“ผมล้อเล่น มันคือชุดนอนต่างหาก...” พูดยังไม่ทันจบประโยคดี ต้นแขนแกร่งก็ถูกหยิกหมับเข้าให้เต็มแรง “โอ๊ย แสนผมเจ็บ”
แสนรักยอมปล่อยมือแล้วกลอกตาไปมา
“แสน ผมแค่ล้อเล่นหน่อยเดียว ทีแสนยังเคยแกล้งผมตั้งหลายครั้ง เคยทิ้งให้ผมไปรอที่ร้านอาหารคนเดียวแล้วไม่มาก็ยังมี ผมยังไม่โกรธเลยนะครับ ไม่เอาน่าอย่างอนนะครับ” เมื่อเห็นแสนรักพยักหน้าให้แล้วเขาเลยพูดต่อ “แสนครับที่ผมซื้อชุดนอนให้ก็เพราะไม่อยากให้แสนไปใส่ชุดนอนของคนอื่น ผมเลยซื้อมาให้แสนเก็บไว้ที่รถ เวลาต้องไปค้างที่อื่นจะได้มีของตัวเองใส่ไม่ต้องยืมใคร”
จากเหตุการณ์วันนั้นภควัติไม่สบายใจเลยที่เห็นแสนรักสวมชุดนอนที่เป็นของคนอื่น เขารู้แล้วว่าแสนรักไปนอนบ้านของกีรณา แต่ไม่รู้ว่าชุดนอนนั้นผ่านมือผู้ชายคนไหนมาบ้างและยังมาทาบทับบนร่างกายของแสนรักอีก เขาไม่อยากคิดมากแต่ว่ามันก็อดคิดไม่ได้ เขาจึงตัดปัญหาด้วยการซื้อไว้ให้แสนรักเลยน่าจะดีกว่า
แสนรักมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่นึกเลยว่าเขาจะลงทุนไปซื้อชุดนอนมาให้ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าถุงยางและเซ็กซ์ทอยที่เขาหยอกเย้าเมื่อครู่
“เปิดดูสิครับ”
แสนรักคลี่ออกตามที่เขาบอกก็พบว่าเป็นชุดกระโปรงที่เรียบร้อย ตัวกระโปรงยาวคลุมเข่า ส่วนแขนเสื้อก็เป็นแบบแขนตุ๊กตายาวถึงข้อมือ ปกปิดมิดชิดไม่มีทางเห็นผิวกายเลย เธอเกือบจะหลุดหัวเราะอยู่แล้วเพราะชุดนอนทรงนี้เธอเลิกใส่ตั้งแต่อายุสิบสองแล้ว
“แสนว่ามันเหมือนชุดนอนเด็กที่อยู่โรงเรียนประจำเลยนะคะ คุณคิดว่าแสนเป็นลูกสาวหรือไงคะ” เธอไม่เข้าใจถึงความไม่สบายใจของเขา ในเมื่อชุดนอนที่กีรณาให้สวมก็เป็นของใหม่ยังไม่ได้ใส่มาก่อน แต่เมื่อเห็นเขาเอาแต่จ้องมองมาโดยไม่ยอมเอ่ยอะไรอีก เลยเลิกคิ้วมอง
“จริงๆ ผมชอบเด็กผู้ชายแต่ถ้ามีลูกสาวก็ดี ผมคิดว่าต้องสวย น่ารัก เหมือนแสน งั้นคืนนี้ทำลูกสาวกันเลยไหมครับ”
“คุณท็อปคะหื่นเกินไปแล้วนะ”
“ผมเป็นคนตรงๆ ครับ คิดอะไรก็พูดแบบนั้น”
“ถ้าอยากมีลูก แล้วซื้อคอนด้อมมาทำไมคะ” แสนรักถามกลับอย่างบ้าบิ่นก่อนจะหน้าแดงเพราะถูกเขามองมาด้วยสายตาวาววาม
“ผมไม่ติดนะครับ ถ้าจะไม่ใส่ถุง” เขาพูดเสียงปร่าขึ้นมาทันทีจนแสนรักหน้าแดงซ่าน
“เอ่อ แสนพูดผิดไป เรายังไม่ได้แต่งงานกัน จะข้ามไปเรื่องลูกได้ยังไงกัน” แสนรักบอกด้วยความขัดเขิน ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เฉยชา
“นั่นสิ เรายังไม่แต่งงานกัน สถานะผมก็ไม่มี ผมไม่น่ารีบใจร้อนอยากมีลูกเลย”
แสนรักฟังจบก็มองค้อนเขา เพราะรู้ว่าถูกเหน็บแนมเข้าให้ เลยเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้บรรยากาศอึดอัด “แสนว่าชุดนี้ก็น่ารักดีค่ะ จะเอาไว้ใส่ที่ห้องด้วยดีกว่า”
“อย่าเลยครับที่ห้องของแสน ผมว่าแสนใส่แบบเดิมที่เป็นซีทรูสีเนื้อดีแล้ว ผมชอบให้เซ็กซี่แบบนั้น”
“ทำไมที่ห้องให้ใส่ได้”
เขายื่นหน้าหล่อๆ มาใกล้แล้วพูดเสียงนุ่มหวานปนแหบพร่า “ก็ที่ห้องไว้ใส่ให้ผมดูคนเดียว อย่าไปใส่ที่ไหน ผมหวง”
แสนรักดันหน้าหล่อๆ ที่เลื่อนเข้ามาใกล้แล้วทำท่าจะจูบเธอออกไป ต้องทำใจแข็งไม่ให้หวั่นไหวไปกับน้ำเสียงทุ้มพร่าที่จ้องจะล่อหลอกให้เธอใจอ่อน ครั้งที่แล้วก็เกือบถูกเขากินตับไปแล้วหนหนึ่ง
“แสนจะรับน้ำใจของคุณไว้ คุณเปย์เก่งแบบนี้สาวๆ ถึงชอบ”
“แค่ชุดนอนเองนะครับ” ภควัติมีสีหน้างงขึ้นมาทันที แสนรักโยงมาเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
“ทั้งทรีตเก่ง เอาใจเก่ง แสนเคยอ่านข่าวก็อตซิปของดาราสาวที่เป็นแฟนเก่าของคุณ ในข่าวเขียนว่าตอนเขาเลิกกับคุณ เขาเสียศูนย์ไปเลย น่าจะเสียใจมากที่คุณเลิกไป ตอนที่คุณคบกับดาราสาวคนนั้นก็เห็นมีภาพควงไปซื้อกระเป๋าแอร์เมส ซื้อแหวนเพชรออกบ่อย เปย์เก่งตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว”
“ลืมแล้วว่างั้นหรือคะ”
“โธ่ แสน ข่าวเก่ามากแล้วแสนยังเอามาถามอีก”
“ก็ตอนนั้นคุณดังมาก”
“ดังอะไรกัน ผมก็อยู่ของผมแบบเดิม”
“คบกับนางเอกเลยนะคะ ตอนนั้นคุณมีข่าวไม่เว้นแต่ละวันในโซเชียลมีเดีย แถมยังได้ฉายาเซเลบจอมสับขาหลอกมาด้วยนี่คะตอนที่เลิกกับนางเอกคนนั้นน่ะ”
“ไม่เห็นจริงสักหน่อยเซเลบสับขาหลอกอะไรกัน นักข่าวเขียนกันไปเองทั้งนั้น” เขาปฏิเสธไม่ยอมรับแถมยังทำสีหน้าคล้ายจะรังเกียจฉายาที่มีคนตั้งให้ด้วย
“ตอนนั้นคุณมีข่าวกับไฮโซนุช คนที่คุณแต่งงานกับเขา มันเหมือนว่าไทม์ไลน์ตอนที่คุณเลิกกับดาราสาวคนนั้นมาคบกับไฮโซนุชมันทับซ้อนกันอยู่ เขาก็เลยว่าคุณคบซ้อนแต่ให้ข่าวเพื่อสับขาหลอกว่าไม่มีอะไร”
“ผมไม่ได้คบซ้อน ผมเลิกกับแก้วเขาแล้วจริงๆ ถึงได้มาแต่งกับนุช”
“เลิกกันแล้ว แล้วทำไมใช้เวลาแค่เดือนเดียวมาแต่งงานล่ะคะ” แสนรักเลยถามทั้งหมดที่สงสัยต่อในทันที
“นุชเป็นคนที่คุณแม่ของผมท่านเลือกไว้ให้ ตอนนั้นผมคิดว่าตามใจคุณแม่เพราะช่วงนั้นผมเองก็เพิ่งเลิกกับแก้วมาด้วยเลยทำตามที่ท่านต้องการ ดังนั้นเวลาหนึ่งเดือนที่แสนถามผม ผมยอมรับว่าน้อยมากจริงๆ แต่ผมกับนุชก็ตกลงแต่งงานกันด้วยแต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง”
“คุณเพิ่งเลิกกับแฟนมาพอดี แล้วมาเจอคุณนุช ทุกอย่างคงเป็นเรื่องที่พรหมลิขิตไว้แล้ว”
“แต่ต่อมาเราก็เลิกกัน พรหมก็ลิขิตไว้เหมือนกัน” เขารีบตอบ ไม่อยากให้แสนรักคิดมากกับอดีตของเขาจนก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก
“คุณไม่โกรธใช่ไหมคะที่แสนถามเรื่องแฟนเก่าของคุณ”
“ไม่โกรธครับ ผมยินดีตอบทุกอย่าง ทุกคำถามที่จะทำให้แสนเชื่อมั่นในตัวผม มีอะไรหรือสงสัยตรงไหนก็ถามได้เลย”
แสนรักพยักหน้า แล้วถามต่ออย่างไม่เกรงใจ ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้แล้ว “งั้นแสนขอถามต่อค่ะ สุดท้ายแล้วคุณก็เลิกกับคุณนุชสาเหตุเพราะอะไรคะ”
“เราสองคนมีความคิดแตกต่างกันในทุกเรื่อง และที่สำคัญที่สุดเราไม่ได้รักกัน”
แสนรักรับฟังด้วยความสนใจ เขาบอกว่าไม่ได้รักภรรยาเก่าเลยเป็นสาเหตุที่เลิกกัน มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะคู่ของเขานั้นถูกผู้ใหญ่จับคู่ให้ เธอฟังเรื่องคู่แต่งงานที่ถูกจับคลุมถุงชนแล้วสุดท้ายก็เลิกรากันมาเยอะมากจึงไม่ประหลาดใจ อย่างไรเสียการที่ภควัติยอมรับกับเธอว่าเลิกกับภรรยาเก่าเพราะไม่ได้รักก็ดีกว่าหลายคู่ที่เลิกกันเพราะนอกใจ
“แล้วก็เลยหันมาเต๊าะสาวมหา’ลัยแทน เพราะต่อมาคุณก็มาคบกับพวิกาอยู่ช่วงหนึ่งด้วย”
ถึงตอนนี้แล้วภควัติก็ยังรู้สึกว่าเขาพร้อมจะเคลียร์ตัวเองทุกอย่างให้แสนรักฟัง เขาเต็มใจที่จะตอบเพื่อให้สาวคนรักได้พิจารณาเขาจากการกระทำในปัจจุบันและนำเรื่องในอดีตมาพิจารณาอย่างครบทุกมุม
“ใช่”
ทั้งที่แสนรักรู้คำตอบอยู่แล้วแต่ก็อดเสียวแปลบในใจไม่ได้ ทุกคนสวย เก่ง มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองแล้วเธอล่ะแสนรักอดเปรียบเทียบไม่ได้
“ก่อนหน้าพวิกา ก็ยังมีสาวดาวคณะนิเทศน์อีกคน พวิกาเคยเล่าให้แสนฟังว่าคุณเคยจีบสาวในมหาวิทยาลัยเดียวกับพวิกาแต่ว่าถูกพวิกาแสดงตัวว่าเป็นแฟน สาวคนนั้นก็เลยถอยไปเลย”
“ละเอียดยิบขนาดนี้ผมชักกลัวแล้วนะครับแสน”
“ก็ประวัติคุณยาวยืดถามวันนี้ก็ยังไม่จบเลย นี่ยังไม่รวมว่าเคยจีบอิ๊งค์พี่สะใภ้ของแสนด้วยนะคะ ให้นามบัตรแล้วก็หว่านเสน่ห์จริงจังมากจนอิ๊งค์กับพี่ตฤณเกือบเข้าใจผิดกัน”
“เรื่องนี้ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมไม่รู้ว่าอิ๊งค์เป็นแฟนกับหมอตฤณ”
“แสนทราบค่ะ ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบแย่งแฟนชาวบ้าน แสนคงไม่คบกับคุณ”
“งั้นแสดงว่าผมก็มีข้อดีให้แสนชอบอยู่เหมือนกันใช่ไหม”
“แสนยอมรับค่ะ ว่าคุณนิสัยดี หล่อ รวย มีสาวๆ มากมายพร้อมยื่นไมตรีให้ บางทีแสนก็คิดว่าคุณชอบแสนจริงเหรอ แสนอายุสามสิบสองไม่เหมือนสาวคนก่อนๆ ที่คุณจีบ อายุแค่ยี่สิบกว่าเอง”
“แสนอย่ากังวลเรื่องนี้อีกนะครับ ตอนนี้ผมโฟกัสแค่แสนคนเดียว ผมรู้ใจตัวเองดีที่สุด แสนไม่เชื่อผมก็ได้ แต่คอยดูผมไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะตัดสินผม”