บทที่ 1

1122 คำ
ก๊อก...ก๊อก...          เสียงเคาะประตูห้องทำงานที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ ทำให้คนที่นั่งหลับตาเอนกายพิง ผนักเก้าอี้หนานุ่ม ต้องลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะเอ่ยอนุญาตเสียงเข้ม          “เข้ามา”          ดวงตาคมกริบดุจดวงตาพญาอินทรีจ้องมององครักษ์คนสนิทที่เดินเข้ามาในห้องทำ งานพร้อมกับถือไอแพค (iPad) อยู่ในมือด้วย และเมื่อเห็นองครักษ์คลี่ยิ้มในตลอดเวลาที่เดินตรงมาหา ก็เอ่ยถามด้วยความคาดหวังว่า          “มีข่าวดีมาบอกเราใช่ไหม นายถึงยิ้มกว้างฟันหน้าโผล่มาแต่ไกล”          ถูกผู้เป็นเจ้าเหนือสัพยอกในตอนท้าย ทำเอา องครักษ์อัสมาน อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานแล้วตอบรับคำว่า          “แน่นอนครับ กระหม่อมนำข่าวดีมาบอกเจ้าชายครับ”          และผู้ที่กำลังจะรับฟังข่าวดีก็ถึงกับกระตุกยิ้ม เอนกายพิงผนักเก้าอี้ด้วยท่วงท่าสบายๆ พลางเอ่ยเร่งเร้าองครักษ์          “ว่ามาสิ...มีข่าวดีอย่างไรบ้าง”          องครักษ์อัสมานยืนไอแพคให้เจ้าเหนือหัว พร้อมกับบอกด้วยความภาคภูมิใจกับงานที่ตนเองถูกสั่งให้สืบเสาะค้นหา และสามารถค้นหานำมารายงานให้เจ้าเหนือหัวทราบภายใน 24 ชั่วโมง          “กระหม่อมได้ประวัติและภาพถ่ายของเธอมาแล้วครับ”          “ทำงานได้ดีมาก” เอ่ยชมแล้วปลายนิ้วยาวก็กดไอแพคเพื่อเลือกดูภาพของคนที่ตกเป็นเป้าหมายของการค้นหา เพราะผู้หญิงคนนี้กำลังได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษจากพระองค์ ผู้เป็นรัชทายาทของประเทศนิราน “คนนี้หรือที่ชื่อชมพู่” เจ้าชายทาริส เฟริสส์ นิราน รัชทายาทแห่งประเทศนิราน เอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวที่พระองค์สนใจ และสั่งให้องครักษ์อัสมานได้สืบเสาะหาประวัติของผู้หญิงคนนี้ เพราะต้องการแกล้งให้คนที่บังอาจชกพระองค์จนหน้าคว่ำ ต้องเต้นเป็นเจ้าเข้า เมื่อรู้ว่าถูกพระองค์แกล้งกลับ คืนตรงจุดที่ทำให้เจ้าของหมัดหนักๆ ที่ชื่อ ‘ภูมินิท เอิร์สคามอน’ ต้องเดือดพล่านนั่งไม่ติด และเมื่อพูดถึงภูมินิท เจ้าพ่อแห่งเอิร์สคามอน ผู้เป็นคู่หมั้นของเจ้าหญิงอลิยา ราชิต เจ้าชายทาริสก็ถึงกับหน้าตึงขึ้นมา เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่พระองค์ถูกภูมินิทซัดหมัดลุ่นๆ ใส่โดยที่พระองค์ไม่ทันได้ตั้งตัวในขณะพระองค์กำลังนั่งจิบชากับเจ้าหญิงอลิยา เพื่อพักเหนื่อยจากการเตรียมงานพิธีอภิเษกของเจ้าหญิงอลิลา ผู้เป็นผู้พี่ลูกน้องของพระองค์    ‘คนนี้ใช่ไหมที่มันคิดมาแย่งอลิยาไปจากพี่บลู ขอสักหมัดเถอะ!’         ไม่พูดพล่ามทำเพลง เพราะถูกพิษของความหึงหวงเข้าเล่นงานจนลมออกหู ภูมินิทก็ปล่อยหมัดลุ่นๆ เข้าปะทะกับใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายทาริสเต็มแรง          ผัวะ!!!         เจ้าชายทาริสไม่ทันระวังตัว พอถูกชกเต็มแรงก็ถึงกับผงะเซถลา ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจของเจ้าหญิงอลิยา ‘กรี๊ด...เจ้าชาย’ เจ้าหญิงอลิยาหวีดร้องด้วยความตกใจ กำลังจะเข้าไปช่วยเจ้าชายทาริส แต่ก็ถูกภูมินิทดึงต้นแขนไว้ พร้อมกับเอ่ยบอกเสียงห้วนจัด         ‘อลิยา คู่หมั้นของคุณอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ทำไมยังสนใจผู้ชายคนอื่นอยู่’         เจ้าหญิงอลิยาหันมาถลึงตามอง ตวาดกลับด้วยความโมโห ‘พี่บลูเป็นบ้าอะไรคะ มาถึงก็ระรานคนอื่นไปทั่ว’         ‘อ๋อ...เข้าข้างไอ้เจ้าชายคนนี้ใช่ไหม ถ้ายังงั้นต้องชกอีกหมัด’         ยิ่งเจ้าหญิงอลิยาเข้าข้างและเป็นห่วงเป็นใยผู้ชายคนอื่น ยิ่งทำให้ภูมินิทโกรธมากเท่านั้น ร่างใหญ่เดินปรี่เข้าหาเจ้าชายทาริส แต่แล้วก็เกิดอาการลอยเคว้ง เห็นดาวเห็นเดือนลอยอยู่ตรงหน้า เพราะถูกเจ้าชายทาริสสวนหมัดเข้าใส่อย่างจังเต็มปากเต็มจมูก         ก่อนหน้านี้เจ้าชายทาริสไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกชกจนเซถลาไม่เป็นท่า แต่พอตั้งหลักได้แล้ว ก็ทำเสียงฮึ่มๆ อยู่ในลำคอ เดินเข้าใส่ภูมินิทพร้อมกับชกกลับเต็มรักไม่แพ้กัน          ผัวะ!!!         ‘พี่บลู’         เจ้าหญิงอลิยาต้องหวีดเสียงร้องอีกครั้ง และคราวนี้ต้องตกใจกว่ารอบแรก เพราะนอกจากจะถูกชกล้มหน้าหงายแล้ว ยังมีเลือดออกจากปากของภูมินิทด้วย         เจ้าชายทาริสยืนเท้าสะเอวค้ำหัวเขาอยู่ เค้นเสียงเยาะเย้ยด้วยความสะใจ ‘ว่าไง! ไอ้หนุ่ม คิดว่ามีมือคนเดียวหรือยังไง แต่หมัดนายไม่ค่อยหนักสักเท่าไร คราวหน้าคราวหลังก็ชกให้มันหนักๆ กว่านี้หน่อย’         ‘เฮ้ย! ไม่ต้องคราวหน้าหรอก มาดวลกันใหม่เดี๋ยวนี้เลย’         คำพูดที่ว่า ‘ฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้’ คงใช้ได้ดีกับทั้งสองหนุ่ม พอถูกเจ้าชายทาริสท้าทาย ภูมินิทก็เช็ดคราบเลือดออกจากปาก และจากที่แสร้งสำออยร้องโอดครวญให้เจ้าหญิงอลิยาสงสาร คราวนี้ก็ลุกพรวด กำหมัดตั้งการ์ด กระโดดเต้นเหยงๆ ทำท่าจะรำแม่ไม้มวยไทยใส่เจ้าชายทาริส         และฝ่ายตรงข้ามก็ใช่ย่อย ไม่มีทางยอมให้หนุ่มต่างแดนมาหยามพระองค์ถึงถิ่น พอ ภูมินิทกำหมัด เตรียมจะปล่อยหมัดแย็บ พระองค์ก็พร้อมจะสวนกลับในทันทีเหมือนกัน         แต่!!! ทั้งสองหนุ่มไม่ทันได้ดวลกันตามที่ต้องการ เจ้าหญิงอลิยาก็ตีหน้าบึ้งจ้องมองเขม็ง ขณะทำหน้าที่เป็นกรรมการจำเป็นห้ามมวยคู่เอก         ‘หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทั้งสองคนเลย ทั้งเจ้าชาย ทั้งพี่บลู แยกกันไปอยู่คนละมุมเลย’         ถูกเจ้าหญิอลิยาตวาดแว้ด ผลักทั้งสองหนุ่มเต็มแรง ทำเอาทั้งภูมินิทและเจ้าชายทาริสถึงกับตีหน้าจ๋อย ยอมลดหมัดลง แล้วก้าวถอยห่างจากกันคนละก้าวตามคำสั่งของกรรมการคนสวย         ‘อลิยา ผู้ชายคนนี้คือใคร’ เจ้าหญิงอลิยาไม่ทันได้ตอบคำถามของภูมินิท ก็มีเสียงของเจ้าชายทาริสเค้นถามแกมถากถางว่า         ‘แล้วไอ้ผู้ชายเลือดร้อน สมอกลวงคนนี้คือใคร’         ได้ยินคำถามดูถูกดูแคลนเช่นนั้น ภูมินิทก็เดือดพล่าน จ้องเขม็งถามกลับในทันควัน ‘คุณว่าใครสมองกลวง’ ‘นี่! หยุดเลยนะ’         เจ้าหญิงอลิยาตวาดสั่งอีกครั้ง คราวนี้หันไปเล่นงานเจ้าชายทาริส ซึ่งยักไหล่ใส่ราวกับไม่แยแสต่อใครหน้าไหนทั้งนั้น         ‘เจ้าชาย กลับตำหนักไปก่อน เดี๋ยวจัดการกับทางนี้เสร็จแล้ว อลิยาจะตามไปคุยรายละเอียดของงานที่เหลือค่ะ’ ‘ไปก็ได้’ ดูเหมือนจะเป็นการรับคำสั่งง่ายๆ ทว่า...ขณะเดินผ่านภูมินิท ก็ไม่ลืมขู่ฟ่อด้วย ‘อย่าเดินเพ่นพ่านคนเดียวละ ไม่ยังงั้นจะโดนเชือดหมกทะเลทรายโดยไม่รู้ตัว’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม