CHAPTER 7 ไม่อาจย้อนกลับ

3438 คำ
ปลายฟ้านั่งเงียบมาตลอดทางในขณะที่คิดวกวนกับคำพูดของแม่หมอ เธอพูดราวกับตาเห็นทว่าเมื่อปลายฟ้าย้อนกลับไปที่ร้านอีกครั้งกลับไม่พบตัวเธอ เหลือเพียงแค่ร้านที่ปิดลูกกรงและไม่ว่าจะพยายามเดินหาหรือตะโกนเรียกก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้เจอตัวเธออีกครั้ง สิงหราชต้องรอดในวันเกิดของเธอ.. ประโยคนี้ยังติดอยู่ในหัวจนปลายฟ้าไม่สามารถโฟกัสสิ่งรอบตัวได้เลย เธอหันหน้ามองสิงหราชที่หมุนพวงมาลัยเข้ามาจอดในบ้าน ก่อนจะพูดสิ่งที่ติดอยู่ในใจออกมา “พรุ่งนี้เราไปโรงพยาบาลกันเลยนะเฮีย ไปให้หมอเริ่มการรักษาเลย” ปลายฟ้ามุ่นคิ้วเข้าหากัน สายตาจดจ่อรอฟังคำตอบจากสิงหราชที่เงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันมีคุยงานลูกค้า” “แต่ชีวิตเฮียต้องมาก่อนสิ ไปแค่แปปเดียวเอง” “พรุ่งนี้ไม่ว่างทั้งวัน มีประชุมช่วงเช้าแล้วก็ลากยาวทั้งวันเลย” สีหน้าเรียบเฉยที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวของสิงหราชยิ่งทำให้ปลายฟ้าร้อนใจ เพราะเธอรู้ว่าโรคหัวใจรักษาไม่หายขาด แต่สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงทานยาตามที่หมอสั่ง เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง เว้นเสียแต่ว่าคนไข้นิสัยดื้อเหมือนเขา ที่ไม่ยอมเอ่ยปากบอกใครเวลาป่วยหรือขอความช่วยเหลือเลยแม้แต่ครั้งเดียว มันเลยทำให้ปลายฟ้าอยากจะให้เขาได้รับแต่สิ่งที่ดี “มะรืนล่ะเฮีย ว่างมั้ย” ปลายฟ้าไล่สายตาคำนวณวัน ก่อนที่สิงหราชจะหันหน้ามามองแล้วเอี่ยวตัวปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกให้ “ว่างแค่วันศุกร์” “ขอวันพฤหัสไม่ได้เหรอเฮีย” สิงหราชถอนหายใจหนัก “เธอฟังภาษาคนไม่เข้าใจเหรอปลายฟ้า” “วันศุกร์มันช้าไป” ปลายฟ้าทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่ ทั้งนี้สิงหราชไม่รู้เรื่องราวที่ปลายฟ้ากับผู้หญิงคนนั้นคุยกัน เขาถึงได้เริ่มแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมา เพราะปลายฟ้าไม่เคยเป็นแบบนี้ต่อหน้าเขามาก่อน “ทำไม ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับเธออีก ตั้งแต่ขึ้นรถมาเธอก็ลนลานเหมือนคนเสียสติ ฉันควรจะทำยังไงกับเธอดี หะ” ถ้าหากว่าเขาได้เจออย่างที่เธอเจอ คำว่าเสียสติอาจจะน้อยไปเสียด้วยซ้ำ ปลายฟ้าไม่ตอบคำถามของเขา แต่เปลี่ยนเป็นโยนคำถามกลับไปแทน “ถ้าหนูบอกเฮียว่าเธอพูดอะไรบ้าง ยังไงเฮียก็ไม่เชื่อหนูอยู่ดี จริงมั้ยคะ” “ฉันไม่อยู่ไทยแค่แปปเดียว สมองของเธอมันไปกระทบกระเทือนอะไรมาหรือไง” “เฮีย” ปลายฟ้าเชิดใบหน้าแล้วสะบัดหน้าหนี แต่สิงหราชจับไหล่เล็กให้หันกลับมาคุยต่อให้รู้เรื่อง “วันนี้เธอเอาแต่พูดจาไร้สาระทั้งวัน แล้วก็ร้องไห้เหมือนฉันกำลังจะตาย แล้วไหนจะเรื่องดูไพ่อีก” สิงหราชขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าคมคายดูดุดันจนปลายฟ้าโต้กลับเสียงแผ่ว “มันไม่ได้ไร้สาระเลยนะเฮีย..” “เธอไม่ต้องห่วงอะไรฉัน ฉันดูแลตัวเองได้” “ถ้าดูแลตัวเองได้แล้วทำไมปล่อยให้ตัวเองตายล่ะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วมุ่น พลางส่ายหน้าไม่อยากจะต่อบทสนทนาให้มากกว่านี้ “ฉันว่าวันนี้เราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะปลายฟ้า” “พี่ผู้หญิงคนนั้นพูดสิ่งที่หนูฝันตรงกันหมดเลย แต่เธอบอกว่าหนูไม่ได้ฝัน หนูย้อนเวลากลับมาต่างหาก” สาวเจ้ากอดอกอย่างแง่งอน เชิดปลายจมูกเล็กขึ้นแล้วหันหน้ามองสิงหราช เขาผ่อนลมหายใจหนัก สีหน้าเต็มไปด้วยความเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด “เพราะว่าเฮียจะตายในวันเกิดของหนูไง หนูก็ต้องช่วยเฮียให้ได้สิ” สิงหราชสั่นหัว พลางยกมือขึ้นกุมขมับ “แล้วบอกว่าจะไม่ทิ้งกัน สุดท้ายเฮียนั่นแหละที่ทิ้งหนูไปก่อนใครเลย” “เรียนหมอ แต่เพ้อเจ้อแบบนี้จะเรียนรู้เรื่องมั้ย” “ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย” “อย่าเถียง” “เขาเรียกว่าอธิบายต่างหาก” “ปลายฟ้า” “เฮียสิงห์” “ดื้อด้าน พูดไม่รู้ฟัง” สิ้นประโยคนั้นปลายฟ้าก็ไหล่ลู่อัตโนมัติเมื่อถูกดุ นัยน์ตากลมโตส่ายไปมา จนสิงหราชที่ได้เห็นก็ถึงกับลอบถอนหายใจอย่างรู้สึกผิดที่เผลอดุเธอไป “ไปนอนได้แล้ว วันนี้เธอร้องไห้ไปเยอะแล้วก็ไปกินเยอะ คงจะง่วงน่าดู” ปลายฟ้ากะพริบตาปริบ มองสายตาคู่คมที่มองมาแล้วขบกัดริมฝีปากล่างเบาๆ “ฉันจะเข้ารับการรักษา สัญญาไปแล้วไง ทีนี้ก็สบายใจได้แล้วว่าฉันจะอยู่กับเธอได้อีกยาว” Knight Of Cups ใช่ ไพ่อัศวินถือถ้วย ต่อให้เจอไพ่ดาบถึงหกเล่ม แต่ปลายฟ้าเชื่อว่าตัวเองมีเลือดนักสู้อยู่ในตัว หลังจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้กับมันเด็ดขาด สู้จนหัวชนฝาแน่นอน “ถ้างั้นเจอกันวันศุกร์” “เฮียจะกลับคอนโดหรอ” เขาพยักหน้ารับ พลางเลิกคิ้วมองเธอที่รั้งแขนเอาไว้ “คืนนี้นอนที่นี่ได้มั้ยคะ หรือจะกลับไปเคลียร์งานที่คอนโดอีก แต่หนูอยากให้เฮียนอนค้างที่นี่นะ ป้าแม่บ้านทำความห้องเฮียทุกวันอยู่แล้ว” ว่าแล้วก็ยิ้มแฉ่งทันที สิงหราชนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับว่าเขาจะนอนที่นี่ แม้ว่าจะมีเอกสารกองอยู่ที่คอนโดก็ตาม ปลายฟ้ายิ้มกว้างด้วยความดีใจ “ถ้างั้นเดี๋ยวหนูไปเช็คความเรียบร้อยให้ก่อนดีกว่า เฮียจะได้นอนสบาย” พูดจบเธอก็เดินลงจากรถไปด้วยท่าทางอารมณ์ดี จนสิงหราชเผลอยิ้มออกมา ทว่าก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเหลือบสายตาเห็นตัวเองในกระจกว่ากำลังยิ้มอยู่ เวลาล่วงเลยข้ามวันเมื่อใบหน้าสวยเหลือบสายตามองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่เธอยังคงนั่งอ่านหนังสือไม่พักเพราะอาการนอนไม่หลับที่รุมเร้า ทางสิงหราชเองก็นอนไม่หลับถึงได้เดินลงไปหยิบน้ำดื่ม ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับแสงไฟที่สว่างจากห้องของปลายฟ้า ทำให้เริ่มเป็นห่วงขึ้นมาว่าเธอกำลังจะคิดมากอยู่หรือเปล่า คำพูดของเธอติดอยู่ในหัวของเขาจนทำให้นอนไม่หลับ สิงหราชไม่เคยเห็นปลายฟ้าพูดเพ้อขนาดนี้มาก่อน ที่ผ่านมาเขาพยายามดูแลเธอเท่าที่ผู้ชายคนนึงจะทำได้ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ ถึงจะแอบแปลกใจแต่เขาคงปักใจเชื่อในสิ่งที่เธอพูดไม่ได้ ใครจะกล้าเชื่อเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แบบนั้นกัน ส่วนเรื่องป่วยนั้นสิงหราชรู้ตัวตั้งแต่สามเดือนก่อนว่าเขาเป็นโรคหัวใจ หลังเข้าพบแพทย์เพราะตรวจสุขภาพประจำปี เป็นเพียงแค่ระยะเบื้องต้นของอาการที่ไม่รุนแรงมาก แต่ถึงให้รุนแรงสิงหราชก็คงไม่อยากเข้ารับการรักษา หากต้องตายเขาก็แค่อยากจากไปแบบสงบ.. เมื่อถึงเวลานั้นเขาคงละทิ้งหน้าที่จากราพณาที่ท่านเกษมได้มอบให้ แล้วทำตามสิ่งที่เขาอยากจะทำ ไม่ใช่ต้องทำเพราะเป็นคำสั่งของใคร “ปลายฟ้า” สิงหราชใช้วิธีเรียกคนข้างในแทนการเคาะ ไม่นานคนในห้องก็เปิดประตูออก สีหน้าดูวิตกกังวลแต่เมื่อเห็นสิงหราชเธอก็ระบายยิ้มหวานทันที “ทำไมยังไม่นอน” “นอนไม่หลับ แล้วเฮียล่ะ ทำไมยังไม่นอนหรือว่านอนไม่หลับเหมือนกัน” “กำลังจะนอนแล้ว” ปลายฟ้าพยักหน้าเหมือนยังไม่อยากให้สิงหราชไป เธอเลื่อนสายตาขึ้นสบนัยน์ตาคู่คม สำรวจโครงหน้าที่สง่างามราวกับพระเจ้าทรงปั้นแล้วหลุบตามองเรียวปากสีระเรื่อ สิงหราชกลืนน้ำลายลงคอ พลางกระแอมไอเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องตนนานเกินไป “เฮียกล่อมคนนอนเป็นมั้ย” “ไม่เป็น” “ถ้างั้นนั่งเป็นเพื่อนหนูหน่อยได้มั้ย” “เธอโตแล้ว” สิงหราชบอกเสียงเรียบ “ควรจะโตได้แล้วด้วย” ปลายฟ้ายืนมุ่ยหน้ามองเขาที่กดสายตามองมา ลูกอ้อนที่ปลายฟ้ามักจะใช้โดยไม่รู้ตัวก็คือการมองเขาด้วยสายตาเว้าวอน เหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ตาดำกลมโตเวลาอยู่ในที่มืด แล้วก็มักจะมีเสียงครางอือในลำคอเบาๆ “ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ.. ฝันดีนะคะเฮีย” เธอก้มหน้าอย่างนึกเสียดาย ทำท่าจะหมุนตัวกลับแต่ก็ถูกมือหนารั้งเอาไว้ก่อนจะเป็นฝ่ายลากเธอเข้าห้อง จับไหล่ปลายฟ้านั่งลงบนเตียง ส่วนเขาดึงเก้าอี้ทำงานของเธอมานั่งข้างเตียงแทน “นอนซะ” สิงหราชออกคำสั่ง พลางยกขานั่งไขว่ห้างกอดอกมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ทำอย่างกับมาสอบสวน..” ปลายบ่นอุบ ก่อนจะคลานขึ้นไปนอนบนเตียง ห่มผ้าถึงหน้าอกแล้วยิ้มให้สิงหราชที่ยอมนั่งเฝ้าเธอตามที่ขอ “มัวแต่มองฉันแล้วจะหลับมั้ย” “จับมือด้วยได้มั้ย” “เยอะเกินไปแล้ว” “แค่แตะก็ได้” “ไม่ได้” “เฮีย” สิงหราชสูดลมหายใจพลางระบายทิ้งด้วยสีหน้าเมินเฉยต่อสายตาอ้อนวอนของปลายฟ้า มันคงไม่ดีถ้าหากใกล้ชิดกันมากกว่านี้ เส้นบางเส้นก็ไม่ควรก้าวล้ำเข้าไป เพราะเขารู้ว่ามันไม่ควรตั้งแต่แรก นัยน์ตาคู่สวยเอาแต่มองใบหน้าคมคายไม่ละไปไหน กระทั่งเปลือกตาเริ่มหนักคนบนเตียงก็หลับตาลง ท่ามกลางความเงียบภายในห้อง แต่มีสายตาของสิงหราชจับจ้องอยู่ นานหลายนาทีที่สิงหราชไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เมื่อเขามั่นใจว่าปลายฟ้าหลับสนิท เขาก็ลุกขึ้นยืนอยู่ข้างเตียงพลางกระชับผ้าห่มผืนอุ่นให้คลุมร่างบางเอาไว้ “ฝันดี..” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องของเธอพร้อมปิดไฟให้ ถ้าหากเปรียบปลายฟ้าเป็นเสมือนดอกไม้ดอกหนึ่ง ก็คงจะเป็นดอกไม้ที่สิงหราชไม่กล้าเด็ดลงจากต้น เธองดงามเมื่ออยู่กับต้นและเขาควรอยู่ห่างเอาไว้ เพราะจะได้ชื่นชมความสวยงามนั้นได้นานกว่าเด็ดมาเชยชมเสียเอง วันศุกร์ที่ปลายฟ้าตั้งตารอก็มาถึง เธอเตรียมตัวตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อที่จะเจอสิงหราชหลังเลิกเรียน เจ้าตัวออกมานั่งรอที่ป้ายรอรถรางของมหาวิทยาลัย สายตาก็ชะเง้อมองหารถของสิงหราชไปด้วย บ่อยครั้งที่ปลายฟ้าพยายามหาวิทยาศาสตร์มากลบล้างเรื่องราวมากมาย แต่บางทีการแก้ไว้ก่อนสายมันก็ไม่แย่เท่าไหร่ ขอแค่ผ่านคืนนี้ไปก่อนก็พอ.. “เฮีย” ปลายฟ้ายิ้มร่าเมื่อเห็นรถหรูคุ้นตาขับเข้ามาจอด รีบเดินไปขึ้นรถโดยไม่ลืมที่จะยกมือไหว้สิงหราชด้วย “นั่งรอนานหรือยัง พอดีมีคุยงานต่อนิดหน่อย” มือหนาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดหมุนพวงมาลัยดูเพลินตา จนปลายฟ้าเผลอเหลือบมองนานหลายวินาที “ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ” “ตอนนี้สบายใจขึ้นหรือยัง” ปลายฟ้าเลิกคิ้วมองสิงหราชที่ปรายสายตามองมาเมื่อครู่ “เรื่องฝัน” เสียงทุ้มตอบกลับ บ่งบอกว่าเขาเป็นคนที่ใส่ใจเสมอ แม้ว่าเรื่องจะผ่านมาแล้วก็ตาม “หนูจะไม่วางใจจนกว่าเฮียจะผ่านคืนนี้ไปด้วยกัน” เจ้าของใบหน้าขาวราวกับไข่ปลอกส่ายหน้า พลางกระชับเสื้อคาร์ดิแกนไหมพรหมไปด้วย “ตามใจ” “เฮียควรหาใครสักคนมาดูแลได้แล้วนะ อายุก็เยอะขึ้นทุกวัน ไม่อยากมีแฟนเหรอคะ” “ความสุขของชีวิตบางทีไม่จำเป็นต้องมีแฟนก็ได้นะปลายฟ้า บางคนที่เขาอยู่คนเดียวจนชิน เขาอาจจะมีวิธีที่ทำให้ตัวเองมีความสุข จนไม่จำเป็นต้องมีแฟนก็ได้” สิงหราชอธิบายอย่างใจเย็น และบ่อยครั้งปลายฟ้าก็ได้เรียนรู้หลายๆ อย่างจากคนอายุเข้าใกล้สามสิบอย่างเขา “หนูรู้ แต่แค่เป็นห่วงเฮียนี่” “บอกแล้วไง ฉันดูแลตัวเองได้” “แล้วผู้หญิงที่ชื่อพริม เฮีย.. ได้ติดต่อกับเธอบ้างหรือเปล่า” “ก็มีแต่เรื่องธุรกิจ” หลังได้ยินคำตอบปลายฟ้าก็อมยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างพอใจ เพราะชีวิตในพาร์ททำงานของสิงหราชเธอแทบจะไม่เคยได้เห็นเลย หลายเดือนมานี้สิงหราชทุ่มเทเวลาให้กับงานถึงขนาดที่อยู่บ้านเดียวกันก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เพราะงั้นปลายฟ้าถึงไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังผู้ชายคนนี้ เขาต้องพบเจออะไรมาบ้าง “แล้วมีหวานใจหรือยังเฮีย” “หวานใจอะไร” “หวานใจที่ไม่ใช่หวานเย็นไงคะ” สิงหราชส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของอีกฝ่าย แต่ยังคงเป็นความสดใสได้เหมาะสมกับชื่อของเธอเอง ชื่อปลายฟ้าก็ต้องสดใสเหมือนกับท้องฟ้า ผิดถนัดกับวันแรกที่ได้เจอที่ฟ้ามืดครึ้มจนนึกว่าจะไม่ได้เห็นแสงของพระอาทิตย์เสียแล้ว ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงสิงหราชก็ขับรถมาถึงโรงพยาบาล โดยเจ้าคนตัวเล็กที่สูงแค่อกเป็นคนลากแขนสิงหราชเองกับมือ “หัวใจเฮียจะซ่อมได้ใช่มั้ย” ปลายฟ้าเริ่มกังวลหลังนั่งรอคุณหมอที่หน้าห้อง “ถามหมอสิ ฉันจะรู้หรือไง” สิงหราชปรายตามอง “ทำได้สิคะ ถ้าแค่เริ่มต้นไม่หนักมากก็กินยารักษา ถ้าเสียหายบางส่วนก็ทำบอลลูนหัวใจ แต่ถ้ายากหน่อยก็ผ่าตัดบายพาส แต่เฮียก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ” “ฉันออกกำลังกายประจำ” “แต่เฮียสูบบุหรี่ ห้ามเด็ดขาดเลย” “เป็นหมอหรือไง” “เดี๋ยวก็ได้เป็น” “อีกตั้งสี่ปี” “มันแปปเดียวเองเฮีย ถ้าไม่รวมเฉพาะทางอีก..” ปลายฟ้ายิ้มแห้ง เพราะนอกจากจะเรียนหมอหกปี ก็ยังมีการเรียนต่อเฉพาะทางอีก หนทางยังอีกยาวไกลกับคำว่าหมออีกเยอะเลย “คุณสิงหราชค่ะ” เสียงหวานฟังดูนุ่มนวลดังขึ้น “รอตรงนี้” สิงหราชลุกขึ้นยืนหลังคุณพยาบาลเรียกชื่อให้เข้าพบคุณหมอ ปลายฟ้าพยักหน้ารับคำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลแต่ก็ยังยิ้มให้อีกฝ่าย ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีสิงหราชก็ออกมาจากห้องหลังปรึกษาคุณหมอเสร็จ ก่อนจะพากันไปที่จุดจ่ายยา เพราะโรคหัวใจของสิงหราชยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัดรักษา แค่รับประทานยาและทำตามคำสั่งแพทย์ แต่หลังจากนั้นอาการจะดีขึ้นหรืออาจต้องผ่าตัดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของร่างกายแล้วว่าดูแลรักษาตัวเองดีแค่ไหน “เฮียต้องทานยาให้ตรงเวลาแล้วก็อย่าลืมลดบุหรี่กับเหล้าด้วยนะคะ ถ้าไม่อยากให้หัวใจบอบช้ำไปมากกว่านี้” ปลายฟ้ากำชับอีกครั้งหลังรับยาเสร็จ จนอีกคนที่ต้องทนฟังถึงสามครั้งสามคราก็ถึงกับหันไปมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง “เป็นเมียหรือไงมาสั่ง” เธออ้าปากค้างคล้ายว่าหูจะแว่ว แต่สิงหราชกลับส่ายหน้าแล้วเดินหนี จนเธอต้องรีบวิ่งไปเดินขนาบข้าง จากเป็นหมอผันมาเป็นเมียได้ยังไงกัน.. “เมื่อกี้เฮียว่าอะไรนะ” “ก่อนกลับเราจะแวะซื้อเค้กกันก่อน ตกลงมั้ย” “เฮียยังไม่ตอบคำถามเลย เมื่อกี้พูดว่าอะไร” สิงหราชหยุดเดิน พลาส่งสายตาในเชิงว่าเขาจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง “ก็ได้ค่ะ แต่คืนนี้เฮียอยู่ที่บ้านนะ ไม่ต้องไปเคลียร์งานที่คอนโดหรอก” “วันนี้ก็คิดว่าจะกลับไปนอนบ้านอยู่แล้ว” “โอเค กู้ดเลยเฮีย” กว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เล่นจนค่ำมืด แต่เหตุการณ์ทุกอย่างก็ยังดำเนินไปตามปกติ โดยที่ปลายฟ้าคอยสังเกตสิงหราชตลอดเวลาว่าเขาจะเกิดอาการอะไรขึ้นมาหรือเปล่า “ทำไมไม่เขียนหน้าเค้ก” สิงหราชถามขึ้นหลังเดินออกมาจากร้านเค้กแล้ว “ชอบแบบนี้มากกว่านี่เฮีย” ปลายฟ้าที่ถือเค้กตอบกลับ เธอไม่ได้สั่งให้เค้กข้อความอะไรบนเค้ก นอกจากให้มันเป็นเค้กนมสมแบบมินิมอลที่มีเพียงรูปสายรุ้งอยู่ตรงกลาง เปรียบเสมือนชีวิตของเธอที่เพิ่งจะผ่านพายุหนักมา นิ้วเรียวของปลายฟ้าแตะเปิดเพลงให้คลอระหว่างทางขับรถกลับบ้าน เธอฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ไม่ต่างอะไรจากสิงหราชที่กระดิกนิ้วไปตามจังหวะเพลงเช่นกัน “เฮีย” ปลายฟ้าร้องเสียงหลง หลังสิงหราชเหยียบเบรกกะทันหันกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ตัดหน้าไปเมื่อครู่ “เป็นอะไรมั้ย” สิงหราชหันกลับมาถามเธอที่อยู่ในอาการตกใจ “ไม่เป็นไร แต่ทำไมเขาขับรถแบบนั้น เดี๋ยวก็เกิดอุบัติเหตุหรอก” สิงหราชไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องอะไร เขายังคงขับรถตามปกติแต่เหมือนว่ารถมอเตอร์ไซค์คันเมื่อครู่นี้จะพยายามขับตีข้างเขามาตลอดทาง ปลายฟ้าที่นั่งก้มหน้าเล่นมือถือ เงยหน้าขึ้นมองเพราะสัมผัสได้ถึงการขับรถที่ไม่ปกติของสิงหราช