อีกมุมหนึ่งของร้าน
คนที่แอบตามรุ่งทิวามาตลอด นั่งหลบมุมมองดูสถานการณ์เงียบๆ ดวงตาคู่คมฉายแววเจ็บปวด มือที่กำแก้วเหล้าอยู่ กำแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าริมฝีปากของผู้ชายคนอื่น แตะลงไปบนไหล่เล็กน่าทะนุถนอมของเธอ
วายุภักษ์ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนใจเย็นมาก เขาใจเย็นกับทุกเรื่อง ใครๆก็ชมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขากลับไม่เคยชอบมันเลย อยากเป็นคนใจร้อน ไม่ก็เป็นคนใจร้ายไปเลย จะได้ไม่พลาดอะไรแบบนี้อีก
เขาเฝ้ามองมาเนินนาน เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิง ที่คนในบริษัทลงความเห็นว่าเชยที่สุด หนอนน้อยน่ารังเกียจสำหรับใครหลายๆคน ถูกวันเวลาค่อยๆเปลี่ยนให้กลายเป็นผีเสื้อ แม้ตอนนี้ลวดลายบนปีกจะยังไม่สวยงาม แต่เขาเชื่อว่าเธอจะกลายเป็นผีเสื้อปีกสวย โดยใช้เวลาอีกแค่ไม่นาน
เขาเชื่อแบบนั้น และเฝ้ารออย่างใจเย็นมาตลอด เย็นมากแม้จะรู้ว่าเธอมีแฟนไปแล้ว แต่เขารู้จักผู้ชายคนนั้นดี วชิรามีคนรักอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นไม่ได้จริงจังกับเธอ เขาเลยไม่เข้าไปแทรกกลาง รอให้วันเวลาทำให้เธอรู้ความจริงเรื่องนั้น แต่เธอก็ไม่รู้สักที จนตอนนี้คบกับวชิรามาเกือบปีแล้ว
เขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงกับความต้องการนี้ดี ถ้าใจร้อนวู่วามกว่านี้สักหน่อย เขาอาจจะได้เป็นคนแรก และเป็นคนเดียวที่ได้ครอบครองเธอก็ได้
เพี๊ยะ!
“มานี่เลย! อีแมวขโมย!”
“จีน่า! เธอมาได้ยังไง?”
ภายในร้านเกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อมีผู้หญิงสวยคนหนึ่งบุกเข้ามาตบรุ่งทิวาจนหน้าหัน เธอคนนั้นกระชากร่างของรุ่งทิวาจนลงไปกองอยู่บนพื้น ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างจ้องมองด้วยความตกใจ
คนที่รู้สึกงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้น โดยใช้ฝ่ามือปัดป้องฝ่ามือผู้หญิงคนนั้นออกไป ส่วนผู้ชายที่เคยนั่งอยู่กับรุ่งทิวา พยายามดึงตัวภรรยาของตัวเองออกห่าง
เพี๊ยะ!
“ไหนบอกว่าแต่งงานแล้วจะเลิกมั่วไง ไอ้ระยำเอ้ย!”
ยกมือขึ้นฟาดลงบนแก้มของสามีสุดแรง หลังจากเขาพยายามดึงเธอออกจากการทำร้ายยัยผู้หน้าโง่ ที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างเขากับเธอ ดวงตาของเธอวาวโรจน์พอๆกับคนที่ถูกตบ วชิราพ่นน้ำลายผสมเลือดลงพื้น หัวเราะเสียงดังจนรุ่งทิวาเงยขึ้นไปมอง
“ฮ่าๆ ผู้หญิง นี่แม่ง!! น่าเบื่อทุกคนจริงๆ! ”
พูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งผู้หญิงสองคนไว้ ท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของไทยมุง จีนามองตามแผ่นหลังของสามี ที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงสามเดือนด้วยความโกรธ
สวะ ! แม่งก็เป็นได้เพียงสวะอยู่วันยันค่ำ เธอไม่น่าแต่งงานกับไอ้ระยำนี่เลย
“…ขอโทษค่ะ… ฉันไม่รู้ ว่าเขาแต่งงานแล้ว”
รุ่งทิวาพูดจบ ก็กัดริมฝีปากลงแรงๆ จนเลือดไหลซึมออกมาจากแผล เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย รู้เพียงแค่ชื่อและสถานที่ทำงานเท่านั้น เธอไม่ใช่คนจู้จี้จุกจิกเลยไม่เคยถามอะไร จะบอกว่าเข้าใจและเชื่อใจก็คงใช่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาแต่งงาน ถ้าหากรู้ เธอจะเลิกกับเขาทันที
“เหอะ! ดูจากสภาพแล้ว คงไม่รู้จริงๆนั่นแหละ”
จีน่าไม่รู้จะสงสารตัวเอง หรือผู้หญิงที่เพิ่งจะตบไปดี ท่าทางซื่อๆแบบนั้น คงโดนไอ้นั้นหลอกฟันนะสิ แม่ง! น่าจะตบมากกว่านี้ ตบไปทีเดียวเอง โคตรหงุดหงิดเลย
“คุณกับเขาแต่งงานกันนานแล้วเหรอคะ”
อยากรู้ว่าตัวเองทำผิดตั้งแต่ตอนไหน เงยใบหน้าสำนึกผิดขึ้นไปมอง จีน่าก้มมองก่อนจะเดินไปใกล้ ยื่นมือไปให้จับ รุ่งทิวามองมือที่ยื่นมาอย่างชั่งใจ ตัดสินใจใช้มือนั้นช่วยพยุงตัวลุกขึ้น รอบตัวกลับเป็นปกติทันที เมื่อเห็นว่าเมียหลวงจับมือกับเมียน้อย
“สามเดือน แล้วเธอ โดนมันหลอกมานานแค่ไหนแล้ว?”
“ฉันรู้จักกับเขา และคบหากันมาเกือบปีแล้วค่ะ”
“ฮ่าๆ ฉันสินะที่เป็นมือที่สาม แต่ดันได้แต่งงาน แม่ง! เหี้ยจริง!”
คดีพลิกมาลงที่ตัวเองแล้วพาลให้โกรธหนัก เธอรู้จักกับวชิราได้เพียงแค่หกเดือน ตกลงแต่งงานอยู่กินกันมาได้สามเดือนแล้ว ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาคุยกับผู้หญิงคนนี้ ก็เคยสงสัยแหละ แต่เพิ่งจะสืบเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน หลอกเขาว่าจะไปต่างประเทศ และโผล่มาวีนแตกนี่แหละ
“เธอจะเอาไหม? ฉันไม่เอานะ ไม่ชอบ”
เพราะเขาบอกว่าจะเลิกเจ้าชู้นั่นแหละ ถึงยอมตกลงแต่งงานด้วย เขาพิสูจน์ตัวเองให้เห็นมาตลอดสามเดือน เลยตกลงแต่งงานกัน แต่พอมารู้ว่าแม่งตอแหลเก่งสุดๆ เธอเลยไม่เอา ขี้เกียจตามวีนแล้วอะ มันดูไร้ค่ามาก
“ฉันก็พอแล้วเหมือนกันค่ะ ขอโทษนะคะ”
พูดจบก็ก้มหน้าลง หยิบกระเป๋าตัวเองลุกขึ้นเดินออกไปเงียบๆ รุ่งทิวาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังรู้สึกยังไง จะว่าเสียใจที่ถูกหลอกก็เสียใจ แต่ไม่ได้มากมายขนาดนั้น แต่โกรธมากกว่า โกรธตัวเองที่โง่ไม่ทันคนจนโดนเขาหลอก ซ้ำยังยาวนานกว่าสามเดือน หรือบางทีอาจจะตั้งแต่แรก
ปี๊บ ปิ๊บ!
รุ่งทิวาหันไปมองรถยนต์ยี่ห้อหรูสีดำเงา ที่บีบแตรตามหลังมา เมื่อกระจกรถเลื่อนลงต่ำ ก็พบว่าด้านในนั้นเป็นเจ้านายของเธอ ใบหน้าสุขุมนุ่มลึกที่เธอไม่เคยคาดเดาอารมณ์ได้ วันนี้ฉายแววความไม่พอใจชัดเจน คิ้วหนาขมวดมุ่นเข้าหากัน ดวงตารีจนดูน่ากลัว ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง
“ท่านมีธุระกับรุ้งเหรอคะ?”
ไม่รู้ว่าเจ้านายมาได้ยังไง แต่การเจอกันในเวลาแบบนี้ มันพาลให้รู้สึกอับอาย ใบหน้าเธอคงไม่น่าดูเท่าไหร่ แม้บริเวณที่ยืนอยู่จะมืดพอ แต่ก็แอบกลัว ว่าเจ้านายจะเห็นรอยถูกตบบนใบหน้า
“ขึ้นรถครับ”
“คะ?”
“ผมบอกให้ขึ้นรถ!”
รุ่งทิวาถอยหลังมากกว่าจะทำตาม ส่งผลให้คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย เปิดประตูรถออก ลงจากรถเดินเข้าไปใกล้ ถือวิสาสะคว้าข้อมือเล็กไปจับ ออกแรงบังคับจนเธอขึ้นมานั่งอยู่บนรถได้สำเร็จ
“อย่าลงมาเชียว”
น้ำเสียงดุดันทำให้ไม่กล้าขยับตัว รุ่งทิวานั่งตัวลีบ รีบเอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด เมื่อเห็นว่าเจ้านายตามกลับมานั่งประจำที่คนขับแล้ว วายุภักษ์ปรายตามองนิดๆ ขับเคลื่อนรถออกไปช้าๆ ก่อนจะขับเร็วขึ้น เมื่อขับมาอยู่ในเลนปกติเรียบร้อย
“ท่านจะพาดิฉันไปไหนคะ?”
“ผมจะไปส่งคุณ บอกที่อยู่มา”
รุ่งทิวาไม่อยากทำตัวดื้อรั้น เพราะคนข้างๆคือเจ้านาย เธอบอกที่อยู่ของตัวเองไป เป็นห้องเช่าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัท แต่เจ้านายต้องหาทางวนรถกลับ เพราะมันอยู่คนละฝากกับที่รถวิ่งอยู่ตอนนี้
วายุภักษ์ปรายตามองคนที่เริ่มกระสับกระส่าย ใบหน้าสวยผุดพรายไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทั้งที่แอร์ในรถเย็นฉ่ำจนเกือบหนาว มือเรียวสวยกอบกุบกันไว้แน่น
รุ่งทิวากำลังอดทนต่อความรู้สึกบางอย่าง ที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง และรู้สึกถึงมันชัดเจนที่สุด บริเวณท้องน้อยและจุดอ่อนไหวกลางกายสาว เธอกำลังมีความต้องการทางเพศ ไม่รู้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงให้มันมอดดับลง
“ร้อนเหรอ?”
ถามในขณะที่เอื้อมมือไปปรับเร่งแอร์เพิ่ม เขารู้สึกหนาวแล้วนะ แอร์ระดับนี้ทำให้ขนลุกได้เชียวล่ะ แต่ปรับมาสักพักแล้ว คนข้างๆก็ยังร้อนอยู่ เหงื่อยังไหลออกมาไม่หยุดจนดูไม่ปกติ
“คุณเป็นอะไรไหมคุณรุ้ง?”
จอดรถลงหน้าตึกที่เธอบอกชื่อพอดี เอื้อมมือหวังจะเขย่าไหล่เล็กที่นั่งนิ่งเหมือนไร้สติ ใบหน้าชื้นเหงื่อหันมามอง น้ำตาคลอหน่วยเหมือนจะกลิ้งหล่นได้ทุกเมื่อ
เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?