เพื่อนตัวน้อย

955 คำ
เสือดำมองเด็กหญิงแก้มยุ้ยหน้ากลมที่ขยันเข้ามาตอแยเขาอยู่ทุกวันพลางถอนหายใจ จะบอกว่าหนูน้อยผู้นี้มาตอแยตนเองก็ไม่ถูก ใครใช้ให้เจ้าของร่างเดิมของเขาเคยเป็นเพื่อนเล่นของเด็กหญิงคนนี้กันเล่า ผ่านมาได้ครบหนึ่งสัปดาห์พอดีที่เขาฟื้นขึ้นมาในร่างกายผอมกะหร่องนี่ จากที่เขาพอจะรวบรวมเรื่องราวได้ แรงระเบิดนั่นคงทำให้เขาตายไปแล้วแต่วิญญาณกลับเข้ามาสู่ร่างเด็กน้อยที่ชื่อหยางเจี๋ยที่มีอายุเพียงสิบขวบคนนี้ ตอนนี้เขาได้ย้อนเวลากลับมาสู่ยุคโบราณที่ผ่านพ้นไปนับร้อยปี อีกทั้งไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในยุคใดในประวัติศาสตร์ หยางเจี๋ยเคยเป็นคุณชายจากจวนสกุลหยางกำพร้าแม่ที่ตายไปตั้งแต่เขาเกิด ที่บ้านถูกริบทรัพย์เพราะมีพ่อทุจริต พ่อของเขาทนไม่ได้จึงได้ผูกคอตาย ส่วนหยางเจี๋ยเพราะพ่อของเขาเคยมีบุญคุณกับท่านราชครู เขาจึงโชคดีถูกนายท่านราชครูนำมาชุบเลี้ยงเป็นเด็กเลี้ยงม้าในจวนถูกลดขั้นจากชนชั้นขุนนางไปเป็นชนชั้นทาสอันต่ำต้อย ส่วนเด็กก้อนแป้งคนนี้คือคุณหนูสี่ฉีเย่ว์ บุตรสาวที่เกิดจากอนุเพียงคนเดียวของนายท่านราชครูแม้จะเป็นลูกอนุแต่ฉลาดหลักแหลมนัก ท่านราชครูจึงทั้งรักทั้งหวงมากกว่าพี่น้องคนอื่นเลี้ยงดูนางประดุจองค์หญิงผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเคร่งครัดกับนางเพื่อหวังให้นางสืบทอดตำแหน่งราชครูผู้สูงส่งต่อจากเขา อาทิตย์ก่อนเพราะคุณหนูสี่ฉีเย่ว์มารบเร้าให้เขาสอนขี่ม้า หยางเจี๋ยจนใจจึงให้นางขี่ม้าแคระตัวเล็กตัวหนึ่ง คุณหนูสี่พลาดตกจากม้าแม้นางจะไม่เป็นอะไรมากแต่คงตกใจจึงร้องไห้ ด้วยเหตุนี้หยางเจี๋ยจึงถูกโบยถึงสิบไม้  เดิมหยางเจี๋ยไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วเพราะเขาเคยใช้ชีวิตคุณชายสุขสบายพอต้องมาทำงานหนักเขาจึงมักจะเจ็บป่วยอยู่เสมอ เมื่อถูกโบยเนื้อบาง ๆ ของคุณชายเช่นเขาจะทนได้อย่างไร ภายในได้รับบาดเจ็บปางตาย หยางเจี๋ยจึงเกือบเอาชีวิตไม่รอดท่านราชครูก็ไม่ได้สนใจ สุดท้ายเป็นคุณหนูสี่ฉีเย่ว์ที่เห็นเขาใกล้ตายจึงไปร้องไห้ขอร้องบิดาน้ำตาแทบเป็นสายเลือดให้หาหมอมารักษาเขา ท่านราชครูเห็นบุตรสาวทุกข์ใจเช่นนั้นจึงยอมให้หมอมารักษา จึงเรียกได้ว่าคุณหนูสี่ผู้นี้คือคนที่ทำให้หยางเจี๋ยเกือบตายและรอดตายมาได้ เสือดำจึงไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเด็กน้อยตากลมคนนี้ ว่ามีบุญคุณกับหยางเจี๋ยได้หรือไม่ เสือดำที่ตอนนี้ยอมรับตนเองได้แล้วว่าคือหยางเจี๋ยเด็กน้อยอายุสิบขวบ จะให้เขาทำเช่นไรเมื่อชาติที่แล้วชีวิตดับสิ้นแล้ว ชาติใหม่นี้สวรรค์คงต้องการให้เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นเพียงเด็กเลี้ยงม้าคนหนึ่ง ความทรงจำอันเจ็บปวดที่ฝังเข้าในหัวใจเขาทำให้หยางเจี๋ยสะอิดสะเอียนสงคราม กลิ่นคาวเลือด เสียงปืนและฝุ่นที่คละคลุ้งเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยโลกใบนี้ธรรมชาติรอบกายเขาก็ยังสดชื่นไม่มีสงคราม ไม่มีเสียงระเบิด ไม่มีเสียงปืน ห่างไกลจากคำว่าวุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง เขาจะหวังอะไรอีกเพียงมีชีวิตให้จบสิ้นในชาตินี้และใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบที่เด็กน้อยคนหนึ่งพึงทำได้ก็เพียงพอแล้ว "พี่เจี๋ยพี่หายแล้วใช่หรือไม่ วันนี้ท่านพ่อไม่อยู่เข้าวังแล้วข้าจึงหาเวลามาเล่นกับท่านได้เราจะเล่นอะไรกันดี" "พี่ยังไม่หายดีคุณหนูสี่ไปเล่นที่อื่นเถอะ" เขาที่ทนฟังเด็กน้อยพูดมาราวชั่วโมงในที่สุดก็ทนไม่ไหว เด็กคนนี้ช่างจ้อจริงๆ "เล่นกับผู้ใด พวกพี่สาวและพี่ชายไม่ชอบเล่นกับข้าบอกว่าข้าเป็นเพียงลูกอนุพวกเขาไม่ลดตัวมาเล่นด้วย" หยางเจี๋ยเลิกคิ้ว ความจริงไม่ว่าจะสมัยไหนความแตกต่างในเรื่องชนชั้นนั้นย่อมฝังรากลึก แต่ในสมัยโบราณเช่นนี้ย่อมถูกแบ่งแยกได้โดยง่าย คนที่มีฐานะต่ำกว่าจึงมักถูกกดขี่ด้วยคำพูดและการกระทำ เขาคิดจะพูดปลอบเด็กหญิงสองสามคำเด็กหญิงช่างจ้อก็ถามขึ้นมาก่อน "เรื่องนี้ข้าไม่เคยเล่าให้ผู้ใดฟัง ว่าแต่ว่าพี่เจี๋ยพวกพี่สาวพี่ชายหมายความว่าอย่างไรหรือว่าตัวข้าเล็กพวกเขาจึงต้องลดตัวให้ต่ำลงแล้วเล่นกับข้า ข้าเห็นว่าพี่เจี๋ยก็ตัวสูงกว่าข้ายังไม่ต้องลดตัวมาเล่นกับข้าเลย พอคิดว่าหากทำพวกเขาลำบากข้าก็ไม่เล่นดีกว่า" หยางเจี๋ยอดหัวเราะในความคิดอันบริสุทธิ์ของเด็กน้อยไม่ได้ จึงยกมือลูบหัวนางเบา ๆ แล้วบอกกับนางว่า "ช่างพวกเขาเถอะ ถ้าเขาไม่อยากเล่นคุณหนูสี่ก็ไม่ต้องเล่นกับพวกเขา" "ข้าอยากเล่นแต่พวกเขาไม่เล่น เวลาข้ามีเพียงนิดเดียวที่เล่นได้ตอนท่านพ่อเข้าวังหาไม่ข้าต้องเรียนหนังสือทั้งวันน่าเบื่อ โชคดีที่พี่เจี๋ยมาอยู่ในจวนของพวกเราข้าไม่เบื่อแล้ว ว่าแต่ว่าพี่สัญญาว่าจะพาข้าไปดูไข่นกที่ริมบึงเมื่อไหร่จะพาไปหรือ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม