ตอนที่ 20

2655 คำ
ธูปหอมมองดูกอหวายที่กำลังรับประทานมะม่วงและมะยมท่าทางดูเอร็ดอร่อยมาก จนคนที่มองดูอยู่เป็นฝ่ายหน้าตาเหยเกแทน กอหวายเองชอบแกล้งเลยกัดผลไม้เสียงกรุบกรอบทำเอาน้ำลายสอ ภาพของกอหวายยามยิ้มแย้มหน้าตาดูสดใสต่างจากก่อนหน้าที่มีคราบน้ำตาให้เห็น ธูปหอมไม่ได้ถามหาสาเหตุเพราะคงเดาได้ไม่ยากนัก เสียงหัวเราะดังเป็นระยะ การมีบ้านหรือมีพื้นที่ส่วนตัวทำให้สองสาวปลดปล่อยความรู้สึกออกมา กอหวายแทบจะลืมความทุกข์ ใจกับเรื่องครอบครัวไปช่วงหนึ่ง แม้ไม่รู้ว่าเวลาหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่อยากตักตวงช่วงเวลาที่ได้ใช้กับธูปหอมเอาไว้ให้มากเท่าที่จะทำได้ ถ้าการพบเจอกันแบบบังเอิญที่ธูปหอมเคยพูดว่า หากถึง 10 ครั้งเป็นพรหมลิขิต กอหวายจะตั้งตารอ กอหวายยิ้มๆ ขณะ ป้อนผลมะยมให้ธูปหอมที่ทำหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเปรี้ยวของผลไม้ลูกเล็กๆ นั้น “แก่แล้ว กินเปรี้ยวมากไม่ไหว” ธูปหอมบอก “ไม่เห็นแก่เลยค่ะ” กอหวายบอก “รอยเท้ากาเต็มเลย ไม่แก่ได้อย่างไร ว่าแต่วันนี้ไม่มีงานหรือ” “มีค่ะ แต่โทรฯ ไปขอเลื่อนพี่พลู” กอหวายบอก ธูปหอมจึงพอจะเดาได้ว่าสายที่ใบพลูโทรศัพท์เข้ามาน่าจะเป็นเรื่องของกอ หวาย “เบี้ยวงานพี่เขา ไม่เป็นอะไรหรือ” “ไม่หรอกค่ะ แค่งานถ่ายตัวอย่างเอาไปเสนอลูกค้า เดี๋ยวพี่พลูจะนัดถ่ายใหม่วันหลัง ถ้าไปคงทำงานได้ไม่ดีเท่าไร” กอหวาย บอก ธูปหอมกดส่งข้อความบอกใบพลูไปว่าตัวเองอยู่กับกอหวาย เพื่อที่ว่าใบพลูจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงนัก “เทียนเป็นไงบ้าง” ธูปหอมถาม กอหวายทำหน้างอแล้วหันมองไปทางอื่น “น่ารักดี พ่อกับแม่ชอบมากค่ะ” “เปลี่ยนเรื่องดีกว่า จะกินมะยมกับมะม่วงแทนข้าวหรือ น้าชักหิวเสียงเคาะป๊อกๆ น่าจะเป็นบะหมี่เกี๊ยวอยากกินไหม” ธูปหอม ถาม กอหวายรีบพยักหน้าทันที ธูปหอมยิ้มขณะเดินไปหยิบชาม โดยให้กอหวายเดินออก ไปรอคนขายที่หน้าบ้าน “แม่” กอหวายเห็นรถยนต์ของมารดาจอดอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามและเห็นกำลังลงจากรถยนต์ข้ามถนนมา จึงรีบไปรับหน้าทันที “ทำไมไม่ไปทำงาน ฉันโทรฯ หาใบพลูบอกว่างานเลื่อนออกไปทำไม่เป็นเด็กแบบนี้ หนีงานมาอยู่กับ” เกื้อกูลพูดต่อว่าลูกสาว “แม่คะ เบาๆ หน่อยค่ะ” กอหวายเอาตัวบังมารดาไว้ “ทำไมเป็นเด็กแบบนี้ ทำไมหวายถึงไม่เชื่อฟัง หวายคิดจริงๆ หรือว่าจะมีความสุข” เกื้อกูลถามกอหวายที่ชำเลืองมองเข้าไปในบ้านเห็นธูปหอมกำลังเดินออกมา “หวายแค่เหนื่อยเลยหาที่เงียบๆ อยู่ แม่มาได้อย่างไรคะ” เกื้อกูลเห็นธูปหอมเดินออกมารีบเดินตรงเข้าไปหา และตบหน้าเสียงดังฉาดใหญ่ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาตกใจ แม้แต่คนขายก๋วยเตี๋ยวยังรีบเข็นรถผ่านไป “ทำไมแม่ทำแบบนี้ล่ะ” กอหวายรีบไปยืนขวางธูปหอมเอาไว้ “ทำไมเธอทำกับเพื่อนแบบนี้ ฉันขอร้องแล้วไม่ใช่หรือ เลิกยุ่งกับฉันกับครอบครัวฉันเสียที ถ้าอยากแก้แค้นทำกับฉันสิ อย่ามา ลงที่ลูกฉัน” “เกื้อพูดอะไร แก้แค้นอะไรกัน” ธูปหอมถามทั้งๆ ที่ยังจับที่แก้มเพราะเจ็บปวดจากแรงฝ่ามือของเกื้อกูล “แม่คะ ไปกันใหญ่แล้ว หวายแค่บังเอิญมาเจอน้าธูป” “บังเอิญหรือ ฉันขับรถตามมาจากห้องสมุด แล้วมันบ้านใครกันที่แกบอกว่าบังเอิญเจอกันน่ะ” เกื้อกูลพูดต่อว่าลูกสาว “เข้าไปคุยข้างในดีกว่า” “จะมาอายอะไรตอนนี้ ฉันเกลียดเธออย่าได้มายุ่งกับลูกสาวฉันอีกเข้าใจไหม หวายต้องแต่งงานกับหมอเทียน ฉันเคยเลือกทาง ที่ถูกต้องมา แล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะเลือกให้ลูกสาวด้วยเช่นกัน” เกื้อกูลบอกธูปหอม “ธูปทำผิดอะไร ทำไมถึงต้องมาตอกย้ำเรื่องผิดถูก ธูปชอบผู้หญิงและถ้าผู้หญิงคนไหนไม่ชอบ ธูปก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไร ด้วย ธูปเคยบอกเกื้อว่าเป็นความแตกต่าง ธูปรักลูกสาวเกื้อ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแม้ ไม่เคยให้แข็งกร้าวกับพ่อแม่ หวายแค่ทำตามรู้สึก ของตัวเอง ถ้าเขาเลือกที่จะแต่งงาน ธูปจะยินดีกับหลานเหมือนที่เคยบอกเกื้อ แล้วเกื้อล่ะเป็นแม่เคยถามลูกไหมว่า ตอนนี้รู้สึกอย่างไร อยากทำอะไร อยากเดินไปทางไหน เคยคิดที่จะถามเขาไหม ความถูกต้องมันสำคัญมากกว่าความรู้สึกของลูกสาวตัวเองหรืออย่างไรกัน ธูปยังคงยืนยันสิ่งที่เคยพูดกับเกื้อ ถ้าอยากให้หยุดหวายต้องเป็นคนมาบอกเอง” กอหวายนิ่งงัน เมื่อได้ยินคำพูดของธูปหอม ซึ่งกอหวายไม่รู้มาก่อนว่าเคยพูดคุยอะไรกับมารดาของตัวเอง “แกเลือกเอาระหว่างฉันกับคนที่เคยเป็นเพื่อนของฉัน” “ได้ค่ะ หวายจะไม่มาหาน้าธูปอีก แต่แม่ต้องเลิกมายุ่งวุ่นวายกับน้าธูป แม่สัญญากับหวายได้ไหม หวายจะทำทุกอย่างที่แม่ต้อง การ ถ้าสิ่งนั้นเป็นความสุขของแม่” กอหวายบอกกับมารดาที่ไม่ตอบและไม่ยอมรับ ปากตามคำขอของลูกสาว “หวายขอโทษที่หาเรื่องมาให้น้าธูปจนได้” กอหวายบอกแล้วเข้าสวมกอดธูปหอมต่อหน้าเกื้อกูลอีกครั้ง “ไปเถอะ น้าเข้าใจ ชีวิตเป็นของหวาย ถึงวันมีหลานค่อยพามาเยี่ยมยายก็ได้นะ” ธูปหอมบอกและคลายอ้อมกอดออกก่อนที่ เกื้อกูลจะเดินเข้ามา จอมทัพมองดูภรรยาและลูกสาวที่ขับรถตามกันมา เกื้อกูลท่าทางเหมือนโกรธใครมา ส่วนกอหวายคราบน้ำตายังพอมีให้เห็น จอมทัพถอนใจก่อนจะส่ายหน้า “มีอะไรกัน” จอมทัพถามลูกสาวที่ยิ้มจางๆ ให้ “หวายขอเข้าไปคุยกับแม่ก่อนนะคะ แล้วจะมาเล่าให้พ่อฟัง” “พ่อเป็นพ่อหวาย พ่อควรปกป้องหวายและทำให้หวายมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่” จอมทัพบอกกับลูกสาว “หวายทราบค่ะ แต่ทุกคนมีความคิดของตัวเอง หวายรู้ว่าแม่หวังดีกับหวาย” กอหวายบอกและรีบเดินเข้าบ้านไป โดยจอมทัพ ตามเข้าไปด้วยเช่นกัน เกื้อกูลเดินไปเดินมา เพราะโกรธที่โดนธูปหอมต่อว่าเสียยืดยาวและโกรธที่ลูกสาวไม่เชื่อฟังยังแอบไปพบกัน จนทำให้หวนนึกถึงที่ธูปหอมเคยบอกเมื่อครั้งก่อนว่า ถ้าอยากให้เรื่องจบลงคนมาบอกต้องเป็นกอหวายเท่านั้น “บ้านหลังนั้นของใคร” เกื้อกูลถามลูกสาว “ของน้าธูป ไม่ค่ะ ของเรา” กอหวายบอกทำเอาเกื้อกูลยิ่งโมโหมากขึ้น “ของเรา พูดบ้าอะไรของเธอ” “หวายแค่ไม่มีที่ไป น้าธูปให้กุญแจบ้านไว้ หวายเลยไปที่นั่นแล้วน้าธูปแค่แวะไปดูต้นไม้ หวายแค่อยากมีที่ที่ไปแล้วมีความสุข เท่านั้นเอง” กอหวายอธิบาย “เธอกำลังจะบอกว่าไม่ได้นัดแนะไปเจอกัน อมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อ กอดกันเหมือนรักกันปานจะกลืน เธอคิดหรือว่าจะมีความสุขถ้ารักกับผู้หญิงคนนั้น” เกื้อกูลถาม “หวายไม่รู้อนาคต แต่ทุกครั้งที่ได้เจอ หวายมีความสุข แม้ร้องไห้แบกความทุกข์ไปมากมายขนาดไหน น้าธูปก็ช่วยให้ยิ้มได้ทุก ครั้ง” “ทุกข์เรื่องอะไรนักหนา ฉันไม่เคยเห็นเธอมีความทุกข์อะไรเลย” “ทุกข์สิคะ ทุกข์ที่ทำให้พ่อแม่ทะเลาะกัน โดยที่หวายเป็นต้นเหตุ” คำพูดของกอหวายทำเอาเกื้อกูลหันไปมองสบตากับจอมทัพ “คุณบอกลูกหรือ” เกื้อกูลถามเสียงเข้ม “ผมไม่เอาความทุกข์ใจไปสุ่มให้ลูกหรอก” จอมทัพบอก “หวายกลับมาเอาของได้ยินที่ทะเลาะกันเมื่อเช้าค่ะ” กอหวายบอกเพราะไม่อยากให้บิดากับมารดาทะเลาะกันอีก “เลิกติดต่อกันเสีย เรื่องวุ่นวายจะได้จบ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องคนอื่น เข้าใจไหม” เกื้อกูลพูดสรุป “ทำไมเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ ทำไมไม่ถามว่าลูกต้องการอะไร” “ถามทำไมกันคะ ลูกกำลังหลงทาง แล้วไอ้ที่บอกว่ารักลูกเราน่ะ รักจริงหรือแค่หวายมันเป็นลูกฉัน เพราะคล้ายฉันหรือเปล่า” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเกื้อกูลทำเอาทั้งจอมทัพและกอหวายนิ่งงันไป “หวายมันคล้ายคุณแค่หน้าตา แล้วคนอย่างธูปไม่ได้มองคนแค่หน้าตาแน่ๆ ไม่คิดหรือว่าธูปเป็นเพื่อน คุณทำให้เขาโดดเดี่ยว เป็นคนไม่มีเพื่อน เป็นคนพูดน้อย เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว ก็เพราะขี้ปากของเพื่อนคุณที่เอาไปพูดในทางไม่ดี ขอโทษสักคำคุณก็ไม่เคยจะเอ่ยออกมา ถ้าหวายมันเป็นลูกผมคนเดียว ผมจะรีบยกให้ไปเสียเลย ถ้าได้คนอย่างธูปมาดูแล” กอหวายไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวที่บิดาพูดมากนัก แต่เรื่องอะไรที่ทำให้มารดาไม่พอใจในตัวธูปหอม แล้วทำไมถึงได้พูดว่าที่ธูป หอมมาชอบพอ กอหวายเพราะเหมือนกับตัวเอง กอหวายขมวดคิ้วจ้องมองบิดาทีมารดาที “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องขอโทษด้วย ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ยอมให้ลูกคบกับผู้หญิงคนนั้น” เกื้อกูลบอก “ความสุขของลูกควรจะอยู่เหนือทิฐิกับความคิดที่ว่า ตัวเองไม่ผิด ไม่ได้สนใจเรื่องในอดีต แต่ผมสนใจแค่เรื่องลูกเท่านั้น ถ้า อย่างนั้นขึ้นอยู่กับหวายแล้วล่ะ พ่ออยู่ข้างหวาย ไม่ว่าลูกจะเลือกทางไหน” จอมทัพบอกก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน “มีอะไรเรื่องน้าธูปที่หวายควรจะรู้ไหมคะ” กอหวายถาม “อยากรู้มากนักหรือ เขาเคยชอบฉัน ขอฉันเป็นแฟน แต่ฉันปฏิเสธเขาไปทีนี้รู้หรือยังว่าทำไมฉันถึงไม่อยากให้เธอไปคบหากับ เขา” เกื้อกูลบอกเรื่องราวในอดีต “เดี๋ยวค่ะ แม่ชอบน้าธูปหรือเปล่า” กอหวายถาม “แต่ไม่ได้ชอบมากพอที่จะคบหาเป็นคนรัก ฉันเลยเลิกเป็นเพื่อนไปตั้งแต่ตอนนั้น” เกื้อกูลบอกกับกอหวายเผื่อว่าจะทำให้เรื่อง ราวจบลงได้ “น้าธูปผิดอะไร แม่ถึงได้โกรธมากมายขนาดนี้” “ผิดที่มายุ่งกับลูกสาวฉันไงล่ะ” เกื้อกูลบอก “หวายไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ เอาเป็นว่า ถ้าครอบครัวของเราจะกลับมาดีเหมือนเดิม หวายจะทำตามแม่ทุกอย่าง เพราะหวาย ไม่อยากให้น้าธูปเจ็บปวดอีก ถ้ายิ่งหยุดได้เร็วเท่าไร น้าธูปคงหายเจ็บปวดเร็วขึ้น” ธูปหอมยิ้มให้ธามที่ส่งแก้วไวน์ให้ ขณะนั่งลงข้างๆ โดยโอบไหล่เอาไว้ การได้นั่งเงียบๆ ได้มีใครสักคนนั่งอยู่ใกล้ๆ ทำให้รู้สึกอุ่นใจปลอดภัย ซึ่งธามเป็นแบบนั้นมานานแสนนานในความรู้สึกของธูปหอม “ธูปแข็งแกร่งขึ้นมาก เพราะหนังสือหรือเปล่า” ธามถามแล้วหันมายิ้มให้ธูปหอมที่ยิ้มน้อยๆ ให้ “ไม่รู้เหมือนกัน เพราะแก่แล้วมั้ง เวลามีเหลือไม่มากนัก ธูปไม่อยากทุกข์แล้วล่ะ แล้วก็ไม่อยากทำให้คนอื่นทุกข์เพราะเราด้วย” “ควรไปบวชชีนะ เราน่ะ” ธามหัวเราะ “ไม่ล่ะ อยู่ห้องสมุดมองเห็นคนเดินเข้ามาหยิบหนังสืออ่าน ธูปก็มีความสุขแล้ว โดยเฉพาะเด็กๆ เพื่อนของหมูหวาน การทำให้ เด็กสนใจอ่านหนังสือเป็นเรื่องดีที่ผู้ใหญ่อย่างเราควรทำใช่ไหม” ธูปหอมบอก เมื่อเอ่ยถึงหมูหวานทำให้ยิ้มได้ เพราะชอบถามถึงพี่ หวายคนสวยเสมอ “แต่คนเราต้องมีใครสักคนที่บ้านนะ เวลาเหนื่อย เวลาสุข เวลาทุกข์จะได้มีคนร่วมแบ่งปันเรื่องราวในชีวิต” ธามพูดขึ้น “ก็มีอยู่นี่ไง” ธูปหอมยิ้ม ธามเอามือทาบทับไปที่ศีรษะของธูปหอมที่ยิ้มสวยๆ ให้ ภาพของกอหวายไม่เคยจางไปจากความรู้สึก ถึงแม้จะไม่ได้จับมือเพื่อใช้ชีวิตด้วยกัน แต่การได้มีคนรักและถูกรักทำให้ธูปหอมยิ้มได้ยามเมื่อนึกถึงความสดใสของนางแบบสาวที่ ชื่อ กอหวาย และแอบหวังว่าคนที่กำลังถูกนึกถึงจะมีความสุขเช่นกัน “แล้วจะไปเป็นผู้ใหญ่สู่ขอกอหวายให้หลานชายจริงๆ หรือ” “เทียนอยากให้ไปนะ” ธูปหอมบอก “ใจหินเหมือนกันนะ เราน่ะ” ธามพูดกึ่งชมกึ่งต่อว่า “หัวใจเสริมใยเหล็กจ้ะ” “แหมหมั่นไส้ เออเกรชอยากมาอยู่เมืองไทย” ธามบอก “แล้วลูกล่ะ” ธูปหอมถาม “ลูกเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนเกรชทำงานที่ไหนก็ได้” “ดีจังจะได้มีเพื่อนเพิ่ม เราต้องพาเที่ยวทั่วไทยเสียละมั้ง” ธูปหอมยิ้มๆ ให้ธามที่ยิ้มกว้างทันที “ว่างมากนะ เราน่ะ” ธามหัวเราะ ธูปหอมก็เช่นกัน กอหวายนั่งยิ้มน้อยๆ มองดูลูกมะยมที่ตัวเองหยิบใส่กระเป๋าเสื้อไว้ตอนไปที่บ้านของธูปหอม เรื่องราวที่มารดาบอกเล่าไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่มีให้ธูปหอมเปลี่ยนแปลงไป คำแนะนำกับการเป็นตัวของตัวเองช่วยเพิ่มความศรัทธามากยิ่งขึ้น ธูปหอมไม่เคยพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับมารดากอหวายเลยยังพูดให้รักเคารพและเลือกครอบครัวเสียด้วยซ้ำ “ถึงไม่ได้เจอกันอีก หวายรักน้าธูปได้ เพราะน้าธูปอนุญาต” การได้นึกถึงแล้วยิ้มได้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดสำหรับกอ หวาย เสียงเคาะประตูห้องทำให้กอหวายรีบลุกไปเปิด “พ่อจะไปเยี่ยมเพื่อนสักพัก หวายอยู่ได้นะ” จอมทัพบอกลูกสาว “เดี๋ยวแม่ก็กลับมาเหมือนเดิมค่ะ เพราะหวายสัญญาจะเป็นเด็กดีว่าง่าย แต่ไปพักผ่อนเจอเพื่อนบ้างก็ดีค่ะ เดินป่าดูกล้วยไม้ อย่างที่พ่อชอบ” กอหวายบอกกับบิดาที่ยิ้มกว้างมากขึ้น “การจะเข้าไปในชีวิตใคร แล้วไปทำให้เขาไม่มีความสุข มันเป็นบาปที่จะติดตัวเราไปตลอด การตัดสินใจบางเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวเราแต่กับครอบครัวคนอื่นอาจไม่ดีในวันข้างหน้า ถ้าคิดว่ารักใครไม่ได้อีกอย่าก้าวเข้าไปหรือตัดสินใจเรื่องแต่งงาน แม่เขาหวังดีแต่ถ้าเรื่องไหนหวายไม่มีความสุขก็ไม่จำเป็นต้องทำ เพราะเท่าที่หวายทำอยู่ทุกวันนี้พ่อมีความสุขกับการเป็นลูกที่ดีของหวายเสมอมา เรื่องแต่งงานเป็นการเริ่มต้นชีวิตแต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่มีความสุขอย่าก้าวเดินไป หยุดอยู่เฉยๆ ก็ได้ หวายเข้าใจที่พ่อบอกใช่ไหม” จอมทัพพูดสอนและเตือนกอหวายเรื่องการตัดสินใจที่คนเป็นบิดารู้ดีว่า อีกไม่นานคงเกิดขึ้น เพราะเริ่มมีการปล่อยข่าวจากฝ่ายชายและมารดาของเทียนเทพแล้ว “อาจไม่มีวันนั้นก็ได้ค่ะ พ่อขับรถไปเองหรือให้หวายขับไปส่งคะ” กอหวายถามบิดา “นั่งรถโดยสารไปดีกว่า” จอมทัพหัวเราะ กอหวายเข้าสวมกอดเอา ไว้แน่นก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน โดยกอหวายชะเง้อมอง ตามบิดาที่ลงไปนอนชั้นล่างบริเวณห้องรับแขกเหมือนเดิม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม