เจ้าหญิงไลอาด์กะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าให้เหือดแห้ง ใบหน้างามอมทุกข์ซบลงกับหน้าต่างเครื่องบิน ทอดสายตาแดงก่ำจ้องมองปุยเมฆบนท้องฟ้ากว้าง หัวใจดวงน้อยที่ชอกช้ำคิดถึงผู้พันฮาคิม บุรุษหนุ่มเพียงคนเดียวที่กุมหัวใจของเธอมาช้านาน
เจ้าหญิงยังจำได้ไม่มีวันลืม ในวันที่ผู้พันฮาคิมทิ้งให้เธอต้องอยู่คนเดียวในบ้านพักที่ลอนดอน ส่วนตัวผู้พันหายไป คงมีแค่เพียงกระดาษโน้ตฉบับเดียวที่ทิ้งไว้ให้เธอต้องงุนงงสงสัยกับการกระทำของเขา
‘ผมกลับคาลาส์ มีงานด่วนต้องทำ แล้วจะติดต่อกลับมา’
ข้อความสั้นๆ ที่ผู้พันฮาคิมเขียนทิ้งไว้ ไม่บอกเหตุผล ไม่บอกว่างานด่วนที่ต้องทำคืออะไร ไม่มีแม้กระทั้งความห่วงหาอาทร ที่จะเขียนทิ้งท้ายไว้กับข้อความนี้ ทำให้เธอเสียใจยิ่งนัก และงานด่วน งานสำคัญของผู้พันฮาคิมคืออะไร จนป่านนี้เธอก็ไม่อาจล่วงรู้ได้
“กี่เดือนแล้วคะ ที่คุณกลับคาลาส์แล้วไม่ติดต่อหาไลอาด์เลย”
“กี่วัน กี่เดือนแล้วที่คุณทิ้งไลอาด์ไปโดยไม่แยแส”
เจ้าหญิงไลอาด์กระซิบถามถึงคนที่อยู่ไกล หกเดือนกว่าเกือบเจ็ดเดือน ที่ผู้พันฮาคิมหายเงียบไป ไม่ติดต่อ ไม่มีแม้กระทั่งโทร.หาคนที่รอเขาอยู่ด้วยความรัก ผู้พันเงียบหายเข้ากลีบเมฆ จนเธออดรนทนไม่ไหวและด้วยความเป็นห่วง จึงโทร.สอบถามถึงข่าวคราวของผู้พันจากท่านชีคมาคิม
‘ท่านชีคเพค่ะ ผู้พันอยู่ไหน ทำไมเขาไม่รับโทรศัพท์ของไลอาด์’
‘ฮาคิมไม่สะดวกรับโทรศัพท์ในตอนนี้’
‘ทำไมเพค่ะ ทำไมผู้พันถึงรับโทรศัพท์ไม่ได้’
‘เอ่อ...ไลอาด์ ลุงไม่สะดวกที่จะบอกความจริงกับเจ้า’
‘ท่านลุง...ได้โปรดบอกความจริงกับไลอาด์...จู่ๆ ผู้พันก็เงียบหายไป ไม่ติดต่อกลับมา ไลอาด์เป็นห่วงผู้พันจนไม่เป็นอันจะกินจะนอนแล้วเพค่ะ’
‘อย่าห่วงฮาคิมเลย ไลอาด์ ฮาคิมสบายดี ตอนนี้เขาอยู่...’
‘ผู้พันอยู่ที่ไหนเพค่ะ ทำไมท่านลุงไม่พูดต่อ’
‘ไลอาด์ ลุงบอกเจ้าไม่ได้’
‘บอกไม่ได้? ทำไมเพค่ะ เพราะอะไร หรือว่าผู้พันมีหญิงอื่นแทนไลอาด์...’
‘อย่าให้ลุงต้องลำบากใจเลย ไลอาด์ ฮาคิมขอร้องไว้ ไม่ให้ลุงบอกความจริงกับเจ้า’
“ผู้พัน...ทำไมถึงใจร้ายกับไลอาด์ถึงเพียงนี้...”
เจ้าหญิงไลอาด์รำพันเสียงสั่นเครือ ขอบตาทั้งสองร้อนผะผ่าว เมื่อนึกถึงตอนที่เธอโทรศัพท์หาท่านชีคมาคิม ท่านชีคปฏิเสธที่จะบอกความจริง ซ้ำยังช่วยปิดบังบางสิ่งบางอย่างไว้ ซึ่งคงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ นอกจากเรื่องอิสตรีที่เข้ามาแทนที่ตัวเธอ
จากกันแค่เพียงไม่กี่เดือน ผู้พันฮาคิมก็ปั่นใจไปให้หญิงอื่น ปล่อยให้หญิงที่จงรักภักดี มอบหัวใจทั้งดวงให้กับผู้พันต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดเสียใจอย่างถึงที่สุด
“ผู้พันไม่เคยรักไลอาด์เลยใช่ไหมคะ...”
แค่เพียงคิดว่าผู้พันฮาคิมมีหญิงอื่นแนบกาย เจ้าหญิงไลอาด์ก็เจ็บซ่านไปทั้งหัวใจ หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้า ร่วงรินมาตามหางตา ก่อนเจ้าตัวจะขบกรามแน่น ข่มความเสียใจให้ไหลย้อนกลับเข้าไปข้างใน
“ผู้พันทำให้ไลอาด์เจ็บ ผู้พันก็ต้องเจ็บด้วย”
ความโกรธเคืองเกิดขึ้นพร้อมๆ กับความรัก เจ้าหญิงผู้เลอโฉมเค้นเสียงห้วน แน่นอนว่าเธอไม่ยอมเจ็บปวดแค่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น หากผู้พันฮาคิมมีหญิงอื่น กระทั่งทิ้งเธอไป ปล่อยให้เธอต้องอยู่กับความทุกข์ระทมทุกวี่วัน ถึงตอนนี้ ผู้พันฮาคิมจะต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดบ้างแล้ว
“ไลอาด์อยากเห็นหน้าผู้พัน ตอนรู้ว่าไลอาด์มีคู่หมั้นแล้ว”
ผู้พันฮาคิมนอกใจไปมีหญิงอื่น ทำให้เธอเจ็บปวดเสียใจได้ เธอก็จะทำให้ผู้พันเจ็บปวดไม่แพ้กัน เมื่อผู้พันห้ามไม่ให้กลับประเทศคาลาส์ เธอก็จะทำในทางตรงกันข้าม จะกลับไปยังดินแดนแห่งทะเลทรายพร้อมๆ กับ ‘ธาซิม’ ผู้เป็นคู่หมั้น
อีกไม่กี่สิบชั่วโมง เจ้าหญิงไลอาด์ก็จะได้เห็นหน้าคนที่ใจดำซะยิ่งกว่าอีกาอย่างผู้พันฮาคิม เธออยากเห็นหน้าของผู้พันเหลือเกินว่าจะทำหน้าอย่างไร ผู้พันจะเจ็บปวดเสียใจ หรือแสดงอาการเย็นชาเฉยเมยไม่รู้สึกอะไรเลยในยามเห็นเธอควงแขนอยู่กับคู่หมั้น...
ในขณะเจ้าหญิงไลอาด์แทบทนรอเวลาในการเผชิญหน้ากับเจ้าหัวใจไม่ไหว ผู้พันฮาคิมกลับหงุดหงิดหัวเสียกับความดื้อรั้นฟังใครไม่เป็นของเจ้าหญิงผู้นี้
“บ้าชะมัด! ไม่รู้หรือยังไงว่ากำลังรนหาที่ตาย”
เจ้าของนัยน์ตาคมกริบสบถดังลั่น แทบขว้างโทรศัพท์ในมือทิ้ง สาบานได้ว่าหากเจ้าหญิงจอมดื้ออยู่ใกล้ๆ ตัวเขา คงได้จับเจ้าหญิงไลอาด์มาพาดบนตัก แล้วซัดหนักๆ ลงไปบนสะโพกสักสองสามที โทษฐานที่ขัดคำสั่งของเขาไปเสียทุกอย่าง
ผู้กองฟาดิสเห็นสีหน้าของผู้บังคับบัญชา ก็พอเดาได้ว่าการเจรจากับเจ้าหญิงไลอาด์คงไม่เป็นไปตามที่ผู้พันต้องการ
“เจ้าหญิงจะกลับประเทศคาลาส์ให้ได้ใช่ไหมครับ”
“ใช่” ผู้พันตอบเสียงห้วน ยิ่งคิดถึงคนดื้อรั้นก็ยิ่งหัวเสีย “ไลอาด์จะกลับคาลาส์ให้ได้ เธอไม่ฟังที่เราห้าม แถมยังปิดเครื่องหนีเราด้วย”
“ป่านนี้เจ้าหญิงคงอยู่บนเครื่องบินแล้ว” ผู้กองฟาดิสคุ้นเคยกับเจ้าหญิงไลอาด์ และรู้ว่าเจ้าหญิงมีนิสัยดื้อรั้นไม่แพ้ผู้พันฮาคิม
“และอีกสิบชั่วโมง ก็จะถึงประเทศคาลาส์” ผู้พันฮาคิมเอ่ยต่อท้าย หลุบสายตามองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ แล้วเอ่ยบอกต่อเสียงเคร่งเครียด
“ตอนนี้ลูกน้องของไอ้นาฟซาต่างก็กระหายในตัวไลอาด์ พวกมันเตรียมพร้อมสำหรับการลักพาตัวไลอาด์มาให้ไอ้นาฟซา”
“หากพวกมันจับตัวเจ้าหญิงได้ คงทำเงินให้กับพวกมันได้อย่างมหาศาล”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนั้น และหลังจากไอ้นาฟซามันเล่นงานไลอาด์จนหน่ำใจแล้ว มันจะส่งตัวเธอให้กับไอ้พวกชาติชั่วที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าสัตว์นรก”
ผู้พันฮาคิมยกมือขึ้นลูบหน้าขณะถอนหายใจลึก ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยริ้วรอยของความเป็นห่วงเจ้าหญิงผู้กำลังตกเป็นเหยื่อในเกมนี้
ผู้กองฟาดิสเป็นห่วงเจ้าหญิงไลอาด์ไม่แพ้กัน การปลอมตัวเข้ามาอยู่ในกองโจรที่มีนาฟซาเป็นหัวหน้า ทำให้เขาได้เห็นว่าเดนมนุษย์เหล่านี้ไม่เคยมอบความเมตตาให้กับเหยื่อที่เป็นผู้หญิง
แน่นอนว่าผู้พันฮาคิมไม่มีทางปล่อยให้เจ้าหญิงไดอาด์ ผู้เป็นยอดดวงใจต้องตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว เขารู้ว่าผู้พันจะปกป้องเจ้าหญิงด้วยชีวิตของเขาเอง
“ผู้พันจะลงมือชิงตัวเจ้าหญิงเมื่อไรครับ”