“แก ยายยาหยีแกถึงไหนแล้วนี่ฉันกับเพื่อนๆ รอในร้านละนะแก” เสียงเจื้อยแจ้วของอนงค์นางคุณครูสาวเพื่อนคนสนิทของยาหยีสอบถามเพื่อน
"เออๆ ฉันถึงแล้วเนี่ย กำลังจะเลี้ยวเข้าร้านเนี่ยเห็นที่จอดแล้ว แป๊บนะแก เฮ้ย!! แกมีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้วะ ขับรถกระบะมาจอดตัดหน้าฉันไปต่อหน้าต่อตาเลยวะ เซ็งเลยเนี่ย เออๆ เดี๋ยววนใหม่"ยาหยีพูดบ่นให้เพื่อนฟัง
“เออน่าแกใจเย็นๆ แกเอามินิแกมาหรือเปล่าหรือขับกระบะกระป๋องของพี่โตมา” อนงค์นางถามและพูดเตือนสติเพื่อน
"เปล่าๆ วันนี้เอารถฉันมา วันนี้ฉันบอกพ่อว่าจะมานอนบ้านริมน้ำ ยังไม่ได้เข้าไปบ้านใหญ่เลย นี่ก็แอบออกมาเจอพวกแกนะเนี่ย เพราะถ้าบอกพ่อก็คงให้พี่โตหรือสมุนพี่โตตามมาคุมฉัน ว่าแต่ฉันอยู่ดึกสุดได้แค่สี่ทุ่มนะเพราะว่าเดี๋ยวตอนห้าทุ่มน้าใบกับน้าสีแกมากรีดยางสวนข้างบ้านริมน้ำถ้าแกไม่เห็นรถฉันจอดอยู่แกต้องโทรฟ้องพี่โตแน่ๆ เลย"ยาหยีบอกเพื่อนถึงข้อจำกัดของตนเอง
“เออๆ ตามนั้นจ๋าแม่คุณนาย พี่ชายแกน่ะน่าจะเลิกตามคุมแกได้แล้วเนอะ มีเมียให้คอยดูแลสวยออกขนาดนั้นยังจะมีเวลามาจิกแกอีกเนอะ” อนงค์นางแอบนินทาพี่ชายยาหยี
"เออสิฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ" ยาหยีเองก็สนับสนุนความคิดของเพื่อน
“ฉันยังคิดเลยว่าถ้าพี่โตไม่ไปเรียนต่อนะแก ไม่มีทางได้เสียใจเพราะไอ้พี่วินหรอก แกว่าปะ!!” อนงค์นางพูดน้ำเสียงแอบเสียดายช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ยาหยีเงียบเสียงลง ส่วนแตนเองก็เงียบไปชั่วครู่เช่นกัน
“เฮ้ยแก คือฉันขอโทษฉันพูดไม่ทันคิดวะขอโทษแก ขอโทษอย่าโกรธฉันนะ” อนงค์นางรีบพูดขอโทษที่เผลอไปสะกิดแผลในใจเพื่อนเข้าให้
"เออ ๆ ไม่เป็นไร ฉันโอเคละ นี้จอดรถแล้ว แค่นี้แหละกำลังเดินไปหานะ"ยาหยีพูด
“เออ จ๋าๆ งั้นเดี๋ยวฉันสั่งเครื่องดื่ม เบาๆ เมาๆนิดๆ ให้แกนะ เอาอย่างแกชอบไว้รอน่า” อนงค์นางพูดเอาใจเพื่อน
"จ้า ว่าแต่แกเอาของฝากมาให้ฉันหรือเปล่า ฉันอยากกิน" ยาหยีถามเพื่อน
“เอามา พ่อฉันจัดให้แกเป็นพิเศษ แหมนังคุณนาย ไปเป็นสาวกรุงเทพมาทั้งนานยังจะชอบกินแบบเดิมอยู่อีกเนอะแก” อนงค์นางแอบเหน็บเพื่อนเบาๆ
"เออ ฉันถึงละ โต๊ะไหนล่ะแตน" ยาหยีโทรถามถามเพื่อน
“ด้านในสุดเลย มีสองโต๊ะของเราโต๊ะมุมขวานะ” อนงค์นางบอกเพื่อน
"เออเห็นแล้ว" ยาหยีรับคำและเดินไปด้านใน
ยาหยีวางสายแล้วเดินเข้าไปทักทายเพื่อนๆที่โต๊ะ มีมะปรางเป็นสาธารณสุขทำงานอยู่อนามัยแถวบ้าน แตนเป็นคุณครู เพื่อนผู้ชายอีก 2คน ชื่อ นราธร เป็นผู้หมวด ปิยพงษ์ เป็นลูกชายเจ้าของตลาดสดและตึกแถวให้เช่า
"อ้าวไหนบอกว่า เพชรจะมาด้วย" ยาหยีถามขึ้นเมื่อไม่เห็นเพื่อนอีกคน
“รายนั้นมาอยู่แล้ว พอเราบอกว่าหยีมานะมันบอกมันตามมาเลย ตอนแรกบอกงานเยอะต้องเตรียมตัวไปว่าความให้ลูกความมันที่หาดใหญ่เดี๋ยวคงจะรีบตามมา" นราธรกล่าว
"อ๋อๆ จ๊ะ" ยาหยี ยิ้มๆ
“มาๆ หยีมานั่งใกล้ฉันมา” แตนเรียกเพื่อน
ยาหยีนั่งลงใกล้ๆเพื่อนสายตาก็มองไปรอบ ๆร้านอย่างสำรวจบรรยากาศทั่วไป พลันก็สะดุดตากับผู้ชายโต๊ะข้างๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นคนรู้จักแต่แสงไฟในร้านเหล้ามันมืดสลัวๆ เลยมองเห็นไม่ค่อยชัดเจน ยาหยีจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรประกอบกับเพชรเพื่อนในกลุ่มอีกคนมาถึงพอดีและได้ร้องทักยาหยีมาแต่ไกล
"หยีเพชรคิดถึงมากเลย ไม่ได้เจอหยีตั้งนานมาถึงนานยังครับ" เพชรพูดทักทายยาหยี
"แหมไอ้นี่ พวกกูนั่งกันอยู่ตั้งหลายชีวิต จิตใจมึงไม่คิดจะทักทายพวกกูบ้างเลยเหรอครับทักหยีคนเดียวเลย" ปิยพงษ์พูดขึ้น
“ก็เออ กูก็ทักหยีเขาก่อนก็เขาเพิ่งตัดสินใจจะกลับมาอยู่บ้านเราแบบถาวรไม่เหมือนพวกมึงลูกหม้อเจ้าถิ่นอยู่แล้ว" เพชรเถียงแบบแก้เขิน
ทุกคนในโต๊ะพร้อมใจกันเออพร้อมกันระอากับการแถไปเรื่อยของเพชร
"เออว่าแต่หยีเถอะ มาคราวนี้ตั้งใจมาอยู่บ้านตลอดจริงหรือเปล่า" นราธรถามขึ้น
"หยีคงอยู่เลย แต่ก็ยังไม่ได้หยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นี้ก็ช่วยพี่โตทำบัญชีหยียังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่แต่ก็บ้านเราอะนะ อยู่แล้วสบายใจแต่ไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวกหรอกพี่โตคุมหยีแจเลย นี่คืนนี้ก็แอบมานะอยู่ดึกไม่ได้" ยาหยีบอกเพื่อนๆ
"เครื่องดื่มมาแล้ว" มะปรางพูดขึ้น แก้วนี้ของหยีนะ
"ขอบใจจ้ะ ว่าแต่มะปรางเถอะเมื่อไหร่จะแต่งงานเห็นคบกับพี่ต้นมานานมากแล้วนะ"ยาหยีถามขึ้น
"พี่ต้นยังอยู่นราธิวาสอยู่เลยหยี รอให้พี่เขาได้ย้ายมารับราชการแถวบ้านเราก่อน บอกตรง ๆมันเป็นทุกข์นะเวลาเขาออกไปลาดตระเวนเราไม่เคยได้หลับตานอนแบบหลับสนิทเลยสักวันเรากลัวเขาไม่ได้กลับมา เรื่องแต่งยังไม่คิดเลยหยี" มะปรางเล่าเพื่อนยาหยีพยักหน้ารับทราบอย่างเข้าใจพร้อมกับยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่ม ยาหยีนึกขึ้นได้ว่ามีของฝากที่พ่อของแตนฝากมาให้
“แตนของฝากฉันละ” ยาหยีถาม
"เออนี่ๆ เอาไป" แตนส่งกระบอกน้ำตาลหวานให้ยาหยี
ยาหยีรับมา พร้อมกับเปิดจุกระบอกไม้ไผ่แล้วยกขึ้นกระดกดื่มเลย
“อือ เอ๊ะๆ " ยาหยีสำลักเพราะรสชาติน้ำตาลหวานที่คิดไว้มันเปลี่ยนไปจากเดิม แทนที่มันจะหวานกลับออกเปรี้ยวๆ ตอนดื่มเข้าไปก็ร้อนลงไปเป็นทางเลย
"แตนทำไมวันนี้น้ำตาลมันรสชาติแปลกๆไปจากเดิม เหมือนมันบูดเลยนะแตนว่าไหม" ยาหยีพูดพร้อมกับส่งกระบอกไม้ไผ่ให้แตนดู
"ไหนฉันดูหน่อย แกฉันว่าฉันหยิบมาผิดว่ะ คือกระบอกนี้พ่อฉันใส่ไม้เคี่ยมแล้ว ดองให้มันเป็นน้ำหวากแล้ว พ่อคงเตรียมไว้กินกับคนงานนั่นแหละ” อนงค์นางพูด
"ตายแล้วว่าแต่แกดื่มเข้าไปเยอะแล้วยัง " แตนพูดด้วยความตกใจ
“ก็พอสมควร ฉันว่าไม่เป็นไรหรอกร้อนๆ เลือดสูบฉีดดีออก” ยาหยีกล่าวและลองดื่มต่ออีกหน่อย
"มาๆหยี เพชรขอลองดูบ้าง ได้ยินมานานแล้วน้ำหวากนี่เมาจริง แต่จะแน่แค่ไหนเชียว" เพชรรีบพูดขึ้นและรับไปดื่มบ้าง
หลังจากนั้นทุกคนก็ชวนกันพูดคุยเรื่องต่างๆ อย่างสนุกสนาน และนั่งดื่มกันไปพอสมควรจนยาหยีเริ่มหน้าตึงๆ ร้อนๆ เวียนหัวตาลาย และตอนนี้เวลาก็ใกล้ 4ทุ่มแล้วยาหยีจึงบอกมะปรางว่าอยากเข้าห้องน้ำและถึงเวลาจะต้องขอตัวกลับแล้ว
“มะปรางหยีว่าหยีเมา มันเวียนหัวหมุนๆนะมะปราง" ยาหยีพูดขึ้นตอนพยุงตัวออกจากห้องน้ำพยายามประคองตัวเองมาที่โต๊ะสำเร็จ
"เฮ้ยหยีเป็นอะไร..." เพื่อนๆพากันตกใจ เพราะเห็นอาการของยาหยีไม่ค่อยดี
หยีว่าหยีเมาน้ำหวากของพ่อแตนแล้วล่ะ ก่อนยาหยีจะพูดจบทุกคนก็ต้องตกใจเพราะเพชรได้ลงไปกองนอนกับพื้นเรียบร้อยแล้วทุกคนหยุดคิดและลงความเห็นว่าเมาน้ำหวากแน่นอน
“หยีว่าหยีไม่โอเคแล้วล่ะ หยี....” แล้วสติของยาหยีก็ดับวูบลงไป ฉับพลันนั้นก็ได้มีมือมาเกี่ยวเอวสวยไว้ทัน
"อ้าว พี่นายหัวพลนี่เอง ดื่มด้วยเหรอคะมานานหรือยังคะ" แตนร้องทักนายหัวพลวัตรขึ้น
“มานานแล้วครับว่าจะกลับแล้ว แล้วนี่มีอะไรกันหรือเปล่าครับสงสัยจะดื่มกันหนักเลยพับไปสองแล้ว"
พลวัตพูดพร้อมกับมองหน้าสวยของคนในอ้อมแขน
"อ๋อ หยีกับไอ้เพชรมันเมาน้ำหวากครับ" นราธรนายตำรวจหนุ่มพูดขึ้น
"งั้นจะเอายังไงต่อดีครับให้ผมช่วยอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมไปส่งหยีเองก็ได้นะครับ บ้านไอ้โตผมเข้านอกออกในสบายมากครับ" พลวัตรถามพร้อมทั้งเสนอตัวพายาหยีไปส่งบ้านเอง
ทุกคนเงียบครุ่นคิดว่าจะให้ยาหยีไปกับนายหัวพลวัตรดีไหม แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่านายหัวโตมรกับนายหัวพลวัตรเป็นเพื่อนซี้กันคงไม่มีปัญหาอะไร
"งั้นเอาอย่างนี้ครับผมไปส่งไอ้เพชรเอง" นราธรกล่าว
"งั้นผมไปส่งแตนกับมะปราง" ปิยพงษ์กล่าว
เป็นอันตกลงว่าพลวัตรจะไปส่งยาหยีเอง เมื่อแยกย้ายกันแล้ว พลวัตรก็โทรตามลูกน้องคนสนิทให้มาขับรถจ๊อบเปอร์กลับบ้าน เมื่อโทรบอกลูกน้องเสร็จพลวัตรก็อุ้มยาหยีโดยมีแตนถือกระเป๋าไปส่งที่รถมินิคูเปอร์คันสวยของยาหยี