ตอนที่ 5 ( ตัดสิน )
"คุณน้าคะ วันนี้น้องมาร์คโดนแกล้งนะคะ ยังซึมอยู่เลยครูพลอยอุ้มทั้งวันเลยค่ะ" หทัยภัทรรีบมองหาหลานตัวเองอย่างเป็นห่วงเป็นใย ใจคนเป็นน้าปวดร้าวเมื่อเห็นเด็กชายตัวน้อยวิ่งร้องไห้เข้ามา หญิงสาวย่อตัวลงไปอุ้มเด็กชายเข้ามากอดเอาไว้แนบอก
"โอ๋ ๆ คนเก่งของหวานไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ น้องมาร์คโดนแกล้งอะไรคะครูบัว"
"ครูพลอย มาเอาน้องมาร์คก่อนเร็ว เดี๋ยวคุณน้ามาคุยกับครูก่อนนะคะ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวหวานมานะ น้องมาร์คอยู่กับครูพลอยก่อนนะครับ"
"อึกอึก จั๊บ " เด็กชายสะอื้นตอบ
หทัยภัทรส่งหลานชายให้กับครูพี่เลี้ยงแล้วจึงเดินตามครูอีกคนเข้าไปในห้อง
"เพื่อนแกล้งอะไรน้องมาร์คคะครูบัว" หญิงสาวถามออกไปอย่างร้อนใจ
"คืออย่างนี้ค่ะ ในห้องจะมีเด็กหัวโจกอยู่หนึ่งคนน่ะค่ะ เด็กชายป้อง เขามาล้อเรื่องพ่อกับแม่น้องมาร์ค แต่ครูจัดการทำโทษตามสมควรแล้วนะคะ แล้วทีนี้น้องมาร์คมาถามครูบัว ว่าพ่อคืออะไรทำไมเขาไม่มี ครูยังไม่ได้ตอบอะไรออกไปมากมายนะคะ ครูคิดว่าให้คุณน้าเป็นคนบอกจะดีกว่า ส่วนเรื่องแม่ของน้องน้องนั้น น้องเข้าใจค่ะ ว่าแม่เขาไม่อยู่แล้ว"
หทัยภัทรฟังที่ครูพูดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอสงสารหลานชายจับใจ แต่คนเป็นน้าก็ยังคิดไม่ตกว่าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้ดี หรือว่าเธอควรจะคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังซะแล้ว
"ค่ะหวานเข้าใจแล้วค่ะ แล้วนี่อีกนานไหมคะกว่าจะปิดเทอม"
"อีกสองเดือนค่ะ น้องมาร์คก็จะขึ้นอนุบาลหนึ่งแล้ว ยิ่งน้องโตขึ้น น้องก็จะรู้อะไรเยอะขึ้น ครูว่าคุณน้าค่อย ๆ บอกให้น้องฟังนะคะ ตอนนี้น้องมาร์คเองก็มีความคิดโตกว่าเด็กรุ่นเดียวกันเยอะเลยค่ะ "
"ขอบคุณครูบัวนะคะ ยังไงหวานก็ฝากน้องมาร์คด้วยนะคะ"
หญิงสาวเดินออกมาจากห้องคุณครู เธอมองไปที่หลานชายของเธอเอง น้องมาร์คไม่ได้ร้องไห้แล้ว แต่หน้าตาของเด็กน้อยก็ยังฉายแววของความเศร้าไม่จางหาย หลานเธอควรจะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ หลานเธอควรจะมีวัยเด็กที่ควรจะเป็นเด็ก ไม่ใช่มาแบกโลกไว้เหมือนเธอเช่นนี้
"น้องมาร์คมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนครับ หวานซื้อเค้กมาให้แล้วนะ มาดูสิซูเปอร์แมนตัวใหญ่เลย" หทัยภัทรยกกล่องเค้กออกมาจากตู้เย็นให้หลานชายเธอได้ดู นอกจากเค้กแล้วยังมีชุดซูเปอร์แมนอีกด้วย
"ว้าววว..เย้ ๆ มัคอยากเป็นซูเปอร์แมง หวาง มัคใส่เยยดั่ยไหมจั๊บ" ถือว่าหทัยภัทรทำสำเร็จเพราะน้องมาร์ค นอกจากจะเลิกทำหน้าเศร้า แล้วยังออกอาการลิงโลดถึงเพียงนี้ หญิงสาวจูบลงไปที่แก้มซ้ายและขวาอย่างเอ็นดู
"ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนครับ"
"จั๊บ มัคทำเอง มัคโตเย้ว" คนที่บอกว่าตัวเองโตแล้วแต่ยังพูดไม่ชัดเลยสักนิด ปัดมือน้าสาวออกแล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก แล้วรีบเปลี่ยนชุดใหม่ที่น้าสาวซื้อมาให้ เด็กน้อยดีใจที่ได้ทั้งเค้ก และชุดที่เป็นตัวการ์ตูนตัวโปรดของตัวเอง เด็กชายตักเค้กเข้าปากคำโต ๆ แล้วก็นั่งเคี้ยวไปยิ้มไปด้วยความสุข ซูเปอร์แมนเยียวยาจิตใจของเด็กน้อยได้ดีจริง ๆ
"หวาง..อ้ำ ๆ เย็ว มัคป้อน" หทัยภัทรอ้าปากตามคำชวนของเด็กน้อย เมื่อน้าสาวกินเข้าไปเด็กชายก็รอลุ้นคำตอบเสมือนกับว่าตัวเองเป็นคนทำเค้กชิ้นนี้ซะเอง
"อร่อยมากเลยครับ น้องมาร์คอย่ากินเยอะนะ เก็บไว้กินวันหลังด้วย"
"จั๊บ มัคกิงนิดเดียวพอ" เมื่อคำตอบเป็นที่พอใจเด็กชายก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตากินเค้กอย่างจริงจัง
"...ฉันให้เวลาหนูแค่สามเดือนเท่านั้นนะ...หวังว่าหนูจะฉลาดพอที่จะเลือกนะ"
.
"...น้ำหวานคิดดูดี ๆ นะลูก ป้ารู้ว่าน้ำหวานรักหลาน แต่หลานจะสบายกว่าไหมถ้าได้อยู่พ่อแท้ ๆ ของแกเอง เขามีกำลังที่จะเลี้ยงดูน้องมาร์คได้ดีกว่าเรา ลองคิดดูนะลูก คิดถึงน้องมาร์คให้มาก ๆ ป้าว่าจะเป็นผลดีต่อน้ำหวานและน้องมาร์คที่สุดแล้ว"
'พี่ตาล..แม่..หวานจะทำอย่างไรดี ทำไมทั้งสองต้องทิ้งหวานกับน้องมาร์คไปด้วย ถ้าหวานพาน้องมาร์คไปหาพ่อเขามันจะผลดีต่อน้องมาร์คจริง ๆ ใช่ไหม '
สองเดือนผ่านไป
วันนี้หลานชายของหทัยภัทรก็เรียนเป็นวันสุดท้ายก่อนจะปิดภาคเรียนของชั้นเตรียมอนุบาล ก่อนหน้านั้นกำนันเอกก็แวะเวียนมาหาเธอที่บ้าน แต่ดีที่เวลากลางวันป้ามาลีจะมานั่งเล่นกับเธอทุกวัน ในตอนที่กำนันมาเธอจึงไม่ต้องอยู่ตามลำพังกับเขา กำนันเอกแวะเวียน มาทวงเอาคำตอบกับเธอบ่อย ๆ บางครั้งก็โทรเข้ามา จนเธอเองก็รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัย ส่วนเงินที่จะนำไปไถ่ถอนนะหรือตอนนี้ก็พอมีแค่ตัดดอกเท่านั้น
"น้องมาร์คอย่าลืมเอานมไปไว้ทานที่บ้านด้วยนะครับ ครูพลอยยกนมของน้องมาร์คออกมาเลยค่ะ " เสียงครูพี่เลี้ยงบอกเด็กชายในตอนที่น้าสาวของด.ช.มาร์คัสมารับที่หน้าห้องเรียน
"ขอบคุณนะคะครูบัว น้องมาร์คสวัสดีครับครูบัวก่อนเร็วครับ" หทัยภัทรยื่นมือไปรับลังนมพร้อมกับไม่ลืมที่จะสอนให้หลานชายได้กล่าวคำลากับคุณครู
"ซาหวัดดีจั๊บ"
"คุณน้าคะ เทอมหน้าน้องขึ้นอนุบาลหนึ่งแล้ว อย่าลืมมายื่นแบบสำรวจนะคะ ต่อที่ไหนคะ ที่เดิมไหมหรือจะย้ายไปในเมือง " เพราะทางโรงเรียนต้องการสำรวจจำนวนนักเรียนเก่าที่จะต่อใหม่ในที่เดิมเพื่อเตรียมความพร้อมในเทอมต่อไป
"หวานยังไม่ได้คิดเลยค่ะ " หญิงสาวเองก็ยังคงคิดไม่ตกเลยจริง ๆ ว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี อะไรที่จะดีสำหรับหลานเธอที่สุดกันนะ
"ยังไงก็รีบคิดไว้เลยนะคะ จะได้รีบมาสมัคร น้องมาร์คอย่าลืมระบายสีที่คุณครูให้ไปด้วยนะครับ"
"จั๊บ มัคไม่ยืมจั๊บ"
เมื่อกล่าวคำอำลากันเสร็จเรียบร้อย คุณครูได้มอบเอกสารการสมัครเรียนมาเผื่อไว้ให้กับด.ช.มาร์คัสไว้หนึ่งฉบับ สองน้าหลานก็พากันขี่รถมอเตอร์ไซต์กับบ้าน เมื่อกลับมาถึง หญิงสาวก็เห็นปิ๊กอัพสี่ประตูสีดำจอดขวางทางเข้าบ้านเธอ เธอรู้ได้ทันทีว่ากำนันช่างตื๊อได้มาอีกแล้วเป็นแน่ และก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิด"หนูน้ำหวาน ไปรับหลานมาแล้วเหรอ น้องมาร์คลุงซื้อขนมมาฝาก มาเอาเร็ว" กำนันเอกยื่นถุงขนมให้กับด.ช.มาร์คัส แต่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองน้าสาวเสียก่อนว่าจะอนุญาตไหม แต่ของที่อยู่ในถุงก็ล่อตาล่อใจให้เด็กน้อยซะเหลือเกิน ก็ดูจากสายตาที่เป็นประกายนั่นสิ หทัยภัทรไม่อยากจะตัดรอนน้ำใจหลานจึงพยักหน้าให้หลานได้รับเอามา
"ขอบคุณจั๊บคุณยุง" ด.ช.มาร์คัสรีบเปิดถุงดูของข้างในก่อนจะทำตาโตด้วยความตื่นเต้น ช็อกโกแลตถุงใหญ่ คนซื้อมาฝากก็ช่างเลือกได้ถูกใจเด็กซะเหลือเกิน
"พ่อกำนัน มีธุระอะไรกับหวานหรือเปล่าคะ" หญิงสาวถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าจุดประสงค์การมาของกำนันเอกอยู่แล้ว
"ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ฉันก็แค่มาเตือนหนูน้ำหวาน เดือนหน้าก็ครบกำหนดที่หนูจะต้องให้คำตอบฉันแล้วนะ จริง ๆ หนูจะตอบตกลงฉันมาเลยก็ได้นะ ไม่มีใครว่าอะไรหนูหรอก"
"หวานไม่ลืมหรอกค่ะ ก็พ่อกำนันเล่นมาตื่นทุกวัน ๆ แบบนี้ ถ้าลืมจริง ๆ หวานก็คงเป็นอัลไซเมอร์แล้วล่ะค่ะ หวานขอตัวพาหลานเข้าบ้านก่อนนะคะ"
หทัยภัทรหันไปเรียกหลานชายให้เดินนำเธอเข้าไปในบ้าน ส่วนเธอก็เข็นรถมอเตอร์ไซต์ตามเข้าไปติด ๆ ก่อนจะปิดประตูแล้วทิ้งให้กำนันยื่นมองอย่างไม่พอใจอยู่ตรงนั้น
"อวดดีเข้าไปถึงมึง ถึงเวลาเข้าหอเมื่อไรก็จะเอาให้ขาถ่างเลยมึง ไอ้เด็กเวรนี่กูก็จะส่งมันไปอยู่โรงเรียนประจำซะให้หมดเรื่องหมดราว ไปไอ้เบิ้มกลับ"
"ครับพ่อกำนัน"