เธอก็เหมือนคนอื่น

1157 คำ
        “ มันจะมีสปีดโบ๊ทพาไปลอดถ้ำกับดำน้ำดูปะการังด้วย ตามโปรแกรมแล้วก็น่าจะอีกราวครึ่งชั่วโมง พวกเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกันก่อนเถอะ ” ขนุนบอก พวกเราจึงรีบจัดการตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยก่อนออกไปลงเรือตามเวลานัดหมาย         เรือที่จะพาเราไปเป็นสปีดโบ๊ทขนาดสามารถบรรจุคนได้ราวสามสิบที่นั่ง ดังนั้นจึงมีนักท่องเที่ยวกรุ๊ปอื่นไปด้วย ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติทั้งหญิงชาย ซึ่งนั่นทำให้ขนุนผู้คลั่งไคล้ในฝรั่งมีความสุขเป็นอย่างมาก ต้นก็ดี๊ด๊าเพราะสาว ๆ ต่างชาติสวมบิกินีชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียแทบปิดไม่มิด ไม่เว้นแม้แต่เดียร์ผู้หมายมั่นปั้นมือจะกินสิงห์ก็ตาลุกแพรวพราวจ้องกันไปจ้องกันมากับฝรั่งหนุ่มหลายคนตาเป็นมัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเธอเพราะทั้งสวยทั้งหุ่นดี         ขนุนถอดเสื้อคลุมที่สวมออก เธอสวมชุดว่ายน้ำแบบวันพีชสีดำรัดรูป แม้ว่าเธอจะรูปร่างอวบอ้วนแต่ก็ดูน่ารักน่าใคร่ ความมั่นอกมั่นใจของเธอคือเสน่ห์ ส่วนเดียร์นั้นถอดเสื้อเชิ้ตฮาวายที่สวมออก เผยให้เห็นเรือนร่างสุดเซ็กซี่สวมบิกินี่ลายเสือ ผู้ชายเกือบทั้งกรุ๊ปมองเธอราวกับจะกลืนกิน ต้นเองแม้จะเป็นเพื่อนกันก็ยังเห็นมันแอบมองอยู่บ่อย ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินมาแจกเสื้อชูชีพ หนุ่ม ๆ หลายคนก็ยังทำหน้าเสียดายที่เสื้อนั้นปกปิดความงามของเธอ         เว้นแต่เพียงสองคนเท่านั้นที่ไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งหนึ่งคือภีม เขาเพียงเหลือบมองบางครั้ง อีกหนึ่งคือ สิงห์ ที่แม้จะนั่งติดกันแต่เขายังคงหันไปคุยอย่างสนุกสนานกับต้นและขนุน         ฉันเองสวมชุดว่ายน้ำชนิดเป็นเสื้อและกางเกงขาสั้น กระนั้นก็ยังไม่มั่นใจต้องสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ทับอีกทีหนึ่ง         ภีมนั่งอยู่ข้างฉัน เขาไม่วอกแวกหันไปมองใคร ชี้ชวนให้ฉันมองโน่นนี่ตลอด ฉันเองรู้สึกพะอืดพะอมอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าทำไมจึงมีอาการเช่นนี้ แต่ก็พยายามเก็บไว้ไม่บอกเพื่อน เพราะกลัวจะหมดสนุกกัน         กระทั่งไปถึงจุดหมายปลายทาง เรือจอดที่ถ้ำลอดอันงดงาม ชาวต่างชาติทั้งหลายดูเหมือนจะคุ้นชินกับการท่องเที่ยวประเภทนี้ สวมอุปกรณ์แล้วพุ่งลงไปในน้ำอย่างเชี่ยวชาญ คงมีแต่กรุ๊ปเราที่เงอะ ๆ งะ ๆ         เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาหา ภีมรีบเอ่ยบอก         “ ผมว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งนะครับ พวกคุณต้องดูแลเป็นพิเศษนิดนึง ”         “ ไม่ต้องห่วงเลยนะครับ ว่ายน้ำไม่เป็นก็ลงดูได้ เรามีชูชีพสวมกับคนทุกคน และเจ้าหน้าที่จะคอยดูแลไม่ห่าง ”         “ ไอ้ดูแลน่ะก็รู้ แต่ผมมันคนมีตำแหน่ง มีหน้าที่การงาน ยังไงก็ต้องพิเศษกว่าคนอื่น ” ภีมออกคำสั่งกับเจ้าหน้าที่ก่อนจะเดินนำไป เพื่อนทุกคนจึงเดินลงจากเรือ มีเพียงแต่ฉันที่ละล้าละลังยืนหน้าซีดอยู่ แต่แล้วก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามาหา         “ คุณเมาเรือเหรอครับ เดี๋ยวเชิญไปพักทางด้านโน้นก่อน มียาลมยาหอม จิบน้ำให้ดีขึ้น คนที่ไม่ชินกับการนั่งเรือก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็จะดีขึ้นครับ ”         “ ขอบคุณค่ะ คุณรู้ด้วยเหรอคะว่าฉันเมาเรือ ”         “ อ๋อ พอดีคุณสิงห์บอกน่ะครับ ” ฉันเลิกคิ้วอย่างสงสัย         “ คุณรู้จักกับเขาด้วยเหรอ ” เจ้าหน้าที่ทำหน้าเหรอหรา แต่ร่างสูงใหญ่ก็เดินเข้ามาแล้วพูดตัดบท         “ ลืมไปแล้วเหรอว่าบ้านเราอยู่แถวนี้ เราก็รู้จักไปหมดนั่นแหละ ใช่ไหมพี่ ” สิงห์หันไปถาม เจ้าหน้าที่ยิ้มและพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนรีบเดินลงจากเรือ แต่สิงห์ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น         “ ทำไมไม่ไป ” ฉันถามห้วน ๆ สิงห์ยืนจ้องหน้าฉันนิ่งยกยิ้มที่มุมปากก่อนตอบมา         “ ก็อยากยืนตรงนี้ ลมมันเย็น ”         ฉันหน้าหงิกทันที ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน ตั้งใจจะเดินลงไปหาเพื่อน ๆ แต่เพราะเวียนหัวจึงทำให้เซ แขนแข็งแรงตวัดรวบเอวฉันเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว จนฉันต้องรีบดันตัวออกแต่เขาก็ยังไม่ปล่อย         “ นี่ ทำอะไรเนี่ย ปล่อยนะ ไอ้บ้า ”         “ อ้าว ก็เห็นจะล้ม อุตส่าห์ช่วยไว้ ทำคุณบูชาโทษ เนรคุณชัด ๆ ”         “ ใครเนรคุณแก ฉันไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น ไม่ได้ก้าวร้าว ไม่รู้จักกาลเทศะ ” เขาเลิกคิ้วยียวน         “ จะด่าว่าเราชั่วเราเลว ไม่รู้จักกาลเทศะงั้นสิ ”         “ ก็แล้วแต่จะคิด ”         “ ไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น แต่ตกหลุมรักคนแบบนั้น ใช่มะ ”         “ ใครเขาตกหลุมรักแกกัน ” เขาหัวเราะ         “ อะไร นี่ยังไม่ได้พูดเลยนะว่าเป็นเรา แสดงว่าในใจส้มคิดถึงเรา มีแต่เราอยู่ตลอดเลยนะเนี่ย ”         ฉันฟาดที่หน้าอกแกร่งตุ้บหนึ่งอย่างแรง มันร้องโอดโอยราวกับเจ็บเสียเต็มประดา กระนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยฉันออกจากอ้อมกอด         “ โอ๊ย ๆ เจ็บ เจ็บใจจะขาดอยู่แล้ว ส้มใจร้าย ”         “ ร้องอย่างกับโดนมีดแทง ปัญญาอ่อน แล้วก็ปล่อยฉันสักที ”         “ ถ้าไม่ปล่อยจะทำไม ” ฉันจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มพราวระยับนั้นนิ่ง เหมือนมันสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งฉันเหลือเกิน ตรงกันข้ามกับฉันที่รู้สึกแย่และเกลียด         ...เกลียดตัวเองที่ยังหัวใจเต้นแรงกับผู้ชายคนนี้         ฉันเชิดหน้าแล้วส่งสายตาแข็งกร้าว ก่อนตอบกลับไป         “ ถ้าไม่ปล่อย ฉันจะให้เรือพากลับไปที่ฝั่ง เก็บกระเป๋าแล้วกลับบ้านทันที ” รอยยิ้มทะเล้นเลือนหายไปจากใบหน้า แล้วเสียงทุ้มก็ถามฉันกลับมาเบา ๆ         “ ตัวเองเกลียดเค้ามากเลยเหรอ ”         “ อย่ามาใช้สรรพนามแบบนั้นกับฉันอีก เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มันจบไปนานมาก และมันก็ไม่มีวันจะหวนกลับไปเป็นแบบนั้นอีก ไม่มีวัน ”         “ ไม่คิดจะถามบ้างเลยหรือไง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนั้น ”         “ คิดว่าภาพที่เห็นก็น่าจะเกินพอแล้ว และเมื่อฉันเกลียด ก็คือเกลียด อย่ามาทำให้ฉันเกลียดมากกว่าเดิมเลยนะ ”         “ เธอก็เหมือนคนอื่นที่ตัดสินเราเพียงแค่ภาพที่เห็น ”         สิงห์ค่อย ๆ ปล่อยแขนจากฉัน แววตาเขามีแววปวดร้าวไหววูบอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันหลังเดินไปถอดเสื้อพาดไว้ที่กราบเรือ แล้วกระโดดลงน้ำโดยที่ไม่สวมเสื้อชูชีพ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม