ตอนที่ 4 ต้องมนต์
ลี่เฉินค่อยๆ ใช้นิ้วเข้าไปสำรวจอย่างเชื่องช้า เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเธอ
มิรินรู้สึกราวกับตัวเองฝันไป จนแทบอยากจะตื่นจากความฝัน เธอแทบอยากจะกรีดร้องออกมา
ร่างกายช่างตอบสนอง ต่อสิ่งที่ชายหนุ่มปลุกเร้า ในช่วงเวลานี้เธอทำได้เพียงแต่ส่งเสียงครวญครางไม่รู้ตัว
เมื่อชายหนุ่มสำรวจจนรู้ว่ามิรินพร้อมแล้ว เขาจึงค่อยๆ บรรจงจับความเป็นชายของเขาเข้าไป
“อ๊ะ อร้ายยย”
ความบริสุทธิ์ที่เขาได้สัมผัส มันทำให้ใจเขาเต้นแรงขึ้น
มิรินได้แต่ดิ้นพล่าน เธอเสียวสะท้านอย่างบอกไม่ถูก อยากจะผลักไสแต่ก็ไร้สิ้นซึ่งเรี่ยวแรง ด้วยฤทธิ์ยา เธอทำได้แต่เพียงมองภาพพล่าเบลอที่อยู่ตรงหน้า ทำไมความฝันนี้ช่างทรมานเหลือเกิน
ชายหนุ่มไม่รอช้า ขยับกายเข้าออกช้าๆ เมื่อรู้ว่านี่คงเป็นครั้งแรกของเธอ เขาจึงไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับเธอนัก ลี่เฉินค่อยๆพาเธอขึ้นไปสู่จุดมุ่งหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มิรินรู้สึกราวกับเธอตกลงจากที่สูง แล้วมีใครสักคนฉุดเธอขึ้นบนสวรรค์ สลับซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น
จนในที่สุด ใกล้เช้า กว่าที่ลี่เฉินก็ยอมหยุดและปล่อยเธอ
เขานอนมองใบหน้าเนียนใสของเธออีกครั้ง มือสัมผัสปอยผมที่ปดปิดอยู่บนใบหน้าสวย เขาดึงเธอมาจูบเบาๆที่หน้าผาก ร่างเล็กยังคงหลับไหลไม่ได้สติ ก่อนที่เขาดึงร่างเธอมาไว้แนบอกอีกครั้ง และผลอยหลับไปอย่างหมดแรง
ผู้หญิงคนนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน เขาว่าเขาคงปล่อยเธอไปไม่ได้เสียแล้ว
ยามเช้า แสงแดดสาดส่องลงมาผ่านกระจกใส
มิริน กะพริบตาถี่ๆ เธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว
ทันทีที่เธอลืมตาขึ้นมา ก็ตกใจแทบสิ้นสติ ก้มลงมองสำรวจร่างกายเปลือยเปล่า
-เกิดอะไรขึ้นเนียะ !! เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอ-
มิรินยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเธอเอง สองขาชันเขาขึ้น ก่อนซบใบหน้าลง น้ำตาใสไหลออกมาอย่างสุดกลั้น
เธอร้องไห้อยู่เป็นนาน กว่าที่จะดึงสติของเธอกลับคืนมา ค่อยๆสอดส่องสายตามองไปรอบๆ ห้อง เพื่อมองหาใครสักคนในคืนนั้น แต่ทว่าในห้องนี้มีเพียงเธอลำพัง
-นี่เธอไม่รู้ว่าเสียตัวครั้งแรกให้กับใครด้วยซ้ำ-
มิรินพยายามจะไล่เรียงลำดับถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่สติที่เลือนลางราวกับว่า จำได้เพียงว่า อ้อมกอดจากชายคนนั้น รวมถึงรอยสัมผัสนั้น ประหนึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝัน
เธอรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือ พยุงตัวเองเดินเข้าไปยังห้องน้ำ ร่างบางหยุดยืนที่หน้ากระจก มองร่องรอยความอัปยศที่อยู่เต็มร่างขาวเนียนของเธอ รู้สึกเจ็บปวดต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ใช่แล้ว น้ำแก้วนั้น ที่ลิญา น้องสาวต่างมารดาส่งให้เธอดื่ม หลังจากที่เธอได้ดื่มเข้าไป เธอก็รู้สึกเวียนหัว
ไม่อยากจะเชื่อว่่าเป็นฝีมือลิญาน้องสาวของเธอ ทำไมลิญาต้องทำกับเลวร้ายกับเธอขนาดนี้
มิรินมองหากระเป๋าและโทรศัพท์ของเธอ ที่ยังคงถูกวางไว้ที่โต๊ะ เธอรีบโทรต่อสายหาลิญาทันที
“ฮัลโหล พี่ริน .... พี่รินไปไหนมาเนี่ยะ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย แต่สีหน้ากับมีแววแห่งความยิ้มเยาะ กรอกเสียงไปตามปลายสาย
มิรินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนถามออกมาเสียงเบา
“เธอ…เป็นฝีมือเธอใช่ไหม เธอ...ทำ....ทำแบบนี้กับพี่ทำไม” มิรินกลั้นเสียงเพื่อไม่ให้เสี้ยงสะอื้นหลุดรอดออกมา
“ทำอะไรคะ ก็พอญา หายาแก้เวียนหัวให้พี่รินได้ ญาก็รีบกลับไปหาพี่ที่ห้อง แต่ไม่เจอ ก็เลยคิดว่าพี่แอบกลับไปก่อน หรือญาเข้าห้องผิดน้าาาา ว่าแต่...พี่รินหายไปไหนมาคะ” ลิญาทำเสียงอินโนเซ้นท์ ราวกับไม่รู้เรื่องอะไร
“หรือว่า...ที่พี่รินหายไป เพราะพี่รินไปนอนกับคนอื่นมาอุ้ย…ตายจริง”
ตู้ดดดดดดดดดดด
มิรินกดวางสายทันที เธอรู้สึกตัวชาจนไร้เรี่ยวแรง ทำไมช่างโง่ขนาดนี้นะ น้องสาวที่โตมาด้วยกัน น้องสาวที่ทั้งสวยทั้งมีพร้อมทุกอย่างมีมากกว่าเธอ ได้ความรักความอบอุ่นจากทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ทำไมต้องมากลั่นแกล้งกันแบบนี้ เพื่ออะไร
มิรินสูดลมหายใจ ปาดน้ำตาที่กำลังจะรินไหลแม้จะเสียสิ้นไปแล้วความบริสุทธิ์ แต่จะมาคร่ำครวญตอนนี้เพื่ออะไร เธอควรจะตั้งสติให้ได้เร็วที่สุด
ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ วิวัฒน์ ไม่ว่าเขาจะนอกใจเธอหรือไม่ ตอนนี้ก็ไม่ได้มีความสำคัญกับเธออีกต่อไปแล้ว เพราะคนที่ไม่สมควรกับการแต่งงานครั้งนี้ ไม่ใช่ วัฒน์ คู่หมั้นของเธอ แต่เป็น เธอซะเอง
น่าตลกสิ้นดี ตั้งใจจะมาจับว่าเขานอกใจ กลับกลายมาเป็นตัวเองที่ต้องมาอยู่ตรงนี้ มิรินยิ้มอย่างขื่นขมในโชคชะตา
ทันที ที่มิรินเปิดประตูห้องออกมากก็พบบอดี้การ์ดสองคนยืนอยู่ที่หน้าห้อง เธอถึงกับผงะตกใจ
เธอพยายามหาทางเอาตัวรอด ค่อยๆ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วส่งยิ้มหวาน ให้บอดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้อง
“คุณผู้หญิง นายท่านไม่อนุญาตให้ออกจากห้องครับ” บอดี้การ์ดกั้นมือไม่ให้มิรินออกจากห้อง
มิรินรู้ซึ้งถึงความไม่ปกติ แต่ต้องแสร้งทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“เขาโทรมาให้ฉัน ลงไปหาเขาที่ล๊อบบี้ นี่เขายังไม่ได้บอกพวกคุณหรือ ไม่เชื่อพวกคุณก็ลองโทรหาเขาดูสิ”
“อืม ในห้องมีของที่ นายของพวกคุณ สั่งให้หยิบลงไปด้วย”
มิรินชี้เข้าไปภายในห้อง
บอดี้การ์ดมองหน้ากัน ก่อนพยักหน้าให้อีกคนเดินเข้าไปในห้อง เพื่อมองหาของตามที่นายท่านสั่งเอาไว้
ส่วนอีกคน กดหยิบโทรศัพท์โทรหานาย
มิริน รอจังหวะที่ทั้งสองคนเผลอ รีบวิ่งหนีทันที เธอหนีมาที่ลิฟต์ก่อนรีบกดปิด ย้ำๆ ไม่ทันที่บอดี้การ์ดทั้งสองได้ตั้งตัว มิรินก็เข้ามาในลิฟต์เสียแล้ว
ทันทีที่เธอลงมาถึงข้างล่าง เธอรีบวิ่งไปเรียก Taxi ที่จอดอยู่หน้าโรงแรมเพื่อหาทางหนีจากตรงนี้
"บ้าเอ้ยย คงไม่มีใครตามมานะ" มิรินหันไปมองกระจกข้างหลังอย่างใจสั่น
เพียงแวบเดียว
ในขณะที่รถ TAXI แล่นออกมา
มีรถหรูสีดำเลี้ยวจอดหน้าโรงแรม ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่ง ก็ได้ก้าวลงจากรถ
มิริน หันไปมอง ชายคนนั้น เพียงแวบเดียว ก่อนหันกลับมา หลับตาพิงเบาะอย่างหมดแรง
--------------------------------------------