หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ภีมภากรเข็นรถเข็นมานั่งรอกุ๊งกิ๊งบนม้านั่งหน้าร้านขายเครื่องสำอาง รอไม่นานเธอก็เดินออกมาหาเขาพร้อมของที่พึ่งซื้อมาอีกสองถุงใหญ่
“เสร็จแล้วค่ะ”
“หิวหรือยังครับ”
“หิวแล้วค่ะ”
“กลับกันเถอะครับ จะได้ออกไปดินเนอร์กัน” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เธอเดินเข้าไปควงแขนเขา
ทั้งคู่เดินเข็นรถเข็นกลับมาที่รถมินิคูเปอร์ของเธอ ถุงช็อปปิงเต็มท้ายรถ หนุ่มสาวช่วยกันเก็บของที่พึ่งซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตและถุงเครื่องสำอางอีกสองถุงใหญ่ไว้ที่เบาะหลัง
รถคันจิ๋วอัดแน่นไปด้วยของมากมาย ทั้งคู่ขึ้นนั่งประจำที่นั่งของตัวเอง เธอยังคงอาสาขับรถกลับให้เขาเช่นเดิม
“เมื่อยหรือเปล่าคะ”
เธอเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งขาตั้งฉากอยู่ที่เบาะข้างเธอ เขาขยับไปมา ขายาว ๆ กับรถคันเล็ก ๆ ของเธอ ท่าทางเขาจะเมื่อยน่าดู
“นิดหน่อยครับ ดูข้างนอกว่าเล็กแล้ว ได้ลองเข้ามานั่งยิ่งเล็กกว่าเดิม”
“ตอนที่เราไปดูคันนี้ กิ๊งก็ว่ารถเล็ก ๆ น่ารักดี แต่พอใช้ไปสักพักกลับรู้สึกว่ามันเล็กจัง ดูสิคะ ของเต็มรถเลย” เธอรีบพูดเสริมทันที
เขารับฟังแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ไม่นานทั้งคู่ก็กลับมาถึงคอนโดหรู หลังจากเก็บทุกอย่างเข้าที่ของมันก็เกือบหนึ่งทุ่ม ทั้งคู่เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวออกไปดินเนอร์ในร้านที่เขาจองไว้
และครั้งนี้เขาไม่ยอมให้เธอได้พูดอะไรอีก ร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทสีดำทั้งตัวจูงมือเธอขึ้นรถแลมโบกินีคันหรูของเขาทันที
**********
ร่างบางสวมชุดเดรสที่พึ่งซื้อมาวันนี้ เดรสเกาะอกสั้นรัดรูปความยาวประมาณครึ่งน่องสีไข่มุกประดับกากเพชรแวววาวระยิบระยับโชว์เรียวขายาวได้รูป
เธอสวมรองเท้าส้นสูงสีเงินผสมกลิตเตอร์เปิดเปลือยหน้าเท้าประด้บด้วยคริสตัลรูปโบว์ส่งให้คนตัวเล็กดูสูงเพรียวกว่าเดิม กระเป๋าใบจิ๋วสีครีมมีสายโซ่ไว้สำหรับคล้องข้อมือ
ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ผมยาวไฮไลท์สีน้ำตาลอมเทาถูกดัดเป็นลอนสวย เธอสวมต่างหูเพชรและกำไลคาเทียร์สองวงบนข้อมือซ้าย
เดินเคียงข้างคนระดับเขา เธอดูไม่ต่างจากลูกคุณหนูตระกูลไหนสักตระกูล
หญิงสาวเดินเคียงคู่เขาเข้าไปในร้านอาหารหรูที่ตั้งอยู่บนชั้นที่ยี่สิบแปดของโรงแรมหรูชื่อดัง ร้านนี้จองคิวไม่ง่าย ปกติต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือน แต่เพราะเพื่อนสนิทของภาสกร พี่ชายคนกลางของเขา เป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ เขาจึงได้โต๊ะในคืนนี้
บริกรชายเดินนำทั้งคู่เข้ามานั่งที่โต๊ะที่อยู่ริมสุดติดกับกำแพงกระจกที่สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนได้ชัดที่สุด
“บรรยากาศดีอย่างที่คุณภีมบอกเลย” เธอมองดูบรรยากาศรอบ ๆ
“ผมดีใจที่กิ๊งชอบ”
“สำหรับกิ๊ง แค่ได้อยู่กับคุณภีม ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนกิ๊งก็ชอบหมดแหละค่ะ” เธอเอ่ยออดอ้อนเสียงหวาน
“กิ๊งอ้อนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวหรอกครับ”
“ทำไมล่ะคะ”
“ผมจะจับกิ๊งกินแทนข้าวไงครับ”
โอ้ย คุณภีมขาของเธอ หื่นได้ทุกที่ทุกเวลาจริง ๆ
“คุณภีมขา กิ๊งหิวจนไส้กิ่วแล้วค่ะ ให้กิ๊งกินข้าวก่อนนะคะ กลับบ้านไปค่อยกินกิ๊งเป็นของหวาน” ยังไม่วายพูดหยอกเขาปิดท้าย
ภีมภากรอมยิ้มหัวเราะออกมาเบา ๆ กุ๊งกิ๊งก็คือกุ๊งกิ๊ง เธอตอบรับเขาได้เสมอ
“ร้านนี้ล็อบสเตอร์อร่อย ลองกินดูไหมครับ”
“ได้ค่ะ สั่งมาแชร์กันได้ไหมคะ กิ๊งอยากลองหลายอย่าง”
“เอาสิ”
“งั้นกิ๊งเอาสเต็กปลากับสลัดผักด้วยนะคะ”
เขาเรียกบริกรเข้ามารับออเดอร์พร้อมสั่งไวน์แดงมาอีกขวด ผ่านไปสักพักบริกรก็ยกไวน์แดงที่เขาสั่งเข้ามาเสิร์ฟพร้อมช่อดอกไม้สวยที่เขาโทรสั่งไว้ล่วงหน้า เขารับช่อดอกไม้จากบริกรแล้วยื่นส่งให้เธอ
“ยินดีด้วยนะครับ เรียนจบแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มกว้างรับช่อดอกไม้สวยจากเขามาดม
เธอเรียกให้บริกรถ่ายรูปให้ ภาพเขาและเธอนั่งอยู่บนโต๊ะดินเนอร์หรูพร้อมช่อดอกไม้ในมือของเธอหลายภาพถูกถ่ายเก็บไว้ในโทรศัพท์เครื่องหรู เตรียมโพสต์บนอินสตาแกรมอวดเพื่อน ๆ
“มาดื่มให้กับความสำเร็จอีกขั้นของกิ๊งกันครับ”
เขายกแก้วไวน์ขึ้นยื่นไปตรงหน้าเธอ เธอรีบหยิบแก้วของเธอขึ้นมาชนแก้วเขาเบา ๆ
“นุ่มลิ้นสุด ๆ” เธอยกไวน์ขึ้นจิบเมื่อเห็นว่ารสชาติถูกใจจึงยกขึ้นมาดื่มอีกครั้งจนหมดแก้ว
“แต่ว่าจบแน่นอนนะครับ ไม่ใช่ผมยินดีเก้อนะ” เขาแกล้งหยอกเธอเล่น รู้อยู่ว่าเธอเป็นคนที่เรียนดีใช้ได้
กุ๊งกิ๊งไม่ใช่แค่สวยใสไร้สมอง เห็นเธอแบบนี้เธอไม่ได้กะโหลกกะลา เธอเป็นเด็กเรียนดี กิจกรรมแน่นมาแต่ไหนแต่ไร
“โธ่ คุณภีมขา ระดับกิ๊งมีหรอคะ จะไม่จบ คุณภีมเตรียมของขวัญรอกิ๊งได้เลย เกียรตินิยมแน่นอนค่ะ” เธอตอบกลับอย่างมั่นใจ
“แบบนี้คนจ่ายค่าเทอมค่อยชื่นใจหน่อย” ก็เขานั่นแหละที่เป็นคนจ่าย เด็กเขาเรียนดีแบบนี้ ไม่เสียแรงที่ส่งเธอเรียน
“ขอบคุณคุณภีมด้วยนะคะที่ส่งกิ๊งเรียนจนจบ”
ตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่กับเขา เขาขอให้เธอเลิกรับงานพริตตี้และงานถ่ายแบบทุกชนิด ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเขาเสนอตัวเป็นคนรับผิดชอบแทนซึ่งเขาก็ทำอย่างที่พูดจริง ๆ
“เห็นกิ๊งเรียนดีแบบนี้ ผมไม่เสียดายเงินเลย”
เธอยิ้มดีใจกับคำชมของเขา
สักพักบริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟ เธอหิวมากแต่ไม่ลืมที่จะตักอาหารให้เขาก่อน ถึงจะทำอาหารไม่เป็นแต่เธอเอาใจเก่งที่หนึ่ง
ต่างคนต่างกินอาหารที่อยู่บนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย บางครั้งผลัดกันป้อนกันไปมา พูดคุยเรื่อยเปื่อย จนอาหารพร่องเกินครึ่ง
“กิ๊งอยากได้รถใหม่ไหม ผมจะซื้อให้เป็นของขวัญที่กิ๊งเรียนจบ”
“จริงหรอคะ” เธอเผลอตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
เยส! แผนที่เธอวางไว้สำเร็จอย่างง่ายดาย
“จริงสิครับ ผมเห็นรถคันเก่ามันเล็กไปหน่อย ผมจะซื้อคันใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมให้”
“กิ๊งอยากได้รถใหม่ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพาไปเลือกนะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณภีมน่ารักที่สุด”
เธอยิ้มกว้างดีใจ คิดในใจว่าเขาติดกับดักของเธอเข้าอย่างจัง หารู้ไม่ว่าภีมภากรไม่ได้โง่ เขาเป็นระดับผู้บริหารบริษัทใหญ่ขนาดนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ทันเธอ
เด็กหนอเด็ก…
อยากได้ก็ไม่ขอ พาเขานั่งอัดในรถจิ๋วเสียจนปวดเมื่อยตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้า สงสัยคืนนี้ต้องใช้ให้นวดให้เสียหน่อยแล้ว
**********
กลับมาถึงคอนโด คนตัวโตยังไม่ทันเอ่ยปากขอ คนตัวเล็กรีบจูงมือเขาเข้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วก็ไปแต่งตัว ทั้งสองล้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม
“กิ๊งนวดขาให้นะคะ” เธอรู้ว่าเขาคงปวดขาจึงเสนอตัวนวดขาให้เขาตอบแทนที่เขาจะซื้อรถคันใหม่ให้
เขานอนให้เธอบีบจับนวดคลึงขาสองข้างอย่างสบายตัว จนเมื่อมือเล็กเลื่อนขึ้นมาที่ต้นขาแน่น ภีมน้อยของเขาก็ค่อย ๆ พองตัวนูนขึ้นมาภายใต้กางเกงกีฬาผ้าร่มขาสั้นที่เขาชอบใส่
“เป้าตุงเชียวนะคะ” เธอเอ่ยแซว
“ล้อผมหรอ”
“ว้าย” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาลุกขึ้นคว้าตัวเธอลงมานอนราบแล้วคร่อมทับร่างบางเอาไว้
“โทษฐานที่ล้อผม ต้องโดนแบบนี้” เขายันกายไว้ด้วยแขนข้างซ้าย นิ้วขวาจิ้มอยู่ที่เอวบางของเธอ
“คิก ๆ คุณภีมขา กิ๊งจั๊กจี้ ฮ่า ๆ ๆ” เธอหัวเราะออกมาเสียงดัง
เขาชอบแกล้งเธอแบบนี้บ่อย ๆ เธอชอบที่เขาเป็นคนขี้เล่น นิ้วเรียวหยุดจั๊กจี้เอวเธอเมื่อเห็นว่าหญิงสาวหัวเราะใจจะขาด
เขากดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ลากไล้ไปตามกรอบหน้าสวย เลื่อนลงมาขบเม้มซุกไซ้ลำคอของเธอ
จากความจั๊กจี้เปลี่ยนเป็นความวาบหวาม มือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวกายเนียนนุ่ม ไม่นานทั้งสองร่างก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า
นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามรอยแยกของกลีบสาว เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำใสที่เคลือบอยู่บนกลีบสวยของเธอ
เมื่อเห็นว่าเธอพร้อมแล้ว เขาก็ประคองท่อนเอ็นแกร่งขึ้นมาถูไถไปตามกลีบสวย น้ำหวานของเธอไหลชุ่มฉ่ำเยิ้มไปทั้งส่วนหัวของท่อนลำเขา เขาค่อย ๆ กดแทรกเข้าไปในช่องทางรักอุ่นแคบของเธอ
“อ๊ะ อ๊า”
หนุ่มสาวร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน บอกรักกันเสียงดังลั่น สองร่างขยับกายเข้าหากันอย่างช้า ๆ แล้วจึงค่อย ๆ เร่งจังหวะเร็วขึ้น แก่นกลางกายกระแทกเข้าหากันรัวเร็ว จนในที่สุดทั้งคู่ก็พากันแตะขอบสวรรค์ไปพร้อมกัน