ตอนที่ 5

1041 คำ
พลอยชมพูนั่งรอจนถึงสองทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถมารับ หญิงสาวเริ่มกระวนกระวาย มองซ้ายขวาด้วยความระแวง แสงไฟนีออนหลอดเดียวภายในเพิงพักที่ติดๆดับๆยิ่งทำให้เธอขวัญผวา ผู้คนเริ่มบางตาจนแทบไม่เหลือใคร แม่ค้าแม่ขายเข็นรถกลับบ้านไปจนหมดแล้ว ตึกแถวขนาดสี่คูหาที่มีร้านขายของชำเล็กๆเพียงร้านเดียวก็เลื่อนประตูเหล็กปิดหนีเธอไปแล้วด้วย มือเรียวสวยล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือ พลอยชมพูตัดสินใจโทรหาพบรักอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดจะเร่งเขา แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้รู้ว่าเขาไม่ได้ลืมที่รับปากเธอไว้ว่าจะส่งคนมารับเธอที่นี่ หญิงสาวโทรหาเขาถึงสามครั้ง ทว่าคนที่เธอโทรหากลับไม่ยอมรับสาย ใบหน้าน่ารักเริ่มฉายแววกังวลชัดเจนขึ้น ขณะที่หญิงสาวนั่งรอนายจ้างส่งคนมารับอยู่ด้วยความเป็นกังวลอยู่นั้น ก็มีจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงแต่งท่อให้มีเสียงดังเกินที่กฎหมายกำหนดแล่นผ่านเพิงพักผู้โดยสารไปอย่างรวดเร็ว แต่เพียงครู่เดียวมันก็วกกลับมาจอดตรงหน้าเธอ สัญชาตญาณระวังภัยทำให้พลอยชมพูกอดกระเป๋าเป้ใบใหญ่แนบอกแล้วรีบลุกขึ้นยืนทันที “จะไปไหนหรือน้องสาว ให้พี่ไปส่งไหม” พวกมันมากันสองคน ไอ้คนขับเป็นคนถามพร้อมกับกวาดสายตามองเธออย่างไร้มารยาท พลอยชมพูไม่พูดกับมัน หญิงสาวเดินไปนั่งให้ห่างจากตรงที่พวกมันจอดรถอยู่ “แน่ะ! มีหยิ่ง พูดด้วยก็ไม่ยอมพูด” ไอ้คนขับรถพูดจบก็เร่งเครื่องรถจนเกิดเสียงดังลั่น ควันสีขาวพวยพุ่งเป็นทางยาว “รถพี่แรงนะน้อง ให้พี่ไปส่งเถอะ เฮ้ย! มึงลงไปรับน้องเขามานั่งรถกับเราสิ” พลอยชมพูลุกขึ้นยืนและรีบถอยหลังหนีทันที เมื่อไอ้คนที่นั่งซ้อนท้ายลงจากรถแล้วเดินเข้ามาหา ด้วยความตกใจและเร่งรีบทำให้เธอสะดุดขาตัวเอง และกำลังจะหงายหลังล้มลงอยู่แล้ว หากไม่ได้ร่างสูงเข้ามายืนซ้อนหลัง และโอบประคองเธอไว้เสียก่อน แต่ด้วยความตื่นตระหนกกับการถูกคุกคามอยู่ทำให้พลอยชมพูรีบสะบัดตัวออกจากวงแขนที่โอบรัดไว้หลวมๆ หญิงสาวทิ้งกระเป๋าลงพื้นแล้วหันกลับไปตบหน้าคนที่เธอคิดว่าเป็นพวกเดียวกับสองคนนั้นสุดแรง ใบหน้าคมเข้มหันไปตามแรงตบ พบรักรู้สึกชาไปทั้งแก้มซีกซ้าย ชายหนุ่มหันกลับมามองมือตบด้วยสายตาดุเอาเรื่อง พลอยชมพูมองสบตาคนตรงหน้าอย่างคนขวัญเสีย พอหันกลับไปจะถอยหนีก็มีอีกคนหนึ่งที่ยืนขวางอยู่ หญิงสาวจึงยืนหันรีหันขวางอยู่ระหว่างผู้ชายร่างสูงใหญ่กับชายหนุ่มร่างผอมขาแว้น ขณะที่กำลังคิดว่าจะหนีไปทางไหนดี ไอ้คนผอมก็ชิ่งหนีวิ่งกลับไปซ้อนท้ายเพื่อนมัน แล้วพากันขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ทีนี้ก็เหลือแค่เธอกับคนร่างสูงที่ยืนถือกระเป๋าของเธออยู่ ใบหน้าบึ้งตึงเขาบึ้งตึงไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย “จะเอากระเป๋าของฉันไปไหน” พลอยชมพูถามเสียงไม่พอใจ ห่วงกระเป๋าก็ห่วง แต่จะให้กระโจนเข้าไปแย่งมันมาจากเขา บอกตรงๆว่าเธอก็ไม่กล้า “จะกลับรีสอร์ตไหม หรือจะนอนที่นี่” เสียงถามราบเรียบฟังแล้วคุ้นหู ทว่าพลอยชมพูไม่มีแก่ใจจะนึกว่าเคยได้ยินเสียงแบบนี้ที่ไหนหรอก เธอมัวแต่ดีใจที่มีคนมารับสักทีหลังจากที่รอมาหลายชั่วโมง “กลับรีสอร์ต หมายความว่าคุณพบให้คุณมารับติ๊บใช่ไหมคะ” “อืม...” พลอยชมพูยิ้มกว้าง รีบสาวเท้าเดินตามคนที่หิ้วกระเป๋าเธอที่ออกเดินนำไปก่อน ทว่าพอเดินไปถึงยานพาหนะที่เขาเอามารับ หญิงสาวก็ต้องชะงักกึก คิ้วเรียวขมวดมุ่นมองบิ๊กไบก์คันโตตรงหน้าด้วยความแปลกใจ “เอ่อ...อย่าบอกนะคะว่าเราจะขี่ไอ้นี่กลับรีสอร์ตกัน” “หรือคุณจะเดินกลับ” สารถีผู้ถูกตบจนหน้าชาหันมาถามเสียงห้วน พร้อมกับยื่นหมวกกันน็อกให้หญิงสาว พลอยชมพูรับมันมาถือไว้แบบงงๆ “ใส่ซะ” พบรักพยักพเยิดบอกเธอใส่รีบสวมหมวกกันน็อก แต่พอเห็นท่าทางเก้กังกับใบหน้างงๆของหญิงสาว เขาก็ชักรำคาญจนต้องวางกระเป๋าเธอลงบนพื้น แล้วแย่งเอาหมวกกันน็อกมาจัดการสวมลงบนศีรษะให้เธอเอง ชายหนุ่มรัดคางและตรวจดูความเรียบร้อยจนแน่ใจ ก่อนก้มลงหยิบกระเป๋าเป้ส่งให้เธอ “สะพายไว้” ร่างสูงยกขาขึ้นคร่อมบิ๊กไบก์คันใหญ่ เขาสวมหมวกกันน็อกแล้วสตาร์ตรถเตรียมพร้อม ทว่าผู้โดยสารสาวกลับยังคงยืนนิ่งไม่ยอมขึ้นรถสักทีจนเขาต้องหันไปถามย้ำอีกครั้ง “จะกลับรีสอร์ตไหม” “เอ่อ...” พลอยชมพูถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่คงเป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่สวรรค์จงใจสร้างขึ้นมาเพื่อวัดใจเธอสินะ แต่หากจะให้เธอเลือกระหว่างซ้อนท้ายไอ้เจ้ารถคันโตนี้กลับรีสอร์ต กับนั่งอยู่ในเพิงพักผู้โดยสารตรงนี้ เธอขอเลือกอย่างแรกก็แล้วกัน พลอยชมพูสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ด้านหลัง หญิงสาวยกขาขึ้นคร่อมนั่งบิ๊กไบก์อย่างทุลักทุเล แต่ในที่สุดเธอประสบความสำเร็จในการขึ้นมานั่งซ้อนท้ายเขา คนที่ไม่เคยนั่งซ้อนท้ายยานพาหนะสองล้อมาก่อนเลยในชีวิตขยับตัวขยุกขยิกด้วยความไม่คุ้นเคย ที่สำคัญมันชิดติดกันกับคนขับเกินไป “นั่งดีๆสิ เดี๋ยวก็ตกหรอก” เสียงเข้มๆห้วนๆของคนขับทำให้พลอยชมพูถอนหายใจแรง “ก็ไม่เคยนั่ง มันไม่คุ้นค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม