CHAPTER 3

2672 คำ
“มัมมี้ ติณณ์...อ้ะ!” ไม่ทันที่ติณณ์จะได้เข้ามาในห้อง แต่ตัวเขากลับถูกลากเข้ามาในห้องแล้วด้วยฝีมือของเธอเพราะความเ****นอยาก เจนนี่ประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับคนเด็กกว่าในทันทีอย่างไม่มีรีรอ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า 20 นาทีมันจะผ่านไปนานราวกับหลายชั่วโมงขนาดที่เธอยับยั้งชั่งใจตัวเองไม่อยู่ ติณณ์เองก็ไม่รอช้าตอบรับจูบของคนโตกว่าในทันทีอย่างที่รู้ว่าเจ้าหล่อนต้องการสัมผัสจากเขามากมายเพียงไหน มือไม้ของเขาเริ่มปัดป่ายไปมาทั่วเรือนร่านของมัมมี้และเขาก็ไม่รอช้าที่จะอุ้มเจ้าหล่อนขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดทั้งที่ริมฝีปากของเรายังแลกสัมผัสกันอยู่อย่างไม่มีสิ้นสุด ติณณ์อุ้มเจนนี่ขึ้นมาในท่ากระเตงอยู่ด้านหน้า และค่อย ๆ เดินอย่างเป็นจังหวะเพื่อวางเจ้าหล่อนลงบนโซฟาเพราะเราจะได้ทำท่าอะไรที่มันจะถนัดมากกว่านี้ “ถอดเสื้อของเธอออกเดี๋ยวนี้!” “มัมมี้ของติณณ์ใจร้อนจังค่ะ” เขาขยับขึ้นมายกยิ้มทั้งยังพยายามจะถอดเสื้อยืดที่ตัวเองนั้นสวมใส่อยู่ออก เจนนี่มองการกระทำของเขาด้วยดวงตาพร่าเบลอแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้ปิดไฟหรือว่ามืดครึ้มแต่อย่างใด ผมเผ้าของเขาที่ยังไม่แห้งกลับเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้กับตัวเขามากยิ่งขึ้นไปอีกเวลาที่เสยผม ติณณ์ขยับร่างกายลงมาหาเธออีกครั้งเมื่อยามที่เขาถอดเสื้อออกจนเหลือเพียงแค่สปอร์ตบราที่ส่วนด้านบน และเธอก็ไม่รอช้ารีบส่งมือไปลูบไล้หน้าท้องของเขาในทันทีโดยที่ริมฝีปากของเรายังแลกน้ำหวานกันอยู่ไม่ห่าง ติณณ์ค่อย ๆ ขยับซับจูบลงมาตามเรือนร่างของเจนนี่โดยเริ่มจากลำคอขาวสวยของเธอที่ทางด้านหลังหูยังมีกลิ่นน้ำหอมติดอยู่จาง ๆ เขาขยับขบเม้มที่ลำคอของเธอบางเบาอย่างช่วยปลุกเร้าอารมณ์ก่อนจะขยับขึ้นไปงับที่ติ่งหูให้คนใต้ร่างครางกระเส่าออกมาอย่างเสียวซ่าน “อ้ะ!” เธอโอบรอบคอของเขาเอาไว้แน่นเพราะตอนนี้เธอก็ยังคงไม่ปฏิเสธว่าสัมผัสของเขามันดีเสียจนเธอไม่ต้องการให้เขาหยุดจับต้องร่างกายของเธอเลยแม้เพียงเสี้ยววินาที ใต้ร่างของเธอที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ครบก็เริ่มที่จะเปียกชื้นขึ้นมาเป็นวงกว้างและเธออดทนรอต่อไปไม่ไหวแล้วเพราะสัมผัสของเขามันแสนดีเหลือเกินจนเธอต้องการที่จะให้เขาทำอะไรมากกว่านั้น “ถอดเสื้อผ้าให้มี้...” เธอเอ่ยสั่งออกไปเสียงแผ่วจนคนที่กำลังสารวนอยู่ที่ติ่งหูนั้นต้องผละหน้าออกมาสบมองเธอด้วยดวงตาหวานฉ่ำ และนี่เป็นอีกครั้งแล้วที่เธอมองเห็นว่าแววตาของเขาเจือปนไปด้วยความเศร้าหมอง... ติณณ์ค่อย ๆ ขยับร่างกายของตัวเองให้ออกห่างเพื่อทำตามคำสั่งของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมัมมี้ เขาค่อย ๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างกายของเธอโดยที่มือก็ยังเย้าแหย่เล่นสัมผัสทุกจุดเสียวซ่านจนเธอครางหวานออกมาเป็นระยะเพราะความรู้สึกดี ไม่นานร่างของเธอก็เปลือยเปล่าและมันยังคงสวยงามแม้ว่าเจ้าหล่อนจะอายุเข้าเลขสามจวนจะเลขสี่แล้ว และติณณ์ก็ได้แต่นึกชื่นชมในความสวยงามนั้นแต่เขาก็ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปดูดเลียที่หน้าอกของเจ้าหล่อนที่กำลังตั้งชูชันและรอรับสัมผัสจากเขา “อ่า...” ลิ้นชโลมเลียไปทั่วทั้งพื้นที่ส่วนมือข้างที่ว่างก็นำขึ้นมาบีบคลึงเอาไว้ไม่ให้ว่างเว้น เจนนี่ได้แต่สบมองการกระทำของเจ้าคนเด็กกว่าโดยที่ส่วนล่างของเธอก็ได้แต่บิดเร้าไปมาเพราะสัมผัสของเขามันช่างแสนดีเหลือเกิน และเขาก็เข้าใจที่จะใช้ลิ้นโลมเลียตรงนู้นทีตรงนี้ทีสลับสับเปลี่ยนกันไปมาให้เธอได้แต่ครางหวานออกมาอย่างคนอดทนต่อไปไม่ไหว “ลงไปข้างล่าง...” เธอเอ่ยสั่งอีกครั้งด้วยเสียงกระเส่าและมีหรือที่เบบี๋คนนี้จะไม่ยอมทำตาม ติณณ์ขยับอย่างไม่รีรอลงไปที่ส่วนล่างของเธอแต่เขาก็ไม่ได้ไปอย่างเดียวให้เสียดายเวลา แต่เขากลับใช้ลิ้นร้อนลากลงไปทุกจุดโดยไม่ลืมที่จะแวะทักทายเจ้าสะดือที่เป็นทางผ่าน เขาใช้นิ้วมือแหวกช่องทางรักสีกุหลาบสดสวยของคนที่นอนหอบหายใจถี่อยู่บนโซฟา ก่อนจะส่งลิ้นอุ่นชื้นที่เจ้าหล่อนชื่นชอบเข้าไปทักทายและมันกลับได้รับเสียงตอบรับจากเจนนี่ดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งห้องเมื่อเขาดันเลียได้ตรงจุดราวกับรู้จุดอ่อนของเธอเป็นอย่างดี “เบบี๋...” เจนนี่ครางกระเส่าและใช้มือของตนจับที่ศีรษะของคนใต้ร่างเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงรั้งให้เขาเข้ามาชิดใกล้ ความเสียวซ่านประทุไปทั่วร่างกายจนตัวของเธอกระตุกอยู่หลายครั้ง หน้าอกหน้าใจของเธอกระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจของเธอที่กระชั้นชิดเพราะความเสียวซ่าน และเธอรู้สึกว่ามันช่างเกะกะสายตาทำให้สบมองเขาไม่ถนัดจึงใช้มืออีกข้างไปจับมันเอาไว้และยันกายขึ้นมามองดูคนใต้ร่างที่ยังดูดดื่มเกสรน้ำหวานราวกับมันเป็นน้ำผึ้งรสเลิศ ติณณ์ห่อลิ้นและขยับเข้าออกถี่รัวเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าเจ้าหล่อนรั้งศีรษะของเขามากยิ่งขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าใกล้ถึงฝั่งฝัน และเขาก็ไม่รอช้าที่จะส่งนิ้วเรียวข้างที่ถนัดเข้าไปทักทายยังช่องทางรักของเธอโดยที่ลิ้นของเขาเปลี่ยนมาเลียวนอยู่ตรงบริเวณเม็ดติ่งเสียวของเธอแทน “ระ รัวอีก...” เสียงคำสั่งทั้งความเสียวซ่านและเสียงครางหวานของเธอยังดังอยู่เป็นระยะ ติณณ์ขยับลิ้นออกจากจุดอ่อนไหวของเธอก่อนที่เขาจะขยับขึ้นมามอบจูบแสนหวานซึ่งเจนนี่ก็ไม่มีทีท่ารังเกียจเดียดฉันท์ แต่เธอกลับยกมือขึ้นไปคล้องเอาไว้กับต้นคอของเขาโดยที่มืออีกข้างยังจับที่ข้อมือข้างที่เขาขยับเข้าออกเพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าเขาจะหยุดการกระทำที่แสนเพอร์เฟคนี้ “เบบี๋ มัมมี้จะ...อ่า!” เสียงหวานครางยาวออกมาพร้อมกับที่เธอจับข้อมือของเจ้าเด็กค้างเอาไว้เพราะยังไม่อยากให้เขาขยับออกไปในตอนนี้ ตัวของเธอกระตุกเกร็งออกมาอย่างสุขสม ก่อนที่เธอจะทิ้งตัวลงกับโซฟาเพราะศึกหนักครั้งนี้มันช่างแสนถูกใจเธอเสียเหลือเกิน “มัมมี้ของน้องติณณ์ เหนื่อยแล้วเหรอคะ?” เจนนี่ที่กำลังนอนหลับตาปรับอัตราการหายใจของตัวเองถึงกับต้องรีบลืมตาขึ้นมาทันใดเมื่อได้ยินเสียงหวานของเขากระซิบอยู่ที่ข้างหูของเธอ ก่อนที่เธอจะเผยยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าตอนนี้...ติณณ์กำลังถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวเองออก จนตอนนี้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าเสมอภาคกับเธอแล้ว “คนแก่ของเบบี๋...มาสนุกกันต่ออีกหน่อยเถอะนะคะ” เจ้าเด็กกว่ายิ้มร้าย ก่อนที่เขาจะจับขาของมัมมี้ขึ้นมาพาดเอาไว้ที่บ่า และเจ้าตัวก็ขยับเอาส่วนอุ่นชื้นของเรามาแตะต้องโดนกันจนไฟราคะของเธอที่สงบลงไปแล้ว...กลับมาเดือดพล่านอีกครั้งเมื่อเจ้าเด็กยังกลั่นแกล้งเธอด้วยการโยกเอวเบา ๆ ให้ส่วนรักของเราถูไถกันไปมาด้วยความเ****นอยาก “ทำให้มัมมี้พอใจสิคะ เดี๋ยวมัมมี้ให้เงินไปซื้อขนม...” หลังจากนั้นเราก็มาจบกันที่ห้องนอนของเธอโดยเกือบพื้นที่ทั้งในห้องรับแขกและห้องนอนของเธอเราผ่านศึกรักมาจนเกือบหมดแล้ว ไม่คิดเลยว่าเด็กมันจะฟิตขนาดนี้ แต่เธอจะแย่เอาเพราะอายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ ที่จะมามีแรงฮึดทำเรื่องแบบนี้ได้เหมือนเมื่อก่อน แต่จะไปว่าเด็กมันก็ดีจริง ๆ คิดไม่ผิดเลยที่เลือกเด็ก ๆ ในช่วงวัยประมาณนี้... “อ่า...มัมมี้อยากอาบน้ำไหมคะ?” เขาถามเธอขึ้นมาหลังจากที่เรานอนพักเอาแรงกันสักราว ๆ สองถึงสามนาทีได้ “ก็อยาก แต่ว่าฉันลุกไม่ไหวแล้ว” เธอตอบกลับไปเพราะรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เธออยากชำระร่างกายมากเพราะตั้งแต่กลับมาจากทำงานมีเหงื่อทั้งวันเธอยังไม่ได้แช่น้ำเลย ไหนจะศึกหนักที่พึ่งผ่านพ้นจนตัวของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อนี่อีก “งั้นบี๋ขออนุญาตนะคะ” เธอหันไปมองเขาเพราะไม่เข้าใจว่าที่เขาพูดมันหมายความว่าอย่างไร “ว้าย!” ก่อนจะต้องผวายกมือขึ้นไปโอบรอบคอของเขาในทันที เพราะอยู่ ๆ เขาก็อุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงและกำลังพาร่างของเธอเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอนั่งรอเขาอยู่ที่ชักโครกโดยที่เจ้าตัวจัดการรองน้ำเอาไว้ให้กับเธอจนเต็มอ่าง ท่าทีกระตือรือร้นของเขาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าติณณ์เองก็ผ่านเรื่องพวกนี้มามากพอสมควร คงจะมีมัมมี้อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอเลี้ยงดูเขาอยู่หลายคน ไม่อย่างนั้นเขาไม่รู้จุดผู้หญิงขนาดนี้หรอก และรวมไปถึงความพึงพอใจในผู้หญิงวัยของเธออีกว่าต้องการให้เขาทำอะไรให้หรือว่าต้องสัมผัสที่ตรงไหน “ติณณ์อุ้มนะคะ” เขาขออนุญาตเธออีกครั้งก่อนจะเข้ามาอุ้มเธอและพาลงไปนั่งอยู่ที่อ่างอาบน้ำ แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า แต่ติณณ์ก็ดูไม่มีความเหนียมอายใด ๆ เลยราวกับมันเป็นเรื่องปกติของเขาไปเสียแล้ว “เข้ามาอาบด้วยกันสิ” อยู่ ๆ อะไรดลใจให้เธอพูดออกไปแบบนั้นก็ไม่รู้ แต่ว่าติณณ์กลับเงยหน้าขึ้นมาสบมองเธอก่อนที่เขาจะยกยิ้มออกมา ติณณ์ขยับเข้ามาอยู่ในอ่างตามคำเชื้อเชิญ ทำให้ตอนนี้เราทั้งสองนั่งประจันหน้ากันโดยที่เขาแสดงสีหน้าและแววตาแห่งความเศร้าหมองออกมาอีกแล้วแต่รอยยิ้มของเขากลับยังฝืนยิ้มอยู่เลย “หันหลังสิคะ...เดี๋ยวติณณ์ถูหลังให้” เธอขยับตามอย่างว่าง่ายเพราะตัวเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกันกับศึกรักเมื่อครู่นี้ ติณณ์ขยับมือถูไปตามแผ่นหลังของเธอก่อนจะค่อย ๆ ขยับเข้ามาถูตามซอกรักแร้และใต้ราวนม มือซุกซนของเขาค่อย ๆ ขยับขึ้นมาลูบวนอยู่ที่บริเวณหน้าอกจนไฟราคะของเธอกลับมาอีกครั้งและเผลอครางหวานออกมาอย่างสุขสม “อืม...” “มัมมี้ชอบไหมคะ?” เขากระซิบถามที่ข้างหูและใช้ลิ้นเลียเบา ๆ จนเธอครางกระเส่า ติณณ์ยังคงถูตรงจุดนู้นทีจุดนี้ทีสลับกันไปมา และมันทำให้เธอรู้สึกดีมาก ๆ แต่ก็ยังมีเรื่องที่อยากจะรู้จากปากของเขาอยู่ ถึงแม้ว่าภายนอกดูเหมือนติณณ์จะเข้าใจง่ายและเป็นเด็กคนหนึ่งที่ร่าเริง แต่ภายในใจของเขาเธอสัมผัสได้ว่าเขามีเรื่องทุกข์ใจและบางทีเขาอาจจะอยากระบายออกมาแม้ว่าฉันจะมีศักดิ์เป็นแค่มัมมี้กำมะลอก็เถอะ “อื้อ เบบี๋ของมัมมี้...” “มี้เรียกบี๋เหรอคะ?” มือของเขายังสารวนลูบอยู่ทั่วร่างกายของเธอ “เธอมีเรื่องอะไรในใจใช่ไหม?” อยู่ ๆ มือของเขาก็หยุดชะงักลงจนสติของเธอเริ่มกลับมา “ติณณ์...” เธอเอ่ยเรียกเขาอีกครั้งทั้งยังหันหน้ากลับไปสบมอง และติณณ์ก็นิ่งลงไปอย่างเห็นได้ชัด นิ่งลงไปชนิดที่ว่าเธอเอ่ยเรียกเขาอีกหลายครั้ง เขาก็ราวกับคนไม่มีสติและไม่ได้ฟังอะไรเลย “เธอ!” “คะ?” และเขาก็กลับมาเมื่อครั้งนี้เธอเอ่ยเรียกซะเสียงดังลั่นห้องน้ำ แววตาของเขาเมื่อครู่เธอแอบเห็นว่ามีน้ำใส ๆ คลอหน่วยรอบดวงตา ก่อนที่มันจะหายไปและกลับกลายมาเป็นรอยยิ้มดังเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “มีปัญหาอะไร?” เธออยากให้เขาระบายนั่นแหละ แต่น้ำเสียงของเธอกับคำพูดมันคงฟังดูแล้วออกจะติดเหวี่ยงไปเสียหน่อยจนเขาต้องส่ายหน้าไปมาทั้งรอยยิ้ม “คิดอะไรเพลิน ๆ นิดหน่อยค่ะมี้” เขาว่าอย่างนั้นและยกยิ้มออกมาเพื่อกลบเกลื่อนแต่ฉันที่ผ่านโลกมานานกว่าเขารู้ดีเพราะมันไม่เนียนเอาเสียเลย “ช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์นี้บี๋จะไม่ได้มาหามี้นะคะ ต้องไปค่ายกับเพื่อน ๆ ในคณะค่ะ” “งั้นเหรอ...” เธอถามออกมาอย่างใช้ความคิด “งั้นวันนี้บี๋ขอตัวกลับก่อนได้ไหมคะ? จะต้องเริ่มกลับไปเก็บของแล้วด้วย อ้อ! พรุ่งนี้บี๋อาจจะมาหามี้ได้ช่วงสองทุ่มนะคะ เพราะบี๋ต้องไปซื้อของที่จำเป็น” เขายกยิ้มออกมาอย่างไม่คิดอะไร ซึ่งเธอก็มัวแต่คิดตามคำพูดของเขาจนตัวเองหลงลืมไปแล้วว่าเราคาใจกันเรื่องอะไรอยู่ “ถ้างั้นพรุ่งนี้จะไปซื้อของแล้วโทรหาฉัน” ถึงเธอจะตั้งกฎว่าต้องมาหาได้ตลอดก็จริง แต่เธอก็ไม่ได้ใจแคบถึงขนาดจะไม่ปล่อยให้เขาไปทำกิจกรรมอะไรที่มันเกี่ยวกับการเรียนเลยเสียหน่อย กลับกันส่วนหนึ่งที่เธอมาซื้อเด็กในวัยนี้ก็เพราะเธออยากให้ทุนการศึกษากับพวกเขาด้วยแหละ ถ้าเด็กเกินกว่านี้เธอคิดว่าคงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ 20 ต้น ๆ กำลังดี... “ได้ค่ะมี้” และติณณ์ก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะกดจูบลงที่ข้างแก้มของเธอ “งั้นติณณ์ขอตัวก่อนนะคะ พรุ่งนี้พบกันค่ะ” และเธอก็มองร่างของเขาค่อย ๆ เดินจากออกไปด้วยสภาพที่เปลือยเปล่าจนกระทั่งลับสายตาของเธอไป เจนนี่ลุกขึ้นจากอ่างบ้างเพราะเธอเองก็อยากที่จะพักผ่อนแล้วเต็มที ก่อนที่แสงไฟของหน้าจอสี่เหลี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุดจะสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้งแต่ไม่มีเสียงเพราะเธอนี่แหละที่เป็นตัวการปิดมันด้วยตัวเอง ‘ประวัติของเด็กคนนั้นผมสืบมาให้แล้วนะครับ’ ‘send a photo’ ‘นี่เป็นรูปภาพของเธอที่เดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นประจำทุกวันเวลานี้เสมอ ผมได้เดินตามเธอเข้าไปแต่ยังไม่ได้เห็นครับว่าคนในห้องนั้นเป็นใคร’ “…” ‘แต่พวกเขาสองคนนามสกุลเดียวกันครับ และผมก็ชอบเห็นคุณติณณ์เดินออกมาร้องไห้ที่หน้าห้องอยู่บ่อย ๆ ด้วยครับคุณเจนนี่’ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม