30 นาที ก่อนหน้า
"เฮ้ย ไอ้เชอร์ มานี่" เสียงตะโกนดังมาจากโต๊ะหนึ่งของริมห้องภายในคลับ
"เฮ้ หวัดดี เราชื่อ บอยนะ" เพื่อนในกลุ่มอีกคนทักทาย ไม่สิ กลุ่มมันมีแค่สองคนที่เห็นนั่งอยู่ที่โต๊ะต่างหาก
"อืม" เขาตอบผ่าน ๆ แค่นั้นโดยไม่ได้สนใจจะแนะนำตัวเองต่อ แต่กลับหันไปถามเพื่อนอีกคนหลังจากที่มองไปรอบ ๆ เต็มไปด้วยผู้คนมากมายด้วยสงสัย
"ไหนว่ามากันแค่คนรู้จักไงวะ"
"ก็ใช่ไง คนรู้จัก" อาร์มคนที่ถูกถามตอบมาอย่างหน้าตาเฉยพร้อมยื่นแก้วที่มีแอลกอฮอล์อยู่ครึ่งแก้วให้
"ทำไมคนเยอะงี้อ่ะ" อาเชอร์รับแก้วมาวางบนโต๊ะแบบไม่ค่อยสบอารมณ์
"เหอะ นายก็ไปเชื่อไอ้อาร์ม คนรู้จักของมันอ่ะหมายถึงทั้งห้องแหละ" กลับเป็นบอยที่เป็นคนช่วยคลายคำตอบให้พร้อมเค้นเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอ
"อ้าว ก็จริงอ่ะ มีใครในที่นี้ที่กูไม่รู้จักบ้าง"
"กูกลับก่อนดีกว่า" อาเชอร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"เดี๋ยวสิมึงจะกลับไม่ได้" อาร์มรีบดึงมือของเพื่อนเอาไว้ให้นั่งต่อ
"คนเยอะ กูไม่ชอบ"
"แต่มึงต้องอยู่ งานนี้เพื่อมึงเลยนะเว้ย เพราะทั้งห้องต้องมาปาร์ตี้ทำความรู้จักกับมึงเด็กที่ย้ายมาใหม่ของห้องเนี่ย"
"ใครขอ?" อาเชอร์ทำหน้าแบบไม่เข้าใจ
"กูนี่แหละขอ เพราะกูอยากให้มึงรู้จักเพื่อนๆ ก่อนที่จะไปเรียนจริงๆ มึงจะได้ไม่เครียด" ไม่รู้ด้วยความหวังดีหรือมันอยากกินเหล้าสนุกกันแน่แต่แอบอ้างชื่อเขา
"กูไม่เครียด มึงทำอย่างกับกูไม่เคยย้ายโรงเรียน"
ด้วยความที่เขาเป็นเด็กค่อนข้างเกเรจึงส่งผลให้ต้องย้ายโรงเรียนบ่อยตั้งแต่เด็ก และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขามีเรื่องกับเพื่อนที่ต่างประเทศจะบอกว่าเรื่องชู้สาวก็ว่าได้ จนพ่อของเขาต้องบังคับให้กลับมาเรียนต่อที่ไทย แม้ใจจริงจะไม่อยากกลับแต่พ่อของเขาขู่ว่าจะตัดหางปล่อยวัด และแม่ก็ร้องไห้ขอให้กลับเขาจึงต้องกลับมาเนี่ย
"แต่กูเครียด เพราะที่นี่เราอยู่กันแบบพี่น้อง มีอะไรเราจะต้องช่วยเหลือกัน"
"ไม่เอาพี่น้องกับใครครับ กูลูกคนเดียว!"
"แต่มึงก็ต้องเฟรนลี่หน่อยมั้ย มึงจะมาทำตัว Introvert เหมือนตอนเรียนอยู่เมืองนอกไม่ได้นะเว้ย"
แม้พวกเขาจะไม่ได้ไปเรียนด้วยกันแต่อาร์มก็รับรู้มาตลอดว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนอย่างไร ขนาดเรียนอยู่เมืองไทยก็แทบจะไม่มีเพื่อนนอกจากเขาคนเดียว พอไปเมืองนอกยังจะไปเก๊กหล่อไม่เข้าพวกอีก เวลามีปัญหาอะไรจึงไม่มีใครช่วย
แต่ถึงอย่างไรเขาก็รู้ว่าคนอย่างอาเชอร์เนี่ยไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก ถึงมันจะมีเรื่องชู้สาวบ่อยแต่มันก็เรียนเก่งระดับหนึ่งแบบไม่ต้องง้อเพื่อน แต่แม่มันน่ะสิเป็นห่วงจนต้องขอร้องให้มันกลับมาอยู่เมืองไทยจะได้ใกล้ลูกหูลูกตาแม่บ้าง และงานปาร์ตี้ครั้งนี้ก็เช่นกันแม่มันเป็นคนออกหมดและเป็นคนขอให้อาร์มช่วยโดยที่ไม่ให้บอกมัน
"แล้วไง?"
"เพราะกูหวังดีกับมึงไง กูไม่อยากให้เพื่อนรักของกูต้องโดนเพื่อนร่วมห้องนินทา"
"ก็เรื่องของเขาสิ"
"ไม่ได้ครับ กูทนฟังดูแบบนั้นไม่ได้ กูต้องเจ็บใจแทนเพื่อนแน่ ๆ เลย"
"หึ มึงนี่ตอแหลเก่งเหมือนกันนะเนี่ย"
"เปล่านะเว้ย กูพูดจริง ๆ"
"เอ่อ ๆ" สุดท้ายอาเชอร์ก็พ่ายต่อความเซ้าซี้ของเพื่อนเขายอมอยู่ต่ออีกนิดก็ได้วะ
"เฮ้ย ทุกคน หันมาทางนี้ ขอเวลาสัก 1 นาทีนะ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทุกคนทราบ วันนี้ผมจะมีเพื่อนใหม่มาแนะนำ เขาจะมาเรียนกับเราที่นี่ตั้งแต่ภาคเรียนนี้เป็นต้นไปนะ" และแล้วไม่รู้อาร์มไปเอาไมค์มาตั้งแต่ตอนไหนมาประกาศให้คนหันมาสนใจโต๊ะที่เขานั่งอยู่
"เด็กใหม่เหรอ ใครน่ะ อยากรู้จัง"
"ผู้ชายหรือผู้หญิงอ่ะ"
"ใช่ ๆ ถ้าเป็นผู้หญิงจะดีมากเลยพวกเราจะได้มีอาหารตาในการเรียนบ้าง"
"จริงมาก ทุกวันนี้ไม่มีอาหารตาเลย มีแต่ยัยเฉิ่มแว่นหนาเตอะกับยัยอ้วนปากร้ายเท่านั้น แทบจะไม่อยากมาเรียนเลย ฮ่าๆๆ"
"ไม่สิ พวกมึงลืมสาวสวยดาวของคณะได้ไง"
"เฮ้อ คนนั้นก็เบื่อแล้ว คนอะไรก็ไม่รู้ แอ๊บสวยได้ทุกสถานการณ์"
"ฮ่าๆๆๆ จริง"
เสียงเพื่อนร่วมห้องต่างลุ้นและนินทาผู้หญิงในห้องไปต่างๆ นานา อย่างตื่นเต้น
"นี่ครับเพื่อนผมเอง เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ" และแล้วอาร์มก็จัดการแนะนำเพื่อนให้ยืนขึ้น
"ว้าวเทสดีเวอร์"
"หล่ออ่ะ อย่างกับเทพเจ้า"
ไม่ใช่มีเพียงเหล่าสาว ๆ ที่เห็นใบหน้ารูปหล่อ รูปร่างสูงโปร่งแล้วกรี๊ดแต่ผู้ชายก็ไม่อาจละสายตาได้เช่นเดียวกัน คนอะไรเพอร์เฟคขนาดนั้นอย่างกับลูกรักพระเจ้า รวยไม่พอยังหล่ออีก แม้แต่รูปร่างยังดีจนสาว ๆ ต่างจินตนาการไปถึงกล้ามหน้าท้องแน่น ๆ ภายในเสื้อเชิ้ตสีดำที่บังอยู่นั้น
"มึงทำอะไรของมึงเนี่ย" อาเชอร์ดุเพื่อนที่ทำอะไรไม่บอกก่อน เขาอายนะที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ที่สำคัญคือเขาไม่ชอบให้ใครมาสนใจ
"อย่าดื้อ รีบแนะนำตัวเอง เพื่อนรออยู่" อาร์มขยิบตาเป็นนัยบอกให้เพื่อนอย่าขัดขืน
"สวัสดีครับ ผมชื่อ อาเชอร์ เรียกอาร์ก็พอครับ"
"จบแล้วเหรอ?" อาร์มถามเพื่อนรักแบบงง ๆ ไม่มีอะไรต่อจากประโยคนี้แล้วเหรอ
"อืม"
"แฮร่ พอดีเพื่อนผมเป็นคนขี้อายครับ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวเพื่อนผมด้วยนะครับ" แล้วก็ต้องเป็นอาร์มที่ต้องรับหน้าต่อ
"โธ่ เสียดายอ่ะ ทำไมไม่พูดนานกว่านี้หน่อยน้อ หน้าหล่อไม่พอ เสียงโคตรเท่เลย เสียงนี้ฉันสามารถฟังได้ทั้งวันเลยนะ" สาวอ้วนของห้องที่เหล่าผู้ชายอ้างถึงก่อนหน้านี้ทำหน้าเสียดาย
"อย่าเวอร์น่ะยัยลิล" ลลิลยังไม่ทันเพ้อเจ้ออะไรก็โดนสาวเฉิ่มของห้องดึงสติกลับมาแล้ว
"จริง ๆ แกไม่ชุ่มชื่นหัวใจบ้างเหรอมีหนุ่มหล่อมาใหม่แบบนี้อ่ะ"
"ไม่อ่ะ" มือบางใช้มือขยับขาแว่นเล็กน้อยจากนั้นก็ยกแก้วกระดกเหล้าต่ออย่างไม่สนใจใคร
"เชอะ อะไรก็ไม่มีผลต่อหัวใจแกทั้งนั้นแหละนอกจากเรื่องเรียนอ่ะ"
"ใครจะไปเหมือนแกล่ะ ให้เรื่องเรียนได้ครึ่งหนึ่งของเรื่องผู้ชายหน่อยเหอะ" คำพูดของเพื่อนทำเอาลลิลแทบสำลักแอลกอฮอล์ที่เพิ่งดื่มเข้าไป
"เหอะ ยัยเอวานี่เพื่อนลิลนะ"
"หึ ค่ะ เพื่อนฉันดีที่สุดแล้ว"
"ไม่ได้ประชดใช่ไหม"
"เปล่า ฉันพูดจริง ๆ"
"จ้า รักแกจังยัยบ้าเรียน"
"จ้า รักแกมากเช่นกันยัยบ้าผู้ชาย"
"คริ ๆ" สองสาวหัวเราะกันอย่างถูกคอและมีความสุขสุดเหวี่ยงโดยที่เอวารินทร์ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครอยู่