บทที่8

1205 คำ
“เจ้าหญิงครับ บางทีเหตุการณ์ที่รออยู่ข้างหน้า อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าหญิงคิดก็ได้นะครับ” “จะให้เราคิดได้ยังไง หกเดือนที่ผ่านมา ผู้พันไม่ติดต่อหาเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว” “ผู้พันอาจไม่ว่างก็ได้ครับ” คนที่ถูกยกฐานะให้เป็นคู่หมั้นกำมะลอ พยายามทำหน้าที่เป็นทนายหน้าหอ เอ่ยแก้ต่างให้กับผู้พันฮาคิม ทว่า...เจ้าหญิงไลอาด์ไม่ได้คิดเช่นนั้นแม้แต่นิดเดียว “หากผู้พันยังรักฉันอยู่ หากผู้พันไม่มีหญิงอื่น เขาต้องมีเวลาให้คนรักบ้าง แค่หนึ่งหรือสองนาที ในการโทร.หา สอบถามสารทุกข์สุกดิบ มันไม่ได้ทำให้เขาเสียเวลามากมาย แต่นี่...เขาไม่โทร.หาฉันเลย” ธาซิมลอบถอนหายใจ สงสารเจ้าหญิงไลอาด์ที่ยึดมั่นอยู่ในความรัก ขณะเดียวกันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้พันฮาคิม อีกฝ่ายถึงไม่ยอมติดต่อหาเจ้าหญิงเลย “อีกไม่ถึงชั่วโมง เจ้าหญิงก็คงได้คำตอบในเรื่องนี้แล้วครับ” สิ่งที่องครักษ์ผู้นี้ทำได้คือการเอ่ยปลอบใจให้เจ้าหญิงไลอาด์คลายความเจ็บปวดลงไปบ้าง “ใช่! อีกไม่กี่ชั่วโมง ฉันจะได้เห็นหน้าผู้ชายใจโลเลแล้ว” ดวงตาคู่สวยไหววาบ น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้น เผยให้เห็นความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้น ที่เจ้าหญิงไลอาด์ได้มอบให้กับผู้พันหนุ่ม “เจ้าหญิงพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับผู้พันแล้วใช่ไหมครับ” “ไม่” เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ส่ายหน้าปฏิเสธ เข้าใจในความหมายที่ธาซิมเอ่ยถามมา “ฉันไม่พร้อมสำหรับการเผชิญกับความเจ็บปวดที่กำลังจะถาโถมเข้าหาอีกครั้ง แต่ฉันก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะผู้พันได้ยัดเหยียดความเจ็บปวดเหล่านี้ให้ฉันมานานแล้ว” “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าหญิงต้องเข้มแข็งนะครับ ผมจะคอยอยู่ข้างๆ เจ้าหญิงตลอดเวลา” ธาซิมเอ่ยให้กำลังใจอีกครั้ง ใบหน้างามติดหมองเศร้าพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะสั่งกำชับคู่หมั้นกำมะลอว่า “อย่าลืมที่เราซักซ้อมกันไว้นะ ธาซิม ทันทีที่เห็นและอยู่ต่อหน้าผู้พัน ธาซิมต้องเล่นละครตบตาว่าเป็นคู่หมั้นของฉัน และแสดงให้เห็นว่าธาซิมรักฉันมากๆ ด้วย” “ไม่ลืมแน่นอนครับ ผมจะทำตามที่เจ้าหญิงสั่งทุกอย่างครับ” ธาซิมรับคำเสียงหนักแน่น แอบหวาดหวั่นอยู่บ้าง ที่ต้องมาเล่นบทเป็นคู่รัก เป็นคู่หมั้นของเจ้าหญิงไลอาด์ เพราะเขาไม่รู้ว่าผู้พันฮาคิมจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเรื่องนี้ “ดีมาก ธาซิม” “เพื่อเจ้าหญิง ผมสามารถทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งตายแทนเจ้าหญิงก็ได้ครับ” คำพูดของธาซิมเป็นดั่งคำสัตย์สาบานที่ให้ไว้กับผู้เป็นนายหญิงของตน เจ้าหญิงไลอาด์คลี่ยิ้มบางๆ พึงพอใจกับคำตอบรับจากธาซิม อีกไม่ถึงชั่วโมง ก็จะได้รู้แล้วว่า ขณะเผชิญหน้ากัน ระหว่างเธอกับผู้พันฮาคิม ใครจะเจ็บปวดมากกว่ากัน และก่อนเจ้าหญิงไลอาด์กับคู่หมั้นกำมะลอ จะร่วมกันวางแผนไปมากกว่านี้ กัปตันเครื่องบินก็ประกาศให้ทราบว่ากำลังจะนำเครื่องบินลงจอดภายในสามสิบนาทีข้างหน้านี้ พร้อมกับประกาศให้ผู้โดยสารนั่งอยู่กับที่นั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย “เจ้าหญิงคาดเข็มขัดด้วยนะครับ” ธาซิมเอ่ยเตือน เพราะเจ้าหญิงไลอาด์ตื่นเต้นมาก หลังจากได้ยินเสียงประกาศจากกัปตัน กระทั่งลืมดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดรอบเอว เจ้าหญิงไลอาด์รีบทำตามคำเตือนขององครักษ์หนุ่ม พลางเอ่ยบอกว่า “กัปตันกำลังจะนำเครื่องลงจอดแล้ว ธาซิม” แม้พยายามบังคับน้ำเสียงให้ฟังดูเป็นปกติ แต่กระนั้นธาซิมก็จับได้ว่าเจ้าหญิงไลอาด์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และด้วยมัวแต่สาละวนอยู่กับการคาดเข็ดขัดนิรภัย เจ้าหญิงผู้เลอโฉมจึงไม่ได้มองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบิน เห็นสิ่งผิดปกติ ดั่งที่ธาซิมสังเกตเห็นอยู่ในตอนนี้ “ใช่แล้วครับ กัปตันกำลังจะนำเครื่องลงจอด ว่าแต่...