ยี่สิบ กลิ่นชาเคล้าคาวโลหิต หากสตรีอื่นได้ฟังคำนี้ ถ้าไม่ใช่เขินจนหน้าแดง คงเป็นอาการโกรธจนหน้าดำตัวสั่น ทว่ามู่เฟยเหลียนกลับเอามือแตะจุดที่เคยถูกกระบี่จี้อย่างเผลอไผล ขานรับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “อ้อ...” นางคิดมาเสมอว่าผู้ที่หน้าหนาไร้ยางอายเทียบเคียงกับท่านลุงหรงเสี่ยได้คงมีแค่ฝูเหิง นึกไม่ถึงเลยว่าใต้เท้าลิ่วเองก็มีทักษะในด้านนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่แน่ว่าบางทีอาจเป็นตัวนางเองที่ดึงดูดคนประเภทนี้เข้าหาตัวก็เป็นได้ “หา!” เป็นหลวนเจี้ยนเสียนเสียอีกที่โมโหแทน จนนางต้องเอามือแตะไหล่เขาพร้อมกับส่ายหน้าปราม ความจริงมู่เฟยเหลียนวางแผนจะเดินทางออกจากเมืองต้าไห่มาสักพักแล้ว แต่เพราะมีสัญญาตกลงกันกับฝูเหิง นางจึงต้องรั้งอยู่ที่นี่เพื่อรอให้อีกฝ่ายส่งมอบโฉนดที่ดินให้ แน่นอนว่าท่านเจ้าเมืองจะมอบให้ก็ต่อเมื่อข้าศึกยอมถอยทัพกลับไปแล้วเท่านั้น การได้พบใต้เท้าลิ่วในวันนี้ถือเป็นเรื่อ