10 ปี ต่อมา
บริษัท ทรัส เอ็นเตอร์เทนเม้น จำกัด กำลังวุ่นวายไปด้วยเหล่าดารานักแสดงและนักข่าวจากสำนักต่างๆที่ถูกเชิญมาร่วมงานเปิดตัวดาราหน้าใหม่ของค่ายในครั้งนี้จนล้นออกมานอกประตูบริษัท เพราะเป็นการเปิดตัวดาราทีเดียวถึง 6 คน ทุกคนที่มาร่วมงานต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสุดหรู เครื่องประดับราคาแพงมาร่วมงาน เพื่อเพียงหวังแค่ได้ออกสื่อต่างๆ
และนี่ก็เป็นโอกาสที่พวกนักปั้นทั้งหลายได้พาบรรดาเด็กๆในสังกัดของตนมาเปิดตัวในงานนี้ด้วย เผื่อผู้ใหญ่ในงานเอ็ดดู
ภายในงานบริเวณด้านหน้าเวทีพิธีการกำลังดำเนินงานไปเรื่อยๆจนมาถึงเวลาเปิดงานจึงได้กล่าวเชิญประธานบริษัทขึ้นมากล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
"ตอนนี้ก็ถึงเวลาสมควรแล้วนะครับ เรียนเชิญคุณเมฆา เจริญโรจน์ ประธานบริษัท ทรัส เอ็นเตอร์เทนเม้น ขึ้นมากล่าวเปิดงานครับผม”
เมื่อพิธีกรหนุ่มพูดเสร็จ แขกก็พากันปรบมือต้อนรับทันที
ประธานบริษัทหนุ่ม เดินขึ้นเวทีแล้วมาหยุดยืนหน้าไมล์เพื่อกล่าวเปิดงาน ชายหนุ่มผู้มีลักษณะภูมิฐาน รูปร่างสูงโปรง ผมหยักสีน้ำตาล คิ้วเข้มรับกับตาคม จมูกโด่ง เรียวปากบางสีแดง ทุกสิ่งที่รวมขึ้นมาเป็นชายหนุ่มล้วนแล้วแต่ลงตัว
เขากวาดตามองไปทั่วงานก่อนจะกล่าวขึ้น
“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ผมเมฆา เจริญโรจน์ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้ ทางบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนที่เรานำมาเปิดตัวในวันนี้เราคัดสรรค์มาอย่างดีและมีคุณภาพ ขอให้ทุกท่านให้การสนับสนุนพวกเขาและบริษัทของเราด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”
ท่านประธานหนุ่มพูดเสร็จก็เดินลงมานั่งประจำยังที่ของตนที่ด้านหน้าเวที
“เอาละครับตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยแล้วเรามาพบกับดาราน้องใหม่ของค่ายกันเลยนะครับ”
พอพิธีกรพูดเสร็จก็มีซาวด์เสียงออกมาก่อนที่ดาราหน้าใหม่ทั้ง 6 คนที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีจะเดินออกมาอวดโฉมให้ทุกคนในงานได้เห็น ซึ่งหนึ่งในนั้นมี ดาราน้องใหม่ หน้าตาสวย ผิวขาว ตาโต ผมตรงดำขลับ รูปร่างสมส่วน สิตา วรธรรม หรือ สิ อายุ 24 ปี เธอโดดเด่นที่สุดในบรรดาดาราหน้าใหม่ที่มาเปิดตัวในวันนี้
หญิงสาวที่ตอนนี้ยืนอยู่บนเวทีแต่สายตาของเธอกลับจ้องมองมาที่ประธานหนุ่มไม่วางตา เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเดินขึ้นเวที เขาดูสง่า รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมหล่อเหลา แถมยังเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอสังกัดอยู่อีก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวเป็นๆ ปกติแล้วเธอก็เคยเห็นรูปเขาตามหน้าข่าวบันเทิงทั่วไป แต่เธอแค่รู้สึกชื่นชมเขาเท่านั้นเอง พอมาเจอตัวจริงกลับหลงรักเขาขึ้นมาทันที เขาดูสุขุม เย็นชา ดูซิขนาดขึ้นไปพูดยังไม่ยิ้มออกมาสักนิด สมแล้วที่ใครๆในบริษัทต่างเรียกเขาว่า ภูเขาน้ำแข็ง
ชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งมองการเปิดตัวดาราใหม่อยู่ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายเพราะเขารู้ดีว่าในวงการนี้คงหาคนที่จริงใจยากเพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าหากันด้วยผลประโยชน์ พอหมดประโยชน์แล้วก็แยกทางกัน ปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบงานแบบนี้แต่นี่เป็นงานใหญ่ของบริษัทเขาในฐานะประธานเลยต้องมาร่วมงานอย่างเสียไม่ได้ ปกติแล้วเขามีเพื่อนสนิทอย่าง นริท ที่คอยทำงานทุกอย่างแทนเขา
งานดำเนินไปจนมาถึงช่วงสุดท้ายพิธีกรได้เชิญท่านประธานหนุ่มขึ้นไปกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานอีกครั้งก่อนที่ทุกคนในงานจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆที่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มาร่วมงาน
เมฆาเดินไปกล่าวทักทายแขกผู้ใหญ่สักพักก็กล่าวขอตัวแล้วเขาก็เดินออกจากงานเพื่อที่จะขึ้นไปพักผ่อนบนชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้
“โอ๊ะ ขอโทษครับ”
ชายหนุ่มกล่าวขอโทษเพราะเขาเดินชนคนที่เดินสวนมาจนฝ่ายนั้นเซเกือบล้มถ้าเขาคว้าเอาไว้ไม่ทัน
“เอ่อไม่เป็นไรคะ ฉันเดินซุ่มซ่ามเอง”
สิตา ที่เดินชนกับชายหนุ่มพูดขึ้น เพราะการชนครั้งนี้เกิดจากความตั้งใจของเธอเอง
“ครับ ถ้าไม่เป็นไรแล้วผมขอตัวนะครับ”
เขาว่าพลางเดินเลี่ยงออกไป
“เอ่อ...”
เธอถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเขาพูดแค่นั้นแล้วรีบเดินออกไป
“คนอะไรเย็นชาชะมัด ไม่สนใจเราเลย”
เธอบ่นออกมาอย่างเซ็งๆ เพราะปกติแล้วเธอจะได้รับการเอาอกเอาใจสารพัดจากผู้ชาย แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากชายหนุ่ม
‘นี่แหละผู้ชายเราที่ต้องการ’ เธอคิดในใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปในงาน
ประธานหนุ่มที่ขึ้นลิฟต์มาถึงด้านบนสุดของตึกที่เป็นทั้งห้องทำงานและที่พักของเขา ชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามาพร้อมทั้งถอดสูทหรูราคาแพงวางพาดไว้บนโซฟาแล้วไปรินไวน์ใส่แก้วทรงสูงก่อนจะถือเดินออกมาแล้วหยุดยืนมองออกไปด้านนอกกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มตา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เขามองไปยังไฟตามตึกราบ้านช่องที่ระยิบระยับไปมา สายตาชายหนุ่มมองไปอย่างไร้จุดหมาย พลางนึกไปถึงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาผ่านอะไรมามากมายทั้งสุขทั้งทุกข์แต่ส่วนใหญ่แล้วจะทุกข์เสียมากกว่า เขาคิดไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรักเธอมาก เธอเป็นรักแรกและคงจะเป็นรักสุดท้ายของชายหนุ่มเพราะเขาคิดว่าคงไม่อยากที่จะรักใครอีกแล้ว ความรักมันสวยงามก็จริงแต่สุดท้ายแล้วมันมาพร้อมความเจ็บปวดเสมอ เธอเป็นผู้หญิงที่เขารักมาก มากเสียจนไม่รู้ว่าถ้าขาดเธอไปเขาจะอยู่ได้ยังไง แต่แล้วอยู่ดีๆเธอก็หายไปไม่แม้กระทั่งติดต่อมา เขาพยายามตามหาเธอจนทั่วก็ไม่เจอ กลัวว่าเธอจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรึป่าวเขาเที่ยวเช็คตามโรงพยาบาลต่างๆก็ไม่มี ชายหนุ่มเคยจ้างนักสืบตามหาหญิงสาวเกือบสองปีแต่ก็ยังไม่เจอจนเขาถอดใจ คิดว่าเธอคงทิ้งเขาไปจริงๆไม่งั้นคงต้องติดต่อมาบ้าง แต่นี่กลับเงียบหายไป จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาเปลี่ยนเป็นคนละคน จากที่ร่าเริงกลับเงียบขรึม จากที่มีแต่รอยยิ้มกลับกลายเป็นคนเย็นชา เขาต้องใช้ความพยายามและความอดทนอย่างมากกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ และเขาจะไม่ยอมกลับไปเป็นแบบนั้นอีกแล้ว
“ลืมได้แล้วเมฆ มันผ่านไปแล้ว ลืมสักทีสิวะ”
เขาตะโกนบอกตัวเองออกมา ยิ่งเขาพยายามลืมเท่าไหร่เขากลับยิ่งเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงมัน