โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
หน้าห้องฉุกเฉิน
ร่างสูงของอารอนเดินกลับไปกลับมาด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อเพื่อนรักหายเข้าไปในห้องฉุกเฉินนานนับชั่วโมง โดยมีสิมิลันนั่งรอฟังข่าวด้วยอาการสงบ ท่ามกลางเสียงบ่นของชายหนุ่มชาวต่างชาติดังออกมาเป็นระยะ
“เพราะคุณ! เพราะคุณคนเดียวที่ทำให้เพื่อนของผมเป็นแบบนี้ มีอย่างที่ไหนแทนที่จะดำน้ำตามหลังมาแต่ดันดำน้ำนำหน้ามาก่อน มีใครที่ไหนเขาทำกัน ถ้าเพื่อนของผมเป็นอะไรไปละก็คอยดูเถอะนะ ผมจะเอาเรื่องคุณจนถึงที่สุดเลย คอยดูสิ! จะฟ้องร้องคุณ ฟ้องประเทศคุณ ให้รับผิดชอบชีวิตเพื่อนของผม!”อารอนขู่ฟ่อๆ
หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งไม่ต่อปากต่อคำใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมันก็เป็นความจริงที่เขาพูด เธอประมาทที่ดำน้ำนำหน้าขึ้นมาก่อน แทนที่จะดำน้ำตามหลังเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับนักดำน้ำที่ดำน้ำลึกใต้ทะเลแบบนั้น
แต่ถ้าเป็นเวลาอื่นละก็มีหรือคนอย่างสิมิลันจะยอมฝรั่งปากจัดแบบนี้แม่จะชกให้หน้าหงายไปเลย ให้ตายเถอะ! หญิงสาวได้แต่นั่งยุบหนอ พองหนอ เพื่อมิให้มีอารมณ์ขุ่นมัวไปกับคำกล่าวต่างๆ นานาของชายหนุ่มตรงหน้า
ทันใดนั้น ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกพร้อมร่างของนายแพทย์ที่ทำการรักษาเดินออกมาจากห้องเพื่อแจ้งข่าวให้กับญาติของคนไข้ แต่มีหรือจะอ้าปากทันอารอน ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างรวดเร็วโดยไม่รั้งรอ
“หมอ! เพื่อนผมโอเคไหม!ปลอดภัยแล้วใช่ไหมหมอ!”ชายหนุ่มถามอย่างร้อนรน
หมอหนุ่มขยับแว่นตาไปมาก่อนจะตัดสินใจบอกอาการของคนไข้ตรงไปตรงมาให้ได้ล่วงรู้
“คนไข้ก่อนจะมาถึงมือหมอหยุดหายใจไปหลายนาที แม้จะสามารถทำให้กลับมาหายใจใหม่ได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะพ้นขีดอันตราย และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาหัวใจก็หยุดเต้นไปอีกติดต่อกันสองครั้ง ซึ่งตอนนี้ทางเราสามารถปั๊มหัวใจให้กลับคืนมาได้แล้ว แต่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา สรุปอาการโดยรวมตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายครับ”
สิ้นเสียงอธิบายของนายแพทย์เจ้าของเคส เล่นทำเอาชายหนุ่มหญิงสาวที่ยืนฟังอยู่ในขณะนั้น ถึงกับนิ่งงันไปเลยทีเดียวไม่คาดคิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะอารอนด้วยแล้วชายหนุ่มเงียบงันไม่กล่าวสิ่งใดๆ ออกมาเลยก่อนจะได้ยินเสียงของสิมิลันเอ่ยขึ้น
“คุณไข้จะมีอาการแทรกซ้อนไหมคะคุณหมอ”
นายแพทย์เจ้าของไข้ยืนนิ่ง เมื่อได้ยินหญิงสาวถาเช่นนั้น
“เรื่องนี้ก็ไม่สามารถตอบได้ครับ ว่าจะมีอาการแทรกซ้อนไหม ถ้าคนไข้ไม่มีโรคประจำตัวก็ดีไปแต่ที่สำคัญหมอก็ยังไม่แน่ใจว่า คนไข้จะฟื้นกลับมาไหม”
อารอนเงยหน้ามองนายแพทย์ตรงหน้าทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“หมายความว่าอย่างไงหมอ ไม่แน่ใจว่าจะฟื้นไหมเกิดอะไรขึ้น!เพื่อนผมเป็นอะไรหมอ!เพื่อนผมเป็นอะไร”อารอนรัวคำถามออกมาเป็นชุด
“คุณใจเย็นๆ นะครับ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกอาการที่แน่นอนได้ว่าจะออกมาเป็นอย่าไง ต้องสังเกตอาการวันต่อวัน ซึ่งถ้าภายในสามถึงเจ็ดวันคนไข้ยังไม่ฟื้น โอกาสที่จะกลายเป็นเจ้าชายนิทราก็มีสูงมากเลยทีเดียว แต่ทางเราก็หวังว่าโอกาสที่คนไข้จะฟื้นกลับมาก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน หมอต้องขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะให้คนไข้ย้ายไปอยู่ห้องไอซียู”นายแพทย์หนุ่มกล่าวพร้อมส่งยิ้มให้เป็นกำลังใจ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินตามเดิม
อารอนทรุดกายนั่งลงกับเก้าอี้ด้วยความอ่อนแรงเมื่อได้ยินอาการของเพื่อนรักมีสภาพเป็นเช่นนั้น ท่ามกลางสายตาของสิมิลันที่ยืนมองอาการของเขาด้วยความรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวง เพราะความประมาทของเธอทำให้ต้องกลายเป็นแบบนี้ หญิงสาวค่อยๆ ทรุดกายลงนั่งเคียงข้างเขาพร้อมเอ่ย
“เออคุณ....”ทว่าเธอกล่าวได้เพียงแค่นั้นพลันต้องเงียบเสียงลง
“หุบปากของคุณซะ! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น....เป็นเพราะคุณคนเดียวทำให้เพื่อนของผมเป็นแบบนี้ คุณจะต้องรับผิดชอบและชดใช้ให้กับเพื่อนของผม! มันไม่จบลงง่ายๆ หรอกสิมิลัน! ทางที่ดีกรุณาไปให้ไกลๆ อย่ามาอยู่เกะกะสายตา”อารอนกล่าวเน้นย้ำหนักๆ
ชายหนุ่มหันกลับไปมองใบหน้าสวยคมของหญิงสาวชาวไทย ด้วยสายตาเย็นชาและใบหน้าบึ้งตึงก่อนจะลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวง นั่งนิ่งเงียบอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอยู่เพียงลำพัง
ณ.ร้านเหล้ากูอยากเมา
“อะไรนะยายลัน! นี่แกพูดจริงหรือพูดเล่น มันไม่ตลกเลยนะ...เรื่องคอขาดบาดตายชัดๆ”รสรินส่งเสียงโวยวายดังลั่นไปทั่วร้าน เมื่อแม่น้องสาวตัวดีของเธอได้มาบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
“จริงๆ เจ๊ เพื่อนเขาโวยวายและขู่หนูว่าจะฟ้องประเทศของเรา ฟ้องหนูฐานกระทำการประมาททำให้เพื่อนของเขาต้องเป็นแบบนี้ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเลยนะ ถ้าเขาเป็นอะไรไปหรือต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราตามที่หมอบอกจริงๆ หนูจะถูกเขาฟ้องจนติดคุกไหมเจ๊”หญิงสาวพูดพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในขณะที่คนฟังทำท่าลมจะจับ
“โอ๊ย! งานเข้า งานงอกครั้งยิ่งใหญ่มหาศาลอีกแล้ว ฉันอยากจะเป็นลม ถ้าเขาฟ้องร้องแกขึ้นมาจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนไปจ่ายเขาได้กันวะยายลัน ไม่น่าเลยฉัน ไม่น่าจะตามใจแกเลย ลูกค้าวีไอพีแบบนี้ ควรจะหามืออาชีพไปรับรองแทนที่จะเป็นแกนะยายลัน”
“อ้าวเจ๊! หนูก็ระดับมืออาชีพแนวหน้า นักท่องเที่ยวกี่กรุ๊ปก็เลือกหนูทั้งนั้น ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยจะมีก็กรุ๊ปนี่แหละ ใครจะไปรู้เล่าว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นให้ตายสิ! ทำไมถึงซวยอะไรแบบนี้วะไอ้ลัน! โดนด่าทั้งขึ้นทั้งล่องเลย”
“เอาละ! เอาละ! ไม่ต้องคิดอะไรล่วงหน้าไปก่อนพวกเขา พวกเราทำได้แต่เพียงรอให้ทางนั้นติดต่อกลับมาว่าเขาจะดำเนินกับแกอย่างไง บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าก่อเรื่องยุ่งยาก พูดไม่ทันขาดคำเลยเกิดขึ้นจนได้ โอ๊ย...ฉันอยากเป็นลมไม่รู้ว่าจะว่าจะจัดการกับแกอย่างไงดียายลัน”
รสรินบ่นพลางยกยาดมขึ้นสูดเข้าปอด ท่ามกลางสายตาของสิมิลันกำลังนั่งมองอาการทำท่าจะเป็นลมของพี่สาวอยู่ในขณะนั้น
“เออนั่นตรู...โคตรเครียดเลย...ทำไมจะต้องเกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขึ้นมาด้วยนะ เกิดอีตาฝรั่งนั้นตายหรือเป็นเจ้าชายนิทราขึ้นมาจริงๆ แกจะทำอย่างไงวะไอ้ลันเอ๋ยไอ้ลัน”หญิงสาวได้แต่รำพึงอยู่ภายในใจ สองมือยกขึ้นกุมขมับทั้งสองข้างด้วยความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
15 วันผ่านไป
ตู๊ด!ตู๊ด!ตู๊ด! โทรศัพท์มือถือแผดเสียงดังก้องท่ามกลางความเงียบงันภายในห้องนอน ทว่าคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงหาได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเธอแต่อย่างใด
ร่างอวบอิ่มของรสรินเปิดประตูห้องพร้อมก้าวเดินเข้ามาภายในห้องนอนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกมือขึ้นเท้าสะเอวยืนมองน้องสาวตัวแสบที่ยังคงนอนอุตุไม่รู้สึกรู้สากับเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอแต่อย่างใด
“ยายลัน!โทรศัพท์เสียงดังออกปานนี้ ยังไม่ลุกขึ้นมารับสายอีกเกิดเป็นเรื่องคอขาดบาดตายขึ้นมาจะทำอย่างไง พอดีคนรอสายตายไปชาติหนึ่งแล้วแกถึงจะตื่นขึ้นมารับใช่ไหม”รสรินบ่นให้น้องสาวยาวเหยียด พร้อมลากขาคนเป็นน้องให้ตื่นจากการหลับใหล
“โอ๊ยเจ๊!ลันง่วงนอน....ปล่อยโทรศัพท์ให้มันดังอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ต้องไปรับมันหรอกหรือไม่ก็กดปิดเครื่องไปเลย กว่าร้านจะปิด กว่าจะเคลียร์บัญชีจ่ายเงินเสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเช้าแล้ว ง่วงนอนจะตาย เจ๊เองก็เถอะทำไมไม่นอน ตื่นขึ้นมาทำไมกัน”สิมิลันบ่นเสียงงึมงำตอบกลับไป
“ฉันนอนไม่หลับ...ไม่รู้เพราะอะไร”รสรินกล่าวพร้อมเหลือบสายตามองไปยังโทรศัพท์ของน้องสาวที่ยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด พลางเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ดังกล่าวขึ้นมาดูสายเรียกเข้า
“ยายลันโทรศัพท์มาจากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โทรเข้ามาเป็นสิบๆ สายเลยนะ แน่ใจนะว่าจะไม่รับ”รสรินเอ่ยบอกน้องสาว
คำกล่าวของพี่สาวทำให้ร่างงามที่เอาแต่นอนอุตุอยู่ภายในกองผ้าห่ม ลุกพรวดพราดขึ้นมาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าสายโทรศัพท์ดังกล่าวมิใช่ใครอื่นแน่นอน
“โทรศัพท์จากโรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอเจ๊ ตายห่าแล้วหรืออีตาฝรั่งนั้นเกิดตายขึ้นมาจะทำอย่างไง หรือจะเป็นอะไรมากกไปกว่านี้อีกอย่างนั้นเหรอ
“พอๆๆ อย่าเพิ่งเดาอะไรไปทั่ว ถ้าไม่รับก็ยังไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวเจ๊คุยเองถ้าแกไม่อยากรับ”รสรินกล่าวพร้อมกดรับสายโทรศัพท์ดังกล่าวทันที
“สวัสดีคะ”หญิงสาวรีบกรอกเสียงตอบกลับไป
“สวัสดีคะ จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตนะคะ จะแจ้งให้ทราบว่าคนไข้รู้สึกตัวขึ้นมาแล้วค่ะ เห็นเบอร์ของคุณสิมิลัน ให้ไว้กับทางโรงพยาบาล ทางเราจึงโทรมาแจ้งให้รับทราบ และรบกวนมาพบกับคุณหมอเจ้าของไข้ด้วยนะคะ เพราะมีบางอย่างที่ทางญาติจะต้องรับทราบค่ะ”เจ้าหน้าทางโรงพยาบาลกล่าวรายงานมาเป็นชุดๆ
“เออ...เรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอคะ พอดีดิฉันเป็นพี่สาวของคุณสิมิลันค่ะ น้องสาวดิฉันกำลังอาบน้ำอยู่”
“รบกวนเข้ามาพบกับคุณหมอเจ้าที่โรงพยาบาลดีกว่านะคะ แล้วจะทราบรายละเอียดทุกอย่างค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบรายละเอียดบอกได้เพียงเท่านี้ค่ะ”
“เอิ่ม...คะ..คะ...ดะ..เดี๋ยวทางเราจะเข้าไปพบคุณหมอนะคะ...ขอบคุณมากค่ะที่โทรมาบอก”รสรินกล่าวขอบคุณพร้อมกดปิดสายสนทนา พลางทำหน้างุนงงอยู่ไม่ใช่น้อย
“มีอะไรเหรอเจ๊...ทำไมทำหน้าตาอย่างนั้นละ”สิมิลันเอ่ยถามพี่สาวพร้อมลุกขึ้นจากเตียง
“แกให้เบอร์โทรศัพท์กับโรงพยาบาลว่าเป็นญาติของคนไข้อย่างนั้นเหรอยายลัน ทางโรงพยาบาลเขาโทรมาตามหาญาติคนไข้มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“เฮ้ย!...ไม่นะเจ๊...หนูไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับทางโรงพยาบาลไว้เลยนะ”กล่าวพลางทำท่าครุ่นคิดพร้อมทบทวนความทรงจำของตัวเองก่อนจะเอ่ยขึ้น
“หรือจะให้ไปวะ วันนั้นก็โคตรยุ่งเลย จำไม่ได้อะเจ๊”แม่สาวน้อยเอ่ยตอบกลับไปเสียงอ่อย
“ยายปลาทองเอ๊ย! ความจำสั้นจริงๆ นะแก อะไรก็จำไม่ได้อีกหน่อยจะจำชื่อตัวเองไมได้เข้าสักวัน ทางโรงพยาบาลเขาให้ญาติคนไข้ไปพบ ผู้ชายต่างชาติคนนั้นเขารู้สึกตัวแล้วทางโรงพยาบาลเขาก็เลยติดต่อแก ให้เข้าไปพบที่โรงพยาบาลด่วนเลย”
คำกล่าวของรสรินทำให้แม่สาวน้อยยิ้มกว้างขึ้นมาด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เขารู้สึกตัวแล้วเหรอเจ๊ โห!...โล่งอกไปที...ไม่ตายอย่างนี้แล้วก็ดีเรื่องอะไรจะได้จบๆ คอยฟังข่าวจนเครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหมดแล้วเนี้ย”
“อ๋อเหรอ...นี่ขนาดเครียดนะเนี้ย ฉันเห็นแกกินนอนเป็นว่าเล่นกว่าแต่ก่อนเสียอีก แถมกินเยอะมากขึ้นอีกต่างหากเปลืองข้าวเปลืองเงินกว่าแต่ก่อนเสียอีกนะยายลัน
“โห่เจ๊แรงอะ! พูดแบบนี้เกิดหนูกินข้าวไม่ได้เพราะตรอมใจคำพูดของเจ๊จะทำอย่างไง”แม่สาวน้อยบ่นพึมพำออกมาทันที
“ก็ดีอะดิ!ไม่เปลือง!ลุกขึ้นได้แล้ว จะไปไหนก็รีบไป จะได้รู้ว่าเรื่องจะยาวหรือจบเลย”รสรินกล่าวพร้อมเดินนำหน้าออกจากห้องนอนของน้องสาว