ดวงตาคมกร้าวมองร่างแบบบางที่กำลังวิ่งตรงไปที่รถของหล่อน ยิ้มเหี้ยมก่อนจะเปิดประตูรถ เพราะใยไหมไม่มีทางถึงรถก่อนเขาถึงตัวหล่อนแน่ และแค่พริบตาใยไหมก็ต้องหวีดร้อง เมื่อฝ่ามือแกร่งรั้งข้อมือพร้อมกระชากเข้าหาตัว “ปล่อยไหมนะ! พี่กูร! ปล่อยไหม ถ้าไม่ปล่อย ไหมจะร้องให้คนช่วย” “ร้องเลย! ถ้าอยากให้ใครมาเห็นพี่เล่นจ้ำจี้กับไหมในสวน ก็ร้องเลย!” “จ้ำจี้... ไม่นะ พี่กูรปล่อยไหม! ปล่อย!” ใยไหมหวีดร้องทันทีเพราะทิศทางที่อังกูรกระชากให้เดินตามคือทางลงไปในสวนจริงๆ เวลานี้ใครจะมาเห็น หล่อนก็ไม่สนแล้ว ต้องไปให้พ้นจากอังกูรให้ได้ จะไม่ยอมให้เหตุการณ์วาบหวามทั้งร่างกายและหัวใจเกิดขึ้นอีก ทว่าฝ่ามือใหญ่ที่ทาบปิดปากกลับทำให้ดวงตาเบิกกว้างรับรู้ถึงชะตากรรมของตัวเอง ใยไหมพยายามเรียกสติของตัวเองไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปกับสิ่งที่อังกูรทำ เพราะขณะนี้หล่อนมีสติสัมปชัญญะเต็มร้อย สมองคิดคำนวณถึงทางหนีทีไล่ได้ และสวน