"จะไปไหนเหรอไอ้ตัวดี? ชั้นกลับมาบ้านสามวันเนี่ย ยังไม่เห็นหน้าแกสักวัน"
เสียงดุดังมาจากห้องนั่งเล่นที่ผมกำลังจะเดินผ่านเพื่อออกไปเที่ยวกับไอ้กาย
"จะไปข้างนอกกับไอ้กายจ้ะ แม่จ๋า" ผมหัวเราะแหะ ๆ ในบ้านนี้เธอใหญ่ที่สุดละ
"เที่ยวอีกล่ะสิ ตั้งแต่เด็กจนเลียตูดหมาไม่ถึง แกก็ยังชอบเที่ยวนะ" คุณนายอารีที่ไม่เคยอารีกับลูกชายบ่นออกมา
"หมาเลียตูดไม่ถึงต่างหาก แม่จ๋าไปอยู่เมืองนอกนานเกินไปละ" ผมเถียงกลับ
"เออนั่นล่ะ ความหมายมันก็เหมือนกันนั่นแหละ" เธอไม่ยอมแพ้
"ผมไปไม่นานหรอกครับ รับรองว่าไม่กลับดึก"
"ไม่กลับดึก กลับเช้าเลยน่ะสิ" คุณนายอารีค้อน
ยังจะรู้อีก แม่ผมฉลาดมาก
"ผมโตแล้วนะแม่ แค่ไปเที่ยวเอง ผมไม่ทำอะไรเสียหายหรอก" ผมก็ไม่ยอมแพ้
"ชั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แค่ถามเฉย ๆ"
เอ๊า นึกว่าจะห้ามเหมือนตะก่อน
"งั้นผมไปละนะ" ผมยิ้มแล้วจูบที่แก้มแม่ฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบชิ่งออกจากบ้านก่อนแม่จะเปลี่ยนใจ
ผมเข้าใจที่แม่เคี่ยวเข็ญกับผม เพราะผมห่าม ดื้อ ชอบแหกกฎทุกอย่าง และชอบวิวาท ผิดกับพี่เหมันต์ที่เป็นนักเรียนดีเด่น ที่ตอนนี้เป็นบรรณาธิการใหญ่ของสำนักพิมพ์ชื่อดังระดับประเทศ แม้กระทั่งวสันต์ น้องชายผมก็ยังเป็นเด็กดี ในสายตาแม่อ่ะนะ ผมเลยนอกคอกอยู่คนเดียว ส่วนพ่อผมไปสวรรค์นานละ แม่เลยแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวและย้ายไปอยู่อังกฤษกับแด๊ดดี้ นาน ๆ จะกลับมาบ้านที
พอออกมาจากบ้านพ้นสายตาแม่ผมก็ถอนหายใจโล่งอก ผมกลัวแม่บ่นที่สุด แม่ผมสามารถบ่นสามวันไม่ซ้ำกันจนผมอยากส่งไปประกวดก๊อตทาเลนต์เผื่อได้รางวัลกลับบ้าน
"ว่าไง โดนแม่มึงบ่นมาอ่ะดิ ถึงทำหน้าบูดเป็นตูดหมาเนี่ย" ไอ้กายมันนั่งหัวเราะรออยู่ในรถของมัน
"เออน่า แม่กูบ่นกูประจำแหละ ถ้าไม่บ่นสิแปลก" ผมยักคิ้วแล้วเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งคู่มัน ก่อนรถสปอร์ตสีแดงจะพาเราสองคนไปที่ผับหรูแห่งหนึ่ง
ผมสองคนเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยเพราะมาบ่อยจนรู้จักเด็กในร้านเกือบทุกคน
"เชิญคร้าบ พี่คิม พี่กาย" ไอ้นพเด็กต้อนรับทักทายผมสองคนและรีบพาไปหาที่นั่งด้านใน ที่พวกมันต้อนรับพวกผมดี ไม่ใช่เพราะผมสองคนเป็นเสี่ยสายเปย์อะไรหรอก แต่พวกมันหวังจะได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาหรือได้เป็นตัวประกอบหนังต่างหาก
ผมกับไอ้กายนั่งดวลเบียร์กันตามเคย แต่เบียร์พวกนี้ล้มผมสองคนไม่ได้หรอก ส่วนมากก็นั่งคุยเฮฮาไร้สาระกันน่ะแหละ
"ไอ้กาย กูได้ยินไอ้เต้มันบอกว่ามึงเปลี่ยนแฟนอีกแล้วเหรอวะ?" ผมถามขึ้นหลังซดอึก ๆ หมดแก้ว
"เฮ่ย ข่าวลือผิดละมึง กูไม่มีแฟนสักหน่อย แค่ผู้หญิงที่กูควงด้วย ก่อนจะควงก็ตกลงกันแล้วว่าแค่สนุกแต่ไม่ผูกพัน พวกหล่อนก็ยอมรับเงื่อนไขกันทุกคน" ไอ้กายหัวเราะ
"แม่งเลวว่ะ คบเพื่อสนุก" ผมด่ามันไม่จริงจัง เพราะรู้นิสัยมันมานานแล้ว
"ว่าแต่มึงเถอะไอ้คิม เมื่อไหร่มึงจะมีแฟนสักทีวะ วัน ๆ อบแต่เค้ก" มันยกแก้วดื่มพร้อมจ้องมองผม
"เอาไว้ก่อนเถอะ กูไม่อยากเจอแบบตอนนั้นว่ะ แม่งเสียความรู้สึก"
ผมส่ายหน้า เมื่อนึกถึงตอนอยู่มหาลัยปีหนึ่ง ผมมีแฟนคนหนึ่ง ผมรักเธอมาก ผมให้เธอทุกอย่าง แต่ผมมันไม่หล่อ แถมจน เธอเลยทิ้งผมหันไปคบหนุ่มวิศวะแทน แถมควงมาเย้ยผมอีกต่างหาก จากนั้นผมก็เลยไม่อยากยุ่งกับผู้หญิง
"มึงก็คิดมาก ผู้หญิงไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคนสักหน่อย มึงก็ลองคบดูหลาย ๆ คนสิวะ ดูว่าคนไหนเข้ากับมึงมากที่สุดค่อยคบเป็นแฟน"
มันสอนผมตามแบบฉบับเพลย์บอยทั้งที่มันเองก็ยังหาผู้หญิงที่ถูกใจไม่ได้สักคน
"เออ ช่างกูเถอะ ว่าแต่มึงอ่ะ มึงจะไปแข่งออกแบบโฆษณากับบริษัทขายเสื้อผ้ากีฬาเหรอวะ?" ผมถามเมื่อนึกได้ว่ามันเคยบอกมาแบบนี้
"เออ กูเพิ่งส่งสตอรี่บอร์ดไปอาทิตย์ก่อน หายเงียบเลยว่ะ สงสัยไม่ผ่าน"
มันบอกแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ก็มันมีบริษัทอยู่แล้ว ที่ส่งไปแข่งก็แค่งานอดิเรกเผื่อฟลุคได้ไปเที่ยวเมืองนอกฟรีเท่านั้นล่ะ
พอเริ่มตึง ๆ เรื่องคุยก็เริ่มไร้สาระมากขึ้น บวกกับแอลกอฮอล์ที่เข้าไปละลายในเลือดมากขึ้น ส่วนเกินของมันก็ต้องการปลดปล่อย
"กูปวดเยี่ยวว่ะ ไปห้องน้ำแปบนะ" ผมบอกแล้วลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำแทบจะไม่ตรงทาง มือจับผนังพยุงตัวไปด้วย
ไม่น่าดื่มมากเลยกู อร่อยก็ไม่อร่อย แถมเวียนหัวจนเดินไม่ตรงทาง แต่ทำไมกูชอบมาดื่มว้า ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่ะ
ในที่สุดผมก็ลากสังขารมาถึงหน้าห้องน้ำจนได้ แต่เพราะคนเมาเยอะ ผมเลยโดนเขาชนข้างหลังจนเซ ผมรีบยกมือดันขอบประตูทางเข้าห้องน้ำ แต่มือผมพลาดจนไปผลักอกใครบางคนเข้า
"เฮ้ย! คุณทำอะไรวะ? จะหาเรื่องผมเหรอ?" เขาผลักอกผมคืน
"เปล่า ๆ มีคนชนผมน่ะ ผมเลยเสียหลักไปชนคุณ" ผมพยายามอธิบาย
"ชนบ้าไรวะ? มือมาเต็ม ๆ เลยเนี่ย หาเรื่องก็บอกมาเถอะว่ะ" เขาจ้องผมด้วยสายตาโกรธ
"เอ๊า! แล้วกูจะไปหาเรื่องคุณมึงด้วยเหตุผลอะไรล่ะวะ?" ผมเริ่มยัวะเลิกสุภาพในทันที
"จะรู้มึงเหรอ? มึงอาจอิจฉาที่กูหล่อกว่ามั้ย?"
"โหแม่ง เหตุผลมึง เป็นเด็กอนุบาลหรือไงวะ? หลีกไป กูปวดเยี่ยว"
คราวนี้ผมผลักเขาจริง ๆ เพราะผมไม่ไหวละ ผมต้องปลดปล่อย เขาดึงแขนผมกระชากมาแล้วจะดึงคอเสื้อผม ผมเบี่ยงตัวหลบแล้วดึงแขนเขามาแล้วจับพลิกไพล่หลัง ก่อนจะผลักไปชนเคาเตอร์อ่างล้างมือ
"โอ๊ย! ไอ้ขี้โมโห! จะอะไรนักหนาวะ กูขอเยี่ยวก่อนสิวะ"
ผมไม่สนใจเขาแล้วรีบเดินไปที่โถ รูดซิปแล้วงัดเอาลูกชายออกมาปลดปล่อยความอัดอั้น
"อืออ ค่อยยังชั่ว" ผมผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่ง
พอยืนแอ่นปล่อยจนสุดแล้วผมก็สะบัดเบา ๆ ก่อนจะยัดกลับเข้าไปแล้วรูดซิปเก็บเรียบร้อย แต่พอหันกลับมาผมก็สะดุ้ง
"เชี่ย! จ้องอะไรกูวะ? ตกใจหมด อิจฉาที่กูใหญ่กว่าของมึงเหรอ?" ผมด่าไอ้คนขี้โมโหที่มันมายืนใกล้ ๆ แล้วจ้องใต้เข็มขัดผม
"เปล่า! ของกูใหญ่กว่าของมึงอีก" เขาสะบัดหน้าใส่ผมแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำ
"อะไรของมันวะ? สงสัยเมาแล้วเพี้ยน"
ผมมองตามมันด้วยความงงระดับสิบ ล้างมือแล้วกลับไปหาไอ้เพื่อนรัก
แต่..
ไอ้คุณเพื่อนผมกำลังนัวเนียกับสาวน้อยคนหนึ่งอย่างร้อนแรง เธอนั่งบนตักไอ้กายแล้วแลกลิ้นกันอย่างเมามัน แต่พอเห็นผมกลับมามันก็ถอนปากกับลิ้นออก
"คิมเพื่อนรัก ขอโทษนะ เดี๋ยวกูจะไปเที่ยวห้องน้องนิด มึงนั่งแท๊กซี่กลับได้ป่ะ เดี๋ยวกูจ่ายค่าแท๊กซี่ให้" ไอ้กายก้มหัวให้ผมพร้อมยกมือไหว้ท่วมหัวขอโทษขอโพย
"เออ ตามสบายว่ะ กูจ่ายค่าแท๊กซี่เองก็ได้ มีงจ่ายค่าเบียร์ทั้งหมดละกัน แล้วก็อย่าลืมกางร่มด้วยล่ะ กูยังไม่อยากอุ้มหลาน"
ผมส่ายหน้ากับความเพลย์บอยของมันแล้วลุกออกจากผับ
แต่.. ตอนนี้เพิ่งตีหนึ่ง แล้วแท๊กซี่มันหายหัวไปไหนหมดวะ? พอไม่อยากใช้บริการล่ะก็ มากันเต็มถนน ผมเดินไปมาแถวหน้าร้านดัวยความหงุดหงิด
"วันนี้มันอะไรรวะ? เจอคนเมาแล้วเพี้ยน เพื่อนก็เท แถมแท๊กซี่ก็ไม่มี"
ผมบ่นโวยวายเป็นบ้าอยู่คนเดียว สุดท้ายก็เดินไปนั่งแปะลงที่เก้าอี้ยาวป้ายรถเมล์
สักพักก็มีรถยนต์แล่นมาจอดข้างหน้า คนขับเปิดประตูแล้วก้าวมาหาผมด้วยท่าทางกวนตีน
ไอ้เหี้ยเมาแล้วเพี้ยนนี่อีกละ ทำไมต้องเจอมันอีกแล้ววะ ผมเหลือบตามองด้วยความเคือง หมอนี่เป็นตัวซวยของผมแน่เลย
"นี่มึงอ่ะ กลับบ้านไม่ได้เหรอ? หรือไม่มีตังค์? กูไปส่งเอาไหม?"
เขาพูดในสิ่งที่ผมคิดไม่ถึง โหเว้ย! มันจะมามีน้ำใจอะไรตอนนี้
"ตังค์กูมี กูรอแท๊กซี่อยู่ มึงกลับบ้านไปเลยป่ะ ไอ้คนเพี้ยน" ผมโบกมือไล่อย่างไม่ใยดี
"กูไม่ได้เพี้ยน กูชื่อนภัทร เรียกภัทรก็ได้ มึงอ่ะ?"
ผมมองหน้ามันด้วยความไม่ไว้ใจ มันจะมาไม้ไหนวะ? ตอนอยู่ในผับมันโคตรกวนตีน ตอนนี้มามีน้ำใจพูดดีด้วย จะมาแนวไหนนี่?
"กูชื่อคิมหันต์ เรียกกูว่าคิมก็ได้"
ผมตอบกลับแล้วมองมันอีกที ไอ้คนเพี้ยนนี่หุ่นมันเท่อย่างกับนายแบบ มันสูงกว่าผมหน่อย บ่าก็กว้าง ผมทรงนักร้องเกาหลีทำไฮไลท์สีทองที่ปลายผม สร้อยหนังสีดำที่คอ หูใส่ต่างหูแบบผม ใส่เชือกถักที่ข้อมือซ้าย มันท่าทางเซอร์แบบผมเลย และที่สำคัญ มันหล่อกว่าผม!!
"มึงจะไปกับกูป่ะวะ? หรือจะนั่งรอแท๊กซี่ที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ กว่ารถเมล์สายแรกจะวิ่งก็ตีห้า มึงจะนอนรออยู่ที่ป้ายรถเมล์เหรอ?"
คำพูดของมันย้ำให้ผมรีบตัดสินใจ มันพูดถูก ตอนนี้เพิ่งตีหนึ่ง แท๊กซี่ก็ไม่มี รถเมล์ก็ไม่มี จะโทรเรียกน้องมารับคงไม่ได้ แม่รู้ละตายแน่
"มึงคิดไรกับกูป่ะ ถึงอยากไปส่ง หรือจะพากูไปปล้น บอกก่อนนะว่าบ้านกูจน"
ผมรีบออกตัวไว้ก่อน
"โห ความคิดมึง กูเป็นพลเมืองดีโว้ย แค่อยากช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก แค่นั้นล่ะ เพราะกูเป็นคนดีไง"
มันเพี้ยนระดับสูงสุดละครับท่านผู้โชมมมม
"ก็ได้ ไอ้คนดี กูจะไปกับมึง"
ผมยอมตกลงง่าย ๆ และนี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตผมเลยล่ะ ถ้าผมรู้ว่าความใจง่ายของผมทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปตลอดกาลล่ะก็ ผมคงไม่ยอมไปกับมันแน่ เอ๊ะ! หรือผมคิดถูกที่ยอมไปกับมัน
-------------------------