“นี่คุณ !”
“คดีพลิกแฮะ” เป็นบุตรว่าขึ้นมาลอยๆ
“ฮ่าๆๆ ดีจริง มาๆ วันนี้พ่อจะเลี้ยงรับขวัญลูกสะใภ้มื้อแรกเลย” ประมุขของธีรการณ์หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับลุกขึ้นมาตบบ่าลูกชายเบาๆ
คณานางค์ยิ้มแฉ่งส่งไปให้คนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ คิดผิดแล้วคุณปริญญ์ ธีรการณ์ ให้มันรู้ซะบ้างว่าคณานางค์ อนันตทรัพย์มหาศาล ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ คนนับร้อยนับพันต่างขอร้องอ้อนวอนให้เธอรับรัก พร้อมจะถวายหัว (ใจ) ให้ แล้วเขาเป็นใครถึงกล้ามาดูถูก และสาธยายนิสัยของเธอแบบเสียๆ หายๆ ต่อให้เธอจะเป็นแบบที่เขาพูดจริง แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะมาสั่งสอนเธอได้
เป็นไงล่ะ คราวนี้รู้ฤทธิ์ของแม่หรือยัง !
ภายในรถ เวลา 21 : 00 นาฬิกา
“ทำไมคุณถึงตอบพ่อผมไปแบบนั้น”
“ก็ฉันไม่อยากขัดใจผู้ใหญ่ ฉันออกจะเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายซะขนาดนี้ คุณไม่เห็นหรือไง” เธอประชดกลับ
“เหอะ” ปริญญ์ร้องเสียงสูงด้วยความระอา “ผมไม่คิดว่าการพูดกับผู้หญิงแบบคุณจะทำให้ผมเปลืองสมอง เปลืองเวลา ขนาดนี้”
เขายอมรับเลยละว่าวันนี้เขาโกรธ โมโหและไม่พอใจไปซะทุกอย่าง และต้นเหตุทั้งหมดก็มาจากผู้หญิงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขานี่แหละ
“ก็เพราะความเย่อหยิ่งปากดีของคุณนี่แหละเรื่องมันถึงได้แย่แบบนี้” สิ่งที่เธอยอมไม่ได้คือการถูกท้าทาย และเขาก็ดันทำในสิ่งที่เธอแสนเกลียดและยอมไม่ได้ มารู้ตัวตอนนี้ ตอนที่อารมณ์เริ่มเย็นลงแล้วถึงได้รู้ว่าตัวเองได้ทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องแสนยากไปเสียแล้ว
ปริญญ์ส่ายศีรษะไปมาพร้อมฮึมฮัมในลำคอพอให้อีกคนได้ยิน
“เล่นอะไรเป็นเด็กๆ”
คณานางค์ไม่พอใจกับท่าทางที่อีกคนแสดงออกเป็นอย่างมาก เขาพูดเหมือนเธอชอบสร้างเรื่อง และความเสียหายเหมือนเด็กเกเร เธอน่ะโตแล้ว แถมสวยมากซะด้วย
“คอยดูเถอะ ว่าเด็กแบบฉันจะทำอะไรได้บ้าง”
“เลิกเล่น เลิกบ้า แล้วเรามาตกลงกันดีๆ เถอะคุณหนูคณานางค์”
แม้น้ำเสียงที่เขาใช้จะยังนิ่ง และไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ แต่การเรียกขานเธอว่า ‘คุณหนู’ นี่มันทำให้เธออดที่จะเจ็บจี๊ดไม่ได้จริงๆ คนอื่นเรียกแบบนี้เธอไม่เคยรู้สึกแปลก แต่พอเป็นเขาคนที่ว่าเธอไม่รู้จักโต มันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกซะจากเขาแขวะเธอ !
“จอดรถแค่หน้าบ้านนี่แหละค่ะ ฉันพกรีโมตประตูไว้ เชิญคุณกลับธีรการณ์ไปเถอะ”
“นี่ตกลงคุณอยากแต่งงานกับผมจริง ?”
เธอลืมไปซะสนิทได้ยังไงว่าไอ้การที่ไม่ปฏิเสธเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกัน นั่นก็แปลว่าเธอเต็มใจที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่น่าเบื่อ น่าโมโหทุกครั้งที่อยู่ใกล้คนนี้น่ะสิ
“กะ... ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ”
แต่การที่จะให้เธอต้องเสียหน้าหันไปขอความช่วยเหลือ และบอกกับเขาว่าเธอแค่โมโหที่เขาทำท่ารังเกียจ และปฏิเสธเธอได้เต็มปากเต็มคำแล้วละก็ บอกเลยว่าไม่มีทาง
ปริญญ์ถอนหายใจแรงๆ เป็นครั้งที่ล้านของวันได้แล้วมั้ง
“เอ้า เอาก็เอา ในเมื่ออยากแต่งกับผมนักก็ได้ ก็ไม่เถียงหรอกว่าตัวเองหน้าตาดี แต่ถึงขนาดมีสาวอยากแต่งงานด้วยจนถึงขนาดแอบให้พ่อมาทาบทามให้นี่ ก็เพิ่งเคยเจอ”
“คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” เธอถามเสียงเอาเรื่อง นี่อย่าบอกว่าเขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนของเธอเผื่อหวังจะจับเขา ! “นี่อย่าเพิ่งไปนะ กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนสิคุณโต”
‘วันนี้อย่าลืมรับน้องแล้วพาไปหาอะไรกินมื้อกลางวันด้วยล่ะเจ้าโต ทำความคุ้นเคยกันไว้ จะได้สนิทกันเร็วๆ พ่อกับลุงคิดของแกไปดูฤกษ์ดีมาแล้ว แกเตรียมตัวไว้ได้เลย อีกไม่เกินเดือนบ้านเราได้มีงานใหญ่แน่ๆ อ้อ พ่อไม่รู้ว่าแกมีเบอร์น้องหรือยัง เดี๋ยวยังไงพ่อจะฝากข้อความไว้ให้ ติดต่อนัดแนะกันเอาเอง ทางโน้นลุงคิดเขาคงเกริ่นๆ ไว้บ้างแล้วลูกสาวฟังบ้างแล้ว แหม... พ่อละอิจฉาคนหนุ่มคนสาวซะจริง อีกไม่นานคงใกล้คืนวันหวานชื่นเต็มที’
ชายหนุ่มยังจำเสียงหัวเราะอันแสนเริงร่า และคำสั่งของบิดาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนได้อย่างชัดเจน ไม่รู้ทำไมพวกท่านถึงได้รีบร้อนขนาดนี้ อีกไม่ถึงเดือน ดูทุกอย่างจะฉุกละหุกจนเกินไปมาก เขาละอดที่จะหวั่นใจไม่ได้ว่ายายคุณหนูนั่นต้องการอะไรกันแน่ หรือคิดจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก เพราะยังไงเขาก็ไม่มีทางเชื่อว่าเธออยากจะแต่งงานกับเขาจริงๆ
ปริญญ์คงไม่รู้ว่านอกจากเขาแล้วยังมีหญิงสาวอีกคนที่นั่งไม่เป็นสุข หลังจากที่เพิ่งถ่ายแบบเสร็จไปหมาดๆ ในขณะที่กำลังเช็ดเครื่องสำอางที่เธอประเมินว่าคงจะหนาสักสองเมตรออกและตั้งใจจะแต่งบางๆ เพื่อกลบทับไป พร้อมกับเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าชุดเดิมที่เธอใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้าอยู่ดีๆ ก็ดันมีสายด่วนเร็วจี๋ของผู้เป็นบิดาจอมบงการ ที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าจริงๆ แล้วท่านคงอยากบังคับให้เธอทำตามใจมานานแล้ว แต่ไม่เคยสมใจอยาก เพราะทุกครั้งที่ท่านตั้งท่าอยากจะให้เธอเป็นอย่างใจท่าน คณานางค์ก็มักจะเอาเรื่องตอนที่มารดาสั่งเสียไว้ขึ้นมาอ้างเสมอ แม้จะรู้สึกแปลกใจที่คราวนี้ใช้ไม่ได้ผลก็ตาม...
“พ่อนะพ่อ เมื่อวานก็ทีนึงแล้ว ทำอะไรไม่เคยจะปรึกษากันก่อน วันนี้ยังจะมาบังคับให้ไปนั่งกินข้าวกับอีตาจอมโหดปากจัดคนนั้นอีก ไม่เคยจะถามไถ่กันสักนิดว่าหนูอยากจะไปมั้ย”
“เป็นอะไรไปยะคุณน้อง เดินเป็นหนูติดจั่น ปากก็บ่นกระปอดกระแปดมาสักพักใหญ่ๆ ได้แล้วมั้งฮะเนี่ย”
“พี่แมนมาก็ดีเลย วันนี้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนคะน้าหน่อยสิ คะน้าไม่อยากอยู่ตามลำพังกับนายนั่นเลยค่ะ”
แมน หรือแมนดาริน เกย์หนุ่มลูกครึ่งไทยแคนาดาผสมอังกฤษ และลูกเสี้ยวฝรั่งเศส ผู้จัดการส่วนตัวของนางแบบที่ยืนเท้าเอวจังก้าอยู่ต่อหน้า รู้สึกสงสัยว่าเด็กในสังกัดพูดถึงใคร
“ใครกันฮะ หรือว่าเธอเบื่อพ่อเจสันมาดเท่คนนั้นอีกแล้ว ฉันขอเตือนเลยนะ ว่าให้เพลาๆ ลงบ้าง เดือนนี้เธอฟาดไปสี่แล้วนะยะ ฉันละขี้เกียจมาตามแก้ข่าวให้ และไหนจะต้องคอยหาเหตุผลให้พ่อหนุ่มพวกนั้นอีกว่าทำไมเธอถึงไปพบพวกเขาไม่ได้ พวกเขาทำอะไรผิด หรือเธอกำลังคบอยู่กับผู้ชายคนอื่นอยู่”
“พี่แมนอย่าเพิ่งบ่นสิคะ คะน้าไม่ได้หมายถึงคนพวกนั้น ที่คะน้าพูดถึงคือเจ้านายใหม่ สัญญาแสนยาวระหว่างเรากับทีเค ซีนีเพล็กซ์โน่นน่ะค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าพ่อคะน้ากับเจ้าของที่นั่นเป็นทั้งเพื่อนทั้งหุ้นส่วนกัน มันก็เลยเกิดปัญหาที่ว่า เรือล่มในหนองทองจะไปไหนน่ะสิคะ”
“หมายความว่ายังไงยะ”
“ก็หมายความว่าคะน้าโดนจับคู่ และจะต้องถูกบังคับแต่งงานในเร็ววันนี้น่ะสิ”
“อ้าว ก็ไหนบอกว่าเพื่อนพ่อไม่ใช่เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นอายุอานามก็คงจะไม่ใช่น้อยๆ แล้วสิ ไม่น่าเชื่อว่าคุณพ่อที่พี่ยกตำแหน่งแสนใจดีแห่งปีให้ อย่างพ่อของคุณน้องจะทำแบบนั้นได้ลงคอนะคะ”
“ไม่ใช่กับคุณลุงหรอกค่ะ แต่เป็นลูกชายคนโตของคุณลุงต่างหาก ที่ชื่อปริญญ์ ธีรการณ์น่ะค่ะ”
“อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด อกอีแป้นจะแตก” ผู้จัดการหนุ่มดีดดิ้นวี้ดว้ายจนคนมองหมั่นไส้ “คนนั้นพี่รู้จักค่ะ เจอกันตามงานบ่อยๆ แหม...พอพูดถึงบ้านนี้พี่ก็จำขึ้นมาได้เลยว่านอกจากคุณปริญญ์ ที่เป็นลูกชายคนโต บ้านนี้เขาก็ยังมีลูกชายอีกตั้งสามคนไม่ใช่เหรอคะ ไม่อยากจะพูดว่าพี่เนี่ยแอบติดตามความเคลื่อนไหวของครอบครัวนี้มาตั้งนานแล้ว พูดก็พูดเถอะ ว่าอีแมนอยากจะจับกินซะทุกคนเชียว ไม่รู้ว่าเทวดาปั้น หรือเชื้อพ่อเชื้อแม่เขาดีกันแน่นะคะ ลูกๆ ออกมาถึงได้หน้าตาดีขนาดดาราหลายคนยังอาย”