บทที่ 3
หนึ่งคำถามแลกหนึ่งจูบ
ตลอดวันที่เหลือปาจรีย์ต้องอยู่กับความอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าใคร เหตุเกิดเพราะเจ้าชีวิตที่จู่ๆ ก็คว้าเธอไปจูบต่อหน้าลูกน้องของเขา การกระทำนั้นทำให้เธออายเป็นอย่างมาก ด้วยไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำต่อหน้าคนอื่น ไหนเลยจะเรื่องที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ในห้องน้ำ ภาพของเขาในยามที่ปลดปล่อยความสุขสมบนใบหน้าของเธอยังคงเด่นชัดในความรู้สึกกระทั่งตอนนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกล้าทำเรื่องแบบนั้นลงไป ยิ่งคิดบางส่วนในร่างกายก็ยิ่งร้อนรุ่ม ความรู้สึกแปลกประหลาดพวกนี้เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่เขาออกคำสั่งให้แก้ผ้าอาบน้ำโชว์นั่นแล้ว จากนั้นมันก็หนักมากขึ้นทุกวัน จนเธอไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกที่ไร้คำอธิบายพวกนี้ได้อย่างไร
“เข้าไปข้างในไม่ได้นะครับคุณเรย์!” เสียงร้องตะโกนของนุกูลที่ถูกสั่งให้อยู่เป็นเพื่อนเธอดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนจะปรากฏตัวขึ้นในนาทีต่อมาโดยมีเจ้าของเสียงเมื่อครู่เดินตามหลังมาติดๆ
“นี่คอนโดพี่กู ทำไมกูจะเข้าไม่ได้!” แขก ผู้มาเยือนตวาดขึ้นก่อนจะหันกลับมาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจ ก่อนที่เธอจะเริ่มถอยหนีเมื่อในนาทีต่อมาเมื่อเขาพยายามที่จะก้าวเข้ามาใกล้
“จะถอยหนีไปไหนล่ะคนสวย ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายของฉันจะเลือกแม่พันธุ์ได้น่ารัก น่าเอาขนาดนี้…” คำพูดนั้นไม่ได้หยุดเธอเอาไว้ กับกันมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวผู้ชายตรงหน้ามากขึ้น บางอย่างบอกให้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนน่าคบนัก ซึ่งมันก็คงเป็นเช่นนั้นเพราะเขายังคงวางท่าทีคุกคามใส่กันอย่างคนไร้มารยาท ยิ่งคำพูดยิ่งแล้วใหญ่ คนปากสกปรก!
“คุณเรย์…”
เป็นนุกูลที่เอ่ยปรามขึ้นอีกครั้งเมื่อ อีกคน ไม่แม้แต่จะยอมหยุดฟัง เขาไม่อยากใช้กำลังกับอีกฝ่าย แม้จะมีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นก็เถอะ
น้ำเสียงกำราบนั้นหยุดปรวิทย์ได้ในวินาทีต่อมา เพราะดูท่าแล้วคนของพี่ชายต่างมารดาคงไม่ปล่อยให้เขาเข้าใกล้ผู้หญิงตรงหน้าได้มากกว่านี้ สายตาของมันเหมือนจะบอกให้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ห้ามใครแตะ ยิ่งได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกอยากแย่ง ไม่ว่าจะเป็นนังนี่ หรือแม้แต่ทรัพย์สมบัติของไอ้ดนัยภัทร เขาต้องการที่จะครอบครองไว้เองทั้งหมด!
“ใครอนุญาตให้แกมาเหยียบที่นี่!”
ยังไม่ทันที่ใครจะได้เอ่ยอะไรเสียงเข้มทรงอำนาจของเจ้าของห้องก็ดังขึ้น ไม่กี่วินาทีต่อมาดนัยภัทรก็พาตัวเองมาหยุดอยู่ข้างๆ คนเสียขวัญ ก่อนที่เขาจะรั้งร่างบอบบางเข้ามากอดไว้อย่างหวงแหน ในขณะที่สายตา ก็ยังคงจ้องมองคนตรงหน้าอยู่ไม่ได้ละสายตาไปไหน
“นี่เหรอแม่อุ้มบุญของพี่ ตัวเท่าลูกแมวแค่นี้จะไปอุ้มอะไรไหว”
“ออกไป!”
“หวงซะด้วย ไหนแม่ว่าก็แค่ผู้หญิงหิวเงินทั่วไปไง” คำพูดนั้นทำเอาคนถูกกล่าวหาสะอึก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นเพราะรู้ดี ว่าตนเองกำลังถูกจ้องจากผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจตรงหน้าอยู่
“หุบปากแล้วไสหัวไปจากที่นี่ซะ…ก่อนที่แกจะไม่มีโอกาส!” สายตาดุดันนั้นทำให้ปรวิทย์เลือกที่จะหยุดทุกสิ่งที่คิดจะทำอยู่ เพราะไม่ว่าจะมองทางไหนเขาก็เสียเปรียบเห็นๆ อีกทั้งคนตรงหน้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำอย่างที่ขู่ หากครั้งนั้นไม่ได้แม่ช่วยขอไว้ เขาคงไม่ได้มายืนกวนประสาทมันอยู่ตรงนี้ ยิ่งคิดถึงเรื่องในอดีตก็ยิ่งรู้สึกเครียดแค้น และเชื่อเถอะว่าสักวันหากมีโอกาส เขาจะไม่มีวันปล่อยผ่านถึงเรื่องที่มันทำไว้แน่
“แม่ให้มาถาม ว่าเมื่อไหร่พี่จะกลับไปค้างที่บ้านบ้าง” คำถามนั้นทำให้คนถูกถามยกยิ้มอย่างน่ากลัว เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่คนบ้านนั้นต้องการแท้ที่จริงแล้วคือเศษเงินของเขา ที่ได้มาจากมรดกหลายพันล้านของพ่อ
“ฉันไม่มีวันไปเหยียบบ้านหลังนั้น เพราะมันสกปรก!” คำตอบนั้นดังกังวานไปทั่วห้อง ราวกับเจ้าของคำพูดจะบอกให้รู้ถึงความรู้สึกเจ็บช้ำในใจทุกครั้งที่ต้องเอ่ยถึงผู้เป็นมารดา โดยเฉพาะเรื่องอื้อฉาวคาวโลกีย์ของท่าน ที่เคยโด่งดังจนลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาแล้วเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เขายังคงจำได้ดีถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่เคยลืม
แม่ของเขาคบชู้ ก่อนจะมีลูกใหม่ด้วยกันซึ่งก็คือไอ้สารเลวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ ความสำส่อนของแม่ทำให้พ่อของเขาตรอมใจตาย การกระทำของท่านเลือดเย็นเกินกว่าจะได้รับการอภัย
แม้จะคิดแบบนั้นแต่เขาก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขั้นทนดูแม่แท้ๆ ของตัวเองอดตายได้ลงคอ เขายังคงเจียดเงินส่วนตัวของตัวเองเลี้ยงดูท่านกับครอบครัวใหม่ของท่านที่ไม่เพียงแต่จะมีไอ้เลวนี่เท่านั้น ผัวใหม่ของแม่ยังมีลูกติดมาด้วยอีกคน และรายนั้นก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อจับเขาโดยมีแม่ของเขาเป็นผู้วางแผนอยู่เบื้องหลัง ทั้งหมดนั้นก็เพื่อสมบัติที่เขาครอบครองเท่านั้น คนพวกนั้นต่างอยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ต่อให้ต้องตายเขาก็จะไม่มีวันให้ใครหน้าไหนสมหวังทั้งนั้น เพราะเหตุนี้เขาถึงได้เปิดรับสมัครแม่อุ้มบุญเพราะอยากมีลูก
ลูกของเขาเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์ในทุกสิ่งไม่ใช่ใครหน้าไหนก็ได้!
นับจากวันที่พ่อของเขาตายจากไป เขาก็ไม่เคยคิดอยากจะรักใครอีก เพราะกลัวจะเจอกับเรื่องราวร้ายๆ เหมือนอย่างที่พ่อเคยเจอ
ขนาดผู้หญิงที่เกิดมาจากชาติตระกูลที่ดีพร้อมอย่างแม่ยังส่ำส่อนมั่วไม่เลือกได้ แล้วจะมีผู้หญิงหน้าไหนรักเดี่ยวใจเดียว คงไม่มี!
