ธูปหอมยิ้มน้อยๆ ให้กับลูกหลานของลุงบุญที่ไม่แสดงท่าทีต้อนรับขับสู้สักเท่าไรนัก แม้แต่กับกอหวายที่เพิ่งมาถึงและเดินมานั่งข้างๆ ธูปหอม ถึงอย่างไรธูปหอมตั้งใจเอาไว้แล้วว่า จะมาร่วมงานจนถึงพิธีฌาปนกิจ
“แกไม่ค่อยได้ไปไหน แต่วันที่เสียได้ยินว่า ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้พาขึ้นรถไปพอกลับมาหลับไม่ตื่นเลยทีนี้” ธูปหอมเอื้อมมือไปปิดหูของกอหวายตั้งแต่เริ่มได้ยินการพูดถึงกอหวายแบบคิดกันไปเอง ส่วนเจ้าตัวยิ้มน้อยๆ หันมามองดูคนที่ยิ้มๆ ให้อยู่
“รู้ว่าเป็นห่วง แต่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ เผื่อวันที่ไม่มีน้าธูป หวายจะอยู่ลำบากมากขึ้น มางานคนเยอะๆ แบบนี้ เรื่องนินทาเป็น
เรื่องที่อย่างไรก็ต้องพบเจอค่ะ พ่อสอนเอาไว้ ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดอย่าไปใส่ใจปากหอยปากปู” กอหวายพูดให้คนที่พูดถึง
ตัวเองได้ยิน จึงหันมายิ้มเจื่อนๆ ด้วยกันทั้งสองคนที่พูดถึงกอหวายไปเมื่อสักครู่ คำพูดของกอหวายไม่ใช่เพียงผู้หญิงสองคนที่ยิ้ม
เจื่อนๆ แต่กับธูปหอมเองก็ยิ้มจางลงเช่นกัน
ถ้อยคำที่เคยโดนต่อว่าในอดีตกลับเข้ามาในความรู้สึกอีกครั้ง การไปบอกความรู้สึกกับคนคนหนึ่ง จนทำให้ธูปหอมกลายเป็น
คนที่ผิดปกติไปและด้วยช่วงวัยทำให้ตัวเองคิดว่า ตัวเองผิดปกติจริงอย่างที่มีคนพูดให้ได้ยินจึงไม่อยากให้กอหวายรู้สึกแย่เหมือนที่ตัวเองเคยรู้สึกมาก่อนและที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่อยากให้กอหวายได้ยินจากมารดาของตัวเองด้วย
“หวายซื้อขนมมาฝากด้วยค่ะ เก็บไว้ทานพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะคะ”
“ขอบใจจ้ะ” กอหวายหยิบถุงขนมเบื้องไส้เค็มส่งให้ธูปหอมที่นึก ขอบคุณความเอาใจใส่ที่กอหวายมีให้ เพราะเมื่อวันก่อนที่บ่นว่าอยากทานแต่เกิดเรื่องวุ่นวายทำให้ลืมเรื่องขนมไป
“พรุ่งนี้น้าจะชงกาแฟให้ หวายไม่มีงานนี่” ธูปหอมพูดขึ้น
“ถ้าหวายมา หวายจะโทรฯ บอกนะคะ” กอหวายบอกและกลับขึ้นรถขับออกไป ข้อความจากโทรศัพท์ที่ได้รับทำให้กอหวาย
รู้สึกกังวล
“ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย เจอกันร้านกาแฟที่พาลุงบุญมา จากธาม” นั่นคือข้อความจากธามที่กอหวายไม่ได้บอกกับธูปหอม
กอหวายรู้ดีเรื่องที่ธามอยากคุย ซึ่งมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ก็คือ เรื่องของธูปหอม คำถามของจอมทัพผุดขึ้นมาในความคิด
ทันที เรื่องที่ว่า กอหวายจะเข้าไปแทรกระหว่างคนสองคนอย่างนั้นหรือ ซึ่งเป็นคำถามที่ยังค้างคาอยู่ในความรู้สึกและกอหวายรู้ดีว่า ธามคงปรามเรื่องความสนิทสนมระหว่างตัวเธอกับธูปหอมหรือไม่อาจถึงขั้นสั่งไม่ให้ไปยุ่งกับธูปหอม เมื่อนึกถึงน้ำตาก็เริ่มไหลรินออกมา
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้น กอหวายมองดูชื่อที่ปรากฏทำให้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรับสาย
“ถึงบ้านหรือยัง” ธูปหอมถาม เพราะกอหวายเงียบไปไม่ส่งข้อความมาแจ้งว่าถึงบ้านแล้วเหมือนทุกครั้ง
“มานอนคอนโดค่ะ” กอหวายตอบ
“เหนื่อยหรือ” ธูปหอมถาม
“ค่ะ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยเลยอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว”
“อยากให้น้าช่วยคิดไหม” ธูปหอมถามอีกครั้ง
“หวายคิดเองดีกว่า เดี๋ยวคิดได้น้าธูปก็รู้เองแหละค่ะ” กอหวายบอก
“เกี่ยวกับน้าด้วยอย่างนั้น หรือ”
“ถามเยอะ ไปนอนแล้วค่ะ ง่วง ฝันดีนะคะ” กอหวายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่ยังไม่ได้วางสาย
“ไม่เป็นไร น้าเป็นห่วงอยู่เงียบๆ ก็ได้ ฝันดีจ้ะ” ธูปหอมบอกและวางสายทันที คำพูดนั้นเหมือนเป็นคำพูดธรรมดา แต่คนได้ยิน
กลับรู้ว่าเป็นคำพูดตัดพ้อ สิ่งที่ธามถามทำให้กอหวายกลับมาคิดว่า ตัวเองคิดจริงๆ หรือว่าสามารถทำให้ธูปหอมมีความสุขได้มากกว่า
ที่เป็นอยู่ กอหวายเหมือนมีคำตอบและกำลังคิดว่า ควรทำอย่างไรดีนับจากนี้ ในเมื่อธูปหอมมีความสุขดีอยู่แล้ว จึงไม่ควรนำปัญหาเข้า
ไปทำให้ความสุขที่มีอยู่ลดน้อยลง
ธูปหอมยิ้มจางๆ เพราะรู้ดีว่าควรจะทำอย่างไร การอยู่ในพื้นที่ของตัวเองคือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะการแสดงออกของกอหวายไม่ว่า
จากการเงียบหายหรือการตัดบทไม่ค่อยอยากพูดคุยด้วย ซึ่งคงเป็นเหมือนดังที่คิดเอาไว้ ความสุขมาเร็วไปเร็วและอยู่ด้วยไม่นานนัก
นั่นคือ สิ่งที่ธูปหอมพบเจอมาเกือบทั้งชีวิต
ธูปหอมล้มตัวลงนอน โดยดึงหมอนที่กอหวายเคยหนุนมากอดไว้บางทีการได้อยู่ห่างๆ ไม่ได้พบเจอกันอาจทำให้กอหวายเข้า
ใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย
“ได้ยินคุยโทรศัพท์ว่าง่วง แต่มานั่งจิบเบียร์อยู่ริมสระน้ำ โดนแม่ดุมาหรืออย่างไร กอหวาย” ใบพลูถาม สู่ขวัญยิ้มๆ มองดูคนที่
ทำหน้าจ๋อย
“คุยกับน้าธูปค่ะ” กอหวายพูดเสียงอ่อย
“ทำไมต้องโกหก” สู่ขวัญพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ
“หวายไม่ดีเองแหละค่ะ เข้าไปวุ่นวายในชีวิตเขา” กอหวายบอกกับใบพลูและสู่ขวัญที่รายหลังนั่งลงข้างๆ และเอื้อมไปโอบไหล่เอาไว้
“มันขึ้นอยู่กับพี่ธูป เรื่องสำคัญที่สุดคือ ต้องคุยกันไม่ว่าจะไปต่อหรือว่าจะจบ” สู่ขวัญพูดด้วยความเป็นห่วงกอหวาย
“แต่ที่หวายกลัวก็คือ หวายกลัวจะทำให้ความสุขของน้าธูปลดน้อย ลงมากกว่าค่ะ อีกอย่างหวายเองที่เป็นฝ่ายเข้าหาก่อน”
“ฟังจากปากเขาเอง อย่าคิดเอง เมื่อกี้พี่ธูปโทรฯ มาใช่ไหมล่ะ”
“ค่ะ”
“ถ้าเขาไม่อยากติดต่อจะโทรฯ มาทำไม ว่าไหม” ใบพลูถาม
“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า บางทีหวายก็คิดนะคะ ทำไมไม่ชอบผู้ชาย สักคนที่เข้ามาในชีวิต แล้วแต่งงานไปจะได้ไม่ไปทำให้ชีวิต
ใครเขาเสียหาย” กอหวายบ่นเสียยืดยาว สู่ขวัญหันมายิ้มๆ ให้ใบพลู
“พี่กับพลูกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง ก็เกือบแยกย้ายเหมือนกัน”
“น้าธูปยอมเป็นผู้จัดการให้ด้วยค่ะ” กอหวายบอกใบพลูกับสู่ขวัญ
“พี่ธูปก็ร้ายนะ มีคุณธามอยู่ทั้งคนยังมาล่อลวงให้เด็กหลงรักอีก”
“ไม่ได้ล่อลวงอะไรเลย หวายเองที่ไปหลงรอยยิ้มเข้าตั้งแต่แรกเห็น” กอหวายบอกแล้วแอบถอนใจ สามสาวนั่งพูดคุยกันใน
หลายเรื่องไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของธูปหอม แม้ใบพลูกับสู่ขวัญได้พูดคุยและปรึกษาเรื่องกอหวายไปกับภัทราที่เหมือนเป็นพี่ใหญ่ แต่
สุดท้ายไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรคงต้องขึ้นอยู่กับคนสองคน ไม่มีใครหรือความคิดเห็นของใครช่วยได้ นอกจากเจ้าตัว ซึ่งภัทรา
กำชับให้ใบพลูกับสู่ขวัญช่วยดูแลกอหวาย เพราะระหว่างนี้คงมานอนที่คอนโดมีเนียมบ่อยกว่าแต่ก่อน
“มีพี่อยู่อีกตั้งหลายคน เมื่อไหร่อยากคุยก็โทรฯ หาได้ตลอด” สู่ขวัญโอบไหล่ของกอหวายอีกครั้ง
“ขอบคุณนะคะ ที่มานอนคอนโดกันบ่อยๆ เพราะเป็นห่วงหวายกัน ใช่ไหมล่ะคะ ดูสิทำให้พี่ๆ ลำบากอีกจนได้” กอหวายพูดขึ้น
ใบพลูหมั่นไส้เลยเอื้อมมือไปเขกเบาๆ ที่ศีรษะ
“ไอ้เด็กคนนี้ ไม่รู้จักโต 30 กว่าแล้วนะ เราน่ะ” ใบพลูพูดยิ้มๆ
กอหวายไม่ได้ไปที่ห้องสมุดพักใหญ่ หลังจากไปร่วมพิธีฌาปนกิจ ตาบุญ ซึ่งตัวเองเพียงแค่มองดูธามที่อยู่เคียงข้างธูปหอม เมื่อส่งตาบุญแล้ว ก็รีบกลับทันที โดยธูปหอมเองเงียบไปเช่นกัน ส่วนการติดต่อเรื่องงานใช้การส่งข้อความเสียเป็นส่วนใหญ่
“พี่หวายคนสวยไม่มาหรือคะ ป้าธูป” เด็กคนหนึ่งเดินขึ้นไปที่ห้องทำงานเพื่อถามธูปหอม
“ไม่ได้มาหลายวันแล้วค่ะ คงงานยุ่งน่ะ” ธูปหอมยิ้มๆ ให้สาวน้อยที่นั่งเก้าอี้อยู่ฝั่งตรงข้าม
“คิดถึงพี่หวายคนสวย ป้าธูปคิดถึงไหมคะ” สาวน้อยถามธูปหอมที่ยิ้มจางๆ และพยักหน้าแทนคำตอบ
“โทรฯ หาได้ไหมคะ เผื่อว่าง”
“รบกวนผู้ใหญ่ไม่ดีนะคะ” ธูปหอมบอกกับสาวน้อยที่ยิ้มเจื่อนๆ
“แต่พี่หวายคนสวยบอกว่า ถ้าคิดถึงให้บอกป้าธูปช่วยโทรศัพท์ไปตามได้นี่คะ ถ้าป้าธูปโทรฯ จะมาทันทีเลย” สาวน้อยคนเดิมบอก
“ไปแอบคุยกันตอนไหนคะ”
“พี่หวายชอบแอบไปนั่งอ่านหนังสือด้วยค่ะ” สาวน้อยหัวเราะและทำท่าเอามือปิดปากได้น่ารักน่าชัง
“ป้าโทรฯ ให้ได้ แต่ต้องคุยเองนะคะ” ธูปหอมบอกและหยิบโทรศัพท์มาทำตามคำขอร้องของสาวน้อยที่ยิ้มแป้นและพยักหน้า
พร้อมกับพนมมือไหว้เพื่อเป็นการขอบคุณ
กอหวายเห็นชื่อของคนที่โทรศัพท์เข้ามา ใจหนึ่งอยากจะรีบกดรับแต่อีกใจกลัวจะใจอ่อนจนต้องรีบขับรถไปหา แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรับสาย
“สวัสดีค่ะ” กอหวายทักทาย
“สวัสดีค่ะ พี่หวายคนสวย” เสียงของสาวน้อยทำให้กอหวายยิ้ม
“คิดถึงจังเลยค่ะ” กอหวายยิ้มจางๆ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเล็กๆ
“ป้าธูปยิ้มสวยด้วยค่ะ” คำพูดของเด็กน้อยทำให้กอหวายยิ้ม
“โทรฯ มาหาพี่หวายมีอะไรหรือเปล่าคะ สาวน้อยน่ารัก”
“ไม่มาห้องสมุดเลย เด็กๆ คิดถึงมาก พวกเรามาเสาร์อาทิตย์ค่ะ” น้ำเสียงที่ได้ยินแสดงให้รู้สึกถึงความจริงใจ เพราะเด็กเป็นวัย
ที่พูดอะไรรู้สึกไปตามที่พูด แต่คำตอบที่อยากบอกออกไปกอหวายเก็บงำเอาไว้
“เด็กคุยกับใคร” เสียงของธามทำให้รอยยิ้มของกอหวายจางหายไป
ธูปหอมยิ้มๆ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกับธาม ซึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ธูปหอมมองดูสาวน้อยที่ยังคงเล่าโน่นนี่ให้กอหวายฟัง ธามยิ้มน้อยๆ มองดูธูปหอมที่กำลังจ้องมองสาวน้อยไม่วางตา จึงเดินไปกระซิบบอกและหยิบโทรศัพท์ออกจากมือ โดยเปิดเสียงเพื่อให้
ทุกคนได้ยิน ธูปหอมหันมายิ้มให้ธาม ซึ่งเอามือทาบทับไปที่ไหล่ สาวน้อยยิ้มๆ มองดูโทรศัพท์ที่มีเสียงของกอหวายดังออกมา
“ทิ้งพี่หวายคนสวยเสียแล้ว เสียใจเลยมีแต่คนทิ้ง” กอหวายพูดโดยไม่รู้ว่า ธูปหอมกับธามฟังอยู่ด้วย
“ไม่ทิ้งค่ะ แต่หมูหวานต้องกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวแม่เป็นห่วง พี่หวายคุยกับป้าธูปต่อนะคะ บั๊บบาย” หมูหวานไม่ได้รอฟังคำตอบ
ของกอหวายแต่รีบวิ่งออกจากห้องของธูปหอม หลังจากพนมมือไหว้และบอกขอบคุณ
“หมูหวานวิ่งกลับบ้านไปแล้ว” ธูปหอมบอก
“ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างนั้นหวายวางสายเลยนะคะ” กอหวายบอก ธูปหอมหยิบโทรศัพท์มาปิดเสียง ธามจึงกระซิบบอกกว่าจะ
ขึ้นไปข้างบน
“มีงานถ่ายโฆษณาของโรงพยาบาล หวายจะรับไหม”
“น้าธูปคิดว่าอย่างไรคะ”
“รณรงค์ให้คนมาตรวจสุขภาพ น้าว่าหวายควรรับ” ธูปหอมบอก
“ถ้างั้นก็ตามนั้นค่ะ อ้อหวายอยากบริจาคให้ห้องสมุดเดือนละงานที่หวายทำหวังว่าน้าธูปจะไม่ปฏิเสธนะคะ” กอหวายพูดเผื่อเอาไว้ เพราะคิดว่าธูปหอมจะปฏิเสธทั้งที่ก่อนหน้าตกลงแบ่งบางส่วน แต่กอหวายอยากให้มากกว่าเดิม จึงอยากยื่นข้อเสนอที่ไม่อยากให้ปฏิเสธ
“คนทำงานให้ไม่ได้อะไรเลย อะไรๆ ก็ให้แต่กับห้องสมุด” ธูปหอมพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ กอหวายขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
“น้าธูปอยากได้อะไรล่ะคะ” กอหวายถาม
“กินข้าวด้วยกันบ้าง ดีไหม”
“เอาไว้หวายบอกอีกทีได้ไหมคะ หวายยังคิดไม่ตกว่าควรจะรู้สึกอย่างไรหลังจากที่” กอหวายไม่แน่ใจนักว่า ธามบอกเรื่องที่นัด
พูดคุยกันให้ธูปหอมรู้หรือยัง
“เริ่มคิดว่า มันเป็นเรื่องผิดปกติอยู่หรือเปล่า” ธูปหอมถาม
“เรื่องไหน” กอหวายถามเสียงห้วน
“ถ้ามันเป็นเรื่องผิดปกติเมื่อไหร่ ทุกเรื่องจะจบลงแบบไม่ค่อยดี”
“ยังไม่ได้เริ่มเลย จะเลิก จะจบได้ไง” กอหวายบอก
“หรือไม่ควรเริ่ม” ธูปหอมพูดจบก็เงียบไป กอหวายวางสายแล้วแอบถอนใจ