ตอนที่ 9
เช้าวันจันทร์
ระหว่างที่ฮันส์และเพื่อนเดินทางไปที่โรงแรมของเมธีเพื่อตกลงกับเขา โจนาธานเพื่อนของฮันส์ก็ถามอะไรบางอย่างขึ้นมา
“แกคิดว่าคนรวยระดับนี้ ทำไมให้ลูกสาวไปเป็นแคดดี้วะ”
“อืม..ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่ทันคิดเรื่องนี้ แต่ก็คงจะใจรักละมั้ง..แต่ดูแล้วลูกสาวก็หัวดื้อเอาเรื่องอยู่นะ”
“เธอสามารถทำให้แกตามไปที่ห้องได้ ฉันว่าเธอคงสวยไม่เบา”
“อืมใช่ สวย เธอสวยมาก ๆ สวยจนฉันไม่คิดว่าเธอจะเป็นเด็กอายุไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำ”
เมื่อไปถึงล็อบบี้ของโรงแรมชื่อดัง ฮันส์ก็ได้โทรบอกกับเมธีว่าเขามานั่งรอที่ล็อบบี้แล้ว ไม่นานนักชายสูงวัยที่ใส่สูทแต่งตัวภูมิฐานก็เดินเข้ามา ระหว่างทางพนักงานของโรงแรมต่างพากันยกมือไหว้เขา เมธีเดินมาถึงตรงบริเวณที่ฮันส์กับเพื่อนนั่งรอกันอยู่ และไม่มีแม้แต่เงาของลูกสาวของเมธีที่หนุ่มลูกครึ่งอยากเจอเธออีกสักครั้ง เมธีเชิญฮันและโจนาธาน ไปที่ห้องอาหารสุดหรูของโรงแรม ในห้องวีไอพีสุดหรู จากนั้นการเจรจาตกลงจึงได้เริ่มต้นขึ้น
“ผมอยากให้คุณฮันส์กับเพื่อนลองชิมอาหารของโรงแรมผม เราทานไปคุยกันไปจะดีกว่า” เมธีกล่าวอย่างเป็นกันเอง ระหว่างที่ฮันส์กับเพื่อนของเขานั่งลงเรียบร้อยแล้ว”
“ขอบคุณครับ” ฮันส์เอ่ยตอบสั้น ๆ
“คุณจะต้องแต่งงานกับลูกสาวผม ในวันที่เธอพร้อม” เมื่อทานอาหารเสร็จ เมธีก็เอ่ยกับฮันส์ขึ้นมา
“ผมยินดีครับ ว่าแต่เมื่อไหร่ล่ะครับ”
“ผมยังบอกไม่ได้หรอก มันยังไม่ถึงเวลา” ที่เมธีพูดแบบนี้เพราะเขายังไม่ได้บอกลูกสาวเลย แต่ก็ไม่แน่ในอนาคตลูกสาวของตนอาจจะชอบไอ้หนุ่มหล่อลูกครึ่งคนนี้ก็เป็นได้ เพราะดูลูกสาวของตนเป็นห่วงเป็นใยไอ้หนุ่มลูกครึ่งคนนี้อยู่ไม่น้อยหลังจากที่เขาบอกว่า จะให้ฮันส์ไปนอนในคุกเล่นสักสองสามวัน หากเขาไม่ยอมทำตามข้อตกลง
“ถ้างั้น คุณจะให้ผมหมั้นกับลูกสาวคุณก่อนก็ได้นะครับ” ฮันรีบเสนอ และยืดอกรับอย่างลูกผู้ชาย เมธีกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชนะ
“แค่เรื่องหมั้น มันรับประกันอะไรไม่ได้หรอก และหากเกิดวันใดวันหนึ่ง คุณถอดหมั้นขึ้นมาลูกสาวผมก็เป็นฝ่ายเสียหายอยู่ดี” เมธีรีบบอก
“แล้วคุณเมธีต้องการให้ผมทำอะไรล่ะครับ..บอกมาเลย”
“คุณจะต้องซื้อหุ้นโรงแรมของผม ในราคาที่ผมพอใจ 80 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นทั้งหมด และคุณจะต้องโอนหุ้นทั้งหมดเป็นชื่อลูกสาวผม..คุณจะทำได้มั้ย” ฮันส์ถึงกับอึ้งในข้อเสนอของเมธี แต่ก็คิดว่าไหน ๆ ก็จะหาซื้อโรงแรมแถวนี้เพื่อทำเป็นธุรกิจของตัวเองอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่น่า
“เออ...ผมว่ามันไม่มากไปหน่อยเหรอครับ อันที่จริงเพื่อนผมก็บอกว่าเขายังไม่ได้ทำอะไรลูกของคุณเลยนะครับ” โจนาธานรีบพูดช่วยเพื่อนทันที เมื่อเห็นฮันส์นั่งนิ่ง และเขาก็เห็นว่ามันเป็นข้อเสนอที่มากเกินไป
“โจ ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันคุยเอง” ฮันส์รีบบอกเพื่อน ในใจก็คิดว่าที่เมธีเสนอมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ผูกมัดหญิงสาวคนสวยได้ง่ายขึ้น
“ก็ได้ครับ ผมตกลง แต่ว่าผมก็มีข้อเสนอของผมเหมือนกัน” ฮันส์คิดได้ดังนั้นจึงรีบบอกว่าที่พ่อตาทันที
“ข้อเสนออะไรเหรอครับ”
“ผมต้องจดทะเบียนสมรสกับลูกสาวของคุณเสียก่อน ผมถึงจะยอมซื้อหุ้นโรงแรม หรือคุณเมธีจะให้ผมซื้อทั้งหมด ผมก็ยอม” ฮันส์รีบบอกข้อต่อรองของตัวเองบ้าง
“ได้สิ ไม่มีปัญหา! งั้นการตกลงของเราก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน แล้วอาทิตย์หน้าถ้าคุณพร้อมละก็ ผมจะนัดให้คุณไปที่บ้านผม และผมจะเชิญนายทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสระหว่างคุณกับลูกสาวซะเลย”
“ได้สิครับ ว่าแต่...คุณเมธีคุยเรื่องนี้กับลูกสาวแล้วเหรอครับ” ฮันส์เอ่ยปากถามเพราะคิดว่าไม่มีทางที่คัพเค้กจะยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาแน่ ๆ และเขาก็มองออกว่าเธอยังไม่ได้พิศวาสเขาขนาดนั้น
“ลูกสาวผม เธอเป็นเด็กดี เธอเชื่อฟังผมอยู่แล้ว คุณไม่ต้องห่วงหรอก” เมธีรีบอก
“ครับ” ฮันเอ่ยตอบสั้น ๆ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” เมธีลุกขึ้นพร้อมกับบอกชายหนุ่มทั้งสอง
“เอ่อ..คุณเมธีครับ วันนี้คัพเค้กไปไหนเสียล่ะครับ ทำไมเธอไม่มาด้วย” ฮันส์ลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามเรื่องที่เขาอยากรู้
“วันนี้เป็นวันจันทร์..ลูกสาวผมก็ต้องไปโรงเรียนสิครับ..”
“อ๋อ..ครับ” ใช่สิ เมื่อวานเขาเพิ่งบอกว่าเธออยู่ ม.5 เองนี่น่า
“ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณฮันส์ และหวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกันเร็ว ๆ นี้” เมธีกล่าวขอตัวอีกครั้งแล้วเดินจากไป ปล่อยให้โจนาธานกับฮันส์นั่งคุยกันต่ออีกสักพัก จากนั้นทั้งคู่จึงเดินกลับออกมาที่รถพร้อมกัน
ระหว่างที่ฮันส์กำลังขับรถไปส่งเพื่อนของเขาที่คอนโด เนื่องจากว่าเขาเพิ่งไปงัดโจนาธานจากที่นอนเมื่อเช้านี้ พร้อม ๆ กับทิ้งสาวข้างกายของเพื่อนให้หลับต่อ เขาจึงรีบขับรถไปส่งโจนาธานทันที
"แกจะหลับต่อก็ได้นะ เดี๋ยวถึงแล้วฉันจะปลุก"
“ไม่อะ ฉันไม่ง่วงแล้ว"
"ก็ฉันเห็นแกเหมือนคนไม่ได้นอนนี่หว่า"
"เอ่อ..ฮันส์ แกจะยอมซื้อหุ้นโรงแรมของคุณเมธี จริง ๆ เหรอวะ” โจนาธานถามขึ้นด้วยความสงสัย และไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงยอมตกลงกับคุณเมธีง่าย ๆ
“อืมห์..ทำไมละ”
“ฉันว่ามันแปลก ๆ อยู่นะโว้ย” โจนาธานรีบบอกในสิ่งที่เขากำลังคิด
“ฉันก็คิดเหมือนแกนั่นแหละ ทำไมฉันจะดูไม่ออก และฉันก็เดาว่าคุณเมธีน่าจะมีปัญหาทางการเงิน” ฮันส์รู้ทุกอย่าง เพราะโรงแรมที่เขาตั้งใจจะมาซื้อก็คือโรงแรมของเขา และเขาก็รู้มาว่าโรงแรมนี้มีปัญหาทางการเงินมาตั้งแต่โควิดเมื่อสี่ปีที่แล้ว
“แล้วแกก็จะยอมที่จะซื้อหุ้นโรงแรม ทั้งที่มันกำลังจะเจ๊งเนี่ยนะ”
“ใช่”
“แสดงว่า ลูกสาวของคุณเมธีต้องสวยถูกใจแกแน่ ๆ เลยว่ะ เพราะฉันไม่เห็นแกลงทุนกับผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ใช่”
“แล้วแกมีรูปเธอมั้ย พอดีฉันชักอยากเห็นเสียแล้วซิ”
“ไม่มีว่ะ เพิ่งเจอกันเมื่อวานเองจะไปมีรูปเธอได้ยังไง แต่ถึงมีฉันก็ไม่ให้แกดูหรอก”
“อะไรกันว่ะ นี่แกหวงเธอขนาดนั้นเชียวรึ”
“อืมห์ใช่ จะเรียกแบบนั้นก็ได้”
“อะไรกันวะ”
“ถึงห้องพักแกแล้ว ลงไปได้ล่ะ อย่าพูดมาก” ฮันส์รีบไล่ให้เพื่อนลงจากรถ
“อะไรกันวะ พอใช้เสร็จ แมร่ง..ก็ถีบหัวส่ง”
“เอาเป็นว่า เดี๋ยวฉันจะเปิดเมมเบอร์ให้แก เป็นค่าตอบแทนก็แล้วกัน”
“เอ่อ!..ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อน ถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนกันหน่อย ไปก่อนนะครับ..เสี่ย” ไม่วายที่โจนาธานจะหันมาแซวเพื่อนก่อนลงจากรถ