กัปตันลงจอดที่สนามบินไหนครับ เจ้าหญิง” “ว่าอะไรน่ะ ธาซิม” เจ้าหญิงไลอาด์เลิกคิ้วขึ้นสูง เอ่ยถามอย่างงุนงง ก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างเครื่องบินตามที่ธาซิมได้เอ่ยบอกออกมา “ผมคิดว่าเราไม่ได้ลงจอดในสนามบินคาลาส์นะครับ” คำตอบที่ได้รับสร้างความหวาดวิตกให้กับเจ้าหญิงไลอาด์ในทันที “ใช่! นี่ไม่ใช่สนามบินคาลาส์” ดวงตากลมโตจ้องมองทิวทัศน์ด้านนอก ซึ่งเป็นคลื่นทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ไม่มีอาคารบ้านเรือนตามที่ควรจะเป็นเช่นนั้น “สนามบินคาลาส์อยู่ในตัวเมืองหลวงคาลาส์ แต่ตอนนี้ผมมองเห็นแค่เพียงทะเลทรายกับหุบเขาที่อยู่ข้างหน้า และกัปตันก็เริ่มลดระดับการบินลงไปเรื่อยๆ แล้ว” “ธาซิม คุณไปถามกัปตัน ว่าเขาจะพาพวกเราไปไหน เขาจะลงจอดที่ไหน” สีหน้าของเจ้าหญิงไลอาด์ซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหวาดหวั่น เมื่อรู้ว่าเครื่องบินเจ็ทไม่ได้ร่อนลงจอดในสนามบินคาลาส์ ธาซิมส่ายหน้าปฏิเสธ พลางให้เหตุผลว่า “เครื่องบินกำลังลดระดับลง มันอันตรายเกินไปหากเราจะลุกออกจากที่นั่ง” “หรือว่าเรากำลังโดน [1]ไฮแจ็ค ” น้ำเสียงของเจ้าหญิงไลอาด์สั่นสะท้าน หวาดกลัวจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ใบหน้าไร้สีเลือด ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะโดนจี้เครื่องบิน ธาซิมตกอยู่ในอาการเดียวกันกับเจ้าหญิงไลอาด์ แต่ก็พยายามตั้งสติ ไม่เผยอาการให้เจ้าหญิงเห็น เพราะกลัวว่าเจ้าหญิงจะตกใจไปมากกว่านี้ “เจ้าหญิงใจเย็นๆ ก่อนนะครับ หากเราถูกจี้เครื่องบินจริง พอเครื่องบินลงจอดแล้ว เจ้าหญิงพยายามหลบอยู่ข้างหลังผมไว้นะครับ ผมสาบานว่าจะไม่ยอมให้โจรพวกนี้ทำร้ายเจ้าหญิงได้ง่ายๆ” เจ้าหญิงไลอาด์พยักหน้ารับช้าๆ มือเล็กทั้งสองเย็นเฉียบไม่ต่างจากน้ำแข็ง จับยึดพนักเก้าอี้ไว้แน่น พยายามตั้งสติตามที่ธาซิมเอ่ยบอก ขณะเดียวกันก็มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นได้ว่ากัปตันกำลังบินเข้าสู่หุบเขาที่รายล้อมไปด้วยกำแพงหินสูงใหญ่ “เขาจะลงจอดในหุบเขา!” ความหวาดกลัวแล่นพล่านไปทั่วตัว ทั้งกลัวเรื่องโดนจี้เครื่องบิน ทั้งกลัวว่ากัปตันจะนำเครื่องบินลงจอดผิดพลาด กระทั่งเครื่องบินชนกับกำแพงหินเหล่านี้ “ครับ กัปตันจะลงจอดแล้ว” ธาซิมเองก็จับพนักเก้าอี้ไว้แน่น ในตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้กัปตันนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัยก่อน ส่วนการถูกจี้เครื่องบิน หากเป็นเช่นนั้นจริง เขาจะลองเจรจาต่อรองกับกัปตันอีกที เผื่อว่าการต่อรองกันจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีได้ “ธาซิม ฉัน...ฉันกลัว...” เจ้าหญิงไลอาด์ไม่อาจปิดบังความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นได้ มือไม้สั่นเทา หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกมานอกอกเพราะความกลัว +++++++++++++ [1] ไฮแจ็ค (Hijacking) แปลว่า ใช้กำลังเข้ายึดยานพาหนะ หมายถึงการจี้เครื่องบิน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม