ประเมินต่ำ 1

2454 คำ
ขบวนเกี้ยวมาหยุดเมื่อเดินทางมาถึงวังหลวง จางม่านอวี้ก้าวลงมาจากเกี้ยว นางยืนมองไปรอบๆ ที่เป็นลานกว้างมีทหารหลายสิบนายเดินตรวจตรา ห่างไปตรงหน้าราวห้าสิบเชี้ยะเป็นประตูบานใหญ่ซึ่งนางคิดว่า คงเป็นประตูวัง จางม่านอวี้มองประตูบานนั้นนิ่ง หากนางก้าวผ่านขอบประตูบานนั้น นั่นหมายความว่า นางจะไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจ ไม่อาจหันหลังกลับ ทางเดียวต่อจากนี้คือ เดินหน้าทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพียงแค่เห็นความกว้างใหญ่ของวังหลวง จางม่านอวี้สัมผัสได้ถึงความว้าเหว่ เปลี่ยวเหงา ด้านหลังประตูบานนั้นนางไม่รู้จักใครเลย แปลกทั้งสถานที่และคน อย่างหลังนางถึงกับหนักใจ นางรู้มาว่า คนในวังหลวงแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ต่างแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แต่ละคนเสมือนจิ้งจอกล่าเนื้อ รวมถึงขนบธรรมเนียมที่ต่อจากนี้ไปนางต้องเรียนรู้ ที่มาพร้อมกับหน้าที่ที่นางเองก็ไม่รู้ว่า จะทำได้ดีหรือไม่  “แม่นางจาง เชิญขอรับ ฮองเฮารออยู่” หลีกงกงบอกว่าที่พระสนม จางม่านอวี้พยักหน้าเดินตามหลีกงกงข้ามผ่านประตูสีแดงเข้าไปในเขตวัง ความรู้สึกของจางม่านอวี้เวลานี้ นางรู้สึกร้อนเท้า แต่ละก้าวที่จางม่านอวี้ก้าวเดินเสมือนเดินบนกองไฟอย่างไงอย่างนั้น ความแปลกตาของสถานที่ไม่ได้ทำให้นางเกิดอภิรมย์หรือตื่นเต้น ตรงกันข้ามนางรู้สึกถึงความเดียวดายจมดิ่งลึกสุดใจ พระตำหนักฮองเฮาอยู่ชั้นในของวังหรือเรียกว่าวังหลัง เป็นตำหนักขนาดใหญ่มีชื่อว่าตำหนักกลางและมีข้าทาสบริพารไว้รองรับคำสั่งรองลงมาจากตำหนักใหญ่ พระสนมหลายคนต่างแก่งแย่งชิงดีมาอยู่ตำหนักนี้ แล้วการที่นางมายืนอยู่ตรงนี้ เหตุผลข้อหนึ่งคือ ขจัดเสี้ยนหนามสำคัญที่อาจทำให้ตำแหน่งของฮองเฮาสั่นคลอน บุคคลคนนั้นคือพระสนมมู่เซียน “ฮองเฮาให้เข้าเฝ้าได้แล้วเจ้าค่ะ” ซูฉิว แม่นมของฮองเฮาเดินมาบอกจางม่านอวี้ นางก้าวเดินเข้าไปในตำหนักโดยมีหลินหลินที่ติดตามมารับใช้ด้วยก้าวเท้าเดินตามผู้เป็นนาย ทว่าถูกซูฉิวห้ามไว้เสียก่อน “เจ้าไม่ต้องเข้าไป รออยู่ที่นี่” หลินหลินระงับเท้าที่กำลังก้าวเดิน เดินถอยหลังมายืนรวมกับนางกำนัลที่ยืนอยู่หน้าตำหนัก แต่ก็ชะเง้อมองประตูตำหนักที่เจ้านายสาวเพิ่งเดินเข้าไปด้วยความเป็นห่วง ความงดงามของฮองเฮาจิวหยวนหรือจิวฮองเฮา ปรากฏในสายตาจางม่านอวี้ เป็นความงามอันเพริศพริ้งสมคำล่ำลือ ดูมีสง่าราศี มีอำนาจบารมีฉายอยู่รอบกายดุจนางพญา จางม่านอวี้ทำความเคารพหญิงสูงด้วยยศศักดิ์ตามธรรมเนียม ฮองเฮามองสตรีตรงหน้าด้วยความพอใจ ไม่ใช่พอใจในความสวยที่เหล่าพระสนมส่วนใหญ่มักมี แต่พอใจในหน้าตาที่ควรใช้คำว่า พอดูได้ เพราะนั่นหมายถึงนางจะไม่มีศัตรูหัวใจเพิ่มขึ้น หน้าตาแบบนี้ฮ่องเต้ไม่เป็นที่พอพระทัยแน่นอน ขนาดสวยกว่าจางม่านอวี้ ฮ่องเต้ยังเมินเฉย จางม่านอวี้คนนี้คงอยู่นอกพระเนตรแน่นอน “เจ้าพอรู้แล้วใช่ไหมว่า หน้าที่ของเจ้าคืออะไร” ฮองเฮาถาม “ทราบเพคะ” จางม่านอวี้ตอบ ในวันที่บิดาบอกเรื่องที่ตนต้องมาเป็นสนม บิดาได้บอกเรื่องที่นางต้องทำให้รู้ และรอรับคำสั่งจากฮองเฮาในการเดินแผน “หม่อมฉันขอถามคำถามฮองเฮาได้ไหมเพคะ” “ถามมาสิ” “ทำไมฮองเฮาถึงเลือกข้ามาทำงานนี้เพคะ” ฮองเฮามองหน้าคนถามก่อนตอบ “เพราะข้ามั่นใจว่า เจ้าทำได้ แล้วข้าก็ต้องการขุมกำลังที่ไว้ใจได้ด้วย ซึ่งพ่อของเจ้าเป็นคนของข้า ข้าถึงได้เลือกเจ้าไง พ่อเจ้าไม่เคยทำให้ข้าผิดหวัง เจ้าก็คงเหมือนพ่อเจ้าจริงหรือไม่” ฮองเฮามีความฉลาด นางต้องเลือกคนที่สามารถควบคุมได้ ไม่แว้งกัดภายหลัง ในบรรดาขุนนางทั้งในวังและนอกวัง จะมีเพียงจางเฟย อดีตแม่ทัพใหญ่ที่สร้างคุณงามความดีและชัยชนะมาสู่แคว้นจ้านแทบนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากลาออกจากการเป็นแม่ทัพ ฮ่องเต้ได้มอบตำแหน่งเจ้าเมืองหลานหยูให้จางเฟยปกครองดูแล การที่จางเฟยได้รับตำแหน่งนี้ ไม่มีใครรู้ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังคือฮองเฮาจิวหยวน ที่หมายให้คนใกล้ตัวได้ครองตำแหน่งใหญ่ต่างๆ ในแคว้นจ้าน ถือเป็นการสร้างสมอำนาจให้ตำแหน่งฮองเฮาของนางมั่นคง “เพคะ หม่อมฉันจะทำให้เต็มที่เพคะ” เป็นแรงกดดันหนึ่งของจางม่านอวี้ ฮองเฮาพูดเช่นนี้หมายความว่า มีเพียงความสำเร็จเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “ข้าจะให้เจ้าอยู่ในตำหนักอิงฮวา ตำหนักนี้เป็นตำหนักชั้นในอยู่ใกล้กับตำหนักของพระสนมมู่ เจ้าจะได้คอยสังเกตการณ์ได้ง่ายขึ้น” “ข้าคิดว่าไม่เหมาะเพคะ การที่ข้าเป็นสนมใหม่แล้วยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แถมยังไม่รู้ว่าจะเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้หรือไม่ อยู่ๆ ได้เข้าไปอยู่ในเขตชั้นในมันจะมองได้ว่าข้ามขั้น แล้วหากพระสนมมู่รู้ว่า หม่อมฉันเป็นพระสนมที่ฮองเฮาแต่งตั้งจะยิ่งทำให้พระสนมมู่เกิดความสงสัย งานของหม่อมฉันก็จะยากขึ้นเพคะ” จางม่านอวี้ค้าน “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก แต่ถ้าไม่ได้อยู่ใกล้พระสนมมู่ งานจะเดินได้ยังไง ตอนนี้พระสนมมู่ขยายอำนาจมากขึ้น ส่องสุมคนก็มาก ไม่รู้ว่าคิดการณ์ร้ายใด” “เท่าที่หม่อมฉันรู้มา พระสนมมู่เป็นคนฉลาด แล้วคนฉลาดก็ต้องระวังตัวรอบด้าน คิดอ่านไม่เหมือนคนอื่น แยบยลเต็มไปด้วยกลไก แต่บางครั้งความฉลาดก็มีช่องโหว่ หม่อมฉันจะใช้ช่องโหว่นี้ในการเข้าหาพระสนมมู่เพคะ” จริงตามที่จางม่านอวี้พูด พระสนมมู่เซียนเป็นคนฉลาด ไหวพริบดี นางจะไม่ตะขิดตะขวงใจเชียวหรือที่ว่าที่พระสนมคนใหม่จะเข้าไปอยู่ในตำหนักใกล้เคียง ทั้งที่ในส่วนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นตำหนักของพระสนมที่ฮ่องเต้มักไปมาหาสู่บ่อยเสมอ มันจึงดูแปลกตาและน่าแปลกใจที่ฮองเฮาให้จางม่านอวี้ไปอยู่ตำหนักหลังนั้น เหตุใดฮองเฮาถึงได้ลืมคิดข้อนี้ไปได้ ทว่าจางม่านอวี้กลับมองเห็นจุดนี้ “ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าไปอยู่ในตำหนักชิวเป่า เป็นตำหนักในส่วนของพระสนมขั้นสามและสี่อยู่” “เพคะฮองเฮา” “ส่วนนางกำนัลรับใช้ ข้าจะให้ฮุ้ยเจี้ยนกับเจียเหม่ยไปดูแลเจ้า สองคนนี้เป็นคนของข้า จะคอยส่งข่าวให้เจ้ารู้ว่า เจ้าต้องทำอะไร” “หม่อมฉันขอให้สาวใช้ของข้าอยู่รับใช้หม่อมฉันที่นี่ด้วยได้ไหมเพคะ” “ข้าว่าอย่าดีกว่า มีคนของข้าแล้วไม่จำเป็นต้องใช้คนของเจ้า” ฮองเฮาไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือรับรู้เรื่องแผนการกำจัดพระสนมมู่เซียนมากนัก ยิ่งรู้มากการที่ข่าวจะรั่วไหลก็มากตาม “หม่อมฉันกลับคิดว่ามีความจำเป็นเพคะ” “ทำไมเจ้าถึงคิดว่าจำเป็น” ฮองเฮาถามกลับ “หม่อมฉันต้องการให้มีคนที่หม่อมฉันไว้ใจที่สุดอยู่ใกล้ด้วย หลินหลินอยู่กับหม่อมฉันตั้งแต่เกิด เราโตมาด้วยกัน และรักกันเหมือนพี่น้อง หม่อมฉันไม่เคยมีความลับกับหลินหลิน เช่นเดียวกับที่หลินหลินไม่เคยมีความลับกับหม่อมฉัน การที่หม่อมฉันเข้ามาอยู่ในวังที่เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่กว้างใหญ่และน่ากลัว แล้วยังต้องแบกภาระหน้าที่ที่ต้องทำอีกด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาคนที่ไว้ใจที่สุดในการทำงาน ซึ่งหม่อมฉันไม่ไว้ใจคนของฮองเฮา เพราะไม่รู้ว่าจะแปรพรรคไปอยู่ข้างพระสนมมู่หรือไม่ แต่สำหรับหลินหลิน นางไม่มีวันทำเช่นนั้นเพคะ” ฮองเฮาจิวหยวนยอมรับว่า จางม่านอวี้ฉลาดพูด นางมีวิธีการพูดที่ทำให้ฮองเฮาคล้อยตามเห็นด้วย และต้องยอมในเรื่องที่อีกฝ่ายร้องขอ “ข้าคงประเมินเจ้าต่ำไป เจ้าเป็นคนฉลาดมาก ยิ่งได้พูดคุยกับเจ้า ข้ายิ่งมั่นใจว่า งานนี้ต้องสำเร็จ” “หม่อมฉันจะทำอย่างเต็มที่เพคะ” “หากงานสำเร็จ ข้าจะมอบทองคำให้เจ้าหนึ่งพันตำลึงเป็นค่าตอบแทน” ฮองเฮาเอารางวัลมาล่อ “หม่อมฉันหาอยากได้ทองคำเพคะ หม่อมฉันอยากได้อย่างอื่น” ฮองเฮาทำหน้าแปลกใจที่ถูกปฏิเสธของรางวัลมูลค่ามหาศาล  “แล้วเจ้าต้องการอะไร” “หม่อมฉันต้องการอิสรภาพเพคะ หากงานสำเร็จตามพระประสงค์ของฮองเฮา ข้าขอคืนตำแหน่งและกลับไปใช้ชีวิตปกติที่บ้านเกิด ข้าไม่ต้องการแสวงหาอำนาจ ข้าไม่ต้องการอยู่อย่างโดดเดี่ยว ข้าต้องการอิสระเหมือนนกที่จะบินไปเกาะกิ่งไม้ต้นไหนก็ได้” ฮองเฮาจิวหยวนยิ้มบางกับคำตอบ แล้วคำตอบนั้นทำให้นางมีความมั่นใจมากขึ้นว่า จางม่านอวี้ต้องทำทุกอย่างและทุกทางให้งานสำเร็จ เพื่ออิสรภาพที่ตัวเองต้องการ นั่นหมายถึงความซื่อสัตย์ที่จางม่านอวี้มีให้ตนด้วย “ข้าให้เจ้าตามที่ขอ” “ขอบพระทัยเพคะฮองเฮา” “เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว และรอฟังคำสั่งจากข้า” ฮองเฮาจิวหยวนพูดจบได้หันไปสั่งแม่นมให้นางกำนัลรับใช้พาจางม่านอวี้ไปตำหนักชิวเป่า คล้อยหลังจางม่านอวี้ออกไปจากห้องไม่นาน พระตำหนักกลางได้มีแขกมาเยือน ซึ่งแขกคนนี้ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ฮองเฮาเลยแม้แต่น้อย เพราะคิดอยู่แล้วว่า นางต้องมา...พระสนมมู่เซียน ................................... เฉินต้าเหว่ยนั่งหน้าเครียดอยู่ในศาลาหลังบ้าน เขากำลังนั่งขบคิดเรื่องบางอย่างที่เพิ่งได้รับรู้ เรื่องนั้นคือ เหตุผลที่จางม่านอวี้ไปเป็นพระสนมของฮ่องเต้จูหมิง พอเขารู้ รองแม่ทัพหนุ่มยิ่งกลัดกลุ้มและเป็นห่วงจางม่านอวี้มากขึ้น เขารู้ดีว่า คนในวังไม่มีใครอยากให้ใครได้ดีกว่าตัวเอง แก่งแย่งชิงดี หาผลประโยชน์ใส่ตัว ไม่สนใจว่า ผลประโยชน์ที่ตนได้รับจะเหยียบย่ำหัวใคร หากงานสำเร็จ ชะตาชีวิตของจางม่านอวี้จะเป็นเช่นไร จะถูกฮองเฮาและเหล่าขุนนางที่อยู่เบื้องหลังกำจัดหรือไม่ เพราะใจคนนั้นยากแท้หยั่งถึง เสร็จงานก็เฉดหัวทิ้ง ยิ่งไปเป็นพระสนมก็ไม่ใช่ว่าจะสุขสบายและมีความสุขทุกคน สนมเกินครึ่งหนึ่งถูกหมางเมิน ให้อยู่แต่ในตำหนักโดดเดี่ยว อ้างว้างไร้การเหลียวแลจากฮ่องเต้ มีเพียงนางกำนัลและหญิงรับใช้สองสามคนอยู่เป็นเพื่อน จางม่านอวี้อาจเป็นเช่นสนมนอกสายตาเหล่านั้น พ่วงด้วยหน้าที่ที่ต้องทำก็ถือว่าหนัก เขาเป็นห่วงจางม่านอวี้เรื่องนี้มาก นางต้องมีคนช่วย... นั่นคือความคิดของเฉินต้าเหว่ย แม้จะรู้ว่า ฮองเฮาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และต้องคอยช่วยเหลือจางม่านอวี้จากพระสนมมู่เซียน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความฉลาด ไหวพริบยอดเยี่ยม แล้วยังมีพวกพ้องของจางเฟยคอยช่วยอีกแรง แต่นั่นไม่เท่ากับมีเขาช่วยเหลือ เฉินต้าเหว่ยตัดสินใจบางอย่างได้ เขาผุดลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยกับบิดาเรื่องที่ตนตัดสินใจ แต่ก็พอรู้ว่า การตัดสินใจของเขาจะไม่เป็นการยอมรับจากเฉินหมิง บิดาบังเกิดเกล้า “เจ้าคิดดีแล้วหรือต้าเหว่ย” เป็นคำถามแรกหลังจากได้ฟังการตัดสินใจของบุตรชาย “ขอรับท่านพ่อ ข้าคิดดีแล้ว” เฉินต้าเหว่ยตอบโดยไม่คิด “เจ้ายอมเสียสละตำแหน่งที่กำลังได้รับเพื่อม่านอวี้หรือ” “ขอรับท่านพ่อ” เฉินหมิงถอนหายใจพรืดยาวเมื่อได้รับคำตอบจากบุตรชาย แล้วรู้ด้วยว่าหากเฉินต้าเหว่ยตัดสินใจทำอะไรแล้วจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ ยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับคนที่ตัวเองรัก บุตรชายจะไม่มีวันเลิกล้มความตั้งใจเด็ดขาด แล้วยิ่งบุตรชายมีสายสัมพันธ์ทางใจกับจางม่านอวี้ด้วยแล้ว จะเอาอะไรมาฉุดเฉินต้าเหว่ยก็ไม่ได้ ทว่าเฉินหมิงนึกเสียดายตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ที่บุตรชายจะได้รับ มันไม่ใช่แค่ตำแหน่งแต่หมายถึง เกียรติยศของตระกูล อำนาจบารมี รวมถึงทรัพย์สินเงินทอง ไม่เพียงแค่นั้นต่อไปภายภาคหน้า เฉินต้าเหว่ยจะได้รับตำแหน่งตอบแทนในคุณความดี หากเฉินต้าเหว่ยไม่ยอมออกศึกครั้งนี้ และลาออกจากการเป็นรองแม่ทัพ ทุกอย่างที่เฉินต้าเหว่ยจะได้รับก็จะยุติลง           เฉินหมิงไม่คิดว่า บุตรชายจะรักจางม่านอวี้มากกว่าอนาคตของตัวเอง ถึงได้ยอมสละอะไรหลายอย่างเพื่อนาง ที่เขาไม่ขัดความคิดของบุตรชายเป็นเพราะ หน้าที่ที่จางม่านอวี้ไปทำนั้นมีความเสี่ยงมาก ขุนนางในวังล้วนแต่เป็นเสือและสิงห์ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว อำนาจก็มีมาก ยิ่งต้องไปต่อสู้กับพระสนมมู่เซียนที่ใครต่างรู้ดีว่า มีอำนาจมากแค่ไหน จางม่านอวี้จำเป็นต้องมีคนช่วยอีกทางหนึ่ง แล้วรู้ด้วยว่า อีกเหตุผลหนึ่งของเฉินต้าเหว่ยคือ จะได้ใกล้ชิดจางม่านอวี้ “ถ้าเจ้าตัดสินใจดีแล้ว ข้าก็เห็นตามนั้น” เฉินหมิงตอบกลับ “แล้วเจ้าจะเข้าไปอยู่ในวังได้ยังไง” “ข้ามีวิธีขอรับท่านพ่อ” การที่เฉินต้าเหว่ยตัดสินใจลาออกจากการเป็นรองแม่ทัพ ไปทำงานเป็นขุนนางในวังก็เพื่อช่วยเหลือจางม่านอวี้ เขาต้องมีวิธีที่ให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนั้น “ข้าไม่ห้ามเจ้าว่าจะทำอะไร และไม่ห้ามเจ้าไม่ให้รักม่านอวี้ เพราะรู้ดีว่าห้ามไม่ได้ ถ้าเจ้าอยากทำอะไรก็ทำ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องดี เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง” เฉินหมิงพูดอย่างเข้าใจความรู้สึกลูก “ขอบคุณขอรับท่านพ่อที่เข้าใจข้า” เฉินต้าเหว่ยคำนับบิดา “ข้าขอตัวไปหาเฉียนเจ้าก่อนนะขอรับ” บิดาพยักหน้า รองแม่ทัพหนุ่มจึงออกจากห้องของเฉินหมิง รีบรุดเดินทางไปหาเฉียนเจ้าเพื่อนสนิทที่จะช่วยเขาให้เข้าไปทำงานในวัง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ทว่าเรื่องยากอยู่ที่ เฉินต้าเหว่ยจะสละตำแหน่งรองแม่ทัพตอนนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากศึกใหญ่ที่เขาต้องไปรบนั้น สำคัญไม่แพ้ไปช่วยจางม่านอวี้ แต่ไม่มีอะไรสำคัญกว่าไปช่วยนางในดวงใจ...แม้แต่ชีวิตเขา เขาก็สละได้เพื่อนาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม