บทที่ 9 เจรจาการค้า

1648 คำ
หลี่ซีเหมยที่ไม่รู้ว่าวันนี้มีคนให้ความสนใจหน้าอกหน้าใจของตัวเองถึงสองครั้ง เธอเลือกแบบเรียนสำหรับชั้นมัธยมปลายมาจำนวนไม่น้อยก่อนจะนำไปจ่ายเงินอย่างไม่เรื่องมาก เพราะหนังสือในส่วนของมหาวิทยาลัยใช้จากห้องสมุดของเธอน่าจะทันสมัยกว่ากันมาก อีกทั้งยังไม่ได้เริ่มเรียนวิชาเหล่านั้นเร็ว ๆ นี้ พอออกมาจากลานขยะเธอนำของใส่กระเป๋าเป้สะพายหลังที่นำมาบังสายตาผู้คน ก่อนหยิบเอาเสื้อคลุมกันกระสุนขนาดใหญ่ที่ได้มาจากในมิติออกมาจากกระเป๋า สวมใส่ไว้บนร่างก่อนเดินเข้าไปในตลาดมืดของเมือง “ที่นี่คือตลาดมืด ?” ตลาดมืดของเมืองต้องมีรหัสเพื่อแจ้งให้คนเฝ้าประตูรับรู้ คนพวกนี้จะคอยป้องกันไม่ให้คนของทางการเข้าไปภายในได้ รวมทั้งแจ้งเตือนหากมีทหารแดงบุกเข้ามา หลังบอกรหัสตามคนข้างหน้า ก็สามารถเข้ามาในตลาดได้อย่างง่ายดาย มันเป็นเพียงถนนเส้นหนึ่งอยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่คับแคบดูแออัด มีตรอกซอกซอยมากมาย คาดว่าตั้งใจทำขึ้นเพื่อให้ผู้ค้าขายมีทางหนีทีไล่เมื่อทหารแดงบุกเข้ามา ผู้คนมากมายยืนบ้างนั่งบ้างเพื่อเฝ้ารอให้มีคนมาประกาศขายสินค้าหรือไม่ก็ตั้งแผงร้าน บางคนถึงขนาดมีสินค้ามาเต็มรถเข็น ไม่รู้ว่าผ่านด่านทหารมาได้อย่างไร หลี่ซีเหมยเฝ้ามองอยู่ไม่นานก็พบว่าส่วนใหญ่ผู้คนจะขายสิ่งที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เพียงพอให้ใส่ในกระเป๋าพกได้ง่าย ยังมีผู้ซื้อหลายคนที่ต้องการสินค้าจำนวนมากและให้ไปส่งที่บ้านโดยไม่เกรงกลัว ซึ่งคนเหล่านี้น่าจะเป็นครอบครัวผู้มีอำนาจในเมือง ในขณะที่ลอบสังเกตผู้คน หูของหญิงสาวก็ฟังบทสนทนาของคนรอบข้างไปด้วย ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นชายท่าทางสุภาพสุขุมกำลังสนทนากับชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูร้อนรน “พวกคุณหลอกเอาเงินผมไป แล้วยังไม่ส่งสินค้ามาตามนัด นี่ยังกล้าโผล่มาที่ตลาดมืดในเมืองข้างเคียงแบบนี้ ช่างกล้าหาญนัก นับถือ ๆ” หลี่ซีเหมยได้ยินดังนั้นก็เดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ไม่นานชายคนนั้นก็โบกมือเบา ๆ คนของเขาสองคนเข้ามาประกบชายหญิงคู่นั้นเอาไว้ และนำตัวพวกเขาออกจากตลาดมืดไป เมื่อชายในเสื้อถังจ้วงสีน้ำเงินหันกลับมา เขาก็เห็นว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งยืนมองตนเองอยู่ เธอยังสวมเสื้อคลุมสีดำ มีผ้าปิดหน้าแบบแนบไปกับใบหน้าปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่ง ทำให้มองไม่ออกเลยสักนิดว่าเป็นใคร มีเพียงดวงตาสว่างไสวคู่หนึ่งที่ดูน่าสนใจอย่างยิ่ง จนเขาอดใจไม่ไหวต้องเดินเข้าไปทัก “คุณผู้หญิง มีอะไรติดหน้าผมหรือไม่ หากไม่มีคงเป็นความสง่างาม และใบหน้าหล่อเหลานี้ที่ทำให้คุณจ้องมองมาตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว” ขณะที่พูดเขาก็พับพัดในมือ พร้อมทั้งใช้มันชี้ที่ใบหน้าของตนเองอย่างหน้าไม่อาย “สหายฉันคาดไม่ถึงว่าในตลาดมืดแห่งนี้นอกจากขายสินค้าแล้ว ยังมีชายงามขายด้วย” หลี่ซีเหมยเอ่ยขึ้น ทำให้ชายตรงข้ามหลุดหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ ๆ สหายคนนี้ช่างมีความกล้าหาญและจริงใจอย่างยิ่ง ผมไม่ได้ขายตัวเอง แต่ถ้าคุณขายผมก็จะลองพิจารณาดู” “ฉันขาย…” หลี่ซีเหมยเว้นวรรคเพื่อล้อเล่น แต่กลับทำให้ชายตรงหน้าถึงกับอ้าปากค้าง นั่นทำให้เธอพอใจอย่างยิ่งที่ได้หยอกล้อเขาเล่น “ฉันขายสิ่งที่คุณต้องการ สิ่งที่คนพวกนั้นหาให้ไม่ได้” ชายหนุ่มรูปงามมองค้อนเมื่อรับรู้ว่าคนตรงหน้าตั้งใจพูดหยอกเย้าตนเองเล่น แต่เขากลับถูกใจหญิงสาวผู้นี้มากขึ้นไปอีก “คุณลองว่ามา” “อาหาร อาวุธ ของป่า อย่างเช่นพวกสมุนไพร” “สมุนไพร ?” ชายหนุ่มชะงักไป เขากางพัดขึ้นปิดใบหน้า มีท่าทีระวังตัวมากขึ้น “สหายคุณรู้หรือว่าผมเป็นใคร” “ฉันเพิ่งเคยพบคุณ แต่หวังว่าจะได้พบคุณอีกหลายครั้ง ในฐานะคนขายและคนซื้อ” หญิงสาวพูดจบก็ปลดกระเป๋าสะพายหลังลง ก่อนยื่นไปให้ชายหนุ่มดู ในนั้นมีมีดจำนวนหนึ่งถูกผ้าพันเอาไว้ มันจะไม่น่าตกใจหากในกระเป๋าเป็นมีดทำครัว แต่กลับเป็นมีดพกทางการทหาร ไม่สิ เป็นรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ดูแล้วน่าจะไม่ได้ผลิตภายในประเทศ “หยิบกล่องนั้นออกมาดูสิ” ชายหนุ่มทำตามคำแนะนำของเธอแม้เขาจะใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เกรงว่ามันจะมีระเบิดอยู่ภายในก็ตาม แต่เมื่อเห็นว่าเป็นอะไรมันน่าตกใจเสียยิ่งกว่าจนเขาต้องรีบปิดกล่องลง หันซ้ายขวาว่ามีคนมองอยู่หรือไม่ ก่อนจะลากหญิงสาวเข้าไปในตรอกด้านข้าง หลี่ซีเหมยมองชายที่ขยับมายืนเฝ้าหน้าตรอกอย่างแนบเนียน เมื่อมองไปอีกด้านของตรอกยังมีปลายรองเท้าของบางคนอยู่ตรงนั้น คาดว่าคงมีคนเฝ้าตรอกนี้ไว้อย่างดี และเป็นคนของชายหนุ่มตรงหน้า “คุณเอาสมุนไพรพวกนี้มาจากไหน” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างลืมตัว “ฉันว่าคำถามนี้ไม่ควรจะถามหรือเปล่า และในฐานะผู้ซื้อฉันคิดว่าคุณคงต้องการมัน” คำพูดของหญิงสาวคล้ายกับทำให้ชายหนุ่มที่กำลังตื่นเต้นรู้ตัวว่ากำลังทำเรื่องเสียมารยาท “ขออภัยคุณผู้หญิง ผมตื่นเต้นจนเกินไปเพราะสมุนไพรเหล่านั้นไม่ได้หาง่าย โดยเฉพาะที่สมบูรณ์แบบนี้” เมิ่งเทาเอ่ยขอโทษทันทีที่รู้ว่าตัวเองเสียมารยาทกับอีกฝ่าย “คุณเป็นหมอย่อมรู้ดีถึงคุณค่าของพวกมัน” หลี่ซีเหมยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แม้จะมองไม่เห็นเพราะมีผ้าปิดเอาไว้ครึ่งล่างของใบหน้า แต่หมอหนุ่มตรงหน้าก็รับรู้ได้ว่าเธอยิ้มอยู่ “คุณรู้ได้อย่างไร” ชายหนุ่มหน้าเหวอไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะพบคนที่รู้จักตัวเองจริง ๆ แต่เมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนความคิด เพราะเธอดูเหมือนจะไม่ได้รู้จักเขาเลย “กลิ่นสมุนไพรแรงขนาดนั้น หากเดาไม่ถูกสิ คงแย่” หญิงสาวตอบกลับตามความเป็นจริง เพราะกลิ่นสมุนไพรโชยออกมาจนทำให้เธอคาดเดาได้ว่าเขาน่าจะเป็นหมอ หรือไม่ก็กลุ่มคนที่ใช้สมุนไพร “ผมซื้อ และต้องการซื้อทุกอย่างที่คุณมี” หมอหนุ่มกล่าวอย่างไม่ต้องคิด “จะดีหรือคะ คุณยังไม่รู้เลยว่าฉันมีอะไรบ้าง” “ทุกอย่างก็คือทุกอย่าง ผมเชื่อว่าคุณมีทุกอย่างที่ผมต้องการแน่นอน” “อ้อ ยกเว้นของที่เสียงดังตูมตาม ของสิ่งนั้นฉันไม่มีให้หรอก” หลี่ซีเหมยยังคงเอ่ยขัด ทำให้หมอหนุ่มอดมันเขี้ยวหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ “คุณนี่เหลือเกินจริง ๆ” พูดจบเขาก็หยิบกระดาษแผ่นเล็กที่เขียนบางอย่างออกมา “ท่องเบอร์ผมเอาไว้ให้ขึ้นใจ แล้วติดต่อมาได้ทุกเมื่อหากต้องการขายของ ผมชื่อ เมิ่งเทา แล้วคุณล่ะ” “ตกลงคุณเมิ่ง ฉัน…หลี่ซีเหมย” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแนะนำตัวตน เธอเลยบอกชื่อของตัวเองไป ในตอนนี้เธอละทิ้งตัวตนในอดีตและกลายเป็นหลี่ซีเหมยอย่างสมบูรณ์แล้ว ชีวิตใหม่นี้ดูท่าน่าสนุกกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก “คุณหลี่รีบกลับไหมครับ” “ไม่ค่ะ” “ในตลาดมืดมีร้านอาหารอยู่ ถ้าอย่างนั้นให้ผมเลี้ยงอาหารสักมื้อ ระหว่างรอคนของผมไปเตรียมเงินสำหรับจ่ายค่าสินค้าให้กับคุณในวันนี้แล้วกันนะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินทะลุเข้าไปในตรอก โดยไม่ได้กลับไปยังถนนตลาดมืดหลัก หลี่ซีเหมยเองไม่ได้เกรงกลัวอันตราย เพราะทันทีที่ชายหนุ่มขยับตัว คนของเขาก็กระจายออกไปโดยไม่ได้ติดตามมาอีก ถือว่าฝ่ายนั้นให้เกียรติเธอไม่น้อย หญิงสาวยังอดพึงพอใจไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญพบคนสำคัญของกองทัพเพียงแค่มาเดินเล่นสำรวจตลาดมืดเท่านั้น นอกจากที่เธอจะสนใจชายหนุ่มเพียงเพราะเรื่องที่เขาคุยกับสองคนนั้น และเห็นอำนาจที่เขามีจากการเรียกลูกน้องออกมาแล้ว ด้วยความที่เป็นคนในคฤหาสน์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ และคิดสร้างอำนาจมืดของตัวเองขึ้นมา เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะทำข้อตกลงซื้อขายกับคนที่อาจจะเป็นศัตรูในอนาคตอย่างพวกอำนาจมืดอื่น ๆ ในเมือง ดังนั้นเธอจึงเฝ้าสังเกตทุกการกระทำของชายหนุ่มอย่างไม่วางตาจนสามารถรู้ถึงอาชีพที่แท้จริงของเขาได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการพูด การขยับตัวขณะออกคำสั่งกับลูกน้อง การเดิน บ่งบอกว่าเขาเป็นคนของกองทัพอย่างแน่นอน เพราะมันเต็มไปด้วยความเคร่งครัดมีระเบียบ ซึ่งมันแตกต่างจากชายเฝ้าประตูของคฤหาสน์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ หรือบรรดาลูกน้องในบ้านหลังนั้นที่เธอเคยเห็น คนเหล่านั้นหากมีความสามารถมากหน่อยก็จะดูเป็นคนแหลมคมขึ้นจากการพยายามขัดเกลาตัวเอง และมีระเบียบที่เป็นของตัวเอง แต่กลับมีบุคลิกหลากหลายแบบไม่เจาะจง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม