หลังจากอาการของเขาหายดีแล้ว หยางเจี๋ยจึงถูกท่านตาสั่วผู้ดูแลคอกม้าพากลับมาทำงานโชคดีที่หยางเจี๋ยในชาติก่อนมีความคุ้นเคยกับม้าไม่น้อย เรื่องการดูแลม้าพวกนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก เขามีทักษะที่ดีแม้ในตอนนี้จะเป็นเพียงเด็กแต่หยางเจี๋ยคล่องแคล่วความทรงจำของเขายังเต็มเปี่ยม ท่านตาสั่วผู้ดูแลถึงกับอ้าปากค้างยกย่องเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ
"ตอนเจ้าอยู่ที่จวนเคยฝึกมาก่อนหรือเหตุใดก่อนเจ้าป่วยจึงได้ท่าทางปวกเปียกจนข้าหนักใจ พอหายแล้วเหตุใดจึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคนแบบนี้"
"ข้าได้ฝึกมาบ้าง แต่ก่อนอาจเจ็บป่วยบ่อยแต่ตอนนี้ข้าจะไม่ยอมป่วยอีกแล้วท่านตาวางใจได้"
หยางเจี๋ยปกติไม่ค่อยพูดมาก เขาพูดเท่านี้กับท่านตาสั่วหลังจากนั้นก็ไม่พูดคุยกับใครอีก หยางเจี๋ยเป็นเพียงเด็กคนเดียวที่อายุน้อยที่สุด นอกนั้นแต่ละคนล้วนมีอายุยี่สิบกว่าปีแต่งงานออกเรือนกับบ่าวไพร่ในจวนกันหมดแล้ว
หยางเจี๋ยรู้สึกเจ็บที่นิ้วเห็นเป็นรอยแผลเต็มไปหมด คิดว่าเด็กคนนี้แต่ก่อนคงใช้ชีวิตสุขสบายมากเมื่อหยิบจับอะไรดูจะระคายผิวไปหมด แต่ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนแล้วหยางเจี๋ยจึงคิดจะใช้ร่างกายนี้ให้คุ้ม เด็กคนนั้นวิญญาณคงไปสู่ที่สงบแล้วในเมื่อสวรรค์สับเปลี่ยนวิญญาณให้เขามาเข้าสู่ร่างกายนี้ เขาจึงต้องดูแลหยางเจี๋ยให้ดี
หลังจากนั้นหลายวันหยางเจี๋ยที่สำรวจพื้นที่ในจวนโดยรอบ อีกทั้งศึกษาการใช้ชีวิตของคนยุคนี้จนเข้าใจก็ได้ทำตามสัญญาที่ให้กับซาลาเปากลมก้อนนี้
"พี่เจี๋ยทำไมต้องเอาใบไม้มาปักที่หัวด้วย"
ฉีเย่ว์มองหยางเจี๋ยแล้วหัวเราะออกมา เด็กผู้ชายตัวผอมที่อยู่ต่อหน้านางในยามนี้ ใบหน้าดำเป็นถ่าน ใส่อาภรณ์สีเขียวเหมือนใบไม้ไม่พอยังมีใบไม้ใบหญ้าเต็มร่างไปหมด และตอนนี้เขาก็กำลังตกแต่งตัวของนางด้วยใบไม้เหล่านั้น
"เขาเรียกว่าการพรางตัว วันนี้ถึงได้ให้คุณหนูใส่เสื้อผ้าสีเขียวเข้มพวกนกจะได้คิดว่าเราเป็นต้นไม้ไม่ตกใจบินหนีไป"
"อ้อแล้วต้องทาหน้าเป็นขีดดำ ๆ ด้วยหรือ"
"ใช่ทาด้วยทำตัวให้เข้ากับธรรมชาติที่สุด จะได้เห็นนกชัดๆ"
"แล้วธรรมชาติคือสิ่งใดหรือ"
"ก็พวกสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา"
หลังจากนั้นหยางเจี๋ยก็สาธยายสิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติให้เด็กช่างจ้อฟัง เด็กน้อยพยักหน้าเข้าใจ นางเป็นเด็กฉลาดหยางเจี๋ยชอบนางที่เข้าใจอะไรง่าย ฉีเย่ว์จึงไม่ใช่เด็กน่าเบื่อสำหรับเขานัก
"เสร็จแล้วพวกเราไปกัน ต้องรีบไปรีบกลับไม่งั้นคนจะจับได้ ตอนคลานต้องเงียบที่สุดเข้าใจหรือไม่"
"ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะคลานตามพี่ไปติดๆ เลย"
"ดีมาก ต่อไปพี่คือหัวหน้าหน่วยคุณหนูคือลูกน้อง เราจะสั่งการกันโดยสัญญาณมือไม่ให้มีเสียง ไม่เช่นนั้นนกจะบินหนี จะอดเห็นแม่นกกำลังป้อนอาหารลูกนก คุณหนูเข้าใจใช่ไหม"
"เข้าใจแล้ว"
สมุนตัวน้อยฟังความหัวหน้าอย่างดี ไม่ว่าหยางเจี๋ยจะสอนให้ทำอะไรฉีเย่ว์ก็ตั้งอกตั้งใจทำตามอย่างตื่นเต้น จวบจนเขาพานางไปถึงริมบึง มีต้นหญ้าขึ้นสูงบริเวณนี้แม้จะเต็มไปด้วยต้นหญ้าแต่น้ำก็ไม่ท่วมขัง หยางเจี๋ยมาสำรวจไว้ก่อนแล้วเขาพบรังนกหลายรัง และพบว่ามีนกเพิ่งฟักจากไข่อยู่มาก เขาจึงคิดพาเด็กน้อยมาดู
ออกไปให้อาหารม้าตามเวลาอย่างร่าเริง