‘กลัวซะเหลือเกิน’
ภูมินิทโต้กลับโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ดวงตาคมกริบจ้องเจ้าชายทาริสไม่ลดละ และก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินพ้นห้องโถงใหญ่ ก็ไม่ลืมตะโกนฝากรอยแค้นไว้ด้วย
‘ว่างเมื่อไร มาดวลกันสักตั้ง เอาให้หมอบกันไปข้าง’
‘เออ...นัดวันเวลาได้เลย’
เจ้าชายทาริสรับคำท้าพร้อมกับหัวเราะร่วน ก่อนจะเดินออกจากห้องโถงภายในตำหนักของเจ้าหญิงอลิยา
พอนึกถึงเหตุการณ์ที่แลกหมัดกับภูมินิท เจ้าพ่อแห่งเอิร์สคามอน เจ้าชายทาริสก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ และเมื่อปลายนิ้วกดเลื่อนดูภาพของหญิงสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลเอิร์สคามอน ก็กระตุกยิ้มตรงมุมปาก พลางเอ่ยออกมาอย่างนึกสนุกว่า
“คนนี้นะหรือที่ชื่อชมพู่ คนที่นายบลูมันหวงนักหวงหนา กระทั่งโกหกเราว่าไม่มีน้อง
สาว”
“ใช่แล้วครับ ผู้หญิงที่ดูดื้อรั้นเอาเรื่อง ที่อยู่ในภาพคือกันติศา หรือที่พ่อและพี่ชายของเธอเรียกว่าหนูชมพู่ เธอเป็นดวงใจของตระกูลเอิร์สคามอนเลยก็ว่าได้ครับ”
องครักษ์อัสมานรายงานตามข้อมูลที่สืบเสาะหามาเกือบทั้งคืน เพื่อนำมารายงานให้เจ้าเหนือหัวของตนทราบ
เจ้าชายทาริสพยักหน้ารับ มีรอยยิ้มปรากฏตรงมุมปาก เห็นด้วยกับข้อมูลที่องครักษ์อัสมานรายงาน
“เราเชื่อว่านายบลูหวงน้องสาวมาก เราเคยถามเขาว่ามีน้องสาวหรือเปล่า ปรากฏว่าไอ้หมอนี่รีบปฏิเสธแทบไม่ทัน”
ตอบองครักษ์อัสมานแล้ว เจ้าชายทาริสผู้จะขึ้นปกครองเป็นชีคแห่งประเทศนิรานแทนพระบิดาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็แหงนศีรษะหัวเราะกับการปะทะคารมกับภูมินิทในขณะนั้น
‘นายบลู นายมีน้องสาวหรือเปล่า’
ภูมินิทถึงกับชะงักฝีเท้าและหันมาขึงตามองขณะถามกลับเสียงห้วนๆ ว่า
‘ถามทำไม’
เจ้าชายทาริสยักไหล่ใส่ ตีสีหน้ายียวน เอ่ยตอบราวกับเป็นเรื่องปกติ
‘ก็ถ้ามี...จะฉุดน้องสาวของนายมาทำเมีย’
ได้ยินคำตอบเช่นนั้น ภูมินิทถึงกับสะดุ้งโหยง ตอบกลับเสียงดังอย่างรวดเร็ว
‘ไม่มีโว้ย!’
‘โกหกว่าไม่มีก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปสืบเอาเองก็ได้ว่านายมีน้องสาวหรือเปล่า’
“นายบลูปฏิเสธเสียงเข้มว่าไม่มีน้องสาว แทบยังตีหน้ายักษ์ใส่เราตอนเราบอกว่าจะสืบหาตัวน้องสาวของเขา”
เจ้าชายทาริสยังคงเอ่ยบอกกลั้วเสียงหัวเราะ รู้สึกสนุกในทุกครั้งที่นึกถึงการปะทะคารมกับภูมินิท และทำให้อีกฝ่ายเดือดพล่านด้วยความหวาดกลัวกับเรื่องที่พระองค์จะสืบเสาะตามหาน้องสาวของเขา
“ภูมินิทคงไม่รู้ว่า...ไม่มีอะไรปิดบังพระองค์ได้”
“และไม่มีสิ่งใดเข้ามาขวางเราได้ ถ้าหากเราต้องการตัวน้องสาวของเขา”
เจ้าชายทาริสเอ่ยเสียงเข้มเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวขณะพูดต่อท้ายองครักษ์อัสมาน จากนั้นก็หลุบสายตาลงมองภาพของผู้หญิงที่พระองค์สนใจและอยาก ‘ฉุด’ ตามที่ได้ขู่ฟ่อให้
ภูมินิทนึกหวาดกลัว...
“เล่าประวัติของหนูชมพู่ให้เราฟังสิ” ขณะเอ่ยสั่ง เจ้าชายทาริสก็ยังคงจ้องมองภาพของกันติศาในไอแพคโดยไม่กะพริบตา
“ครับ”
องครักษ์อัสมานรับคำ จากนั้นก็เริ่มเล่าประวัติของหญิงสาวผู้ตกเป็นที่สนใจของเจ้าชายทาริสให้พระองค์ฟังพอสังเขปเน้นเนื้อๆ ตรงประเด็นที่สุด
“กันติศา หรือที่ใครๆ ก็เรียกเธอว่า ‘หนูชมพู่’ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว
เอิร์สคามอน ทั้งพ่อและพี่ชายหวงเธอมาก”
“แน่นอนว่าต้องหวงมาก ก็เป็นนางฟ้าคนเดียวในตระกูลนี่”
เจ้าชายทาริสเอ่ยแทรกพลางกระตุกยิ้มกับความคิดที่แล่นอยู่ในหัวสมอง ก่อนจะพยักพเยิดให้องครักษ์อัสมานเล่าต่อ
“ใช่ครับ...หวงมาก แต่คนที่หวงหนูชมพู่ที่สุดก็คือคุณบลู...พี่ชายของเธอ นอกจากนั้นคุณบลูยังเป็นคนแนะนำและหามหาวิทยาลัยให้หนูชมพู่เรียน เธอจบจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (University of California, Los Angeles - UCLA) เมืองลอส
แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียครับ”
“ว้าว...จบจากมหาวิทยาลัยดังทางด้านคณิตศาสตร์ด้วย และไม่อยากเชื่อว่าเธอจะจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเรา”
เจ้าชายทาริสอดชมกันติศาไม่ได้ ถ้าหากหญิงสาวจบจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ก็ถือได้ว่าเป็นระดับหัวกะทิคนหนึ่ง เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถูกจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องการปั้นนักคณิตศาสตร์ที่เก่งๆ และแน่นอนว่าเธอเป็นรุ่นน้องของพระองค์ เพราะพระองค์ก็จบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้เช่นเดียวกัน
“ใช่ครับ เธอจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพระองค์” องครักษ์อัสมานรับคำ และก็อดเอ่ยชมกันติศาไม่ได้ “หนูชมพู่ ทั้งสวย ฉลาด รวย เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ครบเครื่องเลยครับ”
“ฉลาดและรวยอาจจะใช่ แต่เรื่องสวย ไม่สวยสักเท่าไร หนูชมพู่สวยไม่ถึงครึ่งของบรรดานางแบบที่เคยเข้ามาในชีวิตของเรา”
เจ้าชายทาริสเอ่ยวิเคราะห์หลังจากดวงตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่ภาพถ่ายของกันติศาในหลายๆ อิริยาบถที่องครักษ์อัสมานได้สืบเสาะหามาให้ชม
แต่องครักษ์อัสมานกลับคิดต่างจากผู้เป็นเจ้าเหนือหัว และก็ไม่คิดกักเก็บความคิดของตัวเองไว้ จึงเอ่ยค้านออกมาว่า
“หนูชมพู่อาจจะไม่สวยสะเด็ด แต่กระหม่อมคิดว่าเธอน่ารักและมีเสน่ห์มาก กระหม่อมดูภาพถ่ายของเธอหลายรอบมาก ยอมรับว่าดูแล้วไม่เบื่อจริงๆ แถมรอยยิ้มของเธอก็ดูสดใส จริงใจ กระหม่อมคิดว่าหากพระองค์ได้อยู่กับเธอ พระองค์คงมีความสุขมากครับ”
“ทำไมนายถึงคิดว่าเราจะลงหลักปักฐานกับหนูชมพู่”
เจ้าชายทาริสหรี่ตามององครักษ์คนสนิทที่คิดจับคู่ให้พระองค์อย่างเสร็จสรรพ
คราวนี้องครักษ์อัสมานก็เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจกับคำพูดของเจ้าเหนือหัว
“อ้าว! กระหม่อมคิดว่าพระองค์ชอบหนูชมพู่ซะอีก ถึงได้สั่งให้กระหม่อมสืบประวัติ และหาภาพถ่ายของเธอเป็นการเร่งด่วน”
“เปล่า! เราไม่ได้ชอบเธอ เราแค่ต้องการแก้แค้นนายบลูเท่านั้น เขาชกเราซะเลือดกบ
ปากตั้งแต่นาทีแรกที่เจอกัน ชกหน้าใครไม่ชก! ดันมาชกใบหน้าหล่อๆ ของเจ้าชายทาริส เพราะฉะนั้นเราจะสั่งสอนนายบลูกลับคืนบ้าง”