13

1165 คำ
วันต่อมา จิวฮุ่ยออกเดินทางไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว เวลานี้หลินหลินไม่มีอะไรทำจึงตั้งใจจะช่วยปัดกวาดอาราม นางเดินค้นหาห้องเก็บของเพื่อจะหยิบผ้ากับถังน้ำแต่เจอเข้ากับห้องหนังสือเสียก่อน ด้วยความเป็นคนรักการอ่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะต้องนำมาใช้ในการเขียนบท หลินหลินเห็นกองหนังสือมากมายก็คลี่ยิ้มกว้างด้วยความยินดี สองเท้ารีบก้าวเข้าไป นางอยากรู้ว่าหนังสือในยุคโบราณเขาเขียนอะไรกันไว้บ้าง นางหยิบเล่มนั้นมาดู หยิบเล่มนั้นมาอ่าน กระทั่งเจอเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อที่หน้าปกทำให้นางขมวดคิ้วเข้าหากัน “ตำนานรักจิ้งจอกเก้าหาง” นางขมวดคิ้ว ทำไมบังเอิญแบบนี้ ตอนอยู่ที่ภพปัจจุบันก็อ่านค้างไว้พอดี ด้วยความอยากรู้ นางจึงพลิกเปิดอ่าน หลินหลินไม่ลืมว่าผลงานสุดท้ายก่อนที่จะหลุดมายังต้าชิงแห่งนี้คือการเขียนบทซีรีย์เรื่องตำนานรักจิ้งจอกเก้าหาง และนางก็ถูกหลิวโจวซิ่นไล่ไปหาข้อมูลจริงมาเขียน แต่จะหาข้อมูลจริงจากไหน หลินหลินเปิดหนังสือเล่มนั้น อยากรู้ว่าในเล่มนี้จะเหมือนกับเล่มที่นางเคยอ่านในยุคปัจจุบันหรือไม่ ในยุคปัจจุบันอาจจะตีไข่ใส่สีจนผิดไปจากความเป็นจริง จึงทำให้หลิวโจวซิ่นไม่ชอบใจ แต่จะบ้าหรือไง มันเป็นแค่ตำนานจะหาเรื่องจริงจากไหนมาเขียน หลินหลินส่ายหน้า แต่มือก็ยังเปิดอ่านตำนานรักจิ้งจอกเก้าหางเวอร์ชั่นยุคโบราณ นางค่อยๆไล่สายตาอ่าน แต่ละวรรคแต่ละตอนล้วนทำให้นางทึ่งและหยุดอ่านไม่ได้ มันไม่เหมือนกับตำนานรักจิ้งจอกเก้าหางที่นางเคยอ่านในยุคปัจจุบันเลย เมื่อร้อยปีก่อน โจวซิ่นธิดาคนงามของราชาจิ้งจอกเก้าหางย่างเข้าสู่วัยดรุณี ด้วยความซุกซน อยากออกผจญภัยจึงหนีจากเผ่าจิ้งจอกไปท่องเที่ยวทั่วเขตแดนมารและสวรรค์ ตอนนั้นเผ่าจิ้งจอกเก้าหางยังเป็นเผ่ามารอยู่ดังนั้นการหนีไปเที่ยวในเขตสวรรค์จึงเป็นเรื่องผิด ที่ลำธารน้ำตกสวรรค์โจวซิ่นกำลังเปลือยกายลงเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลินไม่ทันเห็นว่ามีตาข่ายกักมารกำลังลอยคลุมมาจับนางไว้ “นางมารจิ้งจอกเก้าหาง กล้าดีอย่างไรแอบมาเล่นธารน้ำตกสวรรค์” เสียงดังราวกัมปนาทถล่มทลายทำให้โจวซิ่นหันหน้ากลับมา ทว่าเพียงแค่เห็นหน้าทำให้เทพสวรรค์ที่กำลังเตรียมลงแส้ต้องรั้งมือไว้ สองสายตาประสานกัน “ท่านเทพสวรรค์” นางยกมือปิดหน้าอกแล้วย่อตัวลงให้เหลือแต่ศีรษะพ้นน้ำ “โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย” สายตาขอร้องนั่นทำให้เทพสวรรค์ที่กำลังอยู่ในวัยหนุ่มใจสั่น “เจ้าจงแต่งกายให้เรียบร้อยแล้วกลับออกไปซะ” นางจิ้งจอกเก้าหางได้ยินดังนั้นก็ดีใจที่รอดชีวิตได้ รีบโผขึ้นจากน้ำ ภาพร่างอรชรแสนเย้ายวนตาจึงปรากฎชัดต่อหน้าเทพหนุ่มซึ่งมีถึงสี่ตาสามารถกวาดมองได้ทั่วสวรรค์ โลกมนุษย์ ใต้บาดาล และนรก เขารีบหันกลับหลังให้ หลินหลินกำลังพลิกหน้าต่อไปอ่านต่อ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น “ประสกชิงหลินอยู่นี่เอง” หลินหลินตกใจ เพราะกำลังถึงฉากสิบแปดบวกพอดี นางรีบปิดหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นมอง คนที่มาใหม่คือนักพรตในอารามเต๋าแห่งนี้ แต่ท่านนี้นางยังไม่เคยเห็นหน้า หลินหลินรีบเดินไปหาแล้วประสานมือค้อมตัวลงทำความเคารพแล้วต้องสะดุ้งแต่คนตรงหน้าไม่ได้มีสี่ตา “ข้าต้องขออภัยที่เข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต ว่าแต่ท่านนักพรตคือ” “อาตมาเพิ่งกลับมาจากอารามไท่ซาน อาตมาชื่อป๋ายเทียน” หลินหลินร้องออกมาคำหนึ่ง “ท่านนักพรตป๋ายเทียน อาจารย์ของหัวหน้านักพรต ชิงหลินดีใจที่ได้พบท่าน” “เป็นวาสนาชักนำ เราถึงพบกัน” หลินหลินลอบเบ้ปาก “มิใช่วาสนาหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นเพราะกรรมเก่าของเจ้าของร่างนี้ เอ่อ ของข้า ข้าโชคร้ายอาภัพนักที่พระสวามีไม่รัก แถมไล่ข้าออกจากวังทำให้ข้าเกือบต้องตายระหว่างทาง มิหนำซ้ำยังทำให้ข้าเป็นคนไร้บ้านเพราะสั่งสังหารครอบครัวข้าอีกด้วย ทำไมชีวิตเจ้าของร่างดรามาเหลือเกินเทพองค์ไหนเขียนบทชีวิตให้นาง ใจร้ายนัก”นางอดรำพึงรำพันออกมายาวเหยียดไม่ได้ “เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ” “คิดว่าอย่างไรคืออะไรเจ้าคะ” “ทุกอย่างมีกรรมเป็นเครื่องกำหนด ติดพันตามตัวเราเหมือนเงา กรรมนั้นหมดก็จะมีวาสนา เพียงแต่เจ้าต้องทนรออีกหน่อย” “จริงหรือเจ้าคะ แต่ถึงอย่างไรข้ายังมีกรรมมากกว่านั้น ข้าบอกท่านไม่ได้ ข้าอยากกลับบ้านข้า” นักพรตป๋ายเทียนยิ้มเมตตา เป็นยิ้มที่หลินหลินมองแล้วอบอุ่นให้ความรู้สึกคุ้นเคย ผูกพันกันราวกับเป็น... หลินหลินหาคำตอบไม่ได้ สีหน้าจึงดูไม่ได้ตามไปด้วย ทุกอากัปกิริยานั้นไม่พ้นสายตาเมตตาที่ผ่านโลกมามากของป๋ายเทียน “เชิญประสกชิงหลินไปดื่มน้ำชากับอาตมาสักหน่อยเถอะ” หลินหลินยิ้มแทนคำตอบ เดินตามนักพรตป๋ายเทียนออกไปแผ่นหลังกว้างเหตุใดนางเดินตามจึงรับรู้ถึงความอุ่นเล่าเพียงแต่ไม่ใช่ความอบอุ่นอย่างคนรักแล้วแบบใด อดเหลียวมองหนังสือตำนานรักจิ้งจอกเก้าหางด้วยความเสียดายแวบหนึ่งไม่ได้ เมื่อออกมาถึงโถงรับรองภายในอาราม ก็มีนักพรตฝึกหัดนำชามาวาง หลินหลินกำลังคอแห้งนางจึงยกขึ้นดื่มแล้วมองหน้าป๋ายเทียน นางเพิ่งสังเกตว่าเขามีใบหน้าสงบราบเรียบ ดูใจเย็น มีเมตตาสูงส่ง เหมือนกับเทพสวรรค์ไม่มีผิด แต่จะแปลกอะไรในเมื่อเขาเป็นอาจารย์ของท่านนักพรตที่อยู่ในอารามแห่งนี้ ฝีมือฝึกปรือการศึกษาธรรมคงเข้าขั้นเซียนไปแล้ว ‘เจอคนหล่ออีกคน แต่คนนี้ดูเป็นคนดีจริงๆ’ หลินหลินคิดอะไรอยู่เพลินๆ ป๋ายเทียนก็พูดขึ้นเสียงเนิบช้า “ประสกชิงหลินอยากกลับบ้าน อาตมาเห็นว่าประสกชิงหลินยังกลับตอนนี้ไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทาง อย่างที่อาตมาบอกทุกคนมีกรรมติดตัวกันมาทั้งนั้น รอจนหมดกรรม ผลบุญทำงาน ทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่หนทางของมันเอง” หลินหลินฟังจนจบก็ยิ้มเจื่อน “ท่านอาจารย์พูดอะไรชิงหลินไม่เข้าใจ แต่ชิงหลินไม่อยากรอให้หมดกรรม ผลบุญทำงาน มันคงจะช้า เพราะชิงหลินคงทำกรรมมาเยอะมากกว่าบุญกระมัง” “ใครบอกประสกหรือ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม