บทที่1
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
กลางดึกที่หน้าห้องนอนใหญ่ปีกขวาของคฤหาสน์สกุลจ้าวตั้งอยู่ทำเลทองของเมืองหนานจิ้ง มีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มวัย32ปีดูท่าทางรีบร้อนแต่เขากลับเคาะประตูด้วยกิริยาระมัดระวังขัดแย้งกับสีหน้าของตนเองอย่างยิ่ง
"คุณชายรองครับผมกงเหยียนเองครับ"
ภายในห้องหลังจากเสียงเคาะและเสียงเรียกคนบนเตียงมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์นอนคว่ำหน้าลงไปกับหมอนค่อยๆ ขยับตัวด้วยท่าทางเกียจคร้านแต่ยังไม่ยอมลืมตา อาจเพราะชายหนุ่มที่อดหลับอดนอนมาถึงสองวันสองคืน และเขาเพิ่งจะหลับไปได้แค่ชั่วโมงเศษเท่านั้นชายหนุ่มจึงมีสภาพราวกับคนที่พร้อมจะหลับไปตลอดเวลาเช่นนี้
"เข้ามา"
นอนนิ่งอยู่อีกครู่เพื่อนเรียบเรียงสติขับไล่ความมึนงงหลังตื่นนอนออกไปแล้วชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องจึงเอ่ยอนุญาตออกไป เท่านั้นเองชายหนุ่มเจ้าของนามกงเหยียนซึ่งเป็นเลขาคนสนิทของคุณชายรอง'จ้าว'จึงเปิดประตู แล้วรีบก้าวเข้ามายืนอยู่หน้าเตียงที่มีร่างของเจ้านายหนุ่มที่นอนเปลือยช่วงหน้าอกเผยแผ่นหลังกว้างที่เป็นรอยสักรูปหงส์เพลิงสีทองตัดด้วยสีแดงงดงามสยายปีกอยู่บนหัวไหล่แกร่งด้านขวาอย่างชัดเจนแม้แสงไวในห้องจะถูกเปิดขึ้นแค่สลัวเท่านั้น
"เรื่องสำคัญ?"
ถามด้วยเสียงติดจะแหบแห้งอยู่มาก ทั้งที่ดวงตานั้นไม่ลืมเพราะง่วงงุนเหลือเกิน แต่เพราะคิดว่าคนสนิทเช่นกงเหยียนที่แสนจะเคร่งครัด หากไม่มีเรื่องสำคัญจริงก็คงไม่ขึ้นมาปลุกเขาทั้งที่เพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมงเป็นแน่
"ครับคุณชายรองสำคัญมาก!" กงเหยียนเน้นเสียงหนักจนคิ้วเข้มของคนบนเตียงขมวดเล็กน้อย
"มีเรื่องอะไร?" ถึงขณะนี้ชายหนุ่มก็ยังคงนอนคว่ำหน้ากับหมอนไม่ยอมลืมตาขึ้นมาแม้แต่น้อยบอกได้ว่าเขาเหนื่อยและง่วงนอนมากจริงๆ
"คุณชายสามให้คนของมังกรดำไปจับตัวของคุณเหรินซินไปจากบ้านที่เมืองหางโจวเมื่อคืนนี้ครับ!"
เรือนร่างสูงใหญ่ที่เมื่อครู่ก่อนนั้นยังดูไม่มีทีท่าจะขยับเมื่อฟังจบว่าน้องชายต่างมารดานั้นทำเรื่องใด ชายหนุ่มก็ถึงกับทะลึ่งพรวดพลาดขึ้นจากเตียงไวผิดร่างสูงใหญ่หน้าขาวๆ ปากแดงอมชมพูดังสตรีเพศมีเพียงคิ้วเข้มสีดำที่ทำให้ใบหน้าและดวงตาดุดันเท่านั้นที่ไม่ทำให้ใบหน้าชายหนุ่มหวานดังมารดา ผู้ล่วงลับไปหลาย10ปีจนเกินไปเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเจน
"เตรียมรถ! ฉันจะไปตบหัวให้สมองมันกลับจะได้รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรเสียบ้าง คนไหนสมควรล้อเล่นคนไหนไม่สมควรแตะต้อง!"
เสียงนั้นดุกร้าวอย่างน่ากลัวยิ่งดวงตาที่คมดุตอนนี้ยิ่งดุมากขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อภายในดวงตาทั้งคู่แดงฉานดังกับเลือด ทั้งกายขึ้นไม่รวมกันอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั้นเสียแล้ว
"รถเตรียมพร้อมแล้วครับ คนก็พร้อมแล้วเช่นกัน"
กงเหยียนที่รับใช้คุณชายรองจ้าวมาตั้งแต่เขายังมีอายุแค่18ปีทราบนิสัยใจคอของผู้เป็นนายดีกว่าท่านนายพลจ้าวผู้เป็นบิดาของอีกฝ่ายอยู่หลายส่วน ดังนั้นพอคนของแก๊ง'หงส์เพลิง'หรือหงส์เพลิงกรุ๊ปรายงานข่าวมาว่าเกิดเรื่องกับ'คนสำคัญ'ของผู้เป็นนายเขาจึงเร่งขึ้นมาปลุกผู้เป็นนายด้วยความร้อนใจอย่างยิ่งแต่จะร้อนใจเพียงใดเขาก็ต้องสืบให้กระจ่างว่าคนสำคัญของคุณชายรองนั้นขณะนี้อยู่ที่ไหน เพราะตลอดเวลา3ปีที่ผ่านมาคนที่แตะต้องไม่ได้มาโดยตลอดก็คือเหรินซิน ที่นับว่าสำคัญเป็นอันดับ2รองจากคุณนายรองซึ่งเป็นมารดาแท้ๆ ของคุณชายรองเขาจึงต้องรอบคอบและเตรียมพร้อมทุกสิ่งก่อนจะขึ้นมาปลุกผู้เป็นนายอยู่แล้ว
"เสื้อคลุมครับคุณชายรอง"
รับเสื้อคลุมสีดำปังลายหงส์เพลิงสีแดงถูกกงเหยียงนำมาสวมให้กับคุณชายรองจ้าวที่เร่งรีบลงมาจากชั้นบนไม่สนใจว่าตนเองมาเพียงกางเกงแพรสวมนอนติดกายตัวเดียวเท่านั้น ดังนั้นกงเหยียนที่เป็นคนสนิทควบตำแหน่งเลขายอมไม่ได้ที่คุณชายรองจ้าวต้องออกไปข้างนอกด้วยสภาพไม่สุภาพจึงวิ่งตามลงมาแล้วสวมให้อีกฝ่ายก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นรถตามไปอย่างเร่งรีบ
"ทำไมเหรินซินถึงถูกพบและจับตัวมาโดยที่คนของเราเพิ่งรายงานฉัน?!"
เสียงกดต่ำแบบพร้อมฆ่าใครก็ตามที่ตอบคำถามเขาไม่ได้ เพราะตลอด3ปีที่ผ่านมาตัวของเขาชีวิตจะเสี่ยงอันตรายแค่ไหนก็ได้แต่เหรินซินจะต้องมีคนคุ้มกันอย่างดีมาโดยตลอด แต่นี่อีกฝ่ายถูกจับไปเกินกว่า6ชั่วโมงคนของเขาจากหางโจวจึงเพิ่งรายงานมาให้เขาได้รับรู้ช่างสมควรตายเรียงตัวจริงๆ
"คุณชายสามสับขาหรอกคนของเราครับ"
"ปลดทุกคนที่ถูกคนของเจ้าสามหลอกออกไปให้หมด!"
"ครับ"
เจ้าคนพวกนั้นหากถูกคนที่ไม่เอาไหนเช่นคนของ'จ้าวป๋อจิ้ง'หลอกลวงได้ก็ไม่สมควรเลี้ยงดูต่อไป จ้าวลู่เฉินไม่เคยโกรธน้องชายต่างมารดาที่เล่นไม่รู้จักเล่นได้มากเท่าครั้งนี้มาก่อนเลยถึงปกติจะไม่ถูกกันแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาอยากฆ่ามันจนหน้ามืดได้เท่าครั้งนี้อีกเช่นกัน สำหรับเขาเหรินซินนับเป็นคนที่ประเมินค่ามิได้ ใครก็ได้บนโลกใบนี้ที่จ้าวป๋อจิ้งจะแตะต้องเขาไม่สนใจคนเดียวที่แตะต้องไม่ได้ก็คือเหรินซิน!
"แล้วมันทำไปเพื่ออะไร?"
"เท่าที่สืบทราบมาก็เพราะคุณชายสามไม่พอใจ ที่คุณหนูเจียงเอาแต่ตามติดคุณชายรองครับไหนจะยังมีข่าวว่าท่านนายพลจ้าวกับท่านนายพลเจียงเจรจากันว่าจะให้คุณหนูเจียงแต่งงานกับคุณชายรอง คุณชายสามจึงคิดจะจับตัวคุณเหรินซินมาให้ท่านนายพลจ้าวได้รู้ว่าคุณชายรองแต่งงานแล้วครับ "
มือแกร่งกำหมัดจนบังเกิดเสียงดังกระดูกลั่นดัง'กรอบ'เมื่อได้ฟังว่าจ้าวป๋อจิ้งท้าทายตนเองด้วยเรื่องไร้สาระเช่นนี้ คุณหนูเจียงอะไรนั่นเขายังจำหน้าอีกฝ่ายไม่ได้เลย แล้วข่าวอะไรนั่นเขาก็ยังไม่รู้เรื่องเนื่องจากช่วงนี้งานของเขายุ่งมาก ใครจะแต่งงานกับใครเขาไม่สนใจ ใครจะชอบจะรักกับใครเขายิ่งไม่ให้ค่า เพราะเขานั้นมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนมาตั้ง3ปีแล้ว หากบิดาคิดจะจับเขาแต่งกับลูกสาวของเพื่อนก็จะไม่สมหวังแน่นอน
"ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเหตุผลของคนอย่างมันจะมีแค่เรื่องของคุณหนูเจียงอะไรนั่น เพราะว่ากันตามความเป็นจริงคุณหนูเจียงอะไรคนนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไรฉันยังจำไม่ได้เหมือนกัน หากพูดถึงเรื่องที่ฉันพาคนของเราไปทลายแก๊งมังกรดำของน้าชายมันก็ว่าไปอย่างยังพอจะมีเหตุผลให้มันบังอาจแตะต้องเหรินซิน"
"แล้วคุณชายรองจำคุณเหรินซินได้หรือครับ?"
'จางจง'ชายหนุ่มวัย26ปีซึ่งกำลังขับรถอยู่คันปากจนอดจะเอ่ยขึ้นมาเสียไม่ได้ กงเหยียนมองอีกฝ่ายตาขวางประมาณว่าหากพูดให้ดีไม่ได้ก็ไม่สงบควรผายลมออกมา จนจางจงถึงกับรีบตบปากตนเองทันที
"ขับเร็วอีก ฉันร้อนใจจะแย่แล้วอย่ามัวแต่พูดจาเพ้อเจ้อ ภรรยาของฉันทั้งคนฉันก็ต้องจำได้สิ!"
จ้าวลู่เฉินไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนสนิทพวกนี้เพราะพวกเขานับว่าร่วมเป็นร่วมเสี่ยงตายกับเขามาหลายปี ขณะนี้ใจของเขาร้อนรนไปด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยของเหรินซินน้องสาวคนเดียวของพี่ชายผู้มีพระคุณที่ชาตินี้เขายากจะลืมได้คนนั้นมากกว่า ไม่รู้ว่าบัดนี้อีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว คนเช่นจ้าวป๋อจิ้งมันเดรัจฉานในร่างมนุษย์ไว้ใจได้ที่ไหนกัน!
แล้วยังจะมีท่านนายพลจ้าวผู้เป็นบิดาของเขาอีก หากรู้เรื่องของเหรินซินเขากลัวว่าบิดาอาจจะทำอันตรายภรรยาของเขาได้ คนเอาแต่ใจตัวเองแบบนั้นเขาซาบซึ้งดีทีเดียวว่าท่านนายพลจ้าวโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ทั่วไปแค่ไหน