ผู้หญิง…สำหรับเขาแล้วก็เป็นได้มากสุดแค่เครื่องบำบัดความอยากเท่านั้น ไม่มีผลต่อชีวิต ไม่มีค่าอะไรไปมากกว่าเป็นที่ระบายอารมณ์ เมื่อเสร็จสมก็แยกย้าย หรือถ้าถูกใจก็อาจทอดเวลาไปอีกหน่อย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตทำให้เขาอยากมีลูกเพื่อจะยกทุกอย่างให้ ทรัพย์สมบัติที่มีจะได้ไม่ตกเป็นของคนอื่นในวันที่เขาไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แผนการนี้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างมาก เพราะท่านอยากให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างไอ้นพขึ้นมาแทนที่เขา ผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของมันที่ประสบความสำเร็จทุกอย่าง ต่างจากมันที่ไม่เอาไหน เที่ยวแต่แบมือขอเงินแม่ที่ได้มาจากเขาไปวันๆ
“คุณไม่เป็นไรนะคะ” ปาจรีย์ปล่อยให้คนที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดลงง่ายๆ จมอยู่กับความคิดของตัวเองนานหลายนาทีถึงได้เอ่ยถามขึ้นอย่างอดห่วงไม่ไหว
ผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจคนนั้นกลับไปทันทีที่นุกูลยื่นเช็คเงินสดให้ แม้จะไม่รู้จำนวน แต่ก็น่าจะมากพอดูเพราะเขายอมกลับไปง่ายๆ
ต่างจากตอนมาราวกับคนละคน
“คิดว่าคนแบบนั้นจะทำอะไรคนอย่างผมได้ คุณล่ะ ตกใจมากรึเปล่า” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะขยับเข้าหาเจ้าของอ้อมแขนที่กอดรัดเธอแน่นขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังรู้สึกปลอดภัยมากกว่าที่จะอึดอัด
“ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวจังเลยค่ะ”
“อยู่ให้ห่างจากมัน เจอที่ไหนก็ให้เดินหนีทันทีเข้าใจไหม” แม้จะเข้าใจแต่สีหน้าของอีกคนก็ยังคงเต็มไปด้วยคำถามอยู่ดี ซึ่งมันทำให้ดนัยภัทรใจอ่อน ยอมที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้คนนอกได้รู้เป็นครั้งแรก
“หนึ่งคำถามแลกหนึ่งจูบ”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นน้องชายของคุณเหรอคะ” ปาจรีย์ไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆ นี้เสียเปล่า เธอเริ่มต้นด้วยคำถามที่อยากจะรู้มากที่สุดทันที
แต่กว่าจะนึกขึ้นมาได้ว่าเขามีข้อแม้ติดมาด้วยนั้น ก็สายเกินกว่าจะกลับคำ…
“ก็แค่น้องชายคนละพ่อ แต่ผมไม่เคยรับมันเป็นน้องหรอก เพราะผมเกลียดมัน” มันเป็นคำตอบที่แม้จะไม่ได้ช่วยให้เข้าใจอะไรเลย แต่เธอก็ยังดีใจอยู่ดีที่เขาเปิดรับเธอเข้าไปในชีวิตส่วนตัวของเขาทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเธอไม่มีสิทธิ์อยากรู้มันด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังใจดีปล่อยให้เธอถาม
“ผมตอบคำถามแล้ว ทีนี้ก็เงยหน้ามาให้จูบซะดีๆ” หญิงสาวไม่กล้าดื้อ จำต้องเงยหน้าขึ้นให้เขาจูบแต่โดยดี ซึ่งมันใช้เวลานานกว่าที่เขาตอบคำถามของเธอเสียอีก แถมยังเป็นการแลกลิ้นที่เร้าร้อนกว่าทุกครั้งอีกด้วย ซึ่งกว่าคนเจ้าเล่ห์จะยอมถอนจูบออกไปปากเธอก็บวมช้ำไปหมด และก็เป็นเขาที่ทำให้เธอต้องอับอายด้วยคำพูดเบาๆ ที่ดังขึ้นข้างหู
“อยากรู้อะไรอีกไหม”
“มะ…ไม่แล้วค่ะ” เธอตอบกลับก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาเจ้าเล่ห์ รู้สึกว่าตัวเองขาดทุนในขณะที่เขามีแต่ได้กับได้อยู่ฝ่ายเดียวตลอด
ไม่ยุติธรรมเลย!