ตอนที่ 4

2854 คำ
ธามเติมไวน์ลงในแก้วของธูปหอมที่นั่งยิ้มมองไปทางแสงไฟจากตึกสูงใหญ่จำนวนมาก ซึ่งเป็นวิวของเมืองที่แทบสว่างไสวตลอดทั้งคืน “ดูมีความสุขจริงนะ วันนี้” ธามพูดขึ้น ธูปหอมหันมายิ้มน้อยๆ ให้ “ออร่าจับจนเห็นชัดขนาดนั้นเลยหรือ” ธูปหอมถาม “ดูสวยขึ้น สดใสขึ้น อะไรยังไง ธามไม่อยู่แค่ไม่กี่วันเอง” “วันนี้เจอลูกสาวของเพื่อน เขาเป็นนางแบบพอแต่งหน้าแต่งตัว ธูปจำหลานไม่ได้เลย แต่ตอนไม่แต่งน่ารักกว่าเยอะ” ธูปหอมบอกเล่าเรื่อง กอหวายให้ธามฟัง “ยังมีเพื่อนคบอยู่อีกหรือ เอ๊ะหรือว่าไปงานเลี้ยงรุ่นมาจริงๆ” “ธูปเคยพูดไม่จริงด้วยหรือ” ธามยิ้มมองดูหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งดูสดใสและมีความสุข บางทีอาจเกิดจากการได้ไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และยังได้รู้จักลูกสาวของเพื่อนอีก ธูปหอมมีเพื่อนไม่มากนัก ควรเรียกว่าไม่เปิดรับใครเข้ามาในชีวิตมากนักน่าจะดีกว่า โดยเฉพาะหลังจากที่เปิดห้องสมุดและร้านหนังสือด้วยแล้ว ควรเรียกว่าหมกตัวเป็นนางสิงห์ที่อยู่เฝ้าถ้ำเสียเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่กับตัวเขาเองนานๆ ครั้ง ถึงจะยอมออกไปไหนมาไหนด้วย “หลานธูปชื่ออะไร” ธามถาม ขณะหยิบผลไม้ป้อนให้ธูปหอม “กอหวายค่ะ เห็นพนักงานที่ร้านบอกว่ามีชื่อเสียงมาก แต่ธูปไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไร ถ่ายแบบเสื้อผ้ารุ่นใหม่ให้ภัท ธามจำภัทได้ไหม เจ้าของห้องเสื้อ ภัทรา” ธูปหอมถาม “จำได้ ถ้าถ่ายให้คุณภัทล่ะก็ น่าจะดังเอาการอยู่” ธามบอก “เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าไหม พูดถึงคนอื่นเหมือนกำลังนินทาเขาอยู่” ธูปหอมหัวเราะเล็กๆ เมื่อหันไปเห็นธามออกอาการหาวให้เห็น “มีเรื่องอะไรให้คุยนักล่ะ ธูปน่ะ วันๆ อยู่แต่กับหนังสือ อ้อเรื่องหุ้นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ธามแปลกใจที่ได้ยินเรื่องหลานที่ชื่อ กอหวาย” “อย่าไปพูดให้ใครได้ยินว่าเป็นหลานธูปเข้าล่ะ เดี๋ยวแม่เขาว่าเอาเพราะแม่เขาไม่ค่อยชอบธูปสักเท่าไรนักหรอก” รอยยิ้มของธูปหอมจางไปเมื่อนึกถึงเกื้อกูลมารดาของกอหวาย “แม่ก็ส่วนแม่ ลูกก็ส่วนลูกสิ ถ้าเด็กเคารพเรา ก็เป็นหลานธูปได้” ธามบอกสิ่งที่ตัวเองคิด “ไปนอนได้แล้วค่ะ พ่อรูปหล่อ หาวเป็นดาวเป็นเดือนแล้ว” “ธามหล่อกว่าหนุมานตั้งเยอะ ธูปจะนั่งเล่นต่อหรือ” ธามถาม “หมดแก้วนี้จะไปนอนค่ะ ฝันดีนะ ธาม” ธูปหอมยิ้มให้คนที่เดินมาจูบเบาๆ ที่ศีรษะก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป นิตยสารเล่มที่ถือติดมือมาเมื่อตอนหัวค่ำถูกเปิดออก ธูปหอมเคยอ่านบ้างแต่ไม่บ่อยนัก เมื่อเปิดดูภายในที่มีกอหวายเป็นแบบ นิตยสารเล่มนั้นจึงถูกเปิดดูรูปถ่ายของนางแบบจนครบ “ได้พ่อกับแม่ผสมกันมาพอดิบพอดี ถึงได้สวยขนาดนี้” ธูปหอมพูดกับตัวเอง ขณะเริ่มอ่านบทสัมภาษณ์กอหวาย “เชื่อได้ไหมล่ะ” ธูปหอมรำพึงออกมาเบาๆ เพราะเรื่องราวที่ได้อ่านเกี่ยวกับการพูดถึงตัวเอง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับยามที่ได้พบ ช่างแตกต่างกันเสียเหลือเกิน กอหวายในบทสัมภาษณ์ดูเป็นงานเป็นการเสียจนเมื่อหวนนึกถึงหญิงสาวที่นั่งกับพื้นอ่านหนังสือ จนหลับไปเมื่อตอนกลางวันทำให้อดเอามานึกเปรียบเทียบไม่ได้เลย “ไปนอนดีกว่า จะมานั่งนึกถึงแม่เด็กขี้อ้อนอยู่ทำไมกัน” ธูปหอมยิ้มๆ นึกถึงอ้อมกอดของกอหวายที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอีกครั้ง ลุงบุญมาตรงเวลาเหมือนทุกวัน ธามออกไปทำงานแต่เช้าเพราะมีนัดหมายคุยงานซึ่งไกลจากบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรอันวุ่นวาย จึงรีบออกไป ซึ่งนั่นทำให้เช้านี้เป็นปกติเหมือนกับทุกวันสำหรับธูปหอม “อ้าวมีกาแฟกินแล้วนี่ เราว่าเรามาเช้าแล้วนะเนี่ย” กอหวายมอง เห็นธูปหอมนั่งจิบกาแฟอยู่กับชายสูงวัย จึงมองดูแก้วกาแฟที่ตั้งใจจะเอามาฝาก และยังไอ้เจ้าดอกทิวลิปสีชมพูที่ซื้อมา ขณะขับรถผ่านร้านดอกไม้ ที่เปิดร้านตั้งแต่เช้าตรู่นั่นอีก “อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้าธูป สวัสดีค่ะ คุณตา” กอหวายตะโกนโหวกเหวกหลังจากจอดรถไม่ไกลจากชายสูงวัยและธูปหอม “มาทำไมแต่เช้า ลืมอะไรไว้หรือเปล่า” ธูปหอมเดินมาหากอหวาย “ลืมค่ะ แต่ฝากเอาไว้ก่อนดีกว่า หวายซื้อกาแฟมาฝากด้วยล่ะ” “ตกลงลืมอะไรไว้ น้าไปหยิบให้ก็ได้ แต่ไม่เห็นพนักงานบอกเลยนะว่ามีคนลืมของเอาไว้ เราจำได้หรือเปล่าว่าวางเอาไว้ที่ไหน” ธูป หอมถามและมองดูกอหวายที่คิ้วขมวดเหมือนกำลังคิดอยู่ “รับแก้วกาแฟกับดอกไม้ไปก่อนค่ะ เดี๋ยวอีกแป๊บคงคิดออกว่าลืมอะไร” กอหวายส่งแก้วกาแฟให้ธูปหอม “กาแฟพอเข้าใจ แต่ดอกไม้เอามาทำไม” ธูปหอมถาม กอหวายเฉไฉหันไปตะโกนโหวกเหวกบอกตาบุญว่า ตัวเองมีกาแฟมาฝาก ด้วย “ว่าไง ถ้าไม่บอกจะโยนคืนไปด้านหลังโน่นเลยนะ” ธูปหอมพูดดุ “โห ใจร้าย อุตส่าห์คิดถึง ก็เห็นที่ห้องมีรูปภาพดอกทิวลิปสีชมพูพอขับรถผ่านนึกถึงขึ้นมาทันที แล้วดูสิมาดุอีกแถมยังเขวี้ยงดอกไม้เขาทิ้ง” กอหวายพูดเสียงอ่อยๆ ธูปหอมยิ้มๆ มองดูคนที่ท่าทางคงงอนเข้าให้แล้ว “ว่างมากนะ เราน่ะ บ้านก็อยู่ตั้งไกล” “ไม่ได้ว่างสักหน่อย เดี๋ยวจะไปทำงานแล้วค่ะ ไว้คราวหน้าจะซื้อกาแฟเพิ่มอีกแก้วมาฝากคุณตาด้วย ส่วนดอกไม้อย่าโยนไว้ข้าง หลังเลยนะคะ น๊า ไม่อย่างนั้น หวายร้องไห้จนตาบวมแน่” กอหวายหัวเราะคิกคัก เมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสของธูปหอม “จ้ะ เดี๋ยวจะเอาไปใส่แจกันตั้งไว้ที่โต๊ะทำงาน พอใจยัง” “พอใจนิดหน่อยค่ะ” กอหวายอมยิ้ม “ตกลงนึกออกหรือยัง ลืมอะไรไว้ แล้วอยู่ตรงไหน” ธูปหอมถาม “บอกแล้วห้ามโกรธ สัญญาก่อนสิ” กอหวายพูดขึ้น รอยยิ้มทะเล้นที่ได้เห็นทำเอาธูปหอมอดใจไม่ไหว จึงหยิกเข้าให้ที่แขน กอ หวายร้องลั่นตะโกนฟ้องตาบุญที่นั่งหัวเราะอยู่ “ว่ามา ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากนักนะ” ธูปหอมพูดดุ “ต้องดุด้วย ลืมหัวใจไว้แถวนี้ น้าธูปช่วยหาหน่อยนะคะ ฝากเก็บรักษาไว้ก่อน ส่วนจะเก็บไว้ที่ไหนแล้วแต่จะกรุณาเลยค่ะ หวายไปทำงานก่อนนะคะ ไว้จะเอากาแฟกับดอกไม้มาส่งใหม่ ไปนะคะ ตา” กอหวายรีบขับรถออกไปทันที หลังจากพูดเสียยืดยาว ซึ่งทำเอาคนที่ได้ยินยืนงงและมองตามรถยนต์ที่ขับออกไปจนลับตา “มาเร็วไปเร็วจริงๆ เลย” ลุงบุญบอกกับธูปหอมที่ถอนใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่กอหวายบอกว่าลืมเอาไว้ “ลองกาแฟแก้วนี้ดูดีกว่าไหมคะ” ธูปหอมส่งแก้วกาแฟที่กอหวายซื้อมาฝากให้กับลุงบุญที่รับไปถือเอาไว้ โดยวางแก้วที่ถืออยู่ทันที “ไอ้บัคๆ ที่แพงๆ น่ะนะ” ธูปหอมหัวเราะ เมื่อได้ยิน “ทันสมัยเหมือนกันนะ ลุงเนี่ย” รอยยิ้มของธูปหอมจางลง เมื่อมอง ดูช่อดอกทิวลิปสีชมพูที่ถืออยู่ “โดนด่าไล่ตามหลังมาแน่ๆ เลย เรา” กอหวายพูดเสียงอ่อยๆ แต่ก็ยังมีรอยยิ้ม ขณะขับรถไปทำงานตามที่ได้มีนัดหมายเอาไว้ คำพูดทีเล่นที่จริงเรื่องหัวใจที่ทำหล่นเอาไว้ทำให้กอหวายนั่งยิ้มมา ระหว่างขับรถ การได้เห็นหน้า ได้เห็นรอยยิ้ม ถึงแม้โดนดุบ้าง แต่ถือว่าคุ้ม เพราะได้บอกความในใจที่ตัวเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า เป็นความรู้สึกแบบไหนรู้แค่เพียง ธูปหอมเหมือนเป็นกำลังใจที่ทำให้เช้านี้สดใสกว่าทุกวันที่ผ่านมาและหวังว่าธูปหอมจะมีวันที่มีความสุขและสดใสเช่นกัน ธูปหอมมองดูดอกทิวลิปสีชมพูที่นำมาใส่แจกันและตั้งเอาไว้ที่โต๊ะทำงานเหมือนที่บอกไว้กับคนนำมาฝาก เรื่องราววุ่นวายของหญิงสาวต่างวัยเริ่มรบกวนความรู้สึกภายในจิตใจมากขึ้น ไอ้เจ้าความช่างสังเกตของ กอหวายทำให้เรื่องราวในอดีตหวนกลับมาอีกครั้ง “หรือควรเอารูปภาพออกไป” ธูปหอมรำพึงออกมาเบาๆ มองดูภาพ ถ่ายที่แขวนเอาไว้ในห้องทำงาน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ได้รับช่อดอกทิวลิปสีชมพูเช้านี้ ธูปหอมยิ้มเมื่อนึกถึงความน่ารักร่าเริงสดใสของกอหวาย เมื่อมองเห็นเด็กๆ กำลังโบกไม้โบกมือให้ ธูปหอมถึงได้ลืมเรื่องของหญิงสาวกับดอกทิวลิปสีชมพูไปชั่วขณะ เพราะต้องรีบลงไปดูแลหนุ่มสาวตัวน้อยที่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรถึงได้มาโบกไม้โบกมือให้ “อ่านหนังสือจนหมดชั้นแล้วหรืออย่างไรจ๊ะ เด็กๆ” ธูปหอมถาม “เปล่าค่ะ แต่มีคนฝากให้กอดป้าธูปทุกวันเลย” เสียงของเด็กน้อยที่นั่งคุยกับกอหวายเมื่อวันก่อนบอกธูปหอมที่ขมวดคิ้วงุนงง เด็กๆ หัวเราะ คิกคัก เมื่อเห็นป้าธูปทำหน้าตาแปลกๆ จึงเริ่มผลัดกันเข้าไปสวมกอด “น่ารักที่สุดเลยค่ะ” ธูปหอมยิ้มๆ กับอ้อมกอดของเด็กๆ ที่บางคนถึงกับหอมแก้มเอาเสียด้วย ภาพความน่ารักถูกถ่ายเอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ของห้องสมุดที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกลนัก ธูปหอมเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด หากไม่รู้จักถือว่าดุ แต่เมื่อคุ้นเคยกันจะสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความห่วงใยที่มีให้กับทุกคนเหมือนเช่นเด็กๆ ที่รักและเชื่อฟังธูปหอมเสมอ “ใครกันนะเป็นคนฝากให้หอมให้กอดป้าธูป” ธูปหอมถามเด็กๆ ที่พูดขึ้นพร้อมกัน “พี่หวายคนสวยค่ะ” เสียงหัวเราะคิกคักค่อนข้างดัง ธูปหอมชูนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปาก เด็กๆ ทำตามและรีบกลับไปนั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม “อุตส่าห์เลิกนึกถึง ต้องกลับมานึกถึงอีกจนได้ ร้ายกาจเสียจริง” “รูปน่ารักดีนะคะ” เจ้าหน้าที่บอกกับธูปหอมก่อนส่งให้ทางโทรศัพท์ ซึ่งเจ้าตัวเห็นเข้าถึงกับยิ้มกว้าง เพราะไม่ได้มีเพียงแค่รูปถ่าย แต่มีวิดิโอส่งมาให้ด้วย “ขอบคุณนะคะ อ้อเงินที่คุณภัทฝากไว้ให้ บริจาคเป็นค่าหนังสือเด็กๆ ช่วยแจ้งรายละเอียดไว้ให้ด้วยนะคะ” ธูปหอมบอกกับเจ้าหน้าที่ “ค่ะ คุณธูป” “ป้าธูปขา” เสียงของสาวน้อยดังแว่วๆ มาทางด้านหลังของธูปหอม ที่รีบหันไปทันทีและลงนั่งยองเพื่อจะได้พูดคุยได้อย่างสะดวก “ยังให้ของฝากไม่ครบหรืออย่างไรคะ ตัวเล็ก” สาวน้อยทำท่าเอียงอายเพราะป้าธูปพูดคล้ายรู้ทัน “นิดเดียวค่ะ” เด็กหญิงทำท่าคล้ายส่งจูบ โดยเอามือแตะเบาๆ ที่ ริมฝีปากตัวเองก่อนจะไปแตะที่ริมฝีปากของธูปหอมที่จู่ๆ รู้สึกเขินอายกับความน่ารักของสาวน้อยที่ยืนยิ้มอยู่ หรือเพราะคนที่ช่างหาเรื่องฝากเด็กๆ เอาไว้ไม่แน่ใจสักเท่าไรนัก แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้คนได้รับของฝากประทับใจและมีความสุขตั้งแต่เช้าจนถึง ณ เวลานี้ “เด็กๆ ยังรักยอมทำตามที่ฝากไว้ ผู้ใหญ่จะรอดไหมล่ะ” ธูปหอมคิดอยู่ในใจ ขณะดึงตัวสาวน้อยมากอดเอาไว้แน่นแทนคำขอบคุณ รวมถึงหอมแก้มทั้งซ้ายทั้งขวาจนสาวน้อยยิ้มอายๆ หัวเราะคิกคักและรีบวิ่งกลับ ไปหยิบหนังสือมาอ่านอีกครั้ง “ค่ะ ธาม กำลังคิดถึงอยู่เลย” เมื่อธามโทรศัพท์เข้ามาทำให้เรื่อง ของกอหวายได้หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง หลังจากคุยโทรศัพท์กับธามเรียบร้อย ธูปหอมจึงเอื้อมไปหยิบนามบัตรของกอหวายขึ้นมาดูและกดเบอร์โทรศัพท์ที่เห็นอยู่เพื่อเก็บบันทึกเอาไว้ “ขอบคุณสำหรับเรื่องรบกวนใจตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้” ธูปหอมส่งภาพถ่ายและวิดีโอของเด็กๆ ที่ปฏิบัติตามคำร้องขอของกอหวายให้เจ้าตัวได้เห็น กอหวายนั่งยิ้มไม่รู้ว่าดูวิดีโอไปกี่ครั้ง เปิดวนไปวนมาเพื่อดูรอยยิ้มและท่าทางเขินอายของธูปหอมที่ทำให้รู้สึกว่า อยากจำเอาไว้จนเป็นภาพติดตายามที่นึกถึงและอยากให้ภาพที่เห็นวนอยู่ในหัวของตัวเองอยู่ตลอด “ยิ้มจนปากจะฉีกแล้วน่ะ” ใบพลูซึ่งเป็นช่างภาพบอกกับกอหวายที่ออกอาการเขินอายจนแก้มแดง “แซวน้อง เดี๋ยวพี่ขวัญเปลี่ยนชุดออกมา หวายจะฟ้องว่าพี่พลูแกล้ง” ใบพลูหัวเราะเล็กๆ เมื่อถูกขู่เรื่องของสู่ขวัญที่เป็นทั้งนางแบบ และคนรัก “คิดว่าขวัญจะเข้าข้างใคร” ใบพลูถาม “แหมท่าทางมั่นใจนะคะ พี่พลูจีบพี่ขวัญยังไง” คำถามของกอหวายทำเอาใบพลูขมวดคิ้ว “ต้องตอบมาก่อนว่า จะไปจีบใคร” ใบพลูหัวเราะ “ขำอะไร ใบพลู” สู่ขวัญออกมาสมทบ เพราะเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการถ่ายแบบ “หวายถามพลูว่า จีบขวัญยังไง พลูเลยสงสัยว่า กอหวายน่าจะจีบใครอยู่เลยถามดู” ใบพลูอมยิ้มแล้วยักคิ้วล้อกอหวายที่ยิ้มเจื่อนๆ ให้ “ยังไงกัน จีบหนุ่มคนไหน นายแบบหรือดารา” สู่ขวัญถาม “หวายไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไรมากกว่า ไม่เคยคบหาใครจริงจังเลยค่ะ” “ใครล่ะ เผื่อจะได้แนะนำถูก” สู่ขวัญแกล้งถาม “ตอนพี่ขวัญเจอพี่ใบพลู รู้สึกอย่างไรคะ” กอหวายถาม “ไม่ค่อยชอบขี้หน้าสักเท่าไร” สู่ขวัญหัวเราะ เมื่อมองไปทางคนรักที่แกล้งทำหน้าเศร้า “โห ไปทำงานกันเถอะค่ะ นึกว่าจะช่วยได้” กอหวายบ่นพึมพำ คนที่ได้ยินหัวเราะหึๆ เดินตามไปยืนหน้ากล้องเพื่อทำงานให้เสร็จ เรียบร้อย ใบพลูกับสู่ขวัญเดินมาหากอหวายที่ยังคงนั่งยิ้มมองดูโทรศัพท์ที่ถือ อยู่ท่าทางเพลิดเพลินเสียจนไม่รู้เลยว่า มีคนมายืนแอบมองจากด้านหลัง เมื่อเห็นคลิปในโทรศัพท์ของกอหวายทำเอาใบพลูกับสู่ขวัญรีบหันมามองสบตากันครู่หนึ่งและยิ้มออกมาด้วยกันทั้งคู่ “หลงคนแก่เสียแล้ว น้องฉัน” สู่ขวัญพูดขึ้น กอหวายตกใจจึงรีบปิดคลิปในโทรศัพท์มือถือทันที “หลงอะไรที่ไหน” กอหวายพูดเสียงอ่อยๆ “หลงที่นี่ไงจ๊ะน้องรัก ในหัวใจที่ไม่เคยยอมให้หนุ่มไหนเข้าไป ไอ้เราก็นึกว่านายแบบหรือดาราหนุ่ม สุดท้ายมาลงเอยที่พี่ธูปเจ้า ของห้องสมุด” ใบพลูอมยิ้ม เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของกอหวาย “ไม่ได้หลงสักหน่อยค่ะ เวลาอยู่ด้วย ได้พูดได้คุยด้วยแล้วดูสึกดีแค่นั้นเอง” กอหวายบอก “นั่นล่ะค่ะ น้องคะ จุดเริ่มต้นของความรัก งานเสร็จเร็วก็ไปหาสิ” “เมื่อเช้าไปมาแล้ว ไปบ่อยๆ เขาจะรำคาญเอาสิคะ พี่ขวัญ” “เออใช่ เพิ่งจีบอย่ารีบร้อน” ใบพลูบอก สู่ขวัญหัวเราะเล็กๆ ที่คนรักผสมโรงพูดแหย่กอหวายด้วย “พี่ธูปเป็นคนใจดี ถึงจะพูดน้อย แต่เวลารัก รักมาก สู้ๆ นะ” สู่ขวัญยิ้มๆ แต่เป็นห่วงกอหวายอยู่เหมือนกัน เพราะอายุที่แตกต่างกันค่อนข้างมากอีกทั้งเรื่องของธามหนุ่มนักลงทุนด้านการเงินนั่นอีก ซึ่งไม่รู้ว่า กอหวายรู้หรือยังเรื่องหนุ่มใหญ่ที่สนิทสนมกับธูปหอมคนนั้น “อาทิตย์หน้าเจอกันนะ หวาย” ใบพลูกับสู่ขวัญบอก หลังจากเดินมาส่งกอหวายที่ลานจอดรถ “ขอบคุณค่ะ พี่พลู พี่ขวัญ” “ถ่ายชุดว่ายน้ำ ไม่ชวนพี่ธูปมาดูล่ะ” สู่ขวัญพูดขึ้น “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวโดนบ่นค่ะ ไว้ถ่ายงานเสร็จค่อยแวะไปหาดีกว่า ขับรถดีๆ นะคะ พี่พลู” กอหวายพนมมือไหว้เป็นการบอกลาใบพลูกับสู่ขวัญ “พลูว่า พี่ธูปจะชอบหวายไหม” สู่ขวัญถาม “มีคุณธามอยู่ทั้งคน ไม่อยากคิดเลย” ใบพลูถอนใจ ขณะมองดูสาวสวยที่เพิ่งขับรถออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม