บทที่ 5

1439 คำ
 อันที่จริงต้องพูดว่าตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นไม่มีคืนไหนเลยที่เขาจะไม่ตักตวงความสุขไปจากร่างกายของเธอ แม้ว่ามันจะไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งแรกแต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่ละวันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ยากจะหาคำตอบได้ว่าเธอจะต้องทนอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานแค่ไหน  เมื่อไหร่เขาจะเบื่อเธอสักที...                        “คุณมาช้า! ไม่มีใครเคยบอกรึไงว่าเวลาของผมมันเป็นเงินเป็นทอง!” หญิงสาวไม่ได้แปลกใจกับคำต่อว่าที่ดังขึ้นทันทีที่เจอหน้า หากเขาไม่พูดนี่สิแปลก คิดเช่นนั้นจึงเอ่ยตอบขอโทษกลับออกไป            “ฉัน…ลูกจันทร์ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบก่อนจะรีบเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองตามคำสั่งของคนตรงหน้าที่สั่งให้เธอแทนตัวเองว่า ‘ลูกจันทร์’ เหมือนที่แทนกับคนอื่นๆ ซึ่งหากไม่ทำตามคำสั่งของเขาเธอก็รู้ซึ้งดีว่าจะต้องเจอกับอะไร            “ผมไม่ชอบคนที่เก่งแต่แก้ตัวไปวันๆ ถ้าครั้งหน้าผมเรียก หน้าที่ของคุณคือต้องรีบขึ้นมาหาผมที่นี่ภายในสามนาที ถ้าเกิดมาช้าแม้แต่วินาทีเดียวผมจะสั่งให้วิไลพรหักเงินเดือนวินาทีละสามพัน!” แกล้งเธอได้มันคงเป็นอะไรที่ทำให้เขามีความสุขมากไม่น้อย เงินสามพันสำหรับเขามันคงเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ต้องดิ้นรนให้รอดพ้นไปได้ในแต่ละเดือนนั้นไม่ใช่น้อยๆ      กว่าจะหามาได้แต่ละบาทมันช่างยากเย็นสำหรับเธอมาก            “ด่าผมในใจมันก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรอก ว่าไหม” เหมือนอีกคนจะรู้ได้ว่าเขากำลังถูกต่อว่าในใจจึงได้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ความเงียบที่มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจทุกครั้งที่ได้สัมผัสจากคนตรงหน้า            กับคนอื่นหล่อนมักจะส่งยิ้มหวานละมุนไปให้ แต่กับเขากลับเอาแต่ทำหน้าเหมือนซากศพ ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งพาลทำให้รู้สึกหัวเสีย!            “คืนนี้ผมต้องไปงานเลี้ยง และคุณต้องไปกับผม!”            “ลูกจันทร์ขอไม่ไปได้ไหมคะ” แค่ที่เขาเรียกหาแทบทุกวันมันก็ทำคนอื่นๆ พากันสงสัยจะแย่ หากต้องออกงานกับเขาคงหนีไม่พ้นการเป็นข่าว และหากเป็นแบบนี้ความสงบในชีวิตเธอคงได้หายไปแน่ๆ เธอคงหนีไม่พ้นตกเป็นขี้ปากของเพื่อนร่วมงานอีก   ซึ่งแค่ทุกวันนี้มันก็ย้ำแย่มากพออยู่แล้ว            “ได้สิ แต่คืนนี้ทั้งคืนคุณอาจไม่ได้นอน เลือกเอาเองก็แล้วกันว่าจะไปงานเลี้ยงกับผมดีๆ แล้วได้กลับไปพักผ่อน หรือว่าจะเล่นท่ายากกันไปจนถึงเช้าเหมือนคืนก่อนๆ” อนาคินปล่อยให้อีกคนได้เลือก ซึ่งเขาก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วจันทริกาจะเลือกทางไหน แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมลึกๆ  ถึงได้แอบภาวนาให้เธอเลือกจะไม่ไปงานเลี้ยงกับตัวเอง            ไม่รู้เลยว่าทำไม…            สุดท้ายจันทริกาก็หมดทางเลือกจำต้องเดินทางมางานเลี้ยงกับอนาคินตามคำสั่งเขาจนได้ เขาสัญญาว่าจะจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนสามวัน ซึ่งมันก็คงเป็นสามวันที่เธออยากจะให้ผ่านไปช้าๆ ไม่อยากให้มันเลยผ่านไป            “ชุดบ้าอะไร! ใครเป็นคนเลือกให้!!” อนาคินตวาดลั่นยามเมื่อเสื้อคลุมถูกถอดออกแล้วพบว่าชุดที่คนข้างกายสวมใส่มานั้นชุดราตรีสีแดงยาวผ่าหลังและร่องอก แม้ว่ามันจะไม่ได้โป๊อะไรมาก ออกจะธรรมดาเสียด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับผู้หญิงรายก่อนๆ ที่เขาควงมางานด้วยกัน แต่สำหรับจันทริกาแล้วต่อให้เป็นแค่ปลายเล็บของเธอเขาก็ไม่อยากแบ่งปันความสวยงามเหล่านั้นให้กับใครหน้าไหนได้เห็น จะว่าหวงก็ใช่            “คุณพรเป็นคนจัดการให้ค่ะ”            “พรุ่งนี้ผมจะสั่งหักเงินเดือนเธอ!” อนาคินเค้นตอบในลำคออย่างหงุดหงิด ความหวงแหนเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเผลอแสดงมันออกมา ซึ่งจันทริกาเองก็รู้สึกได้แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยขัดอะไรปล่อยให้เขากระชากแขนเดินเข้างานไปพร้อมกัน            “คินคะ! นึกว่าคืนนี้คุณจะเบี้ยวรินแล้วซะอีก!” เดินเข้ามาได้ไม่ทันไรเสียงอ่อนหวานจากมณีริน นางแบบสุดสวยเจ้าของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ก็เอ่ยทักทายคนที่เธอชะเง้อคอหาอยู่นานนับชั่วโมงพร้อมโผเข้ากอดอีกฝ่ายทันทีที่พบหน้า แต่ไม่นานสายตาคมเฉี่ยวก็ตวัดมองคนที่เขาหนีบเอามาด้วยอย่างหงุดหงิด   ซึ่งคนถูกมองก็ได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งไม่อยากสบตาใครทั้งนั้น            “ใครกันคะ!”            “ผู้ช่วยเลขาของผมเอง อย่าไปสนใจเลย เธอไม่ได้สำคัญอะไร” นางแบบสาวยิ้มหวานเมื่อได้คำตอบที่ถูกใจก่อนจะเอ่ยชวนชายหนุ่มให้ไปทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของตนเอง ซึ่งอนาคินก็ไม่คิดปฏิเสธ เขาผละมือออกจากอีกคนก่อนจะเดินไปกับมณีรินทอดทิ้งให้จันทริกาต้องยืนคว้างอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เธอไม่รู้จักตามลำพัง หญิงสาวยืนนิ่งเงียบอยู่ได้ไม่นานไหล่มนก็ถูกสะกิดเข้า เมื่อหันไปมองก็ต้องยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มที่ได้เจอะเจอหน้ากัน            “พี่วิทย์!”            “พี่ว่าแล้วว่าต้องใช่ลูกจันทร์แน่ๆ แล้วนี่เรามาทำอะไรที่นี่ ได้ข่าวไอ้อาทิตย์มันบ้างรึยัง” คนถูกถามทำได้เพียงส่ายหน้าแทนคำตอบ ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้คือทรงวิทย์ เขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายของเธอ แม้ว่าทั้งสองคนจะทำงานคนละบริษัท แต่พวกเขาก็สนิทกันมากเลยทำให้เธอสนิทกับทรงวิทย์ไปด้วยอีกคนอย่างไม่ต้องสงสัย            “ถ้าเกิดว่ามันติดต่อมา พี่จะรีบบอกลูกจันทร์เป็นคนแรกเลย” ทรงวิทย์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง ในใจเขาไม่อยากจะเชื่อข่าวลือเกี่ยวกับเพื่อนสนิทที่ยักยอกเงินในบริษัทไปเท่าไหร่ แต่เพราะอีกฝ่ายมาหนีหายไปแบบนี้จึงยากที่จะแก้ต่างอะไรให้กับมันได้            “ขอบคุณมากนะคะพี่วิทย์ ว่าแต่พี่วิทย์มาทำอะไรที่นี่คะ”            “พี่มางานเลี้ยงแทนเจ้านายครับ แล้วลูกจันทร์ล่ะมาทำอะไรที่นี่” ทรงวิทย์เอ่ยถามกลับไปบ้างแม้ว่าจะเห็นมาตั้งแต่ต้นว่าคนที่หญิงสาวมาด้วยนั้นคือใคร แต่สิ่งที่อยากจะรู้ในตอนนี้คือทำไมเธอถึงมากับคนๆ นั้นได้มากกว่า            “พอดีเลขาของคุณคินเขาไม่ว่างค่ะ ลูกจันทร์ก็เลยมาแทน” จันทริกาจำต้องโกหก จะให้เธอบอกความจริงได้อย่างไรในเมื่อเรื่องระหว่างเธอกับอนาคินนั้นมันต้องเป็นความลับที่จะให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะหากเธอพูด คำสัญญาของเขาที่ว่าจะไม่ทำร้ายพี่ชายเธอจะถือเป็นโมฆะ และนั่นมันจะทำให้การเสียสละของเธอต้องสูญเปล่า     เธอยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้            “พี่ว่าเราไปหาอะไรทานกันดีกว่า” หญิงสาวลังเลอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจตอบตกลง เพราะคิดเอาเองว่าอยู่กับคนที่พอรู้จักก็ยังดีกว่าที่ต้องยืนอยู่คนเดียว หากแต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจในครั้งนี้นั้นมันกำลังหอบเอาพายุลูกใหญ่มาด้วย            “มองอะไรอยู่เหรอคะคิน” เสียงเรียกจากคู่ขาเก่าทำให้อนาคินจำต้องยอมถอนสายตาออกจากภาพที่ทำให้เขาหงุดหงิดตั้งแต่แรกเห็น ไอ้บ้านั่นมันเป็นใครทำไมหล่อนถึงได้กล้าเดินไปกับมันง่ายๆ แถมยังส่งยิ้มทำหน้าระรื่นให้มันทั้งๆ ที่ผัวตัวเองมันก็ยืนหัวโด้มองดูอยู่ตรงนี้แท้ๆ เธอกล้ามากจันทริกา แล้วเธอจะได้รู้ว่าความกล้าในครั้งนี้ จะทำให้เธอต้องเจอกับอะไร!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม