ตอนที่ 11

1836 คำ
กว่าที่พิลาลศและมุกรินจะเดินทางจากบ้านสวนของลุงสมานจนมาถึงรถยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่ก็เกือบมืด ทั้งคู่รีบก้าวขึ้นรถอย่างรู้งาน ก็เพราะไม่อยากชักช้าให้เวลาเนิ่นนาน "ยังเจ็บที่ขาอยู่นี่คะ ให้พี่ขับแทนเถอะ" "ไม่เป็นไรค่ะ เจ็บนิดเดียว" มุกรินเพียงส่งยิ้มให้เล็กน้อย "แบบนั้นก็ได้ค่ะ" พิลาลศขับรถออกมาได้เพียงครู่ก็เริ่มชวนคนข้างๆ คุย "ตอนที่ทะเลาะกับหมา ทำเอาลศกับคุณลุงสมานขนลุกเลยนะคะ" "หืม พี่ไม่ได้ทะเละสักหน่อยค่ะ แค่ไล่เอง" "ยังไงก็ทำเอาลศอึ้งไปเลยค่ะ" "คงเพราะพี่ตกใจมั้งคะ เลยกล้าเสียงดังแบบนั้น" "ลศก็คิดแบบนั้นค่ะ แต่โชคดีนะคะ ที่คุณมุกไม่ถูกกัดไปด้วย" "จะบอกว่าโชคดีที่คนถูกกัดเป็นตัวเองเหรอคะ" "ลศถูกกัดมันดีกว่าคุณมุกถูกกัดค่ะ" "ดีกว่ายังไงคะ" "เพราะไม่งั้น หมาตัวนั้นตายแน่ค่ะ" ระยะทางจากนอกเมืองมุ่งหน้ากลับเข้าสู่กรุงเทพฯ ยังคงเท่าเดิม เพราะขับกลับทางเก่า แต่ก็คงจะลำบากกว่าขามาเพราะฝนที่เทกระหน่ำ และเสียงน้ำที่สาดกระทบรถพร้อมกับเสียงที่ปัดน้ำฝนคงทำให้คนข้างๆ รู้สึกตัวตื่น "ฝนตกหนักเลยนี่คะ" "ค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ลศจะขับอย่างระวัง" คนฟังเพียงเงียบไม่ตอบ และยกโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดู จากการแอบลอบมองของพิลาลศ เธอเห็นว่ามุกรินกำลังใช้แอปพลิเคชันแผนที่ "ข้างหน้ามีโรงแรมค่ะ เราหยุดพักที่นั่นสักคืนดีกว่าค่ะ" "ไม่เป็นไรค่ะ อีกไม่เท่าไหร่ก็จะเข้ากรุงเทพฯ แล้ว" "พี่กลัวน่ะค่ะ พักสักคืนเถอะ แล้วอีกอย่าง ฝนคงไม่หยุดตกง่ายๆ แน่" ก็เพราะเห็นอาการเหงื่อซึมที่ไรผมของพิลาลศ เธอจึงต้อแสร้งทำเป็นบอกว่ากลัว และอันที่จริงคนขับก็กังวลอยู่เหมือนกันกับท้องถนนที่ฝนตกหนักแบบนี้ "ค่ะ" "งั้นอีกห้าร้อยเมตรเลี้ยวซ้ายนะคะ" พวกเธอทั้งคู่เข้ามานั่งอยู่ปลายเตียงในห้องพัก เพราะคนคิดไม่ซื่อเลือกเสนอที่จะพักห้องเดียวกันโดยอ้างว่าแค่คืนเดียว และมุกรินเองก็ไม่ขัด "ลศจะออกไปแจ้งพนักงานเรื่องเตียงค่ะ" ก็ห้องที่พวกเธอพักด้วยกันดันเป็นเตียงเดี่ยว "ไม่ต้องค่ะ" มุกรินบอกพร้อมกับฉุดแขนคนข้างๆ ไว้ด้วย "เมื่อคืนเราก็นอนด้วยกันนี่คะ" "จริงด้วยค่ะ" พิลาลศพูดพร้อมสบตาคนข้างๆ ที่ส่งยิ้มให้ "จริงๆ แล้วคืนนั้น พี่ไม่ได้เมาจนจำอะไรไม่ได้" "คะ?" ก็ไม่ทันจะตั้งตัว อยู่ๆ พี่สะใภ้ก็เข้าโหมดจริงจังและเอ่ยออกมาแบบนั้น ซึ่งพิลาลศเองก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปในคืนนั้น และมันก็คงเป็นเรื่องที่ตัวเองเผลอหลุดปากสารภาพรักกับคนเมา แต่เสียงฟ้าผ่าก็กลายเป็นเสียงที่เข้ามาช่วยชีวิต มุกรินสะดุ้งตัวโยน "เอ่อ... คุณมุกรีบไปอาบน้ำเถอค่ะ มันดึกมากแล้ว" ส่วนพิลาลศก็ได้ทีพูดเปลี่ยนเรื่อง "ค่ะ" และหล่อนเองก็ไม่ขัด แม้จะรู้ว่าพิลาลศต้องการจะเบี่ยงประเด็น เมื่อคนที่แอบชอบหายเข้าไปใหนห้องน้ำแล้ว พิลาลศก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก็เพราะกำลังกังวลว่าพี่สะใภ้คงจะรู้ตัวแล้วว่าเธอคิดไม่ซื่อ ได้แต่นั่งทำใจกับความผิดพลาดของตัวเองในคืนนั้น เธอนั่งรอมุกรินอยู่พักใหญ่ หล่อนก็เปิดประตูออกมาโดยสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวและมีผ้าขนหนูพันที่ศีรษะ "น้องลศอาบต่อได้เลยนะคะ" ไม่วายเอ่ยบอกเสียงหวาน พิลาลศเองก็รีบลุกขึ้นยืนและตรงเข้าห้องน้ำไปในทันที และไปยืนทำใจต่อที่หน้ากระจก "เอาวะ! แกอย่ากลัวไปเลยลศ แกรอมาตลอดนี่" พิลาลศเอ่ยกับตัวเองหน้ากระจก เป็นไงเป็นกัน ถ้าหากมุกรินเอ่ยถามขึ้นมาก่อนอีก เธอก็จะสารภาพมันออกไปจนหมด ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน พิลาลศก็เปิดประตูออกจากห้องน้ำ โดยที่มีสายตาพี่สะใภ้ที่ส่งผ่านมาทางกระจกเงา แต่ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรต่อ ไร้บทสนทนา จะมีก็แต่เสียงฝนที่เทกระหน่ำลงมา พร้อมกับเสียงไดร์เป่าผมที่มุกรินกำลังใช้ ยิ่งไปกว่านั้น พิลาลศเองก็ช่วยเพิ่มเสียงดังในห้องไปอีก เธอก้าวขึ้นเตียง แต่ไม่ได้ล้มตัวนอนลงในทันที นั่งพิงหัวเตียงและกดเปิดโทรทัศน์  ก็เพื่อให้ภาพและเสียงบนจอช่วยดึงสติจากการมองเห็นเมื่อครู่ มุกรินที่กำลังนั่งเป่าผมหน้ากระจก หล่อนจงใจร่นเสื้อคลุมลงมาจนเห็นหัวไหล่เลยไปถึงแผ่นหลังแบบวับๆ แวมๆ นั่นมันทำให้ใจของคนที่คิดไม่ซื่อเต้นรัว จะลบภาพนั้นออกไปได้ยังไง ซึ่งหากตรงนั้นไม่มีหล่อนอยู่ด้วย เธอคงยกมือขึ้นมาพนม วอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้อภัยในสิ่งที่เธอคิดลามก และไม่นานเสียงไดร์เป่าผมก็เงียบลง ตามด้วยเสียงปิดไฟหน้ากระจก ร่างของมุกรินเดินตรงมายังเตียงนุ่มๆ และหล่อนก็ล้มตัวนอนโดยหันหลังให้พิลาลศ "พี่นอนแล้วนะคะ" เสียงหวานๆ ของพี่สะใภ้เปล่งออกมา นั่นทำให้คนที่คอยตั้งรับเริ่มใจห่อเหี่ยว ก่อนจะเลื่อนมือไปกดลดเสียงของโทรทัศน์เพื่อไม่ให้รบกวนการนอน ส่วนตัวก็เอี้ยวไปปิดไฟที่หัวเตียง เสียงฝนจากด้านนอกยังคงกระหน่ำเทไม่หยุด พิลาลศเองก็สติไม่อยู่กับตัว เอาแต่หันมองคนที่นอนหันหลังให้ แทนที่จะมองที่จอโทรทัศน์ ตั้งใจจะเอื้อมมือไปแตะที่หัวใหล่ แต่ก็ต้องชะงักไว้ "คุณมุกคะ" และเลือกที่จะส่งเสียงทักทายแทน เงียบ "หลับแล้วเหรอคะ" เพื่อให้แน่ใจ เธอจึงถามออกไปอีกรอบ คนที่หันหลังให้ไม่ตอบในทันที หล่อนเพียงขยับลุกขึ้นนั่ง และหันมาเผชิญหน้ากับพิลาลศ "พี่นอนไม่หลับค่ะ" "ลศกวนรึเปล่าคะ" "เพราะเสียงฝนน่ะค่ะ" "อ๋อ... แบบนี้นี่เอง ลศคงห้ามฝนให้คุณมุกไม่ได้"  คำพูดของพิลาลศทำให้มุกรินเผลอยิ้มออกมา ถึงแม้ภายในห้องจะไร้แสงไฟ แต่ก็ยังพอมีความสว่างจากโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ส่งมาเป็นระยะ "คือเรื่องคืนนั้น ที่ลศพูดไป" "จูบพี่ได้มั้ยคะ" "คะ?" "ไม่ได้สินะคะ" "ได้ค่ะ! เต็มใจมากๆ" โพล่งออกไปอย่างดีใจและไม่คิดเก็บอาการ ก็รอมานานแล้ว คงถึงเวลาเสียที เธอเอาแต่มองที่ใบหน้าพี่สะใภ้แถมด้วยลำคอระหง ไล่ลงมาที่สร้อยเพชรเล็กๆ บนคอที่เคยให้หล่อน พิลาลศเริ่มจากก้มลงจูบที่คอของคนตรงหน้า พร้อมกับจงใจสูดกลิ่นหอมๆ บนกายหล่อน ไม่แค่นั้นมือซนๆ ยังลูบไปทั่วทั้งแขนของพี่สะใภ้ คงจะไม่ได้หวังแค่จูบตามที่หล่อนสั่งเท่านั้น มือพิลาลศขยับไปดึงรั้งเสื้อคลุมให้ร่นลงมา แบบที่เผยให้เห็นหัวไหล่กลมมน และบรรจงจูบประทับที่ตรงนั้นแบบแผ่วเบา "น้องลศคะ" เสียงนี้ออกจากปากมุกริน จนคนฟังรู้สึกได้ถึงความแหบพร่า "จูบพี่สักทีสิคะ" คำพูดนี้ทำให้พิลาลศต้องละจากเนื้อนุ่มๆ ที่หัวไหล่ เพื่อเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้ มือทั้งสองข้างเลื่อนไปสัมผัสกอบกุมใบหน้ามุกริน พร้อมกับการขยับหน้าเข้าหาหล่อน "ลศรักคุณมุกนะคะ"  "น้องลศคะ" "คะ?" "จะทำอะไรคะ" "คะ?" "น้องลศคะ"  เสียงนี้เรียกสติให้คนชอบละเมอ พร้อมด้วยโคมไฟหัวเตียงที่ส่องสว่าง "เอ่อ... ลศมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงคะ" พิลาลศถามออกมาด้วยใบหน้าเหวอๆ  ก็ท่ามกลางความมืด เธอดันมาหยุดยืนอยู่ที่ปลายเตียง พร้อมกับในมือกอดหมอนแน่น แถมท่าสุดท้ายที่ลืมตาคือกำลังจูบลงบนหมอน มุกรินเปลี่ยนท่าทางเป็นขยับลุกขึ้นนั่งคุยกับพิลาลศ "พี่ต้องถามน้องลศมากกว่าค่ะ ว่ายืนทำอะไรตรงนั้น" "สงสัย ลศจะละเมอค่ะ" พูดออกมาพร้อมเกาที่ต้นคอตัวเองไปด้วยอย่างอายๆ "งั้นก็มานอนเถอะค่ะ"  เห้อ.. ก็แค่ฝัน แต่คงจะเป็นฝันดีที่สุดสำหรับพิลาลศในคืนนี้ ทันทีที่พิลาลศนอนลง มุกรินก็พลิกตัวมาหา "เมื่อกี้น้องลศละเมอเรียกชื่อพี่ด้วยนะคะ"  "แค่เรียกชื่ออย่างเดียวใช่มั้ยคะ" "และก็ขอพี่จูบด้วย" คนที่นอนนิ่งอยู่ในความมืดเริ่มเหงื่อตกทั้งที่อากาศในห้องก็เย็นเฉียบ "ฟ ฟังผิดรึเปล่าคะ" "นั่นสิคะ พี่คงจะฟังผิด จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงนะ" คนพูดเอ่ยออกมาเสียงอ่อน ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนหงาย "นอนกันเถอะค่ะ" เพื่อตัดการคิดไปไกล พิลาลศจึงเอ่ยขึ้นมาอีก พร้อมกับนอนหันหลังให้ แต่สักพักก็ต้องสะดุ้งโหยง เพราะรู้สึกถึงแขนของคนด้านหลังที่กำลังโอบกอดเธอ แถมพี่สะใภ้ยังจงใจขยับมาใกล้และแนบใบหน้าไว้ตรงแผ่นหลังของเธออีก "ขอกอดแบบนี้สักพักนะคะ อยู่กับน้องลศแล้วพี่สบายใจจริงๆ ค่ะ" พิลาลศทำเป็นนอนนิ่งให้พี่สะใภ้ได้ทำตามคำขอ แต่ใจนั้นเต้นรัว  เธอรู้สึกได้ถึงการกอดที่แนบแน่น แถมภายใต้ชุดคลุมนั่น มุกรินไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ดังนั้นสิ่งที่ชิดอยู่กับแผ่นหลังเธอคงจะเป็นหน้าอก เพราะรู้สึกได้ถึงความนุ่ม ได้แต่นับเลขหนึ่งจนเกือบจะถึงร้อย แต่ก็คงนับได้ไม่ถูกต้องและแม่นยำนัก เพราะขาดสติ และการใกล้ชิดแบบนี้ ก็เกินจะรับไหว พิลาลศพลิกตัวมาเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้ ตั้งใจจะพูดจาและคิดจะทำมากกว่านั้น แต่ก็ได้แค่นอนมองหน้าแทน เพราะลมหายใจที่สม่ำเสมอ  มุกรินคงจะหลับสนิท เกือบไปแล้ว หากหล่อนยังคงลืมตาแป๋วใส่ในตอนนี้ พิลาลศคงจะไม่นอนนิ่งแน่ เอาง่ายๆ คือเธอใจเสาะ และก็ทำได้เพียงดึงร่างของพี่สะใภ้เข้ามากอด แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะแค่นี้ก็เกินกว่าที่เธอเคยทำ กับการนอนกอดคนที่แอบรัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม