คาสิโน
“ทำหน้าแบบนี้มาหากูอีกละยัยเฟรนด์ยังไม่หายงอนมึงเหรอ”
“อือ...โกรธกูนานฉิบหาย”
ผมตอบไอ้ฟีนิกส์ออกไปตอนนี้ผมมาหามันที่คาสิโนจะว่ามาดูงานแทนมันก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้ไอ้ฟีนิกส์มันเดินตามความฝันของตัวเองสำเร็จคนเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ครับเป็นมาเฟียแต่เสือกอยากเป็นซุปตาร์เป็นไอดอล
“ก็มึงไม่มีเหตุผลกับเฟรนด์มันก่อนมันก็พูดยากว่ะ ปกติแม่งก็เอาแต่ใจไม่ยอมใครอยู่แล้วมาเจอมึงทำแบบนี้เข้าไปอีกแม่งโกรธยันชาติหน้าอะกูว่า”
ผมก็ได้แต่นั่งถอนหายใจฟังไอ้ฟีนิกส์มันพูดครับก็จริงอย่างที่มันว่าทุกอย่างอ่ะ ตอนนั้นผมก็โกรธเกินไปเลยไปว่าน้องมันแรงๆ ความผิดของเฟรนด์มันก็แค่เมาแล้วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ความจริงเหตุการณ์วันนั้นมันก็เป็นเหตุสุดวิสัยตอนนี้เฟรนด์แม่งโกรธคืนไงครับผมก็แค่อยากให้ความสัมพันธ์ของผมกับเฟรนด์กลับมาเป็นเหมือนเดิมถึงเฟรนด์จะเอาแต่ใจจะงี่เง่าแต่น้องไงครับพี่ชายอย่างผมก็ต้องยอม
“กูจะทำยังไงให้เฟรนด์มันหายโกรธดีวะ”
“เปย์หนักๆไปเลยอยากได้อะไรมึงก็ประเคนให้ไปดิ”
ที่ไอ้ฟีนิกส์มันพูดก็ถูกครับสายช้อปอย่างเฟรนด์ต้องเปย์แต่อย่างผมจะเปย์แบบธรรมดาไม่ได้พูดถึงเรื่องพาเฟรนด์ไปเปย์ผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องจะถามไอ้ฟีนิกส์
“มึงรู้จักไอ้เอลงเอริคนั่นไหม”
นี่แหละครับเรื่องที่ผมจะถามไอ้ฟีนิกส์มัน ปกติเวลาเฟรนด์คบกับใครพวกผมจะรู้ตลอดครับเพราะ เฟรนด์มันจะบอกแต่ไอ้เอริคคนนี้ เฟรนด์คุยกับมันตอนที่เฟรนด์กับผมไม่คุยกันไงผมเลยไม่รู้เรื่องไอ้ห่านี่เท่าไหร่
“กิ๊กยัยเฟรนด์อะเหรอ”
“แค่คนคุยไม่ใช่กิ๊ก!!”
“แล้วมึงมาเหวี่ยงใส่กูทำไมเนี้ยะ”
ผมเหวี่ยงมันเหรอวะแค่บอกว่าไอ้นั้นแค่คนคุยของเฟรนด์ไม่ใช่กิ๊กทำไมไอ้ฟีนิกส์มันว่าผมเหวี่ยงวะ
“กูเหวี่ยงมึงเหรอ”
“เออ!!..พักนี้แปลกๆนะมึง”
แปลกอะไรของมันอีกวะ
“มึงจะบอกกูได้รึยังว่าไอ้ห่านั้นเป็นใครมาจากไหน”
“เดี๋ยวนี้มีอะไรยัยเฟรนด์ไม่บอกมึงแล้วอะดิถึงได้มาถามมาสืบเอง ถูกลดความสำคัญว่างั้น”
วันนี้ผมจะรู้ไหมครับว่าไอ้ห่านั้นเป็นใครมาจากไหนไอ้ฟีนิกส์แม่งก็กวนส้นตีน
“สรุปมึงไม่รู้จัก”
“ยิ่งกว่ารู้จักอีก ไอ้เอริคมันเป็นลูกเจ้าสัววิเชียร”
“แล้ว..”
“รวย หล่อ เหี้ย ครบจบที่มัน ที่สำคัญเป็นลูกค้าคาสิโนเรา”
ทำไมเฟรนด์ไปรู้จักไอ้นี้ได้วะถึงเฟรนด์มันจะทันคนแต่ยังไงเฟรนด์มันก็เป็นผู้หญิง ไม่ได้การผมต้องทำอะไรสักอย่าง
“มึงโทรหาเฟรนด์ดิถามว่ากลับถึงบ้านรึยัง”
“ทำไมมึงไม่โทรเอง”
“ขนาดอยู่บ้านเดินสวนกันเฟรนด์แม่งยังไม่มองหน้ากูเลยมึงคิดว่ากูโทรไปแล้วเฟรนด์มันจะรับเหรอ”
ถามไม่คิดอีกแล้วครับไอ้ฟีนิกส์ถ้าเป็นเมื่อก่อนเรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงมือใครหรอกผมโทรไปแปปเดียวเฟรนด์มันก็รับแล้วแต่ตอนนี้ไม่ใช่ไง
“ทำไมวะ..เฟรนด์อยู่กับมัน”
“อือ..ก่อนมานี่กูเจอเฟรนด์ที่ห้างกับมันกูชวนกลับบ้านด้วยก็ไม่ยอมกลับ”
“ธรรมดาคนเขาคุยกันอยู่ก็ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นธรรมดา”
ธรรมดาอะไรวะเมื่อกี้ก็ได้ยินเหมือนผมใช่ไหมครับมันเองเป็นคนบอกว่าไอ้เอริคนั้นมันเหี้ยแล้วดูมันพูดดิไม่ห่วงน้องบ้างเหรอวะ
“เมื่อกี้มึงเป็นคนบอกกูเองนะว่าไอ้เอริคนั้นมันเหี้ยมึงยังจะปล่อยให้น้องไปไหนกับมันอีกเหรอวะ”
พรึบ!!!!
แปะ!!!
“ทำอะไรของมึง”
อยู่ๆ แม่งลุกขึ้นแล้วเอามือมาแตะหน้าผากผมอีกคนแล้วครับเมื่อกี้เฟรนด์ก็ทีหนึ่งละครับเป็นอะไรของมันอีกวะ
“ก็ปกติดีนี่หว่า”
“อะไรของมึง”
“กูก็นึกว่ามึงไม่สบายไงทำตัวแปลกๆ”
“แปลกยังไงวะ”
ผมถามไอ้ฟีนิกส์ออกไปหลังจากที่มันพูดกับผมแล้วมองหน้าผมแปลกๆ
“ปกติเวลายัยเฟรนด์มีแฟนหรือจะคบจะคุยกับใครเราก็ปล่อยน้องไม่ใช่เหรอวะที่ผ่านมาก็เหี้ยกันตั้งหลายคนกูไม่เห็นมึงจะเป็นแบบนี้ไม่เห็นห่วงแบบนี้”
พอไอ้ฟีนิกส์มันพูดแบบนี้ออกมาผมก็เงียบครับแล้วก็คิดตามที่มันพูดมันพูดก็ถูกครับเมื่อก่อนเฟรนด์ก็คบๆ เลิกๆ กับผู้ชายมาหลายคนแล้วทำไมตอนนี้เวลาเฟรนด์คบผู้ชายผมต้องรู้สึกห่วง รู้สึกไม่อยากให้น้องมันคบใคร
“ไอ้ลี!! มึงแปลกๆนะกูว่า”
มันพูดแล้วหรี่ตามองผมแล้วแสยะยิ้มใส่ยิ้มแบบนี้มันต้องคิดอะไรจัญไรอยู่แน่ๆครับรอยยิ้มจัญไรฉิบหาย
“แปลกอะไรกูปกติดี แล้วมึงก็อย่ามายิ้มจัญไรแบบนี้ใส่กู”
“กูอ่ะแค่ยิ้มจัญไร แต่มึงอ่ะคิดจัญไรกับน้องกับนุ่งรึเปล่าไอ้ลี”
อะไร!! พูดอะไรของมันคิดจัญไรอะไรผมเนี้ยะนะจะไปคิดอะไรแบบนั้นกับน้องผมก็แค่เป็นห่วง ย้ำครับว่าห่วงน้องมันตามวิสัยของพี่ชายไม่มีอะไรมากกว่านั้น