และเมื่อถึงเวลาการเดินทางจริง เธอขอเวลาคุยโทรศัพท์เพื่อบอกกล่าวทางบ้าน และคนรับสายคือแม่เธอนั่นเอง “หายไปไหนมาลูก” น้ำเสียงระรื่น จนเธออดแปลกใจไม่ได้ “แม่มีข่าวดีมาบอก” น้ำเสียงนั้นฟังดูเป็นสุขนัก ณริสาจึงยิ้มบางๆ อยู่ปลายสาย ...เรื่องทั้งหมดเขาคงจัดการไปแล้ว คิดแล้วเธอก็หันมองชายหนุ่มที่ใช้สะโพกอิงอยู่บนฝากระโปรงรถอย่างรอคอยอะไรสักอย่าง ท่าทางนั้นเป๊ะมาก จนเธอต้องแอบกลืนน้ำลายลงท้องตาพร่าเลือน หากตัดภาพกวนๆ หน้ามึนๆ ออกไป เขาเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างไม่ว่ามุมใด และคนนั้นเป็นหนึ่งที่เธอต้องชายตามอง ‘บ้าจริง’ ณริสาก่นด่าตัวเองแล้วรีบเบนสายตาไปทิศทางอื่น กลัวความรู้สึกที่อาจถลำลึก “ค่ะแม่” เธอขานรับและรอฟังคำบอกกล่าวจากปากของคนปลายสายต่อ “พ่อออกไปบริษัทจ้ะลูก เห็นบอกว่าการกู้เงินผ่าน ดำเนินงานต่อได้ เนี่ยแม่ว่าจะออกไปข้างนอกหน่อย ปล่อยให้พวกปากหอยปากปูมันสบประมาทมานานแล้ว”