ติณ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานดังขึ้นตามมารยาท
“เชิญ” ผมส่งเสียงบอกให้คนข้างนอกรู้ ก่อนเสียงประตูจะเปิดเข้ามาพร้อมกับเลขาวัยยี่สิบปลายๆที่กำลังตั้งท้องหอบแฟ้มเข้ามา
“นี่เป็นประวัติของคนมาสมัครเป็นเลขาทั้งหมดค่ะ” ดาวเดือนบอกพร้อมกับวางแฟ้มบนโต๊ะ เธอเป็นเลขาของผมที่เข้ามาทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆแต่ความสามารถของเธอทำให้ผมเลือกเด็กจบใหม่อย่างเธอมาทำงานด้วย
“ครับ แล้วน้องคุณมาด้วยหรือเปล่า” ผมถามกลับไป ไม่ใช่ว่าจะรับเลยหรอกแต่เห็นดาวเดือนฝากฝังไว้แล้วผมก็จะช่วยพิจารณาเป็นพิเศษ
“มาค่ะ ทำทุกอย่างตามขั้นตอนเรียบร้อย นางสาวแพรวา บุญธรรมรงค์” ดาวเดือนแจ้งพร้อมกับบอกชื่อของคนรู้จัก
“เดี๋ยวผมดูให้แล้วกัน แต่ถ้าเค้าทำข้อสอบไม่ผ่านผมก็คงรับไม่ได้” ผมบอกให้เธอรู้ก่อน
“ดิฉันทราบค่ะ งั้นขอตัวนะคะ” ดาวเดือนบอกด้วยรอยยิ้ม เพราะเธอรู้ว่าผมจริงจังกับงานแค่ไหน จะไม่ยอมรับคนไม่ได้เรื่องเด็ดขาดต่อให้คนที่ใกล้ชิดผมที่สุดฝากฝังก็เถอะ ผมพยักหน้าให้เธอก่อนจะก้มหน้าทำงานที่ค้างอีกนิดหน่อย
ขอแนะนำตัวก่อน ผมติณ ติณณภพ ตอนนี้อายุ 30 ปี นิสัยผมหรอผมรู้ว่าเวลาทำงานผมจะจริงจัง สุขุม นิ่งๆ เด็ดขาด แต่เวลาปกติผมก็เหมือนคนทั่วไปมีสังสรรค์บ้าง และจริงๆแล้วผมเป็นคนอบอุ่นคนหนึ่งกับคนรักเลยแหละ แต่หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมคงไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
ผมเป็นลูกชายคนโตของบ้าน เข้ามารับช่วงต่อจากพ่อตั้งแต่เรียนจบ ผมต้องดูแลธุรกิจหลายแห่งทั่วทั้งประเทศของครอบครัวด้วยตัวเอง ถึงจะมีเหนื่อยบ้างแต่ก็ไม่อยากกวนให้พ่อมาช่วยอยากให้ท่านได้พักผ่อน ท่านทำมาทั้งชีวิตแล้ว ส่วนน้องชายตอนนี้ก็ยังหวังพึ่งอะไรมันไม่ได้ อยากขอทำงานที่ตัวเองรักก่อนสักสองสามปีแล้วจะเข้ามาช่วยจริงจัง แต่ก็ดีที่มันยังเข้ามาเรียนรู้งานบ้าง
หลังจากเคลียร์งานเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกมาก ผมเลยใช้เวลานี้หยิบแฟ้มประวัติของคนที่สมัครเป็นเลขาวันนี้มาดู จะได้รีบเลือกมาสัมภาษณ์รีบเรียนงานให้เป็น เพราะอีกไม่นานดาวเดือนก็ต้องออกแล้ว
ผมใช้เวลาพอสมควรในการดูประวัติพร้อมกับผลการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ที่แนบมาของแต่ละคน วันนี้มีคนมาสมัครเยอะเหมือนกัน ก็อย่างว่าบริษัทขนาดใหญ่แบบนี้เป็นที่ต้องการของคนอยากทำงานอยู่แล้ว
แต่เท่าที่ผมดูส่วนมากหน้าตาดีเหมาะกับการเคียงคู่ออกพบลูกค้าเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ประธานอย่างผม แต่พอดูผลการสอบแล้ว บางคนทำข้อเขียนได้ดีแต่สัมภาษณ์ไม่ผ่าน บางคนทำข้อเขียนไม่ได้เรื่อง แต่สัมภาษณ์ดี แต่บางคนหน้าตาดีอย่างเดียวแต่ผลสอบทั้งสองไม่ได้เรื่อง ไม่รู้ว่าฝ่ายบุคคลใช้เกณฑ์อะไรเลือกเอาประวัติคนพวกนี้มาให้ผมดูให้เสียเวลา
“ลิน” ผมหยิบแฟ้มหนึ่งในสามอันสุดท้ายมาเปิดดูก่อนจะต้องตกใจกับรูปที่ติดมาในประวัติ และไม่ลืมที่จะมองไปที่ชื่อของคนๆนั้น
“แพรวา บุญธรรมรงค์” นี่มันคนรู้จักของดาวเดือนเลขาผมนี่ ผมนั่งไล่อ่านประวัติของผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งคะแนนข้อเขียนและสัมภาษณ์อยู่ในเกณฑ์ดีมาก อีกทั้งจบบริหารมาโดยตรง แต่ประเด็นคือมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ผมรู้จักเลย มันจะเป็นไปได้ยังไง
“คุณดาว เข้ามาพบผมหน่อย” ไม่รอช้าผมต่อสายหาดาวเดือนหน้าห้องทันที อย่างน้อยเธอก็หน้าจะรู้จักผู้หญิงคนนี้ดีพอสมควรถึงกล้ามาฝากงานกับผม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูตามมารยาทดังขึ้นก่อนจะเปิดออกพร้อมกับร่างหญิงตั้งครรค์เดินเข้ามาด้านใน
“คุณติณมีอะไรคะ” ดาวเดือนถามออกมา
“คุณจัดการนัดแพรวา มาให้ผมสัมภาษณ์พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าที่นี่ด้วยนะ” ผมบอกเธอออกไป
“ได้ค่ะ” ดาวเดือนยิ้มรับด้วยความดีใจ
“ว่าแต่ คุณกับแพรวานี่รู้จักกันมานานหรือยัง”
“รู้จักมานานแล้วค่ะ ดาวเคยเห็นแพรมาตั้งแต่แกเด็กๆแล้วค่ะ”
“ผมไม่มีอะไรแล้ว อย่าลืมเรื่องที่ผมสั่งแล้วกัน” ผมบอกดาวเดือนออกไป ก่อนเธอจะก้มห้วแล้วเดินออกจากห้องไป
“รู้จักตั้งแต่เด็กๆแล้วงั้นหรอ” แบบนี้มันก็ไม่ใช่อย่างที่ผมคิดสิ เพราะผู้หญิงที่ผมรักเธอพึ่งจากไปเกือบสองปีที่แล้วนี่เอง แต่ทำไม...
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านนี้ออกไปก่อนจะเก็บของออกไปพบลูกค้าด้านนอก มันคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่ผมคิดไปเองเท่านั้น