วันนี้เป็นวันสุดท้ายการตัดสินใจในการตัดสินใจของสามี ซูฉีเลยทำอาหารชุดใหญ่ จัดใหญ่จัดเต็มเตรียมต้อนรับสามีกลับบ้าน เพราะกลังจากมื้อนี้ไปคงจะไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขไปสักระยะเลย
“ซูฉี ปัง ปัง” นั่นไงพูดถึงก็มาเลย ตายยากจริง ๆ เธอเดินไปเชิญลู่จิวเข้ามาในบ้าน ไม่ได้มาคนเดียวแต่หอบเด็กชิงอีมาด้วย รักจริง ๆ เห็นหน้าเด็กนี่ทีไรอารมณ์เสียแบบไม่ทราบสาเหตุตลอดเลย
“กินข้าวก่อนสิเจ้าค่ะ”เหอะ ก็เชิญเป็นมารยาทนั่นแหละ จะได้รีบ ๆ จบเรื่องสะที อีกไม่นานแม่นางเอกก็จะมาแล้ว ต้องรีบควบคุมลู่จิวให้ได้ เด็กชิงอีนั่นอีกไม่นานนางเอกก็จะมารับไปอยู่ด้วยแล้ว คงไม่เกินเดือน โอยย เรื่องปวดหัวจะมาแล้วสินะ ต้องรีบทำการค้าก่อนตอนทางยังสะดวก
“อืมม”อาหารแปลกตาแต่กลับอร่อยจนวางไม่ลง วันนี้เขาตัดสินใจได้แล้วหลังจากครุ่นคิดมาหลายวัน ว่าแต่นางทำอาหารอร่อยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันะ เหมือนจะสวยขึ้นด้วยรึป่าวนะ เวลานางวุ่นกับการดูแล เช็ดปาก ตักอาหารให้ลูกทำเอาใจเขากระตุกไม่หยุด
วันนี้อาหารเช้าคือข้าวผัดอเมริกัน ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ปิดท้ายด้วยน้ำส้มและนมเหมือนทุกวัน เด็กๆ ดูชอบมาก ‘ชอบก็ดีแล้ว ดูแลมาไม่กี่วันก็ไปตกหลุมรักลูกสะได้ เห้อ’นั่งเช็ดปากให้ลูกจนลูกอิ่ม เธอจึงบอกให้พวกเขาออกไปเล่นนอกบ้านก่อน ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่เธอ สามีและชิงอี
“ท่านพูดมาเถอะ ว่าตัดสินใจอย่างไร”
“ข้าไม่หย่า”
“งั้น”เธอครางตอบในลำคอเบา ๆ แล้วเลื่อนสายตาปมองเด็กน้อยผู้น่าสงสารอีกคน ใจจริงก็แค่อยากให้นางแยกกับสามีเท่านั้น เพราะหากสามีเธอยังทำหน้าที่ดูแลชิงอี มันจะทำให้นางเอกเข้ามาวุ่นวายกับสามีเธอ
“นางยังไม่มีที่ไป ข้าคิดว่าจะฝากไว้ให้ท่านแม่ดูแลนางไปก่อนแล้วจะลองเข้าไปคุยกับตระกูลนางดู ข้าจำได้ว่าสหายข้ายังมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง ระหว่างนี้ข้าจะให้นางอยู่บ้านกับท่านแม่ไปก่อน”
“...”เธอไม่พูดอะไร พยักหน้าหงึกหงักเพียงเล็กน้อย รอฟังว่าสามีเธอจะจัดการอย่างไรต่อ
“แต่เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าท่านแม่เป็นเช่นไร ข้าจำเป็นต้องแบ่งเงินให้ท่านแม่เป็นค่าอาหารและค่าเลี้ยงดู ข้าจะรีบหาทางติดต่อตระกูลนางโดยไว”
“ถ้าท่านว่าอย่างนั้น ข้าตกลง แต่นางต้องไม่มายุ่งเกี่ยวกับข้าและลูกอีก ให้ต่างคนต่างอยู่ หากมีคนมารับนางไปดูแลแล้ว ห้ามท่านเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด ไม่ว่าจะย่างไร ทำได้หรือไม่” นี่แหละคือจุดประสงค์ของเธอ ให้เขาสัญญา พอถึงเวลานั้นหากเขาผิดสัญญาแม้เพียงนิด ยามนางลงมือกับแม่นางเอก เขาก็จะตกหลุมกับดักคำสัญญาที่เคยให้ไว้ ทุกความผิดที่นางทำจะมีข้อแก้ต่างว่าที่ทำไปเพราะหึงหวงสามีเท่านั้น
“ย่อมได้ แต่เรื่องแยกบ้านมันต้องใช้เวลาสักหน่อย”ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าครอบครัวเขาเป็นอย่างไร ที่เขาไม่พูดอะไรเพราะก่อนหน้านี้คนบ้านไม่กล้าทำอะไรนางกับลูกเท่านั้น นางดุร้ายทั้งพลังจิตวิญญาณนางก็แข็งแกร่งกว่าชาวบ้านทั่วไป หากนางไม่มาแต่งงานแต่ไปเข้าสำนัก นางคงจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงไปแล้ว ตอนเจอกันครั้งแรกเขาพึงพอใจนางมากพอสมควรจึงได้แต่งกันจนมีลูก 3 คน แรก ๆ ก็ไม่ถึงกับรักนางมากความสัมพันธ์กำลังพัฒนา แต่นับตั้งแต่เขาเอาชิงอีเข้ามาเลี้ยงดูโดยไม่อธิบายอะไรให้นางฟัง นางก็ยิ่งเปลี่ยนไป อารมณ์ฉุนเฉียว ทั้งยังเศร้าซึม พูดน้อยลง จะว่าไม่รู้สึกผิดก็ไม่ได้ อย่างไรนางก็เป็นภรรยาของเขาแต่เขากลับทำเพื่อคนอื่น จนเสียลูกไป นางคงทนต่อไม่ไหวถึงได้พูดเรื่องแยกทางกันเด็ดขาด นางฟื้นขึ้นมารอบนี้นางเด็ดขาดจนเขาไม่กล้ารีรอตัดสินใจอีก เขารู้สึกว่านางทำจริงแน่หากเขาไม่ยอมนาง
“เห้อ วุ่นวายเสียจริง เช่นนั้นท่านก็อยู่บ้านท่านไป แยกันอยู่ไปจนกว่าท่านจะจัดการปัญหาได้ แต่อย่าให้บ้านท่านมายุ่งวุ่นวายกับข้าและลูก รวมถึงนางด้วย”เธอมองไปที่ชิงอี เธอไม่อยากให้ลูกเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง เธอจะกันออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คงต้องไปซื้อใจลูกเสียก่อน
“แล้ว..แล้วข้ามาที่นี่ได้ใช่หรือไม่”
“ย่อมได้ แต่อย่ามาบ่อย หากท่านจัดการปัญหาที่ท่านนำเข้ามาในครอบครัวเราได้เมื่อยามใดท่านค่อยมา ท่านจงจำไว้ ว่าท่านเอาลูกเขาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม แล้วมันเป็นเช่นไร ครอบครัวเรามิได้ร่ำรวยถึงขั้นรับเลี้ยงลูกของผู้ใดมาได้เป็นปี ท่านควรดูแลครอบครัวเราให้ดีก่อน เห็นลูกหรือไม่พวกเขาควรจะอ้วนเป็นก้อนกลม ๆ สิ นี่ต้องมาแบ่งเนื้อเขาไปใส่เด็กอีกคนมันใช่เรื่องดีไหมเล่า ท่านลองตรองดูเอาเถิด ข้าขอตัว”
ว่าจบเธอก็เก็บถ้วยจานเข้าไปล้างหลังบ้าน ก็รู้สึกผิดอยู่นะที่พูดแบบนั้นต่อหน้าเด็ก แต่เอานางมาด้วยทำไมเล่า ร่างนี้ยิ่งหลุดควบคุมบ่อยอยู่ไม่รู้ทำไม ไอ้อารมณ์รักแต่โกรธปนน้อยใจนี่ก็ตีขึ้นมาทุกครั้งที่เจอลู่จิวเลย ชิ
‘สรุปคือไม่หย่า และเอาเด็กไปคืนไม่ได้สินะ เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้ขีดเส้นแบ่งชัดเจนว่าเธอต้องการอะไร จะได้ไม่มายุ่งวุ่นวายกัน ตอนนี้เธอยังจัดการตัวเองไม่เรียบร้อยเลย จิตวิญญาณก็ยังไม่เคยลองเรียกออกมาดู ยิ่งนางไม่ใช่ซูฉีตัวจริงนี่สิ ไหน ๆ บ้านก็ว่างแล้ววันนี้ลองเข้าไปเรียกออกมาในห้างจะได้รึป่าวนะ’