แล้วเธอก็ได้เห็นชายชุดดำที่สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ขับรถโฉบไปโฉบมาเหมือนจะหาเรื่องกันให้ได้ “หนูว่าเขาตามเรานะเฮีย” “ฉันก็คิดว่างั้น” “เขาพยายามปาดเราแน่เลย.. ทำแบบนี้ทำไมเนี่ย” เรียวคิ้วเข้มมุ่นเข้าหากัน พยายามจะเบี่ยงตัวหลบแต่ก็จะถูกขวางหน้าเอาไว้ จนสิงหราชตัดสินใจบีบแตรไล่จนแซงขึ้นมาได้ ทว่าวินาทีต่อมามอเตอร์ไซค์คันนั้นก็บิดขึ้นมาปาดหน้าสิงหราชจนเจ้าตัวเกิดอาการตกใจ หักพวงมาลัยหลบอัตโนมัติ ก่อนที่เสียงบีบแตรจากรถสิบล้อจะดังขึ้น ท่ามกลางเสียงร้องของปลายฟ้า “เฮียระวัง” “เฮ้ย!” เพียงพริบตาเดียวรถของสิงราชก็ถูกอัดเข้ากับหน้ารถสิบล้อ รถทางด้านฝั่งคนขับถูกรถสิบล้อพุ่งชนเข้าอย่างจัง ผลมาจากสิงหราชหักพวงมาลัยให้ฝั่งตัวเองโดนชน แทนที่จะหักหลบตามสัญชาตญาณมนุษย์โดยทั่วไป แรงปะทะเข้าอย่างจังทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก นานหลายวินาทีที่ในหัวของปลายฟ้ามีเสียงวิ้งดังปนความปวดหน่วงบริเวณศีรษะ เธอรู้สึกตัวก่อนจะลืมตาแล้วพบว่าสิงหราชนอนแน่นิ่ง ใบหน้าฟุบลงกับพวงมาลัย มีเลือดไหลตามกรอบหน้า “เฮีย.. เฮียสิงห์” ปลายฟ้าเปล่งเสียงเรียกอีกฝ่าย แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ใบหน้าขาวที่มีรอยแตกตรงขมับขวาไม่ได้ห่วงตัวเองแม้แต่น้อย เธอเบ้หน้าเมื่อจะขยับแขนซ้ายแต่ก็พบว่าแขนตัวเองหัก ปลายฟ้าเลยใช้มือขวาตบบ่าสิงหราชก่อนจะเปลี่ยนเป็นแตะที่ข้างแก้มเขา “เฮียสิงห์.. เฮียได้ยินหนูมั้ย” สิงหราชนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ ไม่มีแม้แต่การกระเพื่อมของลมหายใจที่บ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ “อย่าตายนะ” ปลายฟ้าเสียงสั่น น้ำตารื้นคลอเบ้า “สัญญาแล้วไงว่าจะไม่ตาย เฮีย.. เฮียได้ยินหนูมั้ย เฮียตื่นสิ” น้ำตาเม็ดใสไหลรินอาบแก้มขาวจนเปียกชุ่ม เสียงร้องอ้อนวอนดังขึ้นราวกับจะขาดใจ เมื่อสายตายังคงเห็นร่างอันไร้วิญญาณของสิงหราชจากไปต่อหน้าต่อตา โดยที่เธอไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้เลย ทันใดนั้นเสียงของหญิงสาวที่เปิดไพ่ทำนายก็ผุดแทรกขึ้นมาในโสตประสาท “เพราะเขาเคยหยุดให้น้องไม่ตาย น้องก็ต้องหยุดเขาจากความตายเหมือนกัน” “เขาต้องรอดในวันเกิดของน้อง.. ไม่งั้นลูปจะทำงานต่อไป ไม่มีวันจบสิ้น” หากนี่เป็นลูปของเวลาของปลายฟ้า การที่สิงหราชตายก็ต้องมีปริศนาให้แก้ไข ทว่ากลับก่อเกิดคำถามมากมายว่าเธอจะทำยังไงให้ย้อนกลับไปยืนตรงนั้นอีก ต้องทำยังไงถึงจะหยุดฝันร้ายนี้สักที..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม