ขวัญพธู บทที่1.ความอดทนขาดผึ่ง!!
ขวัญพธู
วรดร @ เขียน
บทนำ
ผู้หญิงหนึ่งเดียวที่มีบทบาทและมีอิทธิพลเหนือจิตใจของสีหนาท เด็กสาววัยละอ่อน อายุต่างกับเกือบ 15ปี บุตรสาวของพี่ชายนอกสายเลือด เขาพยายามถอยห่าง และมองเธออยู่ไกลๆ เมื่อตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอจะจับจองเป็นยอดขวัญ ขวัญพธู เด็กสาวที่น่ารัก กริยานอบน้อม เขาเฝ้ามองห่างๆ และทำตัวเป็นคุณอาที่น่าเคารพ ทั้งที่อยากจะขย้ำหล่อนวันละ3 รอบหากขวัญพธูอยู่ใกล้ๆ
ต้องทำตัวเป็นคาสโนว่าเพื่อปกปิดพิรุธในใจ ไม่อยากให้ความเคารพนับถือคลอนแคลน เพราะเขาคิดกับเธอมากกว่าหลาน อยากสอนประสบการณ์ชวนระทึกขวัญให้หล่อนรับรู้ แต่ต้องเก็บงำเอาไว้...เพราะฐานะอาค้ำคอ...เขาเป็นได้แค่ ‘อา’ จริงเหรอ? ไม่นะ ไม่ยอมหรอก...
บทที่1.ความอดทนขาดผึ่ง!!
“โครม!!”
เสียงกัมปนาทดังกึกก้อง...รถยนต์สปอร์ตหรูถูกค้อนขนาดพอเหมาะมือทุบเสียงดังเปรื่องปร้าง เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่น เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยวิ่งกรูเข้ามาดูเหตุการณ์ ก่อนจะยืนสงบนิ่งเมื่อคนที่ก่อเหตุคือ ขวัญพธู ผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ท่านประธานใหญ่สั่งให้ดูแลเป็นพิเศษ และรถยนต์คันนั้นก็เป็นของท่านเจ้าของเองด้วย
“คุณขวัญครับ...เอ่อ...หยุดดีกว่าไหมครับ!!” เสียงตะกุกตะกักพยายามห้าม เป็นทางเดียวที่พอจะทำได้ เมื่อเธอกำลังองค์ลง ห้ามไปก็กลัวตัวเองจะเจ็บตัว
“ไม่!! ขวัญจะพังรถยนต์อาสิงห์ให้ยับ!! ไม่ให้มันกลับมาใช้การได้อีกครั้ง!! ... อาสิงห์จะได้ไม่พาคนนั้นคนนี้ขึ้นมานั่ง ที่ตรงนั้นเป็นของขวัญคนเดียว ขวัญไม่ยอมให้ใครซ้ำรอยอีกแล้ว”
จากเด็กสาวที่เรียบร้อยดังผ้าพับ วันนี้เธอกลายร่างเป็นนางร้าย และกำลังอาละวาดขว้างปาข้าวของ รวมทั้งกระหน่ำซัดฝากระโปรงรถยนต์ไม่ยั้ง!!
“แต่ว่า...คุณขวัญกำลังทำร้ายของที่มันไม่มีชีวิตแล้วก็ไม่รู้เรื่องนะครับ”
“ของอาสิงห์ แค่รถยนต์คันเดียว ขนหน้าแข้งอาสิงห์ไม่ร่วงหรอกค่ะ” เธอหยุดทุบ ยืนหอบแฮกๆ เหงื่อไหลเต็มใบหน้าและ ยอมทิ้งค้อนดีๆ พนักงานรักษาความปลอดภัยใจกล้า เขากระโจนเข้าไปคว้าค้อน และรีบวิ่งหนี ปล่อยให้หญิงสาวยืนอ้าปากค้าง เมื่ออาวุธทำลายล้างถูกฉกชิงไปจนได้
“ชิ!!” ขวัญพธูเตรียมจะชิงหนี เธอกำลังจะก้าวเดินออกจากลานจอดรถยนต์ แต่...
“ปล่อยน๊า...มากอดขวัญทำไม ปล่อยเลย นาววววว!!” อ้อมแขนแข็งแรงสวมกอดจากทางด้านหลัง เขารัดแน่นและพาดผ่านเนินอกแรกผลิเข้าพอดี
“นึกอะไรขึ้นมาคะขวัญ ทำไมถึงทำแบบนี้กับรถของอา” เสียงเคร่งๆ กระซิบถาม เขาเผลอตัวสูดกลิ่นหอมๆ ตรงหลังต้นคอ จนลืมคำถามเมื่อสักครู่ไปสิ้น
“อาสิงห์ไม่พอใจ? โกรธขวัญเหรอคะ? ที่ขวัญทำกับของรักของหวงของอาสิงห์!!”
“ปะเปล่าค่ะ...ขวัญทำแล้วสบายใจ ก็เชิญทำไปเถอะค่ะ...อาสิงห์แค่อยากรู้เหตุผล...แค่นั้นเอง”
“แค่อยากทำค่ะ หมั่นไส้คนบางคน...ทำบัดสีจนขึ้นหน้าหนึ่ง ไม่อายผีอายสาง” ต้นเหตุมาจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพาดหัวข้อข่าวคึกโครม ฉากเลิฟซีนที่ไม่มีเซนเซอร์ระหว่างหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังกับนางแบบสาวชื่อก้อง บนรถยนต์คันนี้ในลานจอดรถยนต์ใต้ถุนคอนโดหรูของนางแบบสาว เสียงครางซี๊ดซ๊าด กับเสียงเครื่องยนต์สั่นกราว แถมภาพที่นักข่าวสามารถเจาะได้ เป็นภาพที่สะเทือนวงการ แต่ชายหนุ่มกลับเฉยเมย เมื่อมันเป็นเรื่องปรกติวิสัย ที่ใครๆ ก็นิยมกินตับ แม้จะไม่ใช่ในห้องหับส่วนตัว
ชายหนุ่มหัวเราะก๊าก...เขารัดมือแน่นขึ้น สวมรอยกดปลายจมูกกับพวงแก้มใสของหลานสาว ฉวยโอกาสเอาซึ่งๆ หน้า ขวัญพธูไม่รู้หรอก... หากไม่ได้เธอ...สวรรค์ที่ใครๆ ชมค่อนเมือง ว่ามันถึงพริกถึงขิง...คงล่มไม่เป็นท่า... เพราะอาวุธประจำตัวมันไม่ยอมทำงาน... มันหดเหี่ยว... แห้ง...เหมือนกอหญ้าโดนไฟร้อนๆ รน แต่...พอคิดถึงใบหน้าฉ่ำหวานของหลานสาว มโนว่าหล่อนคือคู่ปฏิบัติการแค่นั้นแหละ ...มันคึกคักโดดเด้ง...และสามารถปฏิบัติการไปถึงฝันได้สำเร็จ...แม้แค่ความคิด เขายังถึงสวรรค์ได้เลย... หากเป็นความจริง!! โอแม่เจ้า...ไม่อยากจะคิด หากสามารถได้ขวัญพธูมานอนใต้ร่าง ครวญครางพร่ำร่ำร้องเรียกแต่ชื่อของเขา และมองเขาด้วยสายตาหวานฉ่ำ คงจะสุขฉ่ำไม่ใช่น้อย
เห้ย!! พอเลยพี่ภพคงได้เอาปืนลูกซองยัดปากมึงละสิ ที่ทะลึ่งไปชวนลูกสาวสุดโปรดของเขามาเล่นเกมจ้ำจี้ ท่องเอาไว้ไอ้สิงห์ ขวัญพธูคือนางห้าม ห้ามแตะต้อง ห้ามคิดเกินเลย ห้ามๆ!! เสียงฝ่ายดีในตัวร้อนเตือน สีหนาทสะดุ้งโหยง รีบชักจมูกกลับและปรับสีหน้าแววตาเสียใหม่ เกือบไปแล้วไหมล่ะ เกือบกลายร่างเป็นหมาป่า ขย้ำลูกกระต่ายตาวาวๆ
“มันเป็นภาพหลุด ไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่าที่เห็นหรอกค่ะ” ชายหนุ่มพยายามแก้ตัว เขามองผิวแก้มเนียนใสตามันวับ แต่ก็ทำได้แค่...กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่มีสิทธิทำให้ขวัญพธูแปดเปื้อน เธอสูงค่าเกินกว่าจะไปคว้ามาเชิดชู เขาเป็นคนที่หล่อนนับถือ เขาเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กๆ และความเคารพที่มีต่อบิดาของเธอ ทำให้เขาเป็นได้แค่คุณอา นอกสายเลือด...
“ชิ!! ภาพหลุด ผ้าหลุดสิไม่ว่า”
“วันนี้ขวัญเป็นอะไรจ๊ะ อารมณ์ไม่ดีเลย ไปๆ อาสิงห์เลี้ยงขนมเค้กใต้ตึก วันนี้มีเค้กตัวใหม่ คุณพิมเธอทำไว้รอขวัญโดยเฉพาะ”
“ไม่ต้องเอาขนมมาล่อขวัญค่ะอาสิงห์!! ขวัญไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ!!”
“เอ...รู้สึกว่าจะเป็นเครปเค้ก สตอว์เบอรีนะ” ชายหนุ่มยอมคลายอ้อมแขนด้วยความเสียดาย เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่ารถยนต์ตัวเองพังยับ สิ่งที่เขาอยากเห็นคือรอยยิ้มของหลานสาว แทนใบหน้ายับยู่ยี่ของเธอ
“ปีนี้ขวัญ21แล้วค่ะ ขวัญไม่สนขนมเด็กๆ” ขวัญพธูเชิดใบหน้าขึ้น เธอเม้มเรียวปากแน่น กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เมื่อภาพขนมเค้กเป็นชั้นๆ หลากสี ราดด้วยแยมสตอว์เบอรีเยิ้มๆ ลอยยั่วอยู่ในความคิด
“หมายความว่าไม่ทานงั้นสิคะ”
“ทานค่ะ แต่ไม่ต้องมาล่อขวัญ ขวัญอยากทานหรือไม่มันเรื่องของขวัญเอง!!
หญิงสาวหมุนตัวเดินหนี เธอย่นปลายจมูก และสะบัดค้อนให้คุณอาวัยหนุ่ม หึ้ย!! หมั่นไส้ เอาของกินมาล่อ คิดหรือว่าเธอจะอภัยให้ เขาทำตัวน่าเกลียด จนเธอสุดกลั้น!! ที่นั่งตรงนั้นเธอหวง แค่ให้นั่งยังพอทน ที่มาทำบัดสีบัดเถลิงจนเป็นข่าวคึกโครม...มันน่าทุบให้พังมากกว่านี้เสียอีกด้วยซ้ำ
“อารมณ์ดีขึ้นยังคะ”
“ยังค่ะ... ขวัญไม่ได้อารมณ์เสีย...ขวัญแค่โมโห” ช้อนเล็กตักเครปเค้กเนื้อนุ่มขึ้นใส่ปาก เธอเคี้ยวหยับๆ และตวัดค้อนสีหนาทไปด้วย
“จะโมโหอะไรนักหนาคะขวัญ อาขอโทษก็แล้วกัน แต่อาสิงห์ผิดเรื่องอะไรเอ่ย?”
“อาสิงห์ไม่รู้ตัวเหรอคะ!! อาสิงห์ทำอะไรลงไป มันน่าเกลียดและมันจะทำให้อาสิงห์เสียภาพพจน์” ขวัญพธูตวาดเสียงแหลม มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสีหนาท แต่มันดูไม่ดีในสายตาคนทั่วไป เธอไม่อยากเห็นสีหนาททุกข์ใจ หากหุ้นส่วนในบริษัทยกมาเป็นข้ออ้างในการปลดเขาออกจากตำแหน่งสูงสุด ถึงเขาจะมีอำนาจสูงสุดก็เถอะ!!
“แหะๆ สารภาพเลยนะคะขวัญ...อาไม่รู้จริงๆ”
“อาสิงห์ไม่รู้ว่าทำผิด!! แล้วอาสิงห์มาขอโทษขวัญทำไมคะ?”
“อ้าว...อาไม่อยากให้ขวัญหน้าบึ้งนี่คะ เดี๋ยวหน้าย่นรู้ไหม อาชอบขวัญยิ้มหวานๆ มากกว่า...แบบนั้นน่ารักกว่าเป็นไหนๆ”
ขวัญพธูเบ้ปาก เห้อ!! เธอไม่เคยโกรธสีหนาทได้เกิน30 นาทีเลย เขาเป็นคุณอาที่เธอรัก!! รักแบบหนุ่มสาวนะ ไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่แสดงออกมากก็ไม่ได้ เมื่อชายหนุ่มยังทำตัวปรกติ เขาเห็นเธอเป็นเด็กตลอดกาล...ความรักของเธอจะสมหวังไหม? เธอจะสามารถเปิดปากพูดกับสีหนาทถึงเรื่องราวภายในหัวใจได้หรือเปล่า เขาจะคิดเกินเลยกับเธอ และเขาจะจูบเธอเหมือนที่ทำกับคนอื่นไหม? แค่แตะๆ เหนือหน้าผาก ขวัญพธูคิดว่ามันไม่พอแล้วล่ะ เธออยากจูบริมฝีปากหนาๆ ของสีหนาท อยากชิมรสชาติผู้ชายทั้งแท่งของเขา เธอไม่ได้แก่แดดนะ...เธอโตพอที่จะมีสามีได้แล้ว และคนที่เธอคิดจะตกลงปลงใจด้วย คือชายหนุ่มตรงหน้านี่แหละ อายุห่างกันสิบห้าปี ไม่ใช่ปัญหา...