เขาคิดไม่ถึงเลยว่า การปล่อยให้ความขมขื่นเกาะกินใจจนกลายเป็นความแค้น นอกจากจะไม่ก่อประโยชน์อันใด ยังนำมาซึ่งความทุกข์เหมือนจะไม่มีวันสุดสิ้น
แต่กว่าจะสำนึก เขาก็ได้ลิ้มรสชาติของการสูญเสียอย่างแท้จริง!
ความรัก ความแค้น ความเกลียด และความปรารถนาที่พุ่งขึ้นมาในสามัญสำนึกของเขาในเสี้ยวนาที ทำให้เขารุกรานในลักษณะเกือบเป็นบุกตะลุย
หน้าผ่องเผือด ทางตามีน้ำตาไหลริน กระชากความรู้สึกเขารุนแรง
“ขิมจ๋า ผมขอโทษ! แต่ขิมน่ารักเหลือเกิน จนผม...”
เขาวนจุมพิตทั่วหน้าที่วางบนหมอน จูบซับน้ำตาให้ ก่อนมาหยุดนิ่งที่ปาก
ร่างของเขายังไม่แนบลงมาชิด มีแขนทั้งสองยันรับน้ำหนักเอาไว้
ขีโรชารับรู้รสเค็มปะแล่มของน้ำตาตัวเอง ก่อนจะเริ่มสัมผัสความหวานดื่มด่ำของรสจุมพิตอย่างตั้งใจปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาของเธอขึ้นมาอีกระลอกอย่างตั้งใจของชายหนุ่ม
ความเจ็บปวดคลายออกทีละน้อยเหมือนวงกระเพื่อมของน้ำที่ค่อยๆจางหาย
ความหวั่นกลัวในความเจ็บแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น
เธอครางเป็นหอบ เมื่อความแข็งแกร่งที่ยังเหลือของชายหนุ่มเริ่มแทรกซอนเข้าสู่เรือนกายสาว กระทั่งเธอรับเขาไว้ทุกเสี้ยวส่วน รับรู้การกดน้ำหนักตัวของเขาดำเนินไปเป็นจังหวะเนิบๆ แต่เธอยังนอนเฉย สุดแต่เขาจะทำ เพราะปฏิบัติตัวไม่ถูก กระทั่งดรัณภพกระซิบบอกเสียงกระเส่า
“อย่านอนเฉยสิครับคนดี ไปกับผมนะ ขยับด้วยกัน”
เธอทำตาม ด้วยการเริ่มเคลื่อนไหวกายรับจังหวะกับการเคลื่อนส่ายของเขา
เขาคราง เธอก็คราง
เขาบอกให้เธอกอด ให้เธอลูบไล้เขา อย่างที่เขาลูบไล้เธอ เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ขีโรชาแทบไม่รู้ตัวเลย ว่าเมื่อเธอหายใจแรงรัวขึ้นตามลำดับ ร่างกายเธอก็เคลื่อนไหวเร็วขึ้นอย่างต้องการเร่งให้ชายหนุ่มช่วยบรรเทาความรู้สึกที่กำลังทำเอาเธอใจจะขาดอยู่แล้ว