Chapter 1: พันมนตร์
‘เหมือนมียันต์นับแสนคอยคุ้มกัน เหมือนมีมนตร์นับพันคอยคุ้มครอง’
พันมนตร์กอดอกแล้วยืนขมวดคิ้วมองลายมือตวัดอย่างสวยงามของพ่อผู้ล่วงลับที่เขียนใส่กรอบติดไว้บนฝาผนังอย่างพินิจพิเคราะห์
หญิงสาวผิวขาวนวลร่างเล็กบอบบางวัย 24 หน้าตาสวยแบบน่ารักจิ้มลิ้ม ผมสีดำขลับยาวตรงถึงกลางหลัง สวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาวและกางเกงยีนแบบง่าย ๆ ปากนิดจมูกหน่อย ปลายจมูกรั้นขึ้นเหมือนนิสัยที่ดื้อรั้นของเธอ ดวงตากลมโตสุกใสมีแววฉลาดเฉลียว เธอดูท่าทางแข็งแรงเป็นปกติ หากไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้ว่าเธออาจมีอายุอยู่ได้ไม่เกินวัยเบญจเพส
“คิดอะไรอยู่ไอ้มน?!” เสียงทุ้มห้าวของหนุ่มหน้าสวยดังขึ้น
พันมนตร์หันขวับไปมองหนุ่มหล่อที่สำหรับเธอ เขาไม่มีความหล่อเลยสักนิด ทำไมหรือ? เพราะเขามีหน้าตาคล้ายเธออยู่หลายส่วน และทำไมเขาถึงคล้ายเธอหรือ?
ไอ้หน้าหวานคนนี้เป็นพี่ชายฝาแฝดของฉันไง! เบื่อจริงเชียว เกิดก่อนแค่สองนาที ทำตัวเป็นพี่เหมือนเกิดก่อนมาเป็นชาติ
“คิดอยู่ว่าไอ้ที่พ่อเขียนที่มาของชื่อพวกเราใส่กรอบไว้มันมีความหมายแฝงอะไรหรือเปล่าน่ะสิ” หญิงสาวตอบพี่ชายไป
สายตาพี่ชายฝาแฝดของเธอมีแววเศร้าใจปรากฏอยู่วูบหนึ่งก่อนที่เขาจะปรับเปลี่ยนให้มันดูร่าเริงไร้กังวลเช่นเดิม
“จะมีอะไรแฝงหรือไม่ก็ไม่ใช่ปัญหา ยังไงพี่ก็ไม่ปล่อยแกให้ตายอยู่แล้ว ไอ้มน” แสนยันต์บอกน้องรักแล้วลูบหัวหญิงสาวเบา ๆ
เขาแก่กว่าเธอสองนาทีแต่เขาสูงกว่าเธอมากนัก ตอนเด็ก ๆ เขาสองคนยังพอมีความคล้ายคลึงกันค่อนข้างมาก แต่ยิ่งก้าวเข้าช่วงวัยรุ่นพวกเขาก็เริ่มแตกต่างกันออกไปทุกที
รูปร่างของพันมนตร์หยุดเจริญเติบโตตั้งแต่เธออายุ 18 แต่เขากลับสูงขึ้นเรื่อย ๆ น้องของเขาดูบอบบางแต่เขากลับบึกบึนกำยำล่ำสันมากขึ้นทุกวัน ด้านมนตราต่าง ๆ เขาก็ท่องได้ดีกว่า ใช้ได้คล่องแคล่วกว่าและว่องไวกว่า และที่สำคัญ... ดูเหมือนเขาอาจจะมีอายุยืนยาวกว่าพันมนตร์หลายเท่า
ซึ่งพี่จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็นอันขาด
“แล้วทำไมพี่ยังอยู่บ้านอีกอะ? ไม่ไปทำงานเหรอ? นัดลูกค้าสักยันต์ไว้หรือเปล่า?” พันมนตร์ถามกลับพี่ชายบ้าง
“อืม มีลูกค้าสักยันต์อักขระตอนบ่ายสอง ลงน้ำมันตอนสามทุ่ม แล้วแกล่ะ? ไม่เรียนมนตราเหรอวันนี้? ถ้าแม่รู้ว่าแกอู้ แกโดนแม่ด่าแน่” แสนยันต์ขู่น้องสาว
“เรียนไปก็เท่านั้น ฉันเก่งไม่เท่าพี่ ลงอาคมก็ไม่เป็น อย่าว่าแต่สยบลูกตะเข้เลย แค่จิ้งจกฉันก็สยบไม่ได้” พันมนตร์บอกพี่ชายน้ำเสียงเหมือนน้อยใจในตัวเอง
“แต่แกก็ต้องเรียน ถ้าแกไม่เรียน ถึงเวลาต้องใช้มนตร์แกจะทำยังไง? รีบเข้าไปนั่งเรียนเลยนะ ไม่งั้นพี่โทรฟ้องแม่แน่ พี่ไปทำงานก่อนนะ ถ้าพี่กลับมาแกต้องท่องคาถาแคล้วคลาดให้พี่ฟัง” แสนยันต์ขู่น้องอีกครั้ง
พันมนตร์จนใจได้แต่ถอนหายใจก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
บ้านไม้สักหลังใหญ่สองชั้นแบบโบราณชายเมืองนนทบุรี มีรั้วรอบขอบชิดก่อจากอิฐโบกด้วยปูนเปลือยสูงสองเมตรและประตูรั้วที่ทำมาจากสักทองสูงใหญ่ แต่มีสองพี่น้องอยู่กันเพียงลำพัง แม่ของพวกเขาใช้ชีวิตวัยเกษียณอยู่ไกลถึงเชียงราย นานทีปีหนจึงจะมาเยี่ยมเยือนพวกเขาสองพี่น้อง แต่ปีนี้ดูท่าทางแม่ต้องลงมาอยู่กับพวกเขาถี่กว่าทุกปี เพราะปีนี้อาจเป็นปีสุดท้ายของชีวิตพันมนตร์
หญิงสาวนั่งลงตรงโต๊ะอ่านหนังสือแล้วหยิบสมุดที่มีลายมือพ่อของเธอมาเปิดอ่าน เธอเปิดไปตรงหน้าที่เขียนหัวข้อไว้ว่า ‘คาถาแคล้วคลาด’ แต่เธอกลับไม่อ่านมัน ใจของเธอมันฟุ้งซ่านจนไม่อาจจดจ่อกับอะไรได้ทั้งนั้น
พันมนตร์เหลือบมองภาพวาดที่ใส่กรอบใหญ่ติดไว้บนฝาผนัง ในภาพวาดเป็นรูปชายร่างกำยำ ผิวสีแทน หน้าตาหล่อเหลาหมดจด สวมชุดลงยันต์สีแดง ทั้งหน้าอก ต้นแขนมียันต์สักเต็มไปหมด ในมือถือหอกยาว และตรงเบื้องเท้ามีจระเข้หมอบคลานอยู่ ภายใต้ภาพมีตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือสวยงามไว้ว่า ‘ไกรทอง’
หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งแล้วม้วนแขนเสื้อข้างซ้ายของเธอขึ้น บนผิวขาว ๆ ของเธอมียันต์กำราบกุมภีล์เป็นรูปจระเข้พร้อมอักขระลงกำกับสักอยู่ ด้วยเธอไม่เก่งด้านมนตรา เมื่ออายุ 15 ก่อนที่พ่อของเธอจะเสีย พ่อจึงตัดสินใจสักยันต์นี้ลงไปบนแขนของเธอด้วยตัวเขาเอง
“ในเมื่อไม่มีทางจะปราบจระเข้ด้วยมนตร์ได้ อย่างน้อยลูกก็ต้องมีอะไรไว้คุ้มภัยบ้าง ก่อนที่ลูกจะอายุ 25 ลูกต้องได้กินเลือดพญาจระเข้ติดต่อกัน 99 วัน ไม่อย่างนั้นพอถึงวัยเบญจเพสลูกต้องหมดพลังชีวิตและตาย"
พ่อของเธอบอกเธอเอาไว้เช่นนั้น และมันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับทายาทตระกูล สุวรรณเกริกไกร อย่างเธอ
มันผิดที่เธอเกิดมาเป็นผู้หญิง ทายาทที่สืบเชื้อสายมาจากนักปราบจระเข้ชั้นครูอย่างไกรทองล้วนเกิดมาเป็นชาย หากมีหญิงเกิดขึ้นมา ด้วยมนตราและคำสาปแช่งจากเหล่าจระเข้ร้าย ล้วนทำให้หญิงสาวทายาทของตระกูลมีอายุขัยถึงแค่ 25 ปี และอีกหกเดือน พันมนตร์ก็จะครบ 25 ปีบริบูรณ์แล้ว
ฉันจะไปหาพญาจระเข้จากไหนมาดื่มเลือดล้างอาถรรพ์ภายในหกเดือนกัน? หรือว่าฉันเกิดมาเพียงเท่านี้? เกิดมาเพื่อเป็นน้องของพี่ยันต์ เกิดมาเพื่อเป็นลูกของพ่อสุวรรณและแม่พรรณี จากนั้นก็ตายจากไปในวัย 25 โดยที่ไม่มีแม้กระทั่งแฟน ไม่เคยแม้แต่จูบกับใครสักคน เซ็กซ์เป็นยังไงก็ไม่รู้ วัน ๆ ได้แต่นั่งอยู่ในห้อง หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าพี่ยันต์จะจับพญาจระเข้มาขังให้ฉันดื่มเลือดติดต่อกัน 99 วันเพื่อให้มีชีวิตรอดเลยอายุเบญจเพส
หญิงสาวก้มหน้านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตบโต๊ะดัง ปัง!
“ไหน ๆ ก็จะตายแล้ว มันต้องใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงหรือเปล่า? อะไรไม่เคยกินก็ต้องได้กิน อะไรไม่เคยทำก็ต้องได้ทำ!” สาวสวยประกาศกับตัวเองก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทรหาเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตเพราะรู้ความเป็นไปของเธอทุกอย่างและครอบครัวของพวกเธอยังสนิทสนมกันมานานแสนนานอีกด้วย
“ฮัลโหลแก้ว! มารับฉันหน่อย! คืนนี้ฉันจะไปผับกับแก ฉันตัดสินใจแล้ว ในเมื่ออีกหกเดือนฉันต้องตาย ฉันต้องไว้ลายของพันมนตร์ ไม่มีทางที่ฉันจะนั่งเศร้า เหงา และตายไปแบบไร้ความสุข ไหน ๆ ก็จะตายแล้ว ขอทดลองขึ้นสวรรค์ก่อนก็แล้วกัน!”
*********************
แก้วเกล้าขับรถสปอร์ตสีแดงหรูเข้ามาจอดหน้าผับก่อนจะบุ้ยหน้าให้เพื่อนสาวลงจากรถ
“นั่งบื้ออยู่ทำไมยัยคนอยากมีความสุขก่อนตาย? ลงไปสิยะ” สาวสวยหุ่นนางแบบไว้ผมบ๊อบสั้นประบ่าดัดเป็นลอนในชุดเดรสสายเดี่ยวดำประดับดิ้นเงินหันไปบอกพันมนตร์
“ก็... อยากมีความสุขเก็บไว้เป็นความทรงจำก่อนตายแหละ แต่ว่า... ชุดที่แกให้ใส่มานี่มันโป๊ไปหน่อยหรือเปล่าแก้ว?” พันมนตร์พูดกับเพื่อนแล้วก้มลงมองชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงรัดรูปของแก้วเกล้าที่ให้เธอยืมสวม
“โอ๊ย! สมัยนี้ใคร ๆ เขาก็แต่งแบบนี้มาเที่ยวผับทั้งนั้นแหละย่ะ แกจะ 25 เข้าไปแล้วนะยัยมน ไม่ใช่เด็ก 15 แต่งแค่นี้พ่อแกไม่ลุกขึ้นมาจากหลุมแล้วด่าแกหรอก” แก้วเกล้าดุเพื่อนแล้วกดปลดล็อกประตูรถ
“แต่... แต่งแบบนี้มันเห็นรอยสักของฉัน...” พันมนตร์มีสีหน้ากังวลใจแล้วพูดขึ้น รอยสักของเธอมันไม่ธรรมดา ไม่ใช่พวกรูปดอกไม้ ผีเสื้อหรือแค่ยันต์ตัวหนังสือแบบที่ผู้หญิงคนอื่นเขาสักกัน
“ไม่เห็นเป็นไร ดูแซ่บจะตาย ดูแบด ดูน่าค้นหา รับรองว่าคืนนี้ต้องมีคนมาเหล่แกเพียบ จับให้ได้สักคนก็แล้วกัน ใช้ชีวิตให้มันคุ้ม เรื่องจะตายไม่ต้องห่วงหรอก ยันต์ช่วยแกได้แน่ ถ้ายันต์ช่วยไม่ได้ รอพี่ก้านกลับมาจากอเมริกา พี่ฉันต้องช่วยแกได้ แกอย่าลืม พวกเรามันตระกูลนักปราบจระเข้ ยังไงไม่พี่ฉันก็พี่แกก็ต้องหาพญาจระเข้มาให้แกดื่มเลือดได้สักตัวแหละน่า” แก้วเกล้าบอกเพื่อน
ตระกูลของแก้วเกล้าสืบเชื้อสายมาจากอาจารย์คง หมอปราบจระเข้ที่เป็นอาจารย์ของไกรทองดังนั้นทั้งบ้านของแก้วเกล้าและบ้านของพันมนตร์จึงสนิทสนมกันมาช้านาน เรื่องของพันมนตร์ผู้เป็นลูกสาวตระกูลสุวรรณเกริกไกรที่ต้องตายด้วยอาถรรพ์หากไม่ได้ดื่มเลือดพญาจระเข้เมื่อมีอายุถึงเบญจเพสเธอก็รู้ดี แต่จะให้มานั่งโศกเศร้าทำให้วันที่เหลืออยู่ของเพื่อนมีแต่ความหม่นหมองก็กระไรอยู่ สู้ให้กำลังใจพันมนตร์เสียยังจะดีกว่า
“แต่ฉันต้องกลับบ้านก่อนเที่ยงคืนนะแก” พันมนตร์หันมาบอกเพื่อนก่อนจะเปิดประตูรถออก
“มน! แกมาหา One Night Stand นะยะ จะไม่ค้างกับเขาข้ามคืนให้สมกับชื่อ One Night Stand เหรอ? แล้วแกเป็นซินเดอเรลลาหรือยังไง? งานการก็ไม่มีทำ จะกลับเร็วทำไม?” แก้วเกล้าขมวดคิ้วแล้วถาม
“พี่ยันต์ลงน้ำมันสามทุ่ม น่าจะเสร็จสักห้าทุ่ม ถึงบ้านประมาณเที่ยงคืน ฉันต้องแอบเข้าบ้านก่อนพี่ยันต์ เผื่อเขามาเคาะห้องเรียกให้ฉันตื่นขึ้นมาท่องคาถาแคล้วคลาดให้ฟัง” พันมนตร์บอกเพื่อนแล้วก้าวลงจากรถ
ฝาแฝดคู่อื่นอาจเรียกกันด้วยชื่อคล้ายเพื่อนกัน แต่สำหรับเธอและแสนยันต์ สุวรรณผู้เป็นพ่อสอนให้เธอเรียกเขาว่าพี่และสอนให้แสนยันต์ปกป้องเธอราวกับน้องน้อยมาตลอดเพียงหวังให้แสนยันต์ดูแลน้องสาวฝาแฝดและช่วยให้เธออยู่รอดเลยวัยเบญจเพสไปให้ได้
สองสาวเดินเข้าผับประจำของแก้วเกล้าด้วยท่วงท่ามั่นใจ ความสวยของสองสาวที่คนหนึ่งเปรี้ยวจนเข็ดฟันและอีกคนสวยน่ารักสดใสทำให้มีหนุ่ม ๆ ในผับมองตามเป็นแถว
แก้วเกล้าพาเพื่อนสาวไปนั่งที่บาร์น้ำ สั่งเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ให้เพื่อนแก้วหนึ่ง และค็อกเทลให้ตัวเองอีกแก้วหนึ่ง ก่อนที่แก้วเกล้าจะสอดส่ายสายตาไปทั่ว
“แกดูไว้ว่าคนไหนที่แกสนใจเป็นพิเศษ ถ้าสนใจมาก ๆ แกก็มองเขาแล้วยิ้มให้เขาเยอะ ๆ พอเขารู้ว่าแกสนใจ ส่วนใหญ่ก็จะสั่งเหล้าเลี้ยง ถ้าแกชอบก็รับไว้ ถ้าไม่ชอบก็ปฏิเสธได้ อ๊ะ! คนนั้นที่นั่งโต๊ะวีไอพีตรงมุมห้อง หล่อมากรากเลือดเลยยัยมน กล้ามเป็นมัด ตาคม ผมยาว หน้าเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ดูสิ! แต่... เฮ้อ! มีสาวนั่งประกบซ้ายขวา แบบนี้เห็นทีจะยาก เว้นแต่แกชอบแนวฮาเร็ม แบบมีเซ็กซ์หมู่กับผู้ชายพร้อมผู้หญิงอื่นเป็นโขยงอะ เสียดายจริง! โคตรจะหล่อเลยคนนั้น ดูแบด ๆ ดี ฉันชอบ” แก้วเกล้าสอนเพื่อนก่อนจะพูดถึงผู้ชายที่เด่นที่สุดในผับ
พันมนตร์มองตามคำบอกของเพื่อนแล้วเธอจึงเห็นว่าคนที่เพื่อนพูดถึงนั้นหล่อเหลายิ่งกว่าที่เพื่อนของเธอบรรยายไว้เสียอีก และเขาก็มีสาวสวยนั่งประกบพร้อมลูบไล้เนื้อตัวของเขาอยู่อย่างที่แก้วเกล้าบอกเอาไว้ไม่มีผิด
พันมนตร์จ้องเขาอยู่นานและเหมือนหนุ่มหล่อจะรู้ตัว เขาจ้องตาเธอกลับทันทีไม่มีเก้อเขิน หญิงสาวจึงได้แต่หลบสายตาแล้วเมินมองไปทางอื่นพลางย้ำกับตัวเองในใจ
อย่าไปจ้องตาตอบเชียวนะ อย่าไปจ้องตาตอบ ถ้ายังไม่อยากเป็นผู้หญิงคนที่สามที่ไปนั่งคลอเคลียตรงนั้นกับเขา อย่าไปจ้องตาตอบ!