ครืน ~ เสียงพายุฝนฟ้าคะนองนอกหน้าต่าง ไม่ได้ส่งผลอะไรกับผู้คนที่อยู่ภายในคฤหาสน์เลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะสองหนุ่มสาวที่กำลังเผชิญหน้ากันภายใต้การจับตามองของชายชุดดำรอบด้าน ทำให้บรรยากาศกดดันราวกับภูเขาไฟที่พร้อมปะทุได้ตลอดเวลา
“เธอเป็นใครกันแน่” ดวงตาดำมืดของชายหนุ่มผู้นั่งอยู่บนรถเข็นจับจ้องหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตา
แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับหลุบตาลงต่ำแล้วตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “ฉันคือหลี่ซีเหมย หลานสาวของแม่บ้านหลี่ค่ะ… นายท่าน”
แกรก! แม้จะได้รับคำตอบแล้ว แต่ชายบนรถเข็นผู้มีดวงหน้าสวรรค์ประทานกลับขบกรามแน่น จ้องมองหญิงตรงหน้านิ่ง ขยับปืนขึ้นลำกล้องและชี้มันไปเบื้องหน้า
ร่างบางในชุดสาวใช้สะดุ้งโหยง หดตัวลงในท่าทางหวาดกลัวแต่ก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ปลายกระบอกปืนเย็นเฉียบเชยคางอีกฝ่ายขึ้นทำให้หญิงสาวคนนี้จำเป็นต้องสบสายตากับเจ้านาย ผู้ที่เป็นเจ้าพ่อหนุ่มทรงอำนาจตรงหน้า
“ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง ตอบมา!! เธอคือใครกันแน่ หลี่ซีเหมย”
หญิงสาวมองดวงตาของชายตรงหน้าวูบหนึ่งก่อนเลื่อนสายตาออกไปอย่างรวดเร็วและไม่ยอมสบตาอีก จนเขาต้องขยับปืนในมือเบา ๆ
“มองตาฉันแล้วตอบมา!!” เสียงเข้มดุดันกล่าวขึ้น และไม่ยอมให้เธอหลบสายตาตัวเองอีกแล้ว
หลี่ซีเหมยที่เคยเป็นเพียงสาวใช้ตัวน้อยผู้แทบจะไร้ตัวตนในคฤหาสน์นี้และเป็นคนที่ดูจะไม่สุงสิงกับใคร ทว่ายามนี้เธอกลับจ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาของเจ้านายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยม เย็นชา และไม่ชื่นชอบสนทนากับผู้คนมากเกินความจำเป็น
แต่ตอนนี้เขากลับใช้คำพูดเพื่อถามถึงตัวตนของเธอถึงสามครั้ง และมันมากกว่าคำพูดตลอดสิบปีที่เคยได้ยินเขาพูดกับคนรับใช้ในบ้านหลังนี้เสียด้วยซ้ำ
ดวงตาของทั้งคู่ทอดมองกันจนแทบหยุดหายใจ ราวกับช่วงเวลานี้คล้ายจะหยุดนิ่งลง ถ้าหากไม่มีชายชุดดำอีกสามสี่คนที่ชักปืนออกมาและชี้ปลายกระบอกปืนไปทางหญิงสาวอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่แน่ว่าภาพนี้คงเป็นภาพที่ชวนให้จินตนาการถึงเรื่องราวที่แสนโรแมนติกระหว่างสาวใช้กับเจ้านายหนุ่มเป็นแน่
แต่ทว่าน่าเสียดายที่ปืนในมือคนเหล่านี้ทำลายบรรยากาศแสนหวานไปหมด บางทีมันอาจไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอยู่แต่แรก ตั้งแต่ที่สาวใช้ผู้เคยไร้ตัวตนกล้าที่จะจ้องมองตอบกลับดวงตาคมกล้าของนายหนุ่มแล้ว
“ฉันคือ หลี่ ซี เหมย” ครั้งนี้หญิงสาวพูดโดยยังจ้องมองดวงตาของชายหนุ่มอย่างไม่หลบเลี่ยง พร้อมกับย้ำชัดชื่อของตนเอง
เมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า ชายหนุ่มจึงสะบัดปลายปืนเบา ๆ ทำให้ใบหน้าของหลี่ซีเหมยหันไปอีกทาง ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกชายชุดดำเหล่านั้นหิ้วแขนให้ยืนขึ้น
แต่ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกโดยมีร่างของหญิงวัยกลางคนในชุดขาวดำที่แตกต่างจากสาวใช้ในคฤหาสน์คนอื่น ๆ ผลุนผลันเข้ามา เอาตัวเองเข้าบังปลายกระบอกปืนพร้อมกับดันร่างของหลานสาวไว้ด้านหลังด้วยสีหน้ากังวล
“ได้โปรดเถิดค่ะ หลานสาวฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้นายท่านไม่พอใจ ได้โปรดนายท่านไว้ชีวิตซีเหมยด้วยเถอะนะคะ ถือว่าฉันขอร้อง” หญิงวัยกลางคนละล่ำละลักพูดขึ้น พร้อมกับกล่าวขอร้องให้นายหนุ่มไว้ชีวิตหลานสาวของตนเอง
“...” ดวงตาคมกล้ามองผ่านร่างหัวหน้าแม่บ้านที่ควบตำแหน่งแม่นมผู้ที่เขาไว้ใจให้ดูแลเรื่องภายในคฤหาสน์ไปยังร่างของหลี่ซีเหมย ซึ่งเขาเห็นเพียงดวงตาสับสนของสาวใช้ตัวน้อยที่มองป้าของเธอ
“...” มือหนาโบกเบา ๆ เพียงเท่านั้นชายชุดดำก็ปล่อยมือจากร่างของเด็กสาว
แม่บ้านหลี่เห็นดังนั้นก็เข้าไปรับตัวหลานสาวไว้ในอ้อมแขนทันที ท่าทางหวงแหนบ่งบอกว่าเธอรักและเอ็นดูหลานสาวเพียงใด ในใจของเจ้าพ่อหนุ่มมีความรู้สึกเปรี้ยวฝาดอย่างบอกไม่ถูก จนต้องเมินหน้าหนีและโบกมือสั่งให้ทั้งสองรีบพากันออกไป
เมื่อแม่บ้านชราพาหลานสาวออกมาจากห้องทำงานของนายหนุ่มได้สำเร็จก็รีบเร่งพากลับห้องพักของสาวใช้ จากนั้นก็ให้หลานสาวนั่งลงบนเตียงนอนและเข้าไปสำรวจ ก่อนจะเบาใจเมื่อไม่พบร่องรอยโดนทำร้ายใด ๆ บนร่างกาย
“ซีเหมยหลานเป็นอะไรไป หลานกลัวนายท่านใช่ไหม หลานไม่ต้องกลัวนะป้าจะปกป้องหลานเอง อีกทั้งนายท่านก็ไม่ได้น่าหวาดกลัวอย่างที่หลานคิด”
หลี่ซีเหมยมองป้าที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งที่เธอตัวสั่นหวาดกลัว ‘นายหนุ่ม’ คนนั้นอย่างมากจนมือไม้สั่นไปหมด แต่ยังเป็นห่วงเป็นใยหลานสาวคอยอยู่ปลอบโยนไม่ยอมห่าง
“นายท่านไม่ทำอะไรหลานแน่นอน เชื่อป้าเถอะนะ”
“ขอบคุณนะคะ ป้า…ฉันไม่เป็นอะไร” หลี่ซีเหมยก้มหน้าลงเล็กน้อยและพูดออกมา
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว นอนพักเถอะ ป้าต้องออกไปดูมื้อเที่ยงก่อน”
ก่อนที่ป้าจะออกจากห้องไป หลี่ซีเหมยก็จับมือของเธอเอาไว้
“ป้าไม่ต้องกลัว นายท่านของป้าทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
ผู้เป็นป้าหันกลับไปมองหลานสาวอย่างประหลาดใจ แต่ยังยิ้มอ่อนโยนให้
“ป้ารู้ นายท่านเป็นคนดี เพียงแต่เข้าถึงยากเท่านั้น หากหลานได้รับใช้ใกล้ชิดท่านก็จะเข้าใจท่าน เหมือนที่ป้าเข้าใจ”
“...” หลี่ซีเหมยไม่ได้ตอบกลับ เฝ้ามองประตูที่ปิดงับลงก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยืนอยู่หน้ากระจกเงาที่สะท้อนภาพหญิงสาวร่างเล็ก ผมยาวปิดหน้าปิดตาในชุดสาวใช้แบบเรียบง่าย เป็นสีน้ำเงินตามยุคสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อน
“ฉันย้อนเวลากลับมา ในร่างสาวใช้ของคฤหาสน์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้จริง ๆ หรือนี่!”
เรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ยากที่จะยอมรับได้ในเร็ววัน แม้หลี่ซีเหมยจะมาอยู่ในร่างนี้ได้หลายวันแล้วเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี
ยิ่งนึกถึงท่าทางที่ดูคล้ายรับรู้ว่าเธอเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่หลานสาวของหัวหน้าแม่บ้าน หลี่ซีเหมยก็พลันรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นอย่างหนักหน่วง เธอทั้งตื่นเต้นที่ได้รับโอกาสอีกครั้ง และรู้สึกอบอุ่นที่ร่างนี้มีครอบครัวผู้ทุ่มเทให้เธออย่างสุดหัวใจ
ช่างแตกต่างจากชีวิตจริงของเธอเหลือเกิน ชีวิตจริงในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ซึ่งต้องตายอย่างอยุติธรรมเพียงเพราะโดนคนที่รักร่วมมือกันหักหลัง
เสียงคำถามของชายหนุ่มดังขึ้นในมโนสำนึก ‘เธอคือใครกันแน่หลี่ซีเหมย’ มุมปากหญิงสาวยกขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบออกมา
“ฉันคือหลี่ซีเหมยมาเฟียสาวของแท้จากยุคศตวรรษที่ 21 ยินดีที่ได้พบบรรพบุรุษเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ยุค 70”