เสียงโขลกพริกกับกระเทียมดังแว่วๆ มาจากห้องครัวของบ้านที่อยู่ด้านนอก เพราะส่วนกลางของบ้านเปิดโล่ง ซึ่งส่วนใหญ่อิงครัตน์เอาไว้รับ แขก เจ้าของบ้านยิ้มๆ เดินไปชะเง้อมองดูนางแบบสาวที่กำลังเริ่มลงมือปรุงอาหารก่อนจะเดินกลับเข้าไปเทน้ำเย็นใส่แก้วและเดินออกไปที่ห้องครัวอีก
“หอมจังเลย” ภัสสรายืนนิ่งไม่ไหวติง เมื่อได้ยินเสียงพูดของอิงครัตน์ซึ่งไม่รู้เข้ามาตอนไหน แถมยังมายืนชะเง้อชะแง้มองดูจากทางด้านหลังและอยู่ใกล้เสียจนแก้มเกือบจะชิดกัน
“ตกใจหมด ยื่นหน้ามาใกล้ไปจ้ะ ป้า ใจคอไม่ดี”
“ทำไมต้องใจคอไม่ดีด้วยล่ะ” อิงครัตน์ถามยิ้มๆ ขณะเอามือค่อยๆ ช่วยเช็ดเหงื่อที่ไหลรินให้พร้อมกับยื่นแก้วน้ำที่มีไอน้ำเกาะอยู่
“ยังๆ ยังมาใกล้ๆ อีก ทำไมไม่ไปรอข้างนอก”
“จะได้รู้ไงว่าสะอาด อร่อย ปลอดภัยหรือเปล่า” อิงครัตน์ยิ้ม เมื่อเห็นภัสสราหันมาทำหน้าดุ
“ล้างมือแล้ว” ภัสสราพูดเพียงแค่นั้นแล้วหันไปสนใจผัดกะเพราที่อยู่ในกระทะ โดยเริ่มเติมเครื่องปรุงลงไปและสุดท้ายใส่น้ำตาลเล็กน้อย
“น้ำตาลไม่ต้องกินเยอะนักหรอก ทำไมทำกับข้าวต้องใส่น้ำตาล”
“รู้น่าว่ารักสุขภาพ ใส่นิดเดียวเอ๊ง เพิ่มรสชาติทำให้อร่อยขึ้น รับรองอร่อยกว่าที่อื่น ไม่อร่อยให้ทำโทษเลย” ภัสสรายิ้มน้อยๆ ให้กับคนที่ยังคงยื่นหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ
“เดี๋ยวพริกกระเด็นเข้าตา จะหัวเราะให้ท้องแข็งเลยคอยดู”
“นิสัยไม่ดี แช่งผู้ใหญ่ไปรอข้างนอกก็ได้ ดื่มน้ำก่อน”
“ขอบพระคุณค่ะ” ภัสสราทำท่าพนมมือไหว้และถอนสายบัว
“ทะเล้นได้ตลอดเวลาสิน่า” อิงครัตน์ยิ้มๆ พอดีกับได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์จึงรีบกลับเข้าไปในบ้านทันที
“เป็นอะไรของแกว๊ะโต๊ด ป้าเข้าใกล้นิดหน่อยทำเป็นร้อนรนชอบกล แต่ก็ใกล้เหลือเกินแก้มเกือบจะโดนแล้วยายป้าขี้แกล้ง” ภัสสรายิ้มๆ ขณะเดินไปตักข้าวใส่จาน
“พูดกับผู้ใหญ่มีหางเสียงบ้างก็ได้” เสียงที่ได้ยินแว่วๆ ทำเอาภัสสรากลับมาคิดถึงตัวเองที่พูดต่อปากต่อคำแบบไม่มีหางเสียง
ภัสสรานั่งดูอิงครัตน์รับประทานอาหารอยู่เงียบๆ เฝ้าสังเกตกิริยาท่าทางที่ดูเรียบร้อยแบบผู้ใหญ่ ซึ่งเคี้ยวอาหารช้าๆ ไม่รีบร้อนต่างจากตอนทำงานที่แคล่วคล่องว่องไว
“ไม่กินหรือไง จะมามองหาริ้วรอยฉันอีกนานไหมล่ะ เธอ” อิงครัตน์บอกแล้วหันไปสนใจอาหารโดยตักเข้าปากอย่างช้าๆ
“ชีวิตป้าดีเนอะ ไม่สิต้องพูดว่าดีนะคะ มีช้า มีเร็ว สลับกันไป”
“เราล่ะ มีเวลาช้าๆ บ้างไหม” อิงครัตน์ถาม
“คิดแป๊บ” อิงครัตน์ยิ้ม แต่ไม่ได้รีบร้อนกับคำตอบจึงรับประทานอาหารไปเรื่อยๆ ยิ้มๆ มองดูคนที่ทำท่าคิดสักพักก่อนจะทำหน้ายุ่ง
“ไม่มีเลยค่ะ ป้า” อิงครัตน์ยิ้ม เมื่อเริ่มได้ยินภัสสราพูดมีหางเสียง
“ลองดูสิ วันละนิด เคี้ยวอาหารช้าๆ เมื่อมีโอกาสอย่างเช่นมื้อเย็นทานอาหารที่บ้านก็ทำให้ช้าลง นานวันเข้าเราจะมีสมาธิมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวอย่าให้ถึงกับต้องพยายามมากมายนัก เริ่มแรกอาจจะยากหน่อยแต่นานไปก็ชินไปเองแหละ” ภัสสราตั้งใจฟัง การพูดช้าๆ และค่อยๆ อธิบายก็น่าสนใจเพราะดึงดูดให้ตั้งใจฟังโดยไม่รู้ตัว
“สาธุ เดี๋ยวจะลองดูนะคะ ป้าขา” ภัสสราหัวเราะเล็กๆ
“เป็นเด็กดื้อและรั้นสินะ เรา” อิงครัตน์ถอนใจ
“ป้าก็ขยันสอนสิคะ”
“ชาติไหนจะได้เจอกันอีก” อิงครัตน์พูดขึ้น
“ชาตินี้แหละค่ะ ป้าก็เรียกหนูมาทำงานบ่อยๆ สิคะ” น้ำเสียงออดอ้อนทำเอาอิงครัตน์หัวเราะ
“ไหนเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปให้ดูสักรูป ถ้ามุมมองดีก็มาร่วมอาชีพกันได้ทำเป็นงานเสริมไม่ต้องไปเครียดอะไรนัก” อิงครัตน์บอก ภัสสราคิ้วขมวดจ้องมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา
“โห ใครจะซื้อ” ภัสสราพูดขึ้น แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถ่ายรูปของอิงครัตน์ที่กำลังตักอาหารเข้าปาก คนถ่ายภาพหัวเราะเล็กๆ
“ไหนเอามาดูหน่อย” อิงครัตน์แบมือ แต่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ยอมให้
“ไม่เอาล่ะ เดี๋ยวโดนป้าด่า ซวยไปอีกหลายวันแน่ๆ”
“เอามาดูเดี๋ยวนี้ ผู้ใหญ่สั่งต้องทำตาม”
“ให้ก็ได้ แค่นี้ต้องดุด้วย” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ
อิงครัตน์ยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นรูปถ่ายของตัวเอง ซึ่งเห็นหน้าเพียงแค่ที่ริมฝีปากและช้อนที่มีอาหารจ่ออยู่ขณะตัวเองอ้าปากพอดี จึงนึกชมในความชาญฉลาด เพราะภัสสราคงจำได้เรื่องการถ่ายภาพให้เห็นเต็มหน้าจะต้องมีการเซ็นเอกสารเป็นการได้รับอนุญาตจากคนที่เป็นแบบ
“ลุกมานั่งใกล้ๆ” ภัสสราทำท่าหวาดระแวงก่อนจะส่ายหน้า
“เร็วๆ อย่าให้ต้องบ่น” อิงครัตน์พูดดุ
“ก็ได้” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ แต่ยอมลุกไปนั่งข้างๆ อิงครัตน์และขณะนั่งลงก็ทำท่าเอามือปิดที่ศีรษะของตัวเอง
“คิดว่าจะรอดหรือไง” อิงครัตน์ตีเบาๆ ไปที่แขน
“โหดร้าย”
“กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย เดี๋ยวจะสอนวิธีลงรูปขาย” อิงครัตน์คืนโทรศัพท์ให้ แต่ภัสสราแสดงท่าทางอิดออด
“เสียเวลาเปล่าๆ ป้า” ภัสสราบอก
“ยังไม่ลองเลย วันหนึ่งเราอาจมีเงินจากงานนี้มากกว่างานประจำก็ได้ ไม่ได้เสียอะไรทำไมถึงไม่ลองดู รูปน่ารักดีออก ถ้ามีปัญหา
อะไรก็มาคุยกัน ฉันพร้อมให้คำแนะนำหรือโทรฯ มาถามก็ได้”
“กว่าจะได้เงินก้อนแรกคงเลิกทำไปก่อน” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ
“ถ้าชอบ ฉันเชื่อว่าเราน่ะจะไม่ถอย” อิงครัตน์พูดยิ้มๆ
“อันนี้เรื่องงานหรือเรื่องอื่น” ภัสสราถาม
“ทุกเรื่องนั่นแหละ เอ๊าเรียบร้อยลงรูปให้แล้ว” อิงครัตน์ส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของพร้อมกับเปิดภาพที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ ซึ่ง
หลังจากนั้นหากลูกค้าพอใจก็จะจ่ายเงินเพื่อซื้อภาพ ส่วนสนนราคาขึ้นอยู่กับว่าจะนำภาพไปใช้ทำอะไร
“ปรับสีให้ซะสวยเลย” ภัสสราหันมายิ้มๆ กับอิงครัตน์
เปรมหรือป๊อกแวะเข้ามาตอนบ่ายแก่ๆ ซึ่งงานสำเร็จลุล่วงไปก่อนเวลาที่อิงครัตน์คาดเอาไว้ เพราะนางแบบมือใหม่เชื่อฟังทำตามคำแนะนำจึงทำให้งานดำเนินไปได้ตามแผน
“สวัสดีครับ ป้าแจ๊บ” เปรมพูดทักทายก่อนจะหันไปยิ้มๆ ให้ภัสสรา
“เป็นอย่างไรบ้าง”
“คนขับมอเตอร์ไซค์แขนหักครับ” เปรมบอก
“แวะไปดูแลเขาด้วยล่ะ ไม่ว่าเราจะถูกหรือผิดก็ตาม”
“ครับผม”
“อ้อ โต๊ดนี่พี่ป๊อก น่าจะอายุเยอะกว่าเราสักสามสี่ปีมั้ง” อิงครัตน์บอกกับภัสสราที่รีบพนมมือไหว้ทันที
“สวัสดีค่ะ พี่ป๊อก”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เปรมพนมมือรับไหว้
“ชื่อเปรมก็สั้นแล้วทำไมยังมีชื่อเล่นอีกคะ” ภัสสราหัวเราะเล็กๆ มองสบตากับคนที่จ้องมองด้วยแววตาดุๆ
“ไปสมัครทำงานที่เขตไป๊เราน่ะ ช่างซัก ช่างหาคำถามมาเสียจริง” อิงครัตน์พูดบ่นทำเอาภัสสรายิ้มเจื่อนๆ
“โต๊ดทำให้ป้าบ่นแบบผู้ใหญ่ได้ด้วย ชื่อเดิมเปรมศักดิ์ แต่พี่ไม่ชอบเลยเปลี่ยนเป็นเปรมเฉยๆ เข้าใจยัง” เปรมยิ้มๆ ให้กับภัสสรา
“เห็นไหม ป้าไม่เห็นต้องดุเลย พี่ป๊อกอธิบายนิดเดียวก็เข้าใจแล้ว”
“ท่าทางจะกวนนะครับ” เปรมหัวเราะ เมื่อเห็นอิงครัตน์ส่ายหน้า
“แต่เวลาทำงานมีวินัยและเชื่อฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีรู้ไว้นะจ๊ะ” อิงครัตน์หันไปทางภัสสราที่ยิ้มกว้างทันที
“ขอบคุณคร้าบ” ภัสสราลากเสียงยาวๆ
“มือสวยนะเราน่ะ ผิวพรรณดีทีเดียว” เปรมเอ่ยชมหลังจากดูภาพจากกล้องถ่ายภาพของอิงครัตน์ ซึ่งเจ้าของมือยักคิ้วให้เมื่ออิง
ครัตน์หันมาสบตาด้วย
“ป้ายังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่มือนุ่มนิ่มเป็นคุณนายเลย”
“เป็นสาวเป็นนางก็ต้องทาครีมดูแลมือไม้กันบ้างแหละ” ภัสสราพูดต่อปากต่อคำทำเอาเปรมแปลกใจ จนแทบจะไม่เชื่อว่าภัสสรา
กับอิงครัตน์เพิ่งรู้จักกัน เพราะส่วนใหญ่คนที่เพิ่งรู้จักและยังไม่คุ้นเคยกับป้าแจ๊บมักจะเกรงใจไม่ค่อยกล้าพูดคุยด้วยนัก
“รีบกลับไหมล่ะ โต๊ด ถ้าไม่ไปไหนต่อ พี่จ้างเป็นนางแบบขอถ่ายมือ แต่ถ่ายด้านนอกนะ จับใบไม้ ต้นไม้ ต้นหญ้า หรือผลไม้ที่มีอยู่รอบบ้าน สนใจปะ” เปรมถาม ภัสสราตาลุกวาว
“ไม่รีบค่ะ ว่างมาก อยากได้ตังค์” ภัสสราหัวเราะเล็กๆ
“งั้นจ่ายรายชั่วโมง ผมถ่ายข้างนอกนะครับ จะได้ไม่ซ้ำกับงานของป้าแจ๊บ มือสวยๆ วางอยู่บนพื้นหญ้าสวยๆ ที่สนามหญ้ารูปน่าจะ
ออกมาดี” เปรมบอกกับอิงครัตน์ที่ยิ้มๆ กับสิ่งที่ได้ยิน
“ไอเดียดี เดี๋ยวป้าเป็นผู้ช่วยให้” อิงครัตน์บอก เปรมจึงเดินไปหยิบอุปกรณ์เพิ่มที่รถยนต์ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน
“มานี่ เราน่ะ” อิงครัตน์จับมือภัสสราให้เดินตามไปที่ห้องน้ำ
“ไม่ได้ปวดท้องพามาห้องน้ำทำไมล่ะ ป้าก็”
“ล้างมือให้สะอาด แล้วทาครีมด้วยนะจ๊ะ มือจะได้ดูชุ่มชื้น”
“ก่อนหน้าไม่เห็นต้องทำเลย” ภัสสราพูดอิดออดเหมือนจะไม่ทำตามคำสั่งของอิงครัตน์
“ป๊อกจะถ่ายเฉพาะมือ ซึ่งต้องเห็นมือชัดมากๆ เพราะฉะนั้นมือต้องสะอาดและดูสวยงามเข้าใจหรือยังจ๊ะ” อิงครัตน์ถอนใจ
“ก็ได้ๆ ป้าก็ปล่อยมือสิ ไม่งั้นจะล้างยังไงล่ะ” ภัสสราเลิกคิ้วมองดูที่มือของตัวเองกับอิงครัตน์ที่ยังคงจับอยู่
“จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้” อิงครัตน์พูดบ่น
“หนูเป็นสาวเป็นนาง ป้าจะมาจับมือแบบนี้ไม่ได้นา มันไม่งาม”
“ช่างพูดนักนะ ตามมานี่เลย” อิงครัตน์รู้สึกหมั่นไส้ จึงจัดการเป็นคนล้างมือให้เสียเลย โดยค่อยๆ ลูบไล้และดูรายละเอียดจนคิดว่า
สะอาด
“แค่จับก็แย่แล้ว ยังจะช่วยล้างอี๊ก” ภัสสราคิดอยู่ในใจ อิงครัตน์ช่วยเช็ดมือจนแห้งก่อนจะนำครีมทามือมาทาให้
“เดี๋ยว แพ้ครีมหรือเปล่า” อิงครัตน์ถามแล้วหันไปมองที่ขวดซึ่งทำให้คนที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จามองตาม ภัสสราส่ายหน้าแทนคำ
ตอบ
“ยื่นมือมา” อิงครัตน์พูดคล้ายดุ
“ทาเองก็ได้ไหม” ภัสสราบอก
“อย่าดื้อ ผู้ใหญ่บอกอะไรก็แค่ทำตามไหม ไม่เห็นจะยากแค่ยื่นมือมาหรือไม่อยากอยู่ใกล้ล่ะ” คำถามที่ได้ยินทำเอาภัสสราคิดอยู่
นานว่า ควรตอบว่าอย่างไร
“ป้าเอาไงแน่ บอกให้ทำตาม แต่ทิ้งคำถามตอนท้าย”
“เมื่อมีคำถาม ก็แค่ตอบ” อิงครัตน์พูดขึ้น
“หนูเกรงใจ” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ อิงครัตน์ยิ้ม แล้วขยับเข้าใกล้ค่อยๆ ทาครีมให้ที่มือของภัสสราทั้งสองข้าง
“อะไรที่ฉันไม่อยากทำ ฉันก็ไม่ทำ ไม่ต้องมาเกรงใจ ไอ้ที่ทำเพราะเต็มใจทำให้ไปได้แล้วล่ะ เรียบร้อยแล้ว นายป๊อกตั้งกล้องรอที่
สนามหญ้าโน่นแล้ว” อิงครัตน์พูดด้วยน้ำเสียงคล้ายสั่ง
“ไม่ไปด้วยกันเหรอ” ภัสสราพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนอยากให้ตามออก ไปด้วยกัน
“ตอนมายังมาคนเดียวได้เลย แถมทำงานเสร็จไปแล้วด้วย ทำไมถึงอยากให้ตามออกไปด้วยล่ะ” อิงครัตน์ถามยิ้มๆ
“เผื่อทำอะไรไม่ถูก ป้าจะได้ไปยืนดุไง บอกให้ทำโง้นงี้ง่ายกว่าต้องมาคิดเองหรือไม่อยากไปเป็นกำลังใจให้กันล่ะ” ภัสสราถาม
ยิ้มๆ และทำเป็นพยักหน้าเพราะอยากให้ออกไปด้วยจริงๆ
“ก็ไม่บอกว่าอยากให้ออกไปเป็นกำลังใจ” อิงครัตน์ยิ้มมองสบตากับคนที่ยิ้มให้อยู่เช่นกัน
“เร็วๆ เข้าป้าอย่าลีลาเยอะ”
“ไอ้นี่ๆ ลามปามใหญ่แล้ว ออกไปก่อน เดี๋ยวเอาน้ำกับขนมตามไป เร็วๆ พี่เขารออยู่” อิงครัตน์พูดเสียงเข้ม ภัสสราทำหน้าคว่ำบ่นพึมพำก่อนจะเดินออกไป
“ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ทำไมถึงได้น่าเอ็นดูนักนะ” อิงครัตน์ยิ้มๆ มองตามภัสสราที่ยังหันมาทำหน้างอให้อีก แต่พอได้พูดคุยกับเปรมก็มี
รอยยิ้มสดใสกลับมาหัวเราะคิกคักได้เหมือนเดิม