึ่งแน่นอนว่า ‘ครู’ ของเขาก็คือนักโทษที่ถูกจองจำด้วยกันนั่นเอง “มาเลย เดี๋ยวได้รู้กันว่าใครจะแน่กว่าใคร” พยศตั้งหลักรออยู่แล้ว ทันทีที่การ์ดทั้งสามเดินเข้าหา เขาก็พร้อมออกกำลังกายในทันที และถ้าหากคิดว่าวัยรุ่นที่ถูกซ้อมจนหน้าแตกจะยอมแพ้ หลบอยู่ในมุมมืดก็คิดผิดเช่นเดียวกัน พอถูกผลักให้ล้มลงกับพื้น และมีคนมาช่วยตัวเอง เมฆีก็ลุกพรวดกระโจนเข้าหาการ์ดทั้งสามโดยไม่มีหวาดกลัว เวทีมวยชั่วคราวหลังผับชื่อดังที่มีคู่ต่อสู้อีกฝั่งสามคนและอีกฝั่งแค่เพียงสองคนผ่านไปเกือบสิบนาทีก็จบลงในที่สุด ซึ่งการ์ดทั้งสามถูกพยศน็อกจนสลบคามือคาตีน แม้จะน็อกการ์ดทั้งสามได้ก็ใช่ว่าจะไม่ถูกหมัดถูกตีนของทั้งสามที่ประเคนมาตามร่าง กาย หลังจากน็อกการ์ดทั้งสามได้แล้ว พยศก็ถ่มเลือดออกจากปาก จับจมูกของตัวเองที่ถูกชกหักจนผิดรูป และแม้จะเจ็บแปลบตรงบริเวณจมูกที่ถูกชกจนหักเลือดกบ และแม้จะระบมทั้งร่าง แต่ก็ไม่ลืมเข้าไปประคองวัยรุ่นหนุ่มที่เขาจำได้ขึ้นใจว่าชื่อ ‘เมฆี’ ให้ลุกขึ้นจากพื้น “คุณ...คุณเมฆี...คุณเป็นยังไงบ้าง” “บ้าฉิบ...เจ็บฉิบหาย...เหมือนซี่โครงจะหัก” เมฆีถ่มเลือดออกจากปาก ยื่นมือจับตามซี่โครงของตัวเองที่ถูกประเคนใส่ทั้งจากมือและตีนของการ์ดทั้งสาม ยอมรับว่าเจ็บจนลุกไม่ขึ้น และก็ได้พยศที่เข้ามาช่วยประคองให้ลุกขึ้นยืน “คุณเมฆี ลุกไหวไหม” “ไหว...สบายมาก...” เมฆีเอ่ยตอบคนที่เป็นพลเมืองดีมาช่วยตนเอง จากนั้นก็ค่อยๆ ยันกายยืนขึ้นโดยมีพยศช่วยจับประคองด้วย “ขอบคุณพี่ชายมากที่มาช่วยผมไม่ให้ตายคาตีนของพวกมัน” ขณะเอ่ยขอบคุณ เมฆีก็ตบหนักๆ บนบ่าของพลเมืองดีที่ตนเองยังไม่รู้จักชื่อ พร้อมกันนั้นก็ยิ้มให้อย่างผูกมิตร ในใจนั้นนึกชอบชายร่างใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นคนนี้มาก พยศยิ้มตอบรับกับคำขอบคุณจากหนุ่มวัยรุ่นที่ถูกชกจนหน้าแตก ดวงตาบวมช้ำทำท่าจะเปิดไม่ขึ้น และที่สำคัญร่างใหญ่ของเมฆีก็เริ่มโงนเงนทำท่าจะยืนไม่อยู่จนเข้าต้องเอื้อมมือช่วยจับประคองไว้อีกครั้ง “ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ไม่ชอบพวกหมาหมู่ ก็เลยแย่ขามาช่วยคุณครับ ว่าแต่คุณเมฆีแน่ใจนะครับว่าไม่เป็นไรอะไร” “ไม่เป็นไร ผมสบายมาก” เมฆียังยิ้มรับคำ ตบบนบ่าของพยศอีกครั้งโดยไม่ลืมถามชื่อของพลเมืองดีด้วย “ว่าแต่พี่ชายชื่ออะไรครับ มีนามบัตรไหม พรุ่งนี้ผมจะมาขอบคุณคุณด้วยตัวเอง “พยศครับ” พยศเอ่ยตอบสั้นๆ โดยไม่ลืมออกแรงจับบ่าของเมฆีไว้ไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น แต่เจ้าตัวก็อึดได้ใจ ไม่ยอมล้มง่ายๆ เมฆีคลี่ยิ้มให้กับพยศ เอ่ยขอบคุณอีกครั้งสำหรับความมีน้ำใจของอีกฝ่าย “ขอบคุณคุณพยศมากครับ เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะเลี้ยงเหล้าคุณพยศเป็นการตอบแทนนะครับ แต่ตอนนี้ต้องขอตัวไปทำแผลก่อน” “คุณเมฆี แน่ใจนะครับว่าคุณเดินไหว” พยศเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะนอกจากจะยืนไม่ไหวแล้ว ใบหน้าของอีกฝ่ายยังมีเลือดไหลจนเขาอดทักท้วงไม่ได้ “ให้ผมพาไปหาหมอดีไหมครับ เดี๋ยวผมขับรถให้คุณเอง” คนที่ถูกรุมกระทืบจนหน้าแตกเลือดไหลไม่หยุด ไม่ได้สนใจในคำพูดของพยศ นอกจากคลี่ยิ้มให้แล้วโบกมือลาด้วย “ไม่ต้องครับ ผมขับรถไปหาหมอเองได้ ขอบคุณคุณพยศอีกครั้งนะครับ ผมต้องกลับแล้วครับ ชักจะปวดหัวตุบๆ ราวกับใครเอาค้อนมาทุบก็ไม่ปาน” ในตอนท้ายเมฆีเอ่ยติดตลก พร้อมกับยกมือคลึงบนศีรษะด้วย แต่คนที่ยืนมองด้วยความเป็นห่วงไม่ตลกด้วย เพราะเห็นได้ชัดว่าเมฆีกำลังจะล้มในทุกขณะแล้ว แต่เมื่อเมฆียืนกรานจะกลับ ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาแล้ว ก็ลองปล่อยให้วัยรุ่นวัยคะนองได้ทำตามความต้องการด้วยการปล่อยมือจากบ่าของเมฆี “โอเคครับ ถ้าคุณเมฆีขับรถกลับเองได้ผมก็หมดห่วง ถ้ายังไงอย่าเดินไปเจอตีนของพวกการ์ดอีกรอบนะครับ” พยศเอ่ยติดตลกบ้าง และก็เรียกเสียงหัวเราะร่วนได้จากเมฆี ก่อนจะโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้าย “ไม่แน่นอนครับ วันนี้ผมไม่เดินเข้าดงตีนอีกแล้ว แต่สาบานได้ว่า หายดีเมื่อไรผมจะกลับมาจัดการกับพวกมันทั้งสามคนแน่นอน” ในตอนท้ายเมฆีเอ่ยเสียงเหี้ยม ใช่! เขาไม่มีทางปล่อยให้คนที่รุมทำร้ายเขาได้อยู่อย่างสุขสบายแน่ ขอแค่เพียงร่างกายฟื้นจากการปวดระบมทั้งร่าง แล้วเขาจะกลับมาเล่นงานการ์ดเลวๆ ทั้งสามให้กระอักกันไปข้าง “ครับ แล้วผมจะรอดูครับ” พยศเอ่ยตอบพร้อมกับผายมือเชิญให้เมฆีก้าวเดินตามที่อีกฝ่ายบอกว่าจะขับรถกลับบ้าน ซึ่งเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเมฆีจะก้าวเดินได้สักกี่ก้าวก่อนจะล้มไปนอนกับพื้น และไม่ต้องเสียเวลารอนาน เพราะแค่เพียงก้าวเดินได้สองก้าว ร่างของเมฆีก็ร่วงผล็อยไม่ต่างจากพญาอินทรีถูกสอยลงจากฟ้าลงไปนอนแผ่หราอยู่บนพื้นสกปรก “เฮ้อ...นึกว่าจะรอดสัก 4-5 ก้าว” พยศส่ายหน้าขณะบ่นอุบ มองร่างของเมฆีที่นอนสบลเหมือดอยู่บนพื้น ก่อนจะเข้าไปอุ้มอีกฝ่ายพาดบ่าแล้วเดินดุ่มๆ ออกจากบริเวณดังกล่าวไปรับกุญแจรถจากพนักงานรับรถของผับ เพื่อพาเมฆีไปส่งที่โรงพยาบาล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม