บทที่ 3 เจ็บปวด

1265 คำ
บทที่ 3 เจ็บปวด ‘อย่าบอกใครเรื่องอาการป่วยของฉัน...สัญญากับฉันสิมิ่งขวัญว่าเธอจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร!’           “ทำไมละคะคุณท่าน...”           ‘ถือเสียว่าคนแก่ใกล้ตายอย่างฉันขอร้องเถอะนะ ฉันไม่อยากทำให้ใครต้องเจ็บปวดอีก ให้ตาวีเกลียดฉันยังจะดีเสียกว่าที่ฉันต้องมานั่งมองหลานชายสุดที่รักต้องทุกข์ตรมกับโรคร้ายที่ไม่มีวันรักษาได้หายขาดของตัวเอง..’               เพราะเหตุผลนั้นเองเธอจึงจำต้องเก็บงำความลับนี้ไว้กับตัวเองเรื่อยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้และไม่เคยได้เจอกับคุณหญิงนวลแขอีกเลยเพราะทัดเทพมักจะสั่งให้คนงานในไร่จับตาดูเธอกับลูกตลอดเวลา และไม่ว่าเธอกับลูกสาวจะกระดิกตัวไปไหนเขาก็มักจะรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเธอราวกับเงาตามตัวไม่มีผิด             มิ่งขวัญพาตัวลูกสาวที่เผลอหลับไประหว่างทางมาจนถึงบ้านหลังเล็กๆ ที่ทัดเทพเอื้อน้ำใจยกให้เธอกับลูกได้อาศัยหลับนอนกันมานานหลายปี หญิงสาวส่งเสียงเอ็ดมะลิลูกหมาพันซิสุตัวน้อยสีขาวสะอาดตาที่พลัดหลงเข้ามาในไร่และเกิดถูกใจพลอยลดาเข้าตั้งแต่แรกเห็นเลยทำให้ฝ่ายนั้นลงทุนถึงขั้นร้องไห้ฟูมฟายจะขอเลี้ยงมันเอาไว้เสียให้ได้ ลำบากจนเธอต้องใจอ่อนยอมตามใจให้เงียบเสียงลงเมื่อมันทำท่าจะเห่าต้อนรับเจ้านายทั้งสองเมื่อเจอหน้ากัน หลังจากทำให้สุนัขตัวน้อยที่มีหน้าที่เฝ้าบ้านให้กับสองแม่ลูกสงบลงไปได้แล้วเธอจึงอุ้มตัวลูกสาวไปนอนพักที่โซฟาในบ้านก่อนจะออกมาจัดการกับข้าวเย็นของคนทั้งคู่พร้อมด้วยเจ้ามะลิที่กำลังนั่งกระดิกหางอยู่ไม่ไกลเฝ้ารอข้าวเย็นของตัวเองเหมือนกับทุกวันที่สองแม่ลูกมักจะมีให้ไม่เคยขาด             “อ้าวน้องขวัญ! วันนี้สองแม่ลูกบ้านนี้ทำอะไรทานกันจ๊ะกลิ่นนี่หอมเข้าไปถึงในไร่เชียว” นายชัย หนึ่งในคนงานหนุ่มของไร่ชาเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินผ่านมาเห็นสองแม่ลูกเข้าโดยบังเอิญระหว่างทาง  ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่ชายหนุ่มตรงหน้านี้เท่านั้นที่แสนดีและมีน้ำใจต่อสองแม่ลูก คนงานแทบจะทุกคนในไร่ต่างก็ให้ความรักและพากันหลงเสน่ห์รอยยิ้มของคุณหนูตัวน้อยอย่างพลอยลดากันถ้วนหน้า แม้ว่าผู้เป็นเจ้านายจะประกาศก้องว่าเด็กสาวไม่ใช่ลูกตนแต่ใครเลยจะเชื่อในเมื่อใบหน้าของหนูน้อยนั้นละม้ายคล้ายคลึงกับพ่อมากกว่าใครๆ ไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกายเด็กสาวก็เหมือนผู้เป็นพ่อราวกับฝาแฝดไม่มีผิด             “ขวัญว่าจะทำข้าวต้มปลาจ๊ะพี่ชัย ของโปรดหนูพลอยแก อยู่ทานด้วยกันไหมจ๊ะพี่” มิ่งขวัญตอบกลับอีกฝ่ายไปพร้อมรอยยิ้ม ทุกๆ คนที่นี่ดีกับเธอมากเหลือเกิน ทั้งคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาทุกอย่างเรื่อยมาอย่างไม่คิดที่จะรังเกียจกัน             “ไม่ดีกว่าจ๊ะ พอดีว่าคืนนี้พี่ต้องไปทำธุระให้นายเขาในเมืองน่ะ ขวัญเองก็อย่าลืมลงกลอนล็อคประตูให้แน่นหนาด้วยล่ะ อยู่กันแค่สองคนแม่ลูกแบบนี้มันอันตราย พี่เป็นห่วง” ชัยเอ่ยบอกหญิงสาวอย่างอดห่วงไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมเจ้านายของเขาต้องให้สองแม่มาลำบากลำบนอยู่กันตามลำพังเอาแบบนี้  ทั้งๆ ที่น่าจะพาทั้งสองคนไปอยู่ที่บ้านใหญ่ด้วยกันก็สามารถทำได้ตลอดเวลาเลยแท้ๆ แต่เจ้านายของเขาก็กลับไม่ทำ             “จ๊ะพี่ ขับรถดีๆ นะจ๊ะ” มิ่งขวัญเอ่ยตอบก่อนจะมอบรอยยิ้มสดใสให้ชายหนุ่มไป ซึ่งเธอไม่อาจรู้เลยว่าภาพที่กำลังส่งยิ้มหลานละมุนไปให้ชายอื่นอยู่นั้นถูกจับตามองด้วยใครอีกคนที่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่บนระเบียงไม้ชั้นสองของตัวบ้านด้วยท่าทางไม่พอใจอย่างถึงที่สุดกับภาพตรงหน้าที่บังเอิญมาเห็นเข้า ชายหนุ่มสบถได้เพียงไม่นานก็ต้องกระตุกยิ้มเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นไฟเลี้ยวจากรถของแขกที่เขาเอ่ยชวนมารับประทานอาหารค่ำด้วยกันอยู่ไม่ไกล ไม่นานจึงส่งเสียงเรียกสาวใช้ให้เข้ามาหาพร้อมกับเอ่ยปากสั่งบางสิ่งบางอย่างออกไป อีกด้านหนึ่ง             “มะ...เมื่อกี้พี่แววว่ายังไงนะจ๊ะ!” มิ่งขวัญเอ่ยย้อนถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูเมื่อจู่ๆ สาวใช้อย่างแววดาวจากบ้านหลังใหญ่ข้างๆ ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหากันพร้อมกับเอ่ยบอกบางสิ่งที่เจ้านายผู้กุมอำนาจของทุกสิ่งๆ ที่นี่ฝากให้มาบอกเธอและลูกสาว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิดเลยว่ามันจะมีวันนี้เกิดขึ้น ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินจนต้องร้องถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เผลอฟังผิดพลาดไป             “ก็คุณวีน่ะสิ ใช้ให้พี่มาตามขวัญกับน้องพลอยไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่ด้วยกัน รีบเข้าเถอะประเดี๋ยวแกจะเปลี่ยนใจขึ้นมา ขานั้นเขายิ่งอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย” มิ่งขวัญพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วก่อนจะหันไปปลุกลูกสาวให้ตื่นขึ้นเพื่อไปรับประทานอาหารเย็นกับผู้เป็นพ่อที่ไม่รู้ว่าวันนี้เขาเผลอไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าถึงได้ให้คนมาตามเธอกับลูกไปทานข้าวด้วยกันแบบนี้ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขาไม่เคยจะเหลียวแลกันเลยสักนิดว่าเธอจะกับลูกอยู่กันยังไงหรือวันๆ หนึ่งจะมีอะไรตกถึงท้องกันบ้าง             “เรากำลังจะไปไหนกันเหรอคะคุณแม่” เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกจูงไปยังที่ไหนสักแห่งแทนที่จะได้นั่งทานข้าวเย็นกันสองคนแม่ลูกในบ้านหลังน้อยเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา             “เรากำลังจะไปทานข้าวกับคุณพ่อค่ะลูก น้องพลอยต้องทำตัวดีๆ ไม่ดื้อนะคะ คุณพ่อจะได้รัก” เด็กสาวพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินตามแรงจูงของผู้เป็นแม่ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ของผู้เป็นพ่อในเวลาต่อมาด้วยความตื่นเต้นดีใจเพราะไม่บ่อยนักที่เธอและแม่จะได้รับอนุญาตให้มาที่นี่ ที่ที่มีชิงช้าของเล่นสุดโปรดถูกวางเอาไว้อยู่ตรงทางเข้าบ้าน             รอยยิ้มที่เคยปรากฏลงบนใบหน้าของมิ่งขวัญเลือนหายไปแทบจะทันทีที่มาถึงแล้วพบว่าทัดเทพนั้นไม่ได้ชวนแค่เธอกับลูกสาวมาทานอาหารด้วยกันเท่านั้น แต่ข้างกายของเขาในตอนนี้ยังมีรุ้งมณีกับหนูน้อยหยกฟ้าแม่ม้ายลูกติดเจ้าของไร่ส้มข้างๆ นั่งเคียงคู่อยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวถึงได้เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ให้คนไปตามเธอกับลูกมาที่นี่ มาเพื่อที่จะได้เห็นเขาทำดีกับคนอื่นแต่กลับเมินเฉยต่อคนของตัวเองเหมือนที่ชอบทำอยู่เสมอๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม