“ทำไมแม่หมูไม่ให้หนูชมพู่บินไปเคปทาวน์คะ หรือว่า...แม่หมูกับพ่อบลูกลัวว่าหนูชมพู่จะไปป่วนให้ปวดหัวเหมือนที่ผ่านๆ มา”
กันติศาถามมารดากลั้วเสียงหัวเราะร่วน รู้ว่าตัวเองแสบพอสมควร ชอบทำให้บิดาและมารดาต้องบ่นอุบไม่เลิกในยามที่มีเธออยู่ใกล้
และคราวนี้ก็มีเสียงห้าวทุ้มของบิดาเป็นผู้ตอบคลายความเข้าใจผิดของลูกสาว
“พ่อบลูกับแม่หมูไม่กลัวหรอกถ้าหนูชมพู่จะตามมาป่วนถึงเคปทาวน์ เพราะพ่อบลูก็คิดถึงหนูชมพู่เหมือนกัน แต่ที่แม่หมูบอกว่าไม่ต้องมาเคปทาวน์แล้ว เพราะเราต้องเปลี่ยนแผน
การท่องเที่ยวอย่างกะทันหันต่างหากลูก”
“เปลี่ยนแผน” กันติศาทวนคำ พลางถามถึงแผนการที่บิดาได้เปลี่ยนอย่างฉับพลันทันด่วน “ทำไมพ่อบลูถึงได้เปลี่ยนแผนกะทันหันล่ะคะ หนูชมพู่กำลังจัดกระเป๋าเดินทางจะบินไปหาพ่อบลูกับแม่หมูในคืนนี้แล้ว”
“ที่พ่อกับแม่ต้องเปลี่ยนแผนแบบด่วนจี๋ก็เพราะว่าท่านชีคดาจิมได้โทร.มาหาพ่อบลู
กลางดึก และทำให้พ่อบลูต้องเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวและบินกลับประเทศไทยเป็นการด่วนจนไม่มีเวลาโทร.บอกหนู”
เพราะถูกเพื่อนรักอย่างท่านชีคดาจิม ราชิต เจ้าผู้ปกครองประเทศคานาร์ในดินแดนทะเลทราย ได้โทร.มาขอร้องเป็นการด่วน จึงทำให้โดมินิทเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวและทำตามคำขอร้องของท่านชีคดาจิมในทันที
ทางด้านของกันติศารู้จักกับท่านชีคดาจิมเป็นอย่างดี เพราะท่านชีคดาจิมเป็นพ่อทูนหัวของเธอกับภูมินิทผู้เป็นพี่ชาย และรู้ว่าหากท่านชีคดาจิมได้เอ่ยปากขอร้องบิดาให้เปลี่ยนแผน
การท่องเที่ยว แสดงว่าต้องมีเรื่องด่วนจริงๆ
“ท่านชีคมีเรื่องด่วนอะไรหรือคะ ถึงทำให้พ่อบลูกับแม่หมูต้องบินกลับประเทศไทยเป็นการด่วน แล้วตอนนี้พ่อบลูกับแม่หมูถึงบ้านแล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะ แม่หมูกลับมาถึงบ้านได้หลายวันแล้ว และมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องของพี่บลูจนไม่ได้ติดต่อหาหนูชมพู่สักที”
ผู้เป็นมารดาเอ่ยบอก เพราะได้รับสาสน์ด่วนจากท่านชีคดาจิม ทำให้เธอกับสามีต้องจัดการเรื่องยุ่งๆ เหล่านี้ให้เสร็จสิ้นกระทั่งไม่ได้ติดต่อหาลูกสาวเลย
“ไม่เป็นไรค่ะแม่หมู”
กันติศาคลี่ยิ้มขณะบอกมารดา ไม่คิดโกรธบุพการีทั้งสองที่เปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวและบินกลับประเทศเป็นการด่วนจนไม่ได้โทร.บอกเธอ แต่สิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในความคิดคืออะไรเป็นสาเหตุสำคัญให้บุพการีทั้งสองต้องบินกลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วนที่สุด และก็เอ่ยถามอีกครั้งหลังจากยังไม่ได้รับคำตอบในครั้งแรก
“ท่านชีคโทร.หาพ่อบลูกับแม่หมูทำไมหรือคะ”
“หนูชมพู่จำเจ้าหญิงอลิลาได้ไหมลูก” ปรีชยาพรเอ่ยถามลูกสาว ยังไม่ตอบคำถามในก่อนหน้านี้ของลูก
และกันติศาก็พยักหน้ารับเมื่อภาพของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์และงดงามจนได้รับการยกย่อง
จากทั่วโลกว่าเป็นเจ้าหญิงแดนทะเลทรายที่สวยที่สุดในอันดับต้นๆ ได้แล่นเข้ามาในมโนภาพ จากนั้นก็ตอบมารดาว่า
“ชมพู่จำได้ค่ะ เจ้าหญิงอลิลาสวยมากค่ะ”
“ใช่แล้วลูก เจ้าหญิงอลิลางดงามมาก สัปดาห์หน้าเจ้าหญิงอลิลาจะเข้าพิธีอภิเษกกับคู่หมั้นที่เป็นมหาเศรษฐีชาวอเมริกา เป็นงานแต่งงานระดับประเทศ ซึ่งมีการอารักขาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก เพราะมีข่าวว่าจะมีการลอบฆ่ารัชทายาทของประเทศคานาร์ในวันอภิเษก”
ได้ยินคำตอบในตอนท้ายที่บิดาเป็นคนตอบแทนมารดา ซึ่งน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและติดกังวล ส่งให้กันติศานั่งไม่ติดเช่นเดียวกัน เพราะเธอรู้ว่าใครคือรัชทายาทของประเทศคานาร์
“เจ้าหญิงอลิยา ราชิต คู่หมั้นของพี่บลูกำลังตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย”
กันติศาเอ่ยออกมาด้วยความเป็นกังวลไม่แพ้กัน และก็นึกถึงพี่ชายของตนว่าล่วงรู้ถึงเรื่องนี้หรือยัง
โดมินิทหันมามองสบตากับภรรยาซึ่งมีริ้วรอยของความเป็นห่วงถึงเจ้าหญิงอลิยา ผู้เป็นคู่หมั้นของลูกชาย จากนั้นก็เอ่ยบอกกับลูกสาวต่อ
“เหมือนที่พวกเรารู้ เจ้าชายพาเรล ราชิต โอรสของท่านชีคดาจิม ผู้เป็นรัชทายาทคนที่หนึ่งของประเทศคานาร์ ถูกลอบปลงประชนม์ระหว่างเดินทางไปสนามบินเพื่อบินกลับประเทศคานาร์ เมื่อไม่มีเจ้าชายพาเรลแล้ว เจ้าหญิงอลิยาต้องขึ้นปกครองประเทศแทนท่านชีคดาจิม และตอนนี้เจ้าหญิงก็กำลังตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย ท่านชีคเป็นกังวลมากจึงอยากให้พี่ชายของหนูชมพู่เดินทางไปที่ประเทศคานาร์เป็นการเร่งด่วน และพ่อกับแม่หมูต้องไปบอกกับพี่บลูด้วยตนเอง พ่อจึงต้องเปลี่ยนแผนไม่อยู่เที่ยวเคปทาวน์ต่อแล้ว และพ่อโทร.มาบอกหนูชมพู่ว่าไม่ต้องบินมาหาพ่อกับแม่ที่เคปทาวน์แล้ว แต่ให้หนูบินกลับประเทศไทยเลย”
“ได้ค่ะพ่อบลู ชมพู่จะบินกลับประเทศไทยเลยค่ะ”
กันติศารับคำบิดา เปลี่ยนแผนการเดินทางแบบกะทันหันเช่นเดียวกับบุพการีทั้งสอง ส่วนเรื่องการทิ้งตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจที่จะบินไปเคปทาวน์ และซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่สำหรับบินกลับประเทศไทยไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับลูกสาวของมหาเศรษฐีในตระกูลเอิร์สคามอน
แต่เมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว กันติศาก็เอ่ยถามความเห็นจากบุพการีทั้งสองว่า
“ถ้าชมพู่ไม่บินกลับประเทศไทย แต่บินไปหาพี่บลูที่ประเทศคานาร์ พ่อบลูกับแม่หมูคิดว่ายังไงคะ อนุญาตให้ลูกไปไหมคะ”
“อยากไปเซอร์ไพรส์พี่บลูใช่ไหม” ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามอย่างรู้เท่าทันความคิดของลูกสาว
และกันติศาก็ตอบรับกลั้วเสียงหัวเราะ “ใช่ค่ะแม่หมู ชมพู่คิดถึงพ่อบลู แม่หมู แต่ก็คิดถึงพี่บลูด้วย และอยากบินไปเซอร์ไพรส์พี่บลูที่ประเทศคานาร์ พี่บลูต้องตกใจและดีใจแน่ๆ ที่เห็นน้องสาวคนนี้ไปหา”
“อืม...ว่ายังไงคะพ่อบลู ลูกสาวคนโปรดเอ่ยขอร้องแกมมัดมือชกแล้ว พ่อบลูจะปฏิเสธไหมคะ”
ปรีชยาพรหันมาเอ่ยถามสามีกลั้วเสียงหัวเราะ หลังจากได้ยินคำขออนุญาตจากลูกสาวที่เอ่ยขออนุญาตและตบท้ายด้วยคำพูดที่เป็นไม่ต่างจากการบังคับให้บิดามารดาต้องตอบตกลง
และโดมินิทก็ต้องหัวเราะร่วนกับคำสัพยอกของภรรยา ก่อนจะเอ่ยตอบลูกสาวผ่านโทรศัพท์ทั้งๆ ที่ยังหัวเราะอยู่
“ก็ลูกสาวสุดที่รักของแม่หมูพูดซะเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์พี่บลูถึงดินแดนทะเลทราย พ่อบลูคงปฏิเสธไม่ได้แล้